ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 523

ตอนที่ 523 มีแต่ต้องพึ่งตัวเอง (1)

………………..

ในห้องประชุมเล็ก

พวกฟางผิงเจอกับจางเทาอีกครั้ง!

จางเทายังไม่ไปไหน แต่อยู่ที่นี่มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้คนของเมืองเจิ้นซิงมา เขาไม่ได้ออกหน้า แต่เรื่องที่พวกฟางผิงคุยกัน ปิดบังเขาไม่ได้

ไม่ใช่แค่การพูดคุยเป็นทางการก่อนหน้านี้!

การพูดคุยส่วนตัวตอนท้าย จางเทารับประกันว่าเขาไม่ได้แอบฟัง เขาเผลอฟังแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น

ตอนนี้แววตาของจางเทาแทบจะแปลกประหลาดอย่างยิ่ง!

“ฟางผิง…ฟางผิงมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้…”

จางเทาพูดย้ำอยู่ในใจซ้ำๆ!

เทพจริงๆ!

เขายังแทบจะนับถือแล้ว!

สามารถพูดโกหกมาจนถึงขั้นนี้ได้ นี่ไม่ใช่เทพแล้วจะยังไงอีก?

ประเด็นอยู่ที่ยังมีคนเชื่อจริงๆ

จางเทามองฟางผิงแล้วก็มองหลี่หานซงต่อ!

เจ้าหมอนี้…กลับไปสามารถตรวจสอบดูหน่อยได้ เวลานั้นยอดฝีมือที่สิ้นชีพ คนไหนโง่ที่สุดน่าจะเป็นเขาแล้ว แทบไม่จำเป็นต้องตรวจสอบลงลึกด้วยซ้ำ

พวกฟางผิงถูกเขามองจนรู้สึกไม่สบายตัวอยู่บ้าง มองท่าทีแปลกประหลาดนั้นของจางเทาอีกที ฟางผิงก็ก่นด่าในใจ หรือว่า…หรือว่าจะถูกได้ยินแล้ว?

ขั้นสุดยอดแข็งแกร่งขนาดนี้?

สามารถทะลวงม่านพลังจิตใจของเขาแอบฟังได้?

ไม่สิ ขั้นสุดยอดว่างขนาดนั้นเลยหรือไง พวกเขาพูดคุยกัน คุณก็แอบฟังเนี่ยนะ อายบ้างหรือเปล่า?

ตอนนี้เขาสงสัยแล้วว่าถูกแอบฟังจริงๆ!

ไม่งั้นขั้นสุดยอดอย่างจางเทาจะทำสีหน้าแปลกๆ มองพวกเขาทำไม?

หลี่หานซงรู้สึกอึดอัดเช่นกัน…รัฐมนตรีจางจะมองตัวเองด้วยสีหน้าแปลกไปแล้ว!

สงสาร?

เห็นใจ?

มองคนโง่?

ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่เข้าใจว่ารัฐมนตรีจางจะมองตัวเองทำไม

จางเทามองอยู่พักหนึ่ง กดรอยยิ้มและความสงสารลงไป เอ่ยขึ้นว่า “พูดเรื่องการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวทั่วโลกก่อนเถอะ พวกเธอรู้จุดประสงค์ในการแข่งขันครั้งนี้หรือเปล่า?”

ฟางผิงครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า “ได้ยินว่าเพื่อแย่งชิงโควต้าเข้าสู่เขตหวงห้าม”

“อืม งั้นเธอรู้หรือเปล่าว่าเขตหวงห้ามคืออะไรกันแน่? โควต้าคืออะไร? เข้าสู่เขตหวงห้ามมีความหมายยังไง?”

ฟางผิงส่ายหัว เหลวไหล ฉันรู้แล้วยังต้องมาฟังคุณพูดอีกทำไม

จางเทาราวกับฟังความหมายของเขาออก ยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่ให้กำเนิดตัวป่วนจริงๆ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม”

ตัวป่วนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้มีเยอะธรรมดา

เมื่อก่อนมีอู๋ชวน หลังจากนั้นมีเถียนมู่ ตามมาด้วยหลี่ฉางเซิง ภายหลังเป็นกลุ่มของพวกฟางผิง

ตัวป่วนผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน

พวกเขาไปแล้ว อาจจะได้รับอะไรกลับมาไม่เยอะเสมอไป

เขายังกำลังครุ่นคิด จู่ๆ ฟางผิงก็ทำหน้าดีใจว่า “รัฐมนตรี ถ้าพวกเราเข้าไปในเขตหวงห้าม พวกเราและเขตหวงห้ามมีข้อตกลงอะไรบางอย่างหรือเปล่า อย่างเช่นว่าห้ามระดับสูงลงมือกับพวกเราอะไรทำนองนั้น?”

จางเทาได้ฟังก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มี”

“จริงเหรอครับ?”

“แน่นอน อัจฉริยะวัยเยาว์ของพวกเราเข้าสู่เขตหวงห้าม ไม่ใช่เพื่อให้ไปตายเปล่า ตายก็ต้องตายอย่างยุติธรรม อันที่จริงนี่เป็นข้อตกลงที่สองฝ่ายเข้าใจทั่วกันอย่างหนึ่ง…พวกเธอเป็นหินขัดเกลาของคนบางส่วน เช่นเดียวกัน พวกเธอก็จำเป็นต้องขัดเกลา”

จางเทาเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ในเขตหวงห้าม ที่นั่นมีอัจฉริยะเยอะราวกับมวลเมฆ! หนึ่งร้อยแปดแห่ง ดังนั้นอัจฉริยะจึงไปรวมตัวที่เขตหวงห้าม สี่ราชสำนักใหญ่ก็มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนเหมือนกัน…”

“สี่ราชสำนักใหญ่?”

“ใช่ ในเขตหวงห้าม อันที่จริงมีการแบ่งอำนาจอยู่ ทั้งหมดมีสี่ราชสำนักใหญ่”

เดิมทีจางเทาไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ ตอนนี้มานึกดูแล้วยังคงแนะนำไปอย่างคร่าวๆ “ฝ่ายพืชปีศาจ ฝ่ายสัตว์ปีศาจ ฝ่ายเผ่าปีศาจผู้พิทักษ์ และฝ่ายหมื่นปีศาจ แน่นอนว่าอันที่จริงพวกเขาไม่ได้เรียกตัวเองแบบนี้ นี่เป็นการเรียกและแบ่งแยกอย่างหนึ่งของพวกเรา จากคำเรียกพวกนี้ พวกเธอน่าจะรู้แล้วว่าหมายถึงอำนาจของฝ่ายไหน แต่ศัตรูของพวกเรา อันที่จริงไม่ใช่สี่ราชาสำนักใหญ่ทั้งหมด แต่เป็นฝ่ายพืชปีศาจและฝ่ายเผ่าปีศาจผู้พิทักษ์ นี่ถึงจะเป็นสาเหตุหลักที่มนุษยชาติของพวกเราสามารถก่อตั้งและไม่ล่มสลายจนถึงตอนนี้ เพราะสองราชสำนักใหญ่นี้ไม่กล้าทุ่มสุดกำลัง ทำสงครามตัดสินเป็นตายกับมนุษยชาติ! โดยเฉพาะฝ่ายสัตว์ปีศาจ ก่อนหน้านี้ทำสงครามกับฝ่ายพืชปีศาจมานับพันปี ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายก็เป็นศัตรูคู่แค้น เอาแต่รอจังหวะหาผลประโยชน์ช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเพลี่ยพล้ำ แต่ทุกคนต่างไม่ใช่คนโง่ การทำสงครามจำกัดแค่ต่ำกว่าขั้นสุดยอดเท่านั้น ขอแค่พวกเราไม่ตายในสงคราม งั้นคนอื่นก็หาผลประโยชน์ไม่ได้ น่าเสียดาย…”

ระหว่างที่จางเทาพูดก็ส่ายหัวเบาๆ “น่าเสียดายที่หลายปีมานี้ ฝ่ายสัตว์ปีศาจเหมือนจะมีความคิดเข้าร่วมสงครามแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ไม่สู้ดี เป็นเพราะมาจากสาเหตุนี้”

ฟางผิงเอ่ยอย่างสงสัย “งั้นสี่ราชสำนักใหญ่ มีขั้นสุดยอดเยอะหรือเปล่า?”

พูดจบก็เอ่ยต่อว่า “ขั้นสุดยอดของประเทศจีนมีสิบสี่คน งั้นทั่วโลกมีทั้งหมดเท่าไหร่?”

จางเทาคลี่ยิ้มว่า “เธอเพิ่งจะขั้นหก รู้เรื่องพวกนี้ไปไม่มีประโยชน์ แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป หากถึงช่วงเวลาสำคัญจริงๆ พวกเราคงไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น”

ไม่พูดในประเด็นนี้ต่อ จางเทาเอ่ยว่า “ถ้าพวกเธอคว้าโควต้ามาได้ หลังจากเข้าสู่พื้นที่หวงห้าม คู่ต่อสู้ก็คือคนพวกนี้! อย่าได้ประเมินผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะของเขตหวงห้ามต่ำไปเด็ดขาด พวกเธออยู่ข้างนอกอย่างราบรื่น ไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน นั่นเป็นเพราะสภาพแวดล้อมข้างนอกไม่ค่อยดี อัจฉริยะถึงได้ออกจากพื้นที่ข้างนอกไป อัจฉริยะในเขตหวงห้ามค่อนข้างมีประสบการณ์โชกโชน ถึงกระทั่งโหดเหี้ยมกว่ามนุษยชาติ การคัดเข้าคัดออกแบบนี้ คนที่มีชีวิตรอดล้วนเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เมื่อก่อนอัจฉริยะของมนุษย์เข้าสู่เขตหวงห้าม มีอัตราตายกว่าครึ่งหนึ่ง…ฉันหมายถึงอัจฉริยะมนุษย์ พวกเธอคงไม่คิดว่าเป็นเหมือนพวกลูกหลานรุ่นหลังของขั้นสุดยอดเมืองเจิ้นซิงพวกนั้นหรอกนะ”

จางเทาเอ่ยเสียงเบา “กลุ่มที่พวกเธอเจอก่อนหน้านี้ ถึงกระทั่งขั้นห้าเอาชนะขั้นหกได้ เกรงว่าคงจะดูแคลนอัจฉริยะมนุษย์อย่างแท้จริงไปแล้ว รัฐบาลกลาง หน่วยทหารล้วนมียอดฝีมือรุ่นเยาว์อย่างแท้จริง คนพวกนี้มีชื่อเสียงไม่เด่นชัด กลับทำสงครามในแต่ละพื้นที่มาโดยตลอด หลายถ้ำใต้ดินแทบจะมีเงาของพวกเขาอยู่ แต่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่านั้น คนพวกนี้ถึงจะเป็นกลุ่มหลักที่เข้าสู่เขตหวงห้าม”

————–

………………..