ตอนที่ 517 พวกนายต้องเสียใจทีหลัง (2)
………………..
กำราบถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่ง เป็นเรื่องที่ร้อยปีมานี้ไม่สามารถทำได้!
แม้จะเป็นเวลานั้นสงครามถ้ำใต้ดินปักกิ่งก็กำราบได้แค่เมืองราชาสองแห่งเท่านั้น
แต่วันนี้ ภายใต้การสูญเสียที่ไม่นับว่ามากมาย นึกไม่ถึงว่าจะมีโอกาสกำราบถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่ง เป็นความน่ายินดีของมนุษย์ ความน่ายินดีของประเทศจีน!
ประโยคที่ฟางผิงพูดว่า ‘แสดงความยินดีกับมนุษยชาติ’ บางทีอาจสามารถตะโกนออกมาดังๆ ได้ด้วยซ้ำ
ขั้นเก้าพวกนั้น รวมถึงปรมาจารย์ขั้นเจ็ดขั้นแปดต่างฮึกเหิมและกระตือรือร้นขึ้นมา
กำราบถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่ง ผลงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แสวงหาทั้งชั่วชีวิต ต่อสู้ทั้งชั่วชีวิต ครั้งนี้ในที่สุดก็มีโอกาสเป็นพยานในฉากนี้แล้ว
“ต้องชนะ!”
“ประเทศจีนต้องชนะ!”
“มนุษยชาติต้องชนะ!”
พวกปรมาจารย์ทยอยตะโกน สงครามนี้ถ้าสำเร็จจริงๆ บางทีอาจไม่เพียงพอให้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์โดยรวมของมนุษย์ แต่ต้องทำให้ยอดฝีมือมนุษย์ที่ท้อแท้พวกนั้นมีหวังเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน!
มนุษยชาติยังมีความหวัง!
จากปรมาจารย์นำทัพหนึ่งร้อยคน จ่ายค่าแลกเปลี่ยนเป็นคนตายไม่ถึงยี่สิบคน กำราบถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่ง ช่างทำให้คนฮึกเหิมอะไรอย่างนี้!
แม้จะตื่นเต้น แต่ตอนที่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ทุกคนจึงข่มกลั้นความฮึกเหิมไว้ในใจ
พวกปรมาจารย์ทยอยรวมตัวกัน เริ่มหารือกลยุทธ์ขึ้นมา
ไม่นาน หนานอวิ๋นเยวี่ยก็เผยท่าทีเกรงขาม เอ่ยอย่างกระตือรือร้นว่า “ทุกคน สงครามนี้มีความสำคัญอย่างมาก ตอนนี้เงื่อนไขทุกอย่างล้วนเอื้ออำนวย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว! อีกฝ่ายไม่รู้ว่าพวกเราฟื้นพลัง…”
เธอพูดปลุกขวัญกำลังใจ รอเธอพูดจบแล้ว จู่ๆ ฟางผิงก็โผล่หน้าไปว่า “ผู้อำนวยการหนาน…คือว่า…น้ำแร่ชีวิตเป็นของเจ้าเมืองเฉียงเวย…”
หนานอวิ๋นเยวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร พวกเราแสร้งเป็นอ่อนแอก่อน หากดอกเฉียงเวยตกหลุมพราง พวกเราค่อยรอโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายเพลี่ยพล้ำ สังหารพวกเขาไปพร้อมกัน! ถ้าไม่ตกหลุมพราง งั้นก็ฆ่าอีกฝ่ายไปพร้อมกันเหมือนเดิม วางใจเถอะ พวกเราไม่ลงมือเต็มกำลัง หากควบคุมพลัง ดอกเฉียงเวยสัมผัสกลิ่นอายไม่ได้อยู่แล้ว”
แต่ขอแค่เก็บงำไว้บ้าง อีกฝ่ายก็ยากที่จะรับรู้แล้ว
สรุปจากคำพูดของหนานอวิ๋นเยวี่ย ดอกเฉียงเวยมีแต่ต้องตายเท่านั้น
ไม่มีใครคิดจะปล่อยมันไปเพราะเรื่องความรัก
ขั้นเก้าที่บ้าคลั่ง ไม่มีความหวั่นเกรงอะไร รั้งอยู่ในถ้ำใต้ดิน นั่นก็เป็นการเพิ่มปัญหาให้เทียนหนาน
ยิ่งไปกว่านั้น เมืองเฉียงเวยก็เป็นตัวการทำชั่วที่ทำลายเมืองเทียนหนานเมื่อสองปีก่อน!
ขั้นเก้าแบบนี้ ปล่อยไว้ไม่ได้
หนานอวิ๋นเยวี่ยพูดจบก็มองไปยังทุกคน รวมถึงปรมาจารย์ที่บาดเจ็บหนักบางส่วน “พวกนายกลับไปเถอะ!”
พวกเขาไม่พูดอะไรมาก ตอนนี้ล้วนเป็นภาระเท่านั้น บางทีออกไปอาจจะดีกว่า
ฟางผิงเห็นทุกคนเตรียมจะออกเดินทาง ครุ่นคิดแล้วจู่ๆ ก็กัดฟันว่า “รอผมเดี๋ยว!”
พูดจบ ฟางผิงก็เก็บงำกลิ่นอาย ทะยานขึ้นอากาศ หายวับไปจากที่เดิม
เขาลอยไปไกล ออกห่างจากสายตาของทุกคนแล้ว กระทั่งขั้นเก้ายังหาตัวเขาไม่เจอ
หนานอวิ๋นเยวี่ยเผยสีหน้าตกใจ นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นฟางผิงเก็บงำกลิ่นอาย
ก่อนหน้านี้หลายครั้ง ตอนที่ฟางผิงกลับมากลัวว่าจะถูกพลาดทำร้ายเลยไม่คิดจะปิดบังกลิ่นอาย
จู่ๆ ฟางผิงหายวับไปแบบนี้…ตามหลักแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกคนหนึ่งบอกให้พวกเขารอ น่าจะไม่มีใครสนใจ
แต่ฟางผิงเด็กปีศาจนี้ เขาให้ทุกคนรอ คนอื่นๆ ก็ยินดีจะรออยู่แล้ว
ฟางผิงไม่รู้ว่าลอยไปไกลแค่ไหน ไม่นานก็พกขวดเล็กๆ ใบหนึ่งกลับมา
ทุกคนแววตาเปลี่ยนแล้ว!
ฟางผิงตะโกนมาจากที่ไกลๆ “ก่อนหน้านี้ผมวางแผนจะเหลือไว้ให้อธิการหลี่ ดังนั้นเลยไม่ได้เอาออกมา เตรียมจะเอากลับไป…เฮ้อ ช่างเถอะ อธิการหลี่เป็นเรื่องเล็ก มนุษยชาติต่างหากที่เรื่องใหญ่! เพื่อประเทศจีน เพื่อมนุษยชาติ เพื่อปรมาจารย์ทุกคน ผมคงไม่อาจสนใจแค่อธิการหลี่ได้แล้ว!”
ฟางผิงเผยสีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด กระโดดลงมาจากอากาศ ส่งน้ำแร่ชีวิตขวดเล็กนั้นให้หนานอวิ๋นเยวี่ย เอ่ยอย่างอาลัยอาวรณ์ว่า “นี่เป็นน้ำแร่ชีวิตสิบจิน ทุกคนเปิดใช้เถอะ! บาดเจ็บก็อย่าลังเล!”
ก่อนหน้านี้ทุกคนทั้งซาบซึ้งและสั่นสะท้านในใจ นึกไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี้จะยังซ่อนน้ำแร่ชีวิตไว้อีกสิบจิน ใช้ราวกับน้ำเปล่าจริงๆ
แต่เมื่อหนานอวิ๋นเยวี่ยเห็นสัญญาหนี้…เธอแทบไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
นี่เป็นเรื่องดี ฟางผิงใจกว้างอย่างถึงที่สุด
ยังไงก็เป็นแค่สัญญาเท่านั้น ใครจะรู้ว่าสามารถคว้าประโยชน์ได้หรือเปล่า
ประเด็นอยู่ที่ก่อนหน้านี้ดูสูงส่งเปี่ยมคุณธรรม ทำให้ทุกคนซาบซึ้งใจ ครู่ต่อมากลับส่งสัญญาหนี้มา นี่เหมาะสมหรือไง?
แม้จะหมดคำพูด แต่นี่เป็นของล้ำค่าที่ช่วยชีวิต!
น้ำแร่ชีวิตเยอะขนาดนี้ บางทีอาจสามารถช่วยชีวิตขั้นเก้าหนึ่งคนได้
หนานอวิ๋นเยวี่ยไม่ชักช้า เซ็นชื่อไปตรงๆ
ด้านข้างนั้น จางเว่ยอวี่และหลี่เต๋อหย่ง ไม่จำเป็นต้องให้ฟางผิงพูด ทั้งสามคนก็เซ็นเช่นกัน
ฟางผิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เก็บสัญญาหนี้ไว้ แค่สี่หมื่นล้านเท่านั้น ไม่ได้เก็บพวกคุณแพง นับว่าผมมีเมตตตา
“ไป!”
กลับไม่มีใครเข้าไป!
รัฐมนตรีหวังมองไปรอบๆ เอ่ยว่า “หากถูกอีกฝ่ายสู้มาถึงที่นี่จริงๆ พวกผู้อำนวยการยังอยู่ พวกเราก็ออกจากที่นี่ทันที หาก…ถึงเวลานั้น ออกไปหรืออยู่ที่นี่ล้วนไม่ต่างกัน! ถึงเวลานั้นจริงๆ ฉันจะรอใช้แรงเฮือกสุดท้าย!”
ยังมีปรมาจารย์เกือบยี่สิบคนอยู่ที่นี่ รวมตัวกันระเบิดจริงๆ ระเบิดคนหนึ่งก็นับเป็นคนหนึ่ง
เห็นพวกปรมาจารย์พูดอย่างห้าวหาญ…ฟางผิงอดเอ่ยประชดไม่ได้ “ชนะแน่นอน นอกเสียจากขั้นสุดยอดจะลงมือ หากขั้นสุดยอดลงมือจริงๆ ระเบิดตัวเองก็ไร้ประโยชน์”
พวกปรมาจารย์ที่เพิ่งจะฮึกเหิมทยอยหน้าดำคล้ำ ถลึงตามองเขาอย่างเงียบๆ
ฟางผิงไม่สนใจเช่นกัน เอ่ยราวกับไม่ตั้งใจว่า “ครั้งหน้าถ้าได้น้ำแร่ชีวิตมาก็ไม่รู้ว่าจะเปิดประมูลขายออกไปหน่อยดีหรือเปล่า นี่จะเยอะเกินไปแล้ว ผมคนเดียวใช้ไม่ไหวเหมือนกัน…”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ไม่ถลึงตาอีก
แทบจะเปลี่ยนสีหน้าในพริบตาเดียว
เจ้าเด็กนี้เป็นเทพแห่งโชคลาภ กลับไปไม่แน่ว่าวันไหนอาจจะมียามที่ต้องขอความช่วยเหลือจริงๆ
—
ด้านข้าง
ฉินเฟิ่งชิงมองอย่างอิจฉาตาร้อน กดเสียงว่า “เจ้าหมอนี้…ยกระดับแล้ว!”
เริ่มจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับปรมาจารย์แล้ว!
ครั้งนี้นับว่าฟางผิงได้เข้าสู่แวดวงปรมาจารย์อย่างแท้จริง แม้เขาจะไม่ใช่ปรมาจารย์ก็ตาม
มองพวกตัวเองอีกที…ฉินเฟิ่งชิงยังไม่ทันมีปฏิกิริยา พวกปรมาจารย์ก็เดินเข้ามาทักทายหวังจินหยางแล้ว ไถ่ถามสถานการณ์อาจารย์ของเขาไปด้วย
ส่วนหลี่หานซง ซูจ่านจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน กำลังดึงตัวหลี่หานซงไปถาม
มีแค่เขา…ที่ไม่มีใครสนใจ!
ฉินเฟิ่งชิงยืนอยู่อย่างเดียวดาย…อยากจะร้องไห้ออกมาอยู่บ้าง
จะโหดร้ายเกินไปแล้ว!
เจ้าสามคนนี้เข้าไปอยู่ในแวดวงปรมาจารย์ได้ เขากลับยังถูกมองเป็นเด็ก เด็กซนคนหนึ่งที่ไม่มีใครยอมเล่นด้วย
“พวกนายต้องเสียใจทีหลัง!”
ฉินเฟิ่งชิงกู่ร้องในใจ!
————-
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน