ตอนที่ 472 ทะลวงขั้นหก (1)
………………..
เวลาค่อยๆ ผ่านล่วงเลยไป
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
เงียบสงบไปหลายวัน ในที่สุดก็ครึกครื้นขึ้นมาแล้ว
งานเลี้ยงปรมาจารย์กำลังจะมาถึง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เริ่มแขวนผ้าประดับโคมไฟ ต้อนรับแขกที่จะมาเยือน
ซ่งอิ๋งจี๋ทะลวงด่านแล้วเช่นกัน ก้าวสู่ขั้นหกตอนกลาง
เสี้ยวพริบตาที่ออกจากด่าน ซ่งอิ๋งจี๋คล้ายทั้งดีใจและเสียใจ
รอจนถังเฟิงที่ออกจากด่านมาก่อนสองวันเข้ามายินดี ซ่งอิ๋งจี๋ก็เอ่ยอย่างร้องไห้ไม่ออกว่า “ฉันควรจะกลับบ้านไปเข้าด่านด้วยซ้ำ!”
“ทำไมล่ะ?”
ซ่งอิ๋งจี๋เอ่ยอย่างจนใจ “เจอกับหมาบ้าเข้าน่ะสิ! ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ข้างบ้านจะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว เอาแต่ร้องกราดเกรี้ยวอยู่ตลอดเวลา! รบกวนฉันอยู่หลายครั้ง ฉันแทบอยากจะอัดคนแล้ว…ผลลัพธ์กลับพบว่าเจ้าเด็กนี้ใช้หินพลังงานระเบิดอวัยวะภายในตัวเอง!”
ถังเฟิง “…”
ถังเฟิงเงียบไปพักหนึ่ง จู่ๆ ก็ตบไหล่ลูกสาวที่ตามเข้ามา ถอนหายใจว่า “หลังจากนี้เจอฉินเฟิ่งชิง หลบให้ไกลๆ หน่อยเถอะ”
อย่ามองว่าพ่อของเธอขั้นเจ็ดแล้ว เจอหมาบ้าแบบนั้น เธอก็ต้องระวังตัวเหมือนกัน
ถังเหวินรีบพยักหน้า กระทั่งอาจารย์ขั้นหกยังพูดว่าบ้าคลั่ง พ่อของเธอก็บอกให้ตัวเองหลบ งั้นออกห่างไกลๆ หน่อยจะดีที่สุด
กำชับลูกสาวแล้ว ถังเฟิงก็มองซ่งอิ๋งจี๋แวบหนึ่ง เอ่ยอย่างจนใจว่า “หมาบ้ายังมีอีกไม่น้อย ฟางผิงเจ้าเด็กนั่นฟันดาบอยู่ที่ทะเลเจ็ดวันเจ็ดคืน ฟันไปหลายหมื่นดาบ เกาะบางส่วนที่อยู่ใกล้ๆ กับเซี่ยงไฮ้ ยังคิดว่าสึนามิกำลังจะมา ทำเอาหลายคนตกใจจนจะย้ายบ้านแล้ว”
ซ่งอิ๋งจี๋ใบหน้าแข็งทื่อ ฟันจนจะเกิดคลื่นสึนามิ?
เด็กวัยรุ่นพวกนี้ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเมตตาเด็กบ้างหรือไง ไม่คิดจะถ่อมตัวให้พวกเราเลย?
แม้จะคิดแบบนั้น ซ่งอิ๋งจี๋ยังคงถามว่า “เขาทะลวงด่านหรือยัง?”
“เช้าวันนี้ไม่เห็นเด็กนั่นฟันดาบอีกแล้ว หลู่เฟิ่งโหรวจับตามองอยู่ เดาว่าน่าจะใกล้ทะลวงด่านแล้ว”
ซ่งอิ๋งจี๋ยิ้มเจื่อน “ขั้นหกแล้ว นักศึกษาขั้นหกคนแรกของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้!”
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก่อตั้งมานานขนาดนี้ ไม่เคยมีนักศึกษาขั้นหกมาก่อนจริงๆ
ขั้นห้ากลับมีไม่น้อย แต่ช่วงระหว่างขั้นห้าถึงขั้นหก ต้องใช้ความมุ่งมั่นพยายามไปนับสิบปี
ถังเฟิงกวาดตามองซ่งอิ๋งจี๋แวบหนึ่ง ช่วงนี้ซ่งอิ๋งจี๋ฝึกวิชาค่อนข้างเร็วเหมือนกัน…ไม่สิ เร็วมากต่างหาก
เขาเข้าสู่ขั้นหกได้ไม่นาน ประมาณแค่หนึ่งปีเท่านั้น ตอนนี้ปิดผนึกประตูซานเจียวไปหนึ่งบานแล้ว
ถังเฟิงคิดว่าซ่งอิ๋งจี๋ฝึกวิชาได้เร็วแบบนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ฟางผิงพูดในที่ลับว่าจะอัดเขา
ในเมื่อเป็นแบบนี้ พาเขาไปดูฟางผิงทะลวงด่าน บางทีเหล่าซ่งอาจจะทะลวงถึงขั้นหกตอนปลายในเร็วๆ นี้ก็ได้
ในหมู่อาจารย์ คนที่ฟางผิงบอกกับคนอื่นว่าจะจัดการมีแค่สองคนเท่านั้น
หนึ่งคือถังเฟิง สองคือซ่งอิ๋งจี๋
ตอนนี้ทั้งสองคนต่างใช้เวลาอย่างรวดเร็วในทะลวงด่านเป็นผลสำเร็จ ถังเฟิงคิดว่า…แรงกดดันที่จำเป็นยังเป็นเรื่องที่สมควร
เขาถึงขั้นเจ็ดแล้ว ตอนนี้นับว่ายังไม่มีภัยคุกคามอะไร
ซ่งอิ๋งจี๋บางทีอาจสามารถเพิ่มแรงกดดันได้อีกนิด
ตอนนี้ซ่งอิ๋งจี๋ยังไม่ได้คิดมากมายขนาดนั้น ฟังจบก็พยักหน้าว่า “งั้นไปดูกันเถอะ เจ้าเด็กนี้จะทะลวงด่านวันนี้ได้หรือเปล่า”
พูดจบ ทั้งสองคนไม่ชักช้าอีก ถังเฟิงไม่พาลูกสาวไปด้วย หมุนตัวทะยานอากาศไปกับซ่งอิ๋งจี๋ มุ่งหน้าสู่ทะเลเขตทางใต้
—
อาณาเขตทะเล
ฟางผิงกำลังเท้าคางครุ่นคิดอะไรบางอย่างบนโขดหินก้อนหนึ่ง
ไม่ได้หลับตาทำตัวเป็นยอดฝีมือ ไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น
ตอนนี้ฟางผิงกำลังสรุปผลได้ผลเสียของการฟันออกไปกว่าหมื่นดาบในเจ็ดวันนี้
“หนึ่งดาบเฉลี่ยห้าร้อยแคล ห้าแสนต่อหนึ่งดาบ ค่าทรัพย์สินห้าหมื่นกว่าล้าน…แต่ฉันคิดว่าตัวเองฟื้นฟูได้เร็วเหมือนกัน ไม่ได้สิ้นเปลืองขนาดนั้น เสียค่าทรัพย์สินไปสามหมื่นกว่าล้าน”
“ฝึกวิชาดาบยังเสียไปกว่าสามหมื่นล้าน นอกจากฉันแล้วคงไม่มีคนทำเรื่องแบบนี้หรอก”
ฟางผิงคิดฟุ้งซ่านอยู่พักหนึ่ง มองตัวเลขข้างหน้าอีกครั้ง
ทรัพย์สิน : 92,400,000,000 (เปลี่ยนแปลง)
ปราณ : 5999 แคล (5999 แคล)
จิตใจ : 899 เฮิรตซ์ (899 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 117 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (90%)
ช่องเก็บของ : 32 ลูกบาศก์เมตร (+)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที
ตัวเลขของปราณและจิตใจไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เทียบกับหลายวันก่อน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียวคือค่าทรัพย์สิน น้อยลงไปหลายหมื่นล้าน
แต่ว่า…
ฟางผิงกวาดตามองหลู่เฟิ่งโหรวที่อยู่ไกลออกไปอยู่แวบหนึ่ง จู่ๆ ก็ตะโกนว่า “อาจารย์ ไปเรียกอาจารย์และนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยมาเยอะๆ หน่อยได้ไหมครับ?”
“หืม?”
หลู่เฟิ่งโหรวนิ่งไปเล็กน้อย ยังไม่ทันเอ่ยปาก ฟางผิงกลับหยัดกายขึ้น ทะยานขึ้นไปในอากาศ เอ่ยเสียงดังว่า “อาจารย์ ผมจะกลับมหาวิทยาลัยแล้ว!”
“หืม?”
หลู่เฟิ่งโหรวตะลึงไปเล็กน้อย ฟางผิงกำลังทำอะไร?
เขาเตรียมตัวจะทะลวงด่านไม่ใช่หรือไง?
หลู่เฟิ่งโหรวตามไปอย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้วว่า “ยังหาตำแหน่งประตูซานเจียวไม่เจอ?”
ฟางผิงพยักหน้าเป็นอันดับแรก ก่อนจะส่ายหัวว่า “ไม่ใช่ เดี๋ยวคุณจะรู้เอง ผมคิดว่าไปทะลวงด่านที่เขตทางใต้ของมหาวิทยาลัยอาจจะให้ผลลัพธ์ดีกว่าอยู่บ้าง”
ฟางผิงไม่พูดมากเช่นกัน ฉันฟันดาบเจ็ดวันเจ็ดคืนราวกับคนบ้า วันนี้ต้องออกดาบที่แข็งแกร่งที่สุด ยังไงก็ต้องให้คนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เห็นสักหน่อย ดาบของฟางผิงคนนี้ร้ายกาจขนาดไหน!
ฉันทะลวงขั้นหก ทั้งยังเท่ระเบิดขนาดนี้!

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน