ตอนที่ 474 เรียกรวมพล (1)
………………..
ห้องโถงรับรอง
เฉินเย่าถิงกำลังคุยเล่นกับพวกหวงจิ่งก็เห็นฟางผิงวิ่งเหยาะๆ เข้าประตูมา
ทุกคนยังไม่ทันเอ่ยปากอะไร ฟางผิงก็เอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “ยินดีกับอธิการเฉินที่ทะลวงขั้นแปด หลอมร่างทองสำเร็จ อยู่ยงคงกระพัน แผ่ความเกรงขามทั้งใต้หล้า…”
เฉินเย่าถิงมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ถ้าจะประจบไม่ต้องหรอก ขั้นหกแล้วควรรักษาท่าทีของยอดฝีมือไว้บ้าง”
เจ้าเด็กนี้ทะลวงด่านเร็วกว่าที่คาด
ปี 2009 เดือนกรกฎาคม เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฟางผิง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม
ตอนนี้ผ่านไปแปดเก้าเดือนเท่านั้น ขั้นหกแล้ว
ความก้าวหน้านี้ หากมีคนคำนวณอย่างละเอียดขึ้นมาอาจจะตกใจจนอ้าปากค้าง
แต่มาถึงขั้นหกแล้ว เจ้าเด็กนี้ยังดูไม่มีท่าทีของยอดฝีมือแม้แต่น้อย เฉินเย่าถิงไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี
ฟางผิงตีหน้ายิ้ม เยินยอว่า “ถึงผมจะขั้นแปด อยู่ต่อหน้าผู้เฒ่าเฉินก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นผมเพิ่งอายุสิบเก้า เป็นแค่เด็กคนหนึ่งจริงๆ…”
“แค่กๆๆ!”
ด้านข้างนั้นหวงจิ่งกระแอมเบาๆ รักษาหน้าตาบ้าง
นายไม่ต้องการ แต่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังต้องการ
เฉินเย่าถิงหลุดหัวเราะเช่นกัน เฉินเฮ่าหรานที่ยืนอยู่ข้างหลังยิ่งทำหน้ากระอักกระอ่วน ใช่ เขากระอักกระอ่วนอย่างมาก รู้สึกว่าคำพูดนี้ของฟางผิง เขายังอายแทนอีกฝ่ายเลย
ฟางผิงคร้านจะสนใจเฉินเฮ่าหราน เจ้าหมอนี้ทำหน้าราวกับอึดอัด ฟางผิงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเตือนเขาแล้ว ตอนแรกยังคิดจะมาเตือนสักหน่อยว่าฉินเฟิ่งชิงจะมาจัดการเขา
ตอนนี้ดูแล้วปล่อยให้เหล่าฉินจัดการเขาไปเถอะ
เอ่ยยินดีไม่กี่ประโยคแล้ว ฟางผิงก็ควักกล่องคริสตัลใสออกมาจากอก เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้เฒ่าเฉิน คุณทะลวงถึงขั้นแปดแล้ว ผู้น้อยไม่ได้เตรียมอะไรให้ ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ คิดซะว่าเป็นน้ำใจของผู้น้อยแล้วกัน”
พูดจบ ฟางผิงก็วางกล่องบนโต๊ะ
เฉินเย่าถิงกวาดสายตามอง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้านข้างหวงจิ่งและถังเฟิงอดมองเจ้าเด็กนี้ไปแวบหนึ่งไม่ได้
เขาจะก่อกบฏหรือไง?
ถังเฟิงและหลู่เฟิ่งโหรวทะลวงด่าน…เอาเถอะ เขามอบอาวุธวิเศษให้ เรื่องนี้คงไม่เอ่ยถึงแล้ว
เหล่าเฉินเป็นแค่คนนอก เธอส่งผลไป๋ชุ่ยให้หลายลูก ไหนบอกว่ามีนิดเดียว?
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเย่าถิงยังไม่จำเป็นต้องใช้ ไม่ใช่สิ้นเปลืองหรือไง?
เฉินเย่าถิงแปลกใจอยู่บ้าง ฟางผิงเจ้าเด็กนี้ใจกว้างขึ้นมาแล้ว
ระหว่างที่กำลังคิด ฟางผิงก็หัวเราะว่า “อธิการเฉินทะลวงขั้นแปดแล้ว ผู้น้อยก็เข้าสู่ขั้นหกเหมือนกัน เวลาไม่ห่างกันมาก เป็นวาสนาจริงๆ!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา เฉินเย่าถิงก็ใบหน้าแข็งทื่อ
สรุปแล้ว…เธอมอบของขวัญให้ฉันเพื่อยินดีที่ตัวเองทะลวงขั้นหก?
เจ้าเด็กนี้เป็นฝ่ายส่งของขวัญก่อน ต้องส่งของที่มากกว่านี้กลับไปให้?
ด้านข้างนั้นหวงจิ่งและถังเฟิงอยากจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าอยู่บ้าง
จำเป็นด้วยหรือไง?
ฟางผิงเห็นเฉินเย่าถิงใบหน้าแข็งทื่อไปจึงไอแห้งๆ ว่า “ผู้เฒ่าเฉิน ตอนนั้นผู้น้อยติดค้างแก่นหัวใจคุณครึ่งหนึ่ง คุณว่าเรื่องนี้พอจะแล้วกันไปได้หรือเปล่า?”
เฉินเย่าถิงหัวเราะอีกครั้ง ทำให้วุ่นวายอยู่ค่อนวันเพราะเรื่องแค่นี้
ความจริงแค่พูดเล่นไปเท่านั้น หากต้องการจริงๆ เขาคงไปทวงนานแล้ว จำเป็นต้องรอจนถึงเวลานี้?
แต่เจ้าเด็กนี้นับว่านิสัยตรงไปตรงมา ยังจำเรื่องนี้ได้อยู่
ผลไป๋ชุยพวกนี้ มูลค่าสูงกว่าแก่นหัวใจเล็กๆ ทั้งอันที่จริงก็ไม่ได้แตกต่างมากมาย แต่ผลไป๋ชุ่ยหายากยิ่งกว่า
ครุ่นคิดเรื่องพวกนี้แล้ว เฉินเย่าถิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อเธอเอ่ยขึ้นมา งั้นก็คิดซะว่าเป็นของขวัญที่เธอทะลวงด่านละกัน”
ฟางผิงรีบกล่าวขอบคุณ หวงจิ่งและถังเฟิงที่อยู่ด้านข้างแปลกใจอยู่บ้าง เจ้าเด็กนี้เอาจริงสิ?

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน