ตอนที่ 445 ยืมนายหนึ่งหมื่นคะแนน (2)
………………..
ฟางผิงเล่าออกมาอย่างน้ำไหลไฟดับ จากที่เขาพูดนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างประจวบเหมาะ
แม้ตัวเขาจะมีผลงานเล็กน้อย แค่ยังคงมีหวงจิ่งเป็นผู้นำ ยั่วยุเจี่ยวให้เกิดความคิดกบฏ นำยอดฝีมือของป่าร้อยอสูรไปโจมตีเมืองเทียนเหมิน
จากนั้นอีกฝ่ายก็ต่อสู้กันจนไปถึงนอกเมือง ข้างหน้าฟางผิงมีสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บร่วงลงมา เขาเลยถือโอกาสฆ่า
ส่วนศพของสัตว์ปีศาจ เจี่ยวเป็นผู้ส่งกลับมาให้ ก่อนหน้านี้ที่ถูกหวงจิ่งฆ่า สถานการณ์กระชั้นชิดเกินไปเลยไม่ได้เอากลับมาด้วย
สรุปแล้วก็ง่ายๆ แค่นี้
ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขา กลับเป็นผลงานของเขา
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็เปิดกระเป๋าทั้งหมดบนร่างสัตว์ปีศาจ หินพลังงานระดับสูงนับไม่ถ้วน หลายคนเห็นแล้วถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่!
แล้วนี่ได้มายังไงกัน?
ฟางผิงอธิบายเช่นกัน นี่เป็นสมบัติที่เจี่ยวช่วงชิงมาได้ในตอนที่บุกเข้าไปในเขตแร่ของเมืองเทียนเหมิน ดูดกลืนไม่หมดจึงแบ่งให้เขาส่วนหนึ่ง เขาก็เลยเอากลับมาด้วย
ฟางผิงพูดแบบนี้ หวงจิ่งไม่ได้แย้งอะไร
ฉินเฟิ่งชิงกลับทำหน้าไม่เชื่อ เอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “เหลวไหล นายขุดมาเองเถอะ!”
แม่งเหอะ นายคิดจะวางแผนกับส่วนแบ่งของฉันสินะ?
ฟางผิงคร้านจะสนใจเขา เวลานี้จึงเอ่ยสรุปว่า “ครั้งนี้ผมฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดของเมืองเทียนเหมินไปสองคน…ป้ายสถานะอีกอันไม่ได้เอากลับมา แต่เซี่ยงไฮ้คุ้นเคยกับเมืองเทียนเหมินแล้ว กลับไปไม่เจออีกฝ่ายก็น่าจะรู้เอง ส่วนขั้นหก ผมฆ่าไปประมาณยี่สิบคน ขั้นสี่ขั้นห้าน่าจะร้อยกว่าคนได้ คนอื่นคงไม่ต้องนับแล้ว ต่ำกว่าขั้นสาม…หลายหมื่นคน ผมไม่คิดจะเก็บป้ายมาอีกแล้ว แม่ทัพสวี่ ผลงานของผมตำแหน่งแม่ทัพใหญ่น่าจะเพียงพอแล้วสินะครับ?”
สวี่โม่ฟู่ไม่อาจจะรักษาสีหน้าเรียบนิ่งได้อีกแล้ว พึมพำว่า “เธอให้ฉันย่อยข้อมูลสักหน่อย”
“เธอบอกว่าเธอและพวกอธิการหวงออกไปหาประสบการณ์ด้วยกัน จากนั้น…จากนั้นพวกเธอก็ฆ่าสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดพวกนั้น หลังจากนั้นก็เกิดสงครามใหญ่ของขั้นเก้า เรื่องที่เมืองเทียนเหมินถูกโจมตี เกี่ยวข้องกับพวกเธอ?”
ฉันจะเอาแค่ผลงาน ความรับผิดชอบไม่ใช่ของฉัน
ไม่ใช่ว่าไม่แบกความรับผิดชอบ แต่ฟางผิงคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเขาจริงๆ
ป่าร้อยอสูรมีสัตว์ปีศาจตายไปหลายตัว นอกจากขั้นเจ็ดตัวนี้ ตัวอื่นๆ ก็ถูกเจี่ยวฆ่าทั้งหมด หรือจะให้เขาเป็นแพะรับบาปจริงๆ เกินไปหน่อยหรือเปล่า
ไม่ใช่แค่สวี่โม่ฟู่ที่จับต้นชนปลายไม่ถูก หนานอวิ๋นเยวี่ยและจางเว่ยอวี่ที่เป็นขั้นเก้าขั้นสุดยอด เวลานี้ยังดึงสติกลับมาไม่ได้อยู่บ้างเช่นกัน
สรุปแล้วความวุ่นวายของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ยังเป็นฝีมือจากฝั่งของตัวเองจริงๆ?
หนานอวิ๋นเยวี่ยสีหน้าเปลี่ยน จางเว่ยอวี่ยิ่งตะโกนออกมา “เหลวไหล!”
ฟางผิงไม่รู้จักจางเว่ยอวี่ แต่รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง รีบเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ได้เหลวไหล ผมพูดเรื่องจริง ถ้าพวกเราไม่โน้มน้าวอีกฝ่ายไปเมืองเทียนเหมิน งั้นคงต้องเป็นแพะรับบาปแล้ว คำพูดของผมปรมาจารย์น่าจะไม่เชื่อ แต่คำพูดของอธิการหวงคงเชื่อสินะครับ พวกเราแค่ลงมือตามสถานการณ์ ถ้าไม่เลือกทำแบบนั้น นอกจากจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย ยังต้องเป็นแพะรับบาปแทนเจี่ยว ตอนนี้ยังไงก็บุกทะลวงเมืองเทียนเหมินแล้ว ผมคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล”
หวงจิ่งเอ่ยอย่างเคร่งขรึมเช่นกัน “ผู้บังคับการ เป็นแบบนั้นจริงๆ เวลานั้นถึงพวกเราจะไม่ทำอะไรเลย เกรงว่าเรื่องราวอาจไม่ราบรื่นไปกว่าตอนนี้สักเท่าไหร่ เจี่ยวจากป่าราชันเจี่ยวตัวนั้น…ผิดปกติอยู่บ้าง สถานการณ์ในตอนนี้ อย่างน้อยก็พัฒนาไปในทิศทางที่ดี…”
แม้อู๋ขุยซานที่อยู่ด้านข้างจะคาดเดาไม่ได้ทั้งหมด กลับคาดเดาได้บางส่วน รวมถึงประโยชน์ของอาวุธวิเศษของเขาด้วย
แน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องอาวุธวิเศษ อู๋ขุยซานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผู้บังคับการ เรื่องนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของเราคงไม่เอาผลงานแล้ว นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำเหมือนกัน เมืองเทียนเหมินและพวกเรามีความแค้นลึกล้ำดุจทะเล ทำลายเมืองเทียนเหมินกว่าครึ่งหนึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่พวกเราต้องทำ สมควรทำแล้ว! หากยึดจากคำพูดของผู้บังคับการ อาวุธวิเศษของเจ้าเมืองเทียนเหมินสามารถทำให้เกิดสงครามใหญ่ของสองฝ่ายได้ นั่นยิ่งเป็นเรื่องดี ฉันคิดว่าเรื่องนี้ฟางผิงทำได้ดีแล้ว ทั้งยังเสี่ยงเข้าถ้ำเสือ นำข้อมูลข่าวสารที่ละเอียดมาให้พวกเรา…แต่ว่าฟางผิงยังเด็ก ผลงานคงไม่จำเป็นต้องให้เขาแล้ว”
ฟางผิงละล่ำละลักว่า “อธิการ อะไรที่ควรให้ก็ต้องให้สิครับ ฆ่าคนไปมากมายขนาดนั้น”
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “หรือเธออยากจะไปหน่วยทหาร?”
“ไม่ใช่แบบนั้น…”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน