ตอนที่ 457 ขวางยังขวางไม่อยู่ (2)
………………..
ฟางผิงเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “รุ่นพี่เจี่ยงเข้าใจผิดแล้ว แต่หากฉินเฟิ่งชิงจะประลองกับพวกนายจริงๆ…ขึ้นชื่อว่านักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ฉันจำเป็นต้องเข้าร่วมเช่นกัน ฉัน…ฉันไม่ได้วางแผนจะประลองกับพวกรุ่นพี่…”
หลี่เฟยขมวดคิ้วว่า “พูดแบบนี้ รุ่นน้องฟางคิดว่าเอาชนะพวกเราได้?”
“ไม่ใช่ความหมายนี้…ทุกคนอย่าเข้าใจผิด…”
ฟางผิงลำบากใจยิ่งไปอีก เอ่ยอย่างจนใจ “พวกเราล้วนเป็นคนกันเอง ต่อสู้เพื่อมนุษย์ชาติเหมือนกัน…”
หลี่เฟยเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “พวกเราแค่แลกเปลี่ยนความรู้กันเท่านั้น ไม่ใช่ต่อสู้เดิมพันชีวิต วางใจเถอะ พวกเราไม่ลงมือหนักกับ…รุ่นน้องฉินหรอก”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นหัวเราะ กลับไม่พูดอะไร
ยิ่งไม่พูดก็ยิ่งสื่อว่าไม่เห็นอยู่ในสายตาขึ้นไปอีก
เจิ้งหนานฉีและหลี่เฟยขั้นหกตอนปลายสองคนนี้ นับว่าเป็นหัวหน้าในกลุ่มคนพวกนี้แล้ว ทั้งสองสบตากันแวบหนึ่ง หลี่เฟยเอ่ยว่า “รุ่นน้องฉิน นายมั่นใจนะว่าจะประลอง?”
“พูดมากจริงๆ แค่การประลองเล็กๆ เท่านั้น ทั้งยังเป็นแค่การแลกเปลี่ยนความรู้ ทำอย่างกับเป็นสงครามใหญ่ซะงั้น”
“นายบอกว่าชนะสามในห้าเกม กฏมีอะไรบ้าง?”
ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะว่า “ห้าต่อห้า แน่นอนว่าถ้าไม่ชอบแบบนี้ งั้นใช้รูปแบบของการแข่งขันแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้เหมือนกัน แต่ละฝ่ายส่งคนลงสนาม ผู้ชนะแข่งต่อ ผู้แพ้ลงจากเวทีก็ง่ายเหมือนกัน แล้วแต่พวกนาย พวกฉันยังไงก็ได้”
หลี่เฟยและเจิ้งหนานฉีมองหน้ากัน ชนะสามในห้าเกม เหตุไม่คาดฝันเยอะเกินไป ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างมากก็สามารถชนะได้หนึ่งเกมเท่านั้น
แต่การแข่งขันที่ผู้ชนะแข่งต่อได้เรื่อยๆ งั้นคนที่แข็งแกร่งก็มีประโยชน์กว่าแล้ว
เขาและเจิ้งหนานฉีต่างอยู่ขั้นหกตอนปลาย!
หากพวกเขาทั้งสองลงสนามหนึ่งคน น่าจะสามารถเอาชนะห้ารวดได้แล้ว!
เจ้าหัวล้านนี้จะส่งเงินให้พวกเขาฟรีๆ?
อาวุธวิเศษนั้นหาได้ยาก แม้จะเป็นพวกเขา อันที่จริงไม่ใช่ว่าอยากได้ก็ได้เลย อาวุธวิเศษในมือของพวกเขาอย่างน้อยต้องใช้ถึงขั้นเจ็ด
แต่การแข่งขันที่แทบจะมีโอกาสชนะร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้ของมาฟรีๆ แบบนี้ ทั้งยังสามารถสั่งสอนเจ้าพวกนี้ไปด้วย…
นึกมาถึงตรงนี้ หลี่เฟยก็มองคนอื่นๆ เอ่ยว่า “ได้ นายจะส่งของให้ฟรีๆ พวกเราก็ไม่ปฏิเสธ! จะประลองกันเมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้เช้าเป็นยังไง?”
ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะว่า “ใช่สิ แล้ววิธีการแข่งขันล่ะ?”
“ใช้รูปแบบการแข่งขันแลกเปลี่ยนของพวกนายนั่นแหละ”
“ได้ ถ้าพวกนายแพ้ อย่าลืมว่าต้องทิ้งอาวุธวิเศษห้าชิ้นเอาไว้…ไม่ได้สิ ฉันไม่ได้รู้จักพวกนาย พวกเราต้องเขียนสัญญากัน ให้ปรมาจารย์เป็นพยานด้วย ป้องกันไม่ให้พวกนายเบี้ยวหนี้!”
เจี่ยงเชาแค่นหัวเราะว่า “แบบนี้ก็ดี ฉันยังกลัวว่านายจะเบี้ยวหนี้อยู่เลย”
จวบจนทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้ว ฟางผิงค่อยยิ้มอย่างขมขื่นว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว…นี่…นี่จะให้ฉันให้คำตอบกับรัฐมนตรีหวังยังไง จะให้พูดกับคณบดีหลี่ยังไง? รุ่นพี่หลี่ รุ่นพี่เจิ้ง ฉินเฟิ่งชิงแค่เลอะเลือนไปเท่านั้น ฉันขอโทษแทนเขาด้วยละกัน การแข่งขันครั้งนี้ยกเลิกไปเถอะ…”
หลี่เฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รุ่นน้องฟาง แค่แลกเปลี่ยนความรู้เท่านั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร ให้ของรางวัลนิดหน่อยก็น่าสนใจเหมือนกัน แน่นอนว่าหากจะแลกเปลี่ยนความรู้จริงๆ พวกเราก็จะไม่จงใจอ่อนข้อ นายวางใจเถอะ อะไรที่พวกเราออมมือได้ก็จะพยายามออมมือละกัน”
“นี่…”
เจี่ยงเชาเอ่ยอย่างหงุดหงิดอยู่บ้าง “ฟางผิง ยังไงก็เป็นเงินของนายโล้น นายจะกังวลใจไปทำไม!”
“รุ่นพี่เจี่ยง ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น…แต่ว่า…”
“ร่ำรี้ร่ำไรอยู่นั่นแหละ เริ่มอารมณ์เสียแล้วนะ!”
เจี่ยงเชาไม่ชอบใจอยู่บ้าง มองไปทางฉินเฟิ่งชิงว่า “นายโล้น จะพนันก็ไปหาปรมาจารย์มาเซ็นสัญญาตอนนี้ กล้าหรือเปล่า!”
“ใครไม่กล้าคนนั้นก็เป็นไอ้ขี้แพ้!”
ทั้งสองคนทิ้งคำพูดอย่างดุเดือดไว้ ฟางผิงเห็นพวกเขาจะเดินไปหารัฐมนตรีหวังก็ยิ้มเจื่อนขึ้นมาว่า “เรื่องจะลุกลามใหญ่โตไปแล้ว เฮ้อ รุ่นพี่หลี่ พวกนายไปพนันกับคนบ้าอย่างเขาทำไมกันเนี่ย”
หลี่เฟยเดินตามทั้งสองคนไปพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบนิ่ง “แค่เล่นสนุกกันเท่านั้น รุ่นน้องฟางไม่จำเป็นต้องกังวลไป”
“ช่างเถอะ ในเมื่อพวกนายยืนหยัดแบบนั้น…งั้นฉันก็ไม่อาจพูดอะไรได้แล้ว”
ฟางผิงส่ายหัวไม่หยุดหย่อน ทำท่าราวกับว่าพวกนายจะทำให้ได้ ฉันก็อับจนหนทางแล้วเหมือนกัน
จางอวี่ที่อยู่ด้านข้างปิดปากเงียบให้รู้แล้วรู้รอดไป เจ้าพวกนี้ยังตอบตกลงจริงๆ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน