ตอนที่ 523 มีแต่ต้องพึ่งตัวเอง (2)
………………..
“ทางเมืองเจิ้นซิง…อันที่จริงก่อนจะเข้าสู่เขตหวงห้าม คนที่คัดเลือกออกมาพวกนั้นก็ผ่านสงครามหลั่งเลือดมาอย่างโชกโชนแล้วเช่นกัน พวกเธอน่าจะรู้ว่าความสามารถของพวกเขาอยู่ที่ไหน นอกจากไม่ขาดแคลนประสบการณ์ต่อสู้ อย่างอื่นก็ไม่อ่อนด้อย คนพวกนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง อัจฉริยะเมืองเจิ้นซิงบางคน พลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าที่พวกเธอจินตนาการไว้เยอะ โดยเฉพาะหลังจากเข้าสู่เขตหวงห้ามแล้ว มีชีวิตรอดกลับมาแทบจะเป็นผู้แข็งแกร่งทุกคน”
ฟางผิงพยักหน้าเบาๆ นี่กลับเป็นเรื่องจริง
เจิ้งหนานฉีคนพวกนี้ หากขัดเกลาดีๆ คงไม่อ่อนแออยู่แล้ว
สิ่งที่ฟางผิงสงสัยคือตอนนี้คนพวกนี้ก็ยังอยู่ในเขตหวงห้ามงั้นเหรอ?
นึกขึ้นได้ก็ถามทันที ฟางผิงเอ่ยอย่างสงสัย “ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าไปในเขตหวงห้าม ตอนนี้ยังอยู่ในเขตหวงห้ามเหรอครับ?”
“ส่วนหนึ่งยังอยู่ทางนั้น อีกส่วนไม่อยู่แล้ว” จางเทาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผู้ฝึกยุทธ์บางคนที่ทะลวงด่านหลังเข้าสู่เขตหวงห้าม อันที่จริงพวกเธอก็เคยเจอมาก่อน หยางชิงคนเมื่อตะกี้ รวมถึงพวกวัยรุ่นที่ยืนข้างเขาต่างเคยเข้าสู่เขตหวงห้ามแล้ว”
อันที่จริงฟางผิงเดาได้เหมือนกัน ครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยต่อ “รัฐมนตรี งั้นตกลงพื้นที่ระหว่างเขตแดนเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่?”
“พื้นที่ระหว่างเขตแดน…”
จางเทาพึมพำ เอ่ยเสียงเบาว่า “พื้นที่ระหว่างเขตแดน ความจริงพวกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ทางเขตหวงห้ามมีเรื่องเล่าบางอย่าง นั่นเป็นซากอารยธรรมโบราณที่หลงเหลือหลังจากสงครามใหญ่ครั้งนั้น เกี่ยวพันไปถึงเรื่องในอดีตบางส่วนของยุคสมัยผู้ฝึกยุทธ์โบราณ แต่ยุคสมัยของผู้ฝึกยุทธ์โบราณล่มสลายไปนานแล้ว หากจะย้อนรอยจริงๆ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องของสองสามพันปีก่อนแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องในอดีตครั้งนี้ตกลงเกิดอะไรขึ้น แม้จะเป็นราชารองที่อยู่ในเรื่องเล่าของเขตหวงห้ามรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย แน่นอนว่าพวกเขาเคยเข้าไปในพื้นที่ระหว่างเขตแดนบางแห่งโดยอาศัยข้อมูลและซากวัตถุโบราณที่หลงเหลือบางส่วน ทั้งเคยทำการคาดคะเนบางอย่าง…”
พวกเขากำลังตั้งใจฟัง จู่ๆ จางเทาก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องนี้พวกเธอรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดดีกว่า”
พวกฟางผิงแทบจะด่ามารดาออกมา!
พูดได้ครึ่งเดียวกลับไม่พูดต่อ ถ้าคุณไม่ใช่ขั้นสุดยอด เชื่อหรือเปล่าว่าพวกเราซ้อมคุณให้ตายได้!
จางเทาคลี่ยิ้มว่า “พูดไปไม่มีประโยชน์จริงๆ เรื่องในอดีตพวกนี้เป็นแค่การคาดเดาของพวกเราเท่านั้น คนพวกนั้นในเวลานั้นดับสูญหมดแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้น อีกทั้งพวกเธอฝีมืออ่อนแอไปหน่อย ไม่ถึงขั้นเก้าถึงกระทั่งไม่ถึงขั้นสุดยอด พวกเธออย่าไปพื้นที่เขตแดนอีกจะดีที่สุด ที่นั่น…เทียบกับเขตหวงห้ามยังลึกลับมากกว่า ทั้งยังอันตรายกว่า บางสถานที่ จากคำพูดของหลี่เจิ้น บางทีอาจจะมีการคงอยู่ของสิ่งที่น่ากลัวบางอย่าง! ขั้นสุดยอดตระกูลหยางคนนั้นยังตายอยู่ที่นั่น ยิ่งเป็นการพิสูจน์ให้ชัดเจนไปอีก”
พูดถึงเรื่องนี้ จู่ๆ จางเทาก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา แววตาเย็นยะเยือกอยู่บ้าง
ฟางผิงเหมือนจะรับรู้ได้ เอ่ยเสียงเบาว่า “ผู้อาวุโสตระกูลหยาง…มุ่งหน้าไปพื้นที่ระหว่างเขตแดนโดยไม่ได้รับอนุญาตงั้นเหรอครับ?”
จางเทาส่ายหัวเอ่ยว่า “อย่าถามเลย ยังคงเป็นประโยคนั้น พวกเธอฝีมืออ่อนแอเกินไป ไม่มีความจำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ อีกอย่างหลังจากนี้หากไปเมืองเจิ้นซิงจริงๆ อย่าพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า คนเมืองเจิ้นซิงพวกนี้…เป็นขุนนางใหญ่ของมนุษยชาติพวกเรา บางทีอาจจะเป็นที่พึ่งของมนุษยชาติด้วยเช่นกัน จำเป็นต้องให้ความเคารพ จะล่วงเกินไม่ได้! แต่ว่าอันที่จริงเมืองเจิ้นซิงก็มีเป้าหมายของตัวเองเช่นกัน สาเหตุที่พูดเรื่องพวกนี้กับพวกเธอ…”
จู่ๆ จางเทาก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เพราะพวกเธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้! ผู้ฝึกยุทธ์เกิดใหม่กลุ่มก่อนหน้านี้ อันที่จริงเกิดใหม่มานานแล้ว บางส่วนถูกสำนักรับไว้ ส่วนมากเข้าไปในเมืองเจิ้นซิง อันที่จริงคนพวกนี้มีความคิดไม่เหมือนกับพวกเรา พวกเธอต่างออกไป พวกเธอเกิดใหม่ได้ไม่นาน ประจวบเหมาะที่ยุคมหาวิทยาลัยศิลปะต่อสู้เจริญรุ่งเรือง พวกเธอเลยได้เข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ก็นับได้ว่าเป็นลูกศิษย์ของฉัน ในเมื่อพวกเธอเป็นลูกศิษย์ของฉัน ถ้ากล้ามีความคิดกบฏ ทรยศคำสอนของอาจารย์ถือว่ามีความผิด! สรุปแล้วทางเมืองเจิ้นซิงสามารถปฏิสัมพันธ์ได้ แต่ห้ามทำความสนิทสนมลึกล้ำเกินไป”
พวกฟางผิงต่างสั่นสะท้านในใจ หมายความว่ายังไง?
เมืองเจิ้นซิง…ไม่คู่ควรให้ไว้ใจ?
ล้ออะไรกันเล่น!
มีผู้อาวุโสเป็นขั้นสุดยอดตั้งสิบสองคน!
รวมกับหลี่เจิ้น นั่นก็เป็นสิบสามคนแล้ว!
จางเทารู้เช่นกันว่าพูดกับเด็กพวกนี้ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง แต่ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อย่าตกใจจนเกินไป ความหมายของฉันไม่ได้หมายถึงพวกเขาเป็นคนเลว คนล้วนมีความเห็นแก่ตัว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ทั้งเมืองเจิ้นซิง…จะว่ายังไงดีล่ะ อย่างผู้บังคับการกองตั้งมั่นทางตะวันออกและทางเหนือสองคนนี้ พวกเธอน่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายมาจากไหนสินะ? พวกเขาสามารถรับตำแหน่งผู้บังคับการได้ อันที่จริงหมายความถึงหลายสิ่ง บางเรื่องเมืองเจิ้นซงก็ไม่ได้มีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเราเหมือนกัน หาจุดร่วมและคงความแตกต่าง นี่เป็นเรื่องพื้นฐาน ทั้งยังเพียงพอแล้ว”
“แต่การตายของผู้อาวุโสตระกูลหยาง เหนือความคาดหมายพวกเราจริงๆ หลายคนล้วนเป็นนักศึกษาหัวกะทิของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ส่วนเรื่องการเกิดใหม่ จะสนใจหรือไม่สนใจก็ได้ แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์เกิดใหม่ ผู้ฝึกยุทธ์เกิดใหม่ไม่ได้หมายถึงจะเป็นคนอื่น พวกเธอก็คือพวกเธอ ทั้งยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ของพวกเรา อันที่จริงฉันหวังให้พวกเธอสามารถเดินในเส้นทางของตัวเองได้มากกว่า ไม่ใช่เดินตามเส้นทางแบบเดิมต่อไป ก่อนหน้านี้คำพูดของฟางผิงและหวังจินหยาง ฉันได้ยินแล้ว เยี่ยมมาก มีความมุ่งมั่น! นี่ถึงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ของยุคสมัย เป็นผู้ฝึกยุทธ์รุ่นใหม่ ผู้ฝึกยุทธ์ควรจะเป็นแบบนี้! หากไม่ใช่คำพูดนี้ ตอนนี้พวกเธอและฉันคงไม่มีโอกาสเจอกันแบบนี้แล้ว”
จางเทาพูดออกมาตรงๆ เป็นเพราะคำพูดนั้นของพวกเขา จางเทาคิดว่าสามารถพบหน้าพูดคุยกันสักหน่อยได้!
แม้จะเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกไม่กี่คน อาจจะพูดประโยคพวกนี้ออกมาด้วยความไม่รู้อะไร หรือเพราะมีความตั้งใจจริงๆ!
จู่ๆ จางเทาก็ไม่อยากพูดอะไรแล้ว เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเธอกลับไปรอแจ้งข่าวเถอะ รีบเข้าสู่ระดับสูงเร็วๆ หน่อย…”
“อาจารย์ เรื่องเงินสามแสนล้านของผม…”
“กลับไปจะมีคนติดต่อเธอเอง อีกอย่าง…แค่หนึ่งแสนหกหมื่นล้าน!”
จางเทายิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เป็นตัวป่วนนั้นดี แต่เกินงามไป นั่นก็ไม่ดีแล้ว
ไม่รอให้พวกเขาเอ่ยปาก ร่างของจางเทาก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว
พวกฟางผิงแทบไม่รู้ว่าตกลงอีกฝ่ายหายไปยังไง
เขาไปแล้ว ฉินเฟิ่งชิงก็อดเอ่ยไม่ได้ “ขี้เหนียวจริงๆ!”
หวังจินหยางกลับเอ่ยอย่างลังเลอยู่บ้าง “พื้นที่ระหว่างเขตแดน…พวกเขา…”
ฟางผิงยกมือห้าม เอ่ยอย่างเงียบเชียบว่า “ไม่ต้องลงลึกแล้ว”
ครั้งนี้เหล่าหวังมองเขาอย่างไม่มั่นใจอยู่บ้าง!
ตอนนี้เขา…เริ่มเวียนหัวขึ้นมาแล้ว
———-
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน