ตอนที่ 361 เข้าถ้ำใต้ดิน (1)
รุ่ยอัน
คล้อยหลังจากพลังงานทะลักพรั่งพรูออกมา อากาศของเมืองรุ่ยอันก็เกิดความปั่นป่วน ฟ้าร้องลั่นเป็นพักๆ
ในฐานทัพชั่วคราว
ฟางผิงถือโทรศัพท์หัวเราะว่า “ออกไปทำภารกิจเล็กๆ กอบโกยเงินเท่านั้น ช่วงนี้หาฉันไม่เจออย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งล่ะ!”
“ใครจะร้องไห้ขี้มูกโป่งกัน!”
ฟางหยวนที่อยู่ปลายสายให้ตายยังไงก็ไม่ยอมรับ นายน่ะสิร้องไห้ขี้มูกโป่ง!
“งั้นครั้งที่แล้วใครร้องไห้ขี้มูกโป่งกัน? ยังจะมาหาฉันที่เซี่ยงไฮ้อีก ถ้าฉันไม่โทรไปก่อนคงจะขึ้นรถมาแล้ว”
“ไม่มีสักหน่อย!”
เสียงโมโหปนเขินอายของฟางหยวนดังออกมาจากปลายสาย ผ่านไปสักพักค่อยถามว่า “งั้นครั้งนี้จะไปนานเท่าไหร่?”
“ไม่รู้ ค่อนข้างไกล ถ้ากลับมาแล้วยังไงจะโทรหาเธอ”
ระหว่างที่พูดฟางผิงเอ่ยต่อว่า “ช่วงนี้ตั้งใจฝึกวิชาดีๆ พยายามหลอมกระดูกครั้งที่สองให้เร็วที่สุด”
“รู้แล้ว พูดมาก” ฟางหยวนเอ่ยอีกครั้งว่า “งั้นนายระวังตัวด้วย ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เจอคนที่เก่งกว่านายต้องหนีเข้าใจไหม…”
“ยังจำเป็นต้องให้เธอสอนหรือไง?” ฟางผิงหัวเราะ “เธอก็เหมือนกัน ฝึกวิชาเคลื่อนไหวฝีเท้าให้ดี”
“…”
สองพี่น้องพูดคุยกันพักหนึ่งก่อนฟางผิงจะวางสายไป
“พวกนายจะเข้าไปเป็นกลุ่มแรกหมดเลย?”
ฟางผิงวางสายแล้วก็หันไปถาม ตอนนี้ด้านข้างเขายังมีอีกหลายคน
ฉินเฟิ่งชิงมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ สองพี่น้องตระกูลฟางนี่คือจะคิดแย่งธุรกิจของเขาแล้ว!
เห็นฟางผิงยิ้มคล้ายไม่ยิ้มมองตัวเอง ฉินเฟิ่งชิงก็กระแอมไอเบาๆ ชำเลืองมองหวังจินหยางอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ฉันไม่ได้เชิญหมอนี่สักหน่อย ฉันไม่รู้ว่าเขามาได้ยังไง”
หวังจินหยางทำเป็นหูทวนลม เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “จะเข้าไปช้าหรือเร็วก็เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ฉันอยากจะเข้าไปกลุ่มที่สอง ได้ยินว่าพวกนายวางแผนจะเข้าไปเป็นกลุ่มแรก งั้นเข้าไปด้วยกันเลยเถอะ”
หลี่หานซงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ฉันยังไงก็ได้ ฉินเฟิ่งชิงพูดมีเหตุผล เข้าไปเป็นกลุ่มที่สอง นั่นต้องรอให้ฐานทัพปักหลักแล้ว ฉันมาคิดดู หากสร้างฐานทัพแล้ว มีพวกเราอยู่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าไหร่”
ฉินเฟิ่งชิงรีบเอ่ยว่า “ใช่ เหตุผลนี้แหละ สร้างฐานทัพเสร็จเรียบร้อย มีพวกเราก็เท่ากับไม่มีแล้ว แต่หากพวกเราไปปั่นป่วนกองหลังของพวกถ้ำ นั่นไม่เหมือนกันแล้ว! แม้จะล่อระดับสูงออกไปได้หนึ่งคน นั่นก็ดีกว่าเฝ้าระวังอยู่กับที่ซะอีก ครั้งนี้พวกเรามาทำการใหญ่กัน จัดการรังของพวกเขา ล่อระดับสูงออกไปสักสิบคน…จุๆ นั่นเท่ากับว่าพวกเราเป็นวีรบุรุษของมนุษยชาติแล้ว!”
ระหว่างที่พูด ฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “พวกเราร่วมมือกัน ฝีมือไม่อ่อนด้อยอยู่แล้ว คนอื่นอาจไม่สนใจพวกเราจนเกินไป ปะปนอยู่ในกลุ่มปรมาจารย์ พวกเรามีความปลอดภัยมากกว่า ฟ้าถล่มลงมาก็มีคนค้ำให้…”
ฟางผิงชำเลืองมองฉินเฟิ่งชิงแวบหนึ่ง ความสามารถหลอกใช้คนไม่ธรรมดาจริงๆ
ผ่านไปสักพัก ฟางผิงค่อยพยักหน้าว่า “ก็ถูก เข้าไปเป็นกลุ่มแรก พวกเราจะเคลื่อนไหวได้อิสระกว่า ยอดฝีมือฝั่งตรงข้ามจับจ้องแต่ยอดฝีมือของพวกเรา คนตัวเล็กๆ อย่างพวกเราอาจไม่มีคนสนใจเสมอไป”
“งั้นจะเข้าไปเป็นกลุ่มแรก?” หวังจินหยางถามออกไป
“ได้ ฉันไม่มีปัญหา”
ฟางผิงพูดง่ายเป็นพิเศษ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราสามคนพอ ฉินเฟิ่งชิงช่างเถอะ ฝีมือเขาอ่อนเกินไป ทั้งวิ่งเป็นอยู่อย่างเดียว พาเขาไปจะเป็นภาระเท่านั้น”
“ได้”
“ตกลง”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้างุนงง อะไรกัน นี่จะทิ้งฉันไว้ข้างหลังคนเดียว?
“ฉันไม่เห็นด้วย!”
ฉินเฟิ่งมีท่าทีขุ่นเคือง คิดว่ากว่าฉันจะหาโล่มนุษย์ให้ตัวเองได้เป็นเรื่องง่ายๆ หรือไง?
ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าโล่มนุษย์จะบินไปคนเดียวแล้ว!
ฟางผิงยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “งั้นนายว่าพานายไปด้วยมีประโยชน์อะไร? พวกเราสามคน เจอขั้นห้าถึงกระทั่งขั้นหกยังสามารถต่อกรได้ แล้วนายล่ะ?”
“ฉันก็ได้เหมือนกัน!”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยทันที “ดาบเฟิ่งชิงของฉันฝึกถึงขั้นฟันขั้นหกในดาบเดียวแล้ว!”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน