ตอนที่ 411 คืนส่งท้ายปี (1)
……………………………………………………………………..
หยางเฉิง
วันที่ฟางผิงกลับมาก็เป็นวันที่ยี่สิบแล้ว
บรรยากาศช่วงสิ้นปีของเมืองเล็กๆ จะคึกคักมากกว่าเมืองใหญ่ เมืองเล็กๆ อย่างหยางเฉิง ตอนนี้หัวซอยจนถึงท้ายซอยมีผู้คนพลุกพล่านเต็มไปหมด
แม้ฟางผิงจะไม่ได้บอกใครว่ากลับมา แต่คนยังไม่ทันถึงบ้าน โทรศัพท์ก็ดังติดต่อกันแล้ว
ทางหนานเจียง ทำเนียบผู้ว่ายังสอบถามแผนการเดินทางของฟางผิง ความนัยของคำพูดคือทำเนียบผู้ว่าเตรียมจะส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เขา
ฟางผิงกลับบ้านก็คิดอยากจะอยู่เงียบๆ สักหน่อยจึงปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่ายอย่างอ้อมๆ
นอกจากทำเนียบผู้ว่าหนานเจียง หยางเฉิงและรุ่ยอันก็มีคนโทรศัทพ์มาเหมือนกัน
ทั้งเพื่อนนักเรียนสมัยมอปลายหลายคนก็โทรมาถามว่าเขากลับบ้านหรือเปล่า
หลังจากการแข่งขันแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ครั้งที่สอง ชื่อเสียงของฟางผิงก็โด่งดังขึ้นมา ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงแคบๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ตอนนี้ฟางผิงถูกขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ประเทศจีน
แม้ว่าอันดับหนึ่งนี้จะจำกัดแค่แวดวงของนักศึกษา แต่อันดับหนึ่งของประเทศก็ชื่อเสียงไม่ใช่น้อยๆ แล้ว
—
ย่านกวนหูหยวน
ฟางผิงเปิดประตูเข้าไป ฟางหยวนที่กำลังดูทีวีบนโซฟายื่นหน้ามามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหดหัวกลับไปดูทีวีต่อ
ฟางผิงตะลึงไปเล็กน้อย เจ้าเด็กแสบคงไม่ได้ตาฝาดสินะ?
พี่ชายเธอกลับบ้านมานะ!
“ยัยหน้ากลม?”
“เหอะ!”
“ฟางหยวน พี่เธอกลับมาแล้ว ไม่เห็นหรือไง?”
“เห็นแล้ว!”
“งั้นทำไมเธอยังไม่สนใจฉันอีก?”
ฟางหยวนยื่นหัวออกมาอีกครั้ง เอ่ยอย่างโมโหว่า “ไม่อยากสนใจนาย นายหลอกฉัน!”
ฟางผิงใจเต้นตุบตับ ใครบอกเจ้าเด็กแสบกัน?
เรื่องพรสวรรค์ถูกเปิดเผยแล้ว?
ระหว่างที่กำลังคิด ฟางหยวนก็ฟองลมแก้ม “นายบอกฉันว่าพรสวรรค์เพิ่มได้ ยังให้ฉันกินยาเพิ่มพรสวรรค์อีก แต่ผ่านมาหลายวันขนาดนี้ พรสวรรค์ฉันไม่เห็นเพิ่มขึ้นเลย ตอนนี้ปราณค้างอยู่ที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าไม่เปลี่ยนแปลง ฟางผิง คนหลอกลวง!”
ฟางผิงอึ้งอยู่พักใหญ่ เวลานี้ค่อยเข้าใจว่าเธอพูดอะไรอยู่ เผยสีหน้าจนใจ ก่อนจะเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ไร้สาระ นี่ไม่ใช่ปกติหรือไง? หนึ่งร้อยแปดสิบแคลคือหลอมกระดูกสองครั้ง เธอติดอยู่ตรงนี้…”
“แสดงว่าพรสวรรค์ฉันยังต่ำมาก!”
คำพูดนี้มีเหตุผล ฟางผิงไร้แรงจะโต้ตอบ เปลี่ยนรองเท้าเข้าห้องแล้วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มไปพลาง “รีบทำไม เจอช่วงคอขวด จะติดอยู่ระยะหนึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่เธอหลอมกระดูกสองครั้งได้ก็ไม่มีปัญหามากมายแล้ว อีกไม่กี่วันก็น่าจะดีขึ้น”
หลอมกระดูกสองครั้ง แม้ว่าจะต้องการพรสวรรค์บ้าง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสูงขนาดนั้น
ลูกหลานของยอดฝีมือทั่วไปหลอมกระดูกสองครั้งได้ทั้งนั้น
เพราะลูกหลานของยอดฝีมือมีพรสวรรค์สูงกว่าอย่างนั้นเหรอ?
นั่นไม่แน่เสมอไป!
หลอมกระดูกสองครั้งและสามครั้งไม่เหมือนกัน ทำใจสิ้นเปลืองเงินได้อาจจะทะลวงไปถึงก็ได้
แน่นอนว่าร่างกายของมนุษย์ยังมีขีดจำกัดอยู่ บางคนก็ทะลวงไปไม่ได้จริงๆ
แต่ในเมื่อฟางหยวนมาติดที่ด่านหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าแคลได้ งั้นการหลอมกระดูกครั้งที่สองคงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปอีกแล้ว
ความก้าวหน้าของเด็กคนนี้เร็วกว่าที่ฟางผิงคาดหวังไว้ซะอีก
เดิมทีฟางผิงยังคิดว่าเด็กแสบจะเรียนมอปลายปีหนึ่งจบแล้วถึงจะหลอมกระดูกครั้งที่สองเสร็จสิ้น ตอนนี้เพิ่งผ่านไปเทอมเดียวเท่านั้น
แต่นี่ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ช่วงนี้หยางเฉิงมีพลังงานเข้มข้นขึ้นเช่นกัน ตอนนี้มนุษย์ชาติฝึกวิชาได้เร็วกว่าเมื่อก่อน คนทั่วไปหลายคนไม่ต้องอัดยาบำรุง แค่อยู่ใกล้ทางเดินหน่อย ปราณก็สามารถแตะสูงกว่าหนึ่งร้อยสิบแคลแล้ว
แต่ช่วงสองปีก่อน นักเรียนที่มีปราณหนึ่งร้อยสิบแคลล้วนถือเป็นบุคคลแนวหน้าของโรงเรียนทั้งนั้น
ได้ยินฟางผิงพูดแบบนี้ เหมือนฟางหยวนจะอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย พิงหัวที่โซฟาเอ่ยอย่างไม่มั่นใจว่า “หลอมกระดูกสองครั้งได้จริงๆ เหรอ?”
“แน่นอน”
ฟางผิงหัวเราะ เดินเข้าไปเคาะหัวเธอเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นหัวหมูที่ใหญ่จริงๆ…”
“นายสิหัวหมู!”
ฟางหยวนกลอกตาใส่เขา อารมณ์ดีขึ้นในชั่วพริบตา ฟื้นฟูรอยยิ้ม เอ่ยอย่างเบิกบานว่า “ฟางผิง งั้นฉันก็ใกล้จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้วสิ?”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน