เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 462

ตอนที่ 462 อะไรที่โม้ได้ก็โม้ไปแล้ว (1)

………………..

การแข่งขันสิ้นสุดไปสองรอบแล้ว ชนะหนึ่งแพ้หนึ่ง

แน่นอนว่าการประลองแบบผลัดกัน แพ้ชนะไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือคนที่ยืนอยู่บนเวทีคนสุดท้ายเป็นใคร

เหยาเฉิงจวินกลับมา ฟางผิงก็กดเสียงทันที “ไปทางนู้น ผูกสัมพันธ์สักหน่อย!”

“ฉัน…”

“นายซ้อมลูกหลานผู้หญิงของพวกเขา ไม่อายบ้างหรือไง?”

เหยาเฉิงจวินหน้าดำคล้ำ การประลองนี่นา ความสามารถฉันด้อยกว่าเธอ หรือนายคิดจะให้ฉันอ่อนข้อ?

“โง่ ไปถามดู พวกเขามียาหรือสมบัติล้ำค่าที่ฟื้นฟูพลังจิตใจได้หรือเปล่า ฉันว่าน่าจะมี แน่นอนว่าถ้าพวกเขาไม่มีความสามารถพอ น่าจะไม่มี ไปลองหยั่งเชิงสถานการณ์ก่อนแล้วกัน”

ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็เอ่ยเสียงเบาว่า “อีกอย่าง นายไปสืบข้อมูลดู ตกลงมีเคล็ดวิชาที่ฝึกพลังจิตใจโดยเฉพาะหรือเปล่า?”

“หืม?”

เหยาเฉิงจวินหน้าเปลี่ยนสี “เรื่องนี้น่าจะไม่มี ไม่งั้นรัฐบาลต้องเผยแพร่ออกมาแล้ว!”

พลังจิตใจไม่สามารถฝึกได้ ภายใต้การหลอมปราณและจิตใจ ถึงจะทำให้เพิ่มขึ้นได้

คล้อยหลังจากที่พื้นฐานร่างกายแข็งแกร่งขึ้น พลังจิตใจถึงจะแข็งแกร่งขึ้นตาม

แน่นอนว่าสถานที่อย่างห้องคุมอานุภาพก็สามารถใช้ฝึกพลังจิตใจได้ แต่นี่เป็นวิธีกระตุ้นเท่านั้น

ในตอนที่พลังจิตใจประสานเป็นหนึ่งกับปราณ ปราณจะสามารถบ่มเพาะพลังจิตใจได้

ถึงขั้นเจ็ดแล้ว พลังงานภายในประตูซานเจียวก็จะสามารถบ่มเพาะ

แต่นี่ไม่ใช่วิธีหลัก

วิธีฝึกพลังจิตใจโดยตรงนั้นไม่มี

ไม่เหมือนกับปราณ อย่ามองว่าพวกฟางผิงอัดยาบำรุง กินผลไม้พลังงานหรือใช้หินพลังงาน นั่นเพื่อฝึกวิชาให้เร็วขึ้นเท่านั้น

ในความเป็นจริง การฝึกเคล็ดหลอมกระดูกอย่างเดียวสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งปราณได้อย่างต่อเนื่อง แค่จะช้าลงหน่อยเท่านั้น

ก่อนหน้านี้พลังงานบนโลกมีน้อยมาก ดังนั้นรัฐบาลก็ไม่คิดเผยแพร่ เพราะคนทั่วไปดูดกลืนพลังงานได้ไม่มาก ฝึกเคล็ดหลอมกระดูกจะทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ง่าย

แต่หลังจากที่พลังงานเข้มข้นมากขึ้น เกรงว่าไม่นานจะป่าวประกาศให้ประชาชนฝึกเคล็ดหลอมกระดูกแล้ว

เวลานั้นทุกคนฝึกวิชา แม้จะไม่อัดยาบำรุงก็เพียงพอให้ทดแทนการสิ้นเปลืองจากการฝึกวิชาได้

ฟางผิงเอ่ยเสียงเบา “พูดยาก ช่างเถอะ นายหัวสมองไม่ว่องไว ตีสนิทไม่เก่ง เดี๋ยวฉันจะลองถามดูเองก็ได้”

เหยาเฉิงจวินเงียบไม่พูดอะไร นั่งลงไปอย่างนั้น ฉันไม่ได้มีแผนการในใจเยอะเหมือนนายสักหน่อย

ฟางผิงมองหวังจินหยางที่เตรียมจะลงสนามไปแวบหนึ่ง ก่อนจะมองคนที่ลงสนามคนที่สามของฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังเผยใบหน้าหนักแน่น เอ่ยเสียงเบาว่า “พวกนายเล่นบทอันธพาลออกไปก่อน ฉันจะเล่นบทเป็นพระเอกตอนสุดท้ายเอง เรื่องการวางตัว มอบให้ฉันเถอะ อย่าอ่อนข้อ แม้จะแพ้ก็ต้องทำให้พวกเขาจำไว้ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ไม่กลัวตาย แถมยังแข็งแกร่งมาก!”

หวังจินหยางผงกหัวเบาๆ “ตกลงนายคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“ฉันอยากเป็นเพื่อนกับพวกเขา”

“หืม?”

“พวกเขารู้เรื่องมากมาย การแข่งขันครั้งนี้ ฉันเรียกพวกนายเข้ามา อันที่จริงแพ้ชนะไม่สำคัญ…แน่นอนว่ายังไงก็เดิมพันกันแล้ว ยังจำเป็นต้องชนะ พวกนายอย่ามองเป็นแค่การแข่งขันครั้งเดียว สู้เสร็จก็จบเรื่องแล้ว แสดงฝีมือของพวกเราออกไป ผูกสัมพันธ์กับพวกเขา ระหว่างอัจฉริยะและอัจฉริยะ นั่นถึงจะพูดภาษาเดียวกัน ถ้ามีโอกาส…ลากพวกเขาลงถ้ำใต้ดินด้วยกัน! สามารถช่วยพวกเราประหยัดปัญหาได้มาก!”

หวังจินหยางม่านตาหดเกร็ง เอ่ยอย่างจริงจัง “นายระวังตัวหน่อย ทำพวกเขาตายขึ้นมา กระตุ้นโทสะยอดฝีมือพวกนั้นเข้า นายต้านไม่ไหวแน่”

“ฉันรู้ ดังนั้นถึงให้ตีซี้ก่อนไง”

ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็พยักหน้าว่า “นายไปก่อนเถอะ”

หวังจินหยางไม่พูดมากแล้วเช่นกัน ไม่นานก็เข้าไปในสนามกีฬา

ส่วนฟางผิงกวาดสายตามองเหยาเฉิงจวิน ถอนหายใจว่า “ยังนิสัยเหมือนเดิม ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด”

เหยาเฉิงจวินขมวดคิ้ว หันไปมองเขา พวกเราสนิทกันมากหรือไง?

หากนับขึ้นมาจริงๆ ก็เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น

“ฟางผิง…”

หลี่หานซงลังเลไปเล็กน้อย เอ่ยเสียงแผ่วว่า “นาย…ฟื้นฟูความทรงจำแล้วใช่หรือเปล่า?”

ฟางผิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “เปล่า แค่บางครั้งชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายบางอย่างก็โผล่ขึ้นในหัวฉันเท่านั้น หัวเหล็ก อย่าพูดเรื่องนี้กับคนนอก คนอย่างพวกเราล้วนเป็นพวกกลายพันธุ์ ถูกจับตามองได้ง่าย”

“ฉันรู้แล้ว ไม่เคยบอกใครสักหน่อย”

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน