ตอนที่ 524 สู้แค่ชาตินี้ (2)
………………..
หลู่เฟิ่งโหรวใบหน้าดำคล้ำ กัดฟันว่า “เซ็นไว้ก่อน!”
ฟางผิงหัวเราะ “ได้ครับ งั้นคำนวณแล้ว ผมยังเหลือดาบขั้นแปดหนึ่งชิ้น ดาบขั้นเจ็ดอีกหนึ่งชิ้น ขวานขั้นเจ็ดอีกหนึ่งชิ้น อาวุธวิเศษเยอะขนาดนี้ รู้สึกว่าแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย…”
เวลานี้พวกปรมาจารย์ที่ผ่านทางมา ได้ยินคำพูดนี้เข้า แทบจะมุดดินหนี
ไม่มีหน้าจะพูดอะไรจริงๆ ทั้งไม่มีหน้าจะทักทายด้วย
คนเขามีอาวุธวิเศษจนใช้ไม่หมด พวกเขายังจะพูดอะไรได้?
ฟางผิงไม่สนใจเรื่องนี้ ถอนหายใจว่า “อธิการติดหนี้ผมห้าหมื่นล้าน ตาเฒ่าหลี่นับเป็นหนึ่งล้านล้านละกัน อาจารย์ คุณก็ติดผมหนึ่งหมื่นสองพันล้าน อาจารย์ถังคิดหนึ่งหมื่นสองพันล้านเท่ากัน ผู้เฒ่าหลิวและอธิการหวงก็นับ…อธิการหวงลงมือฆ่าด้วยตัวเอง แล้วไปละกัน ส่วนผู้เฒ่าหลิวติดผมหนึ่งหมื่นล้าน”
ฟางผิงคำนวณออกมาแล้วก็ส่ายหัวว่า “ไม่รู้ว่าขายมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ให้ผมจะพอใช้หนี้หรือเปล่า”
พูดจบ ฟางผิงก็ตะโกนเสียงดัง “มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ถังแตกแล้ว!”
หนี้สินล้นพ้นตัว!
พวกปรมาจารย์แทบหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก หากหนี้พวกนี้นับเป็นหนี้สาธารณะ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะล้มละลายจริงๆ แล้ว
ทั้งเจ้าหนี้ก็คือเจ้าเด็กตรงหน้านี้!
อู๋ขุยซานแทบไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกยังไง อธิการบดีอย่างตัวเอง ในช่วงที่รับตำแหน่งกลับทำมหาวิทยาลัยล้มละลาย ในใจนั้นไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกยังไงจริงๆ
—
พูดเล่นกันอยู่พักหนึ่ง ฟางผิงก็ไปหาหนานอวิ๋นเยวี่ยที่กำลังยุ่งหัวหมุน
ได้ยินว่าฟางผิงจะใช้อาวุธวิเศษขั้นเก้าและศพพืชปีศาจขั้นเจ็ดแลกเปลี่ยนกับศพสัตว์ปีศาจขั้นเก้า หนานอวิ๋นเยวี่ยก็เงียบไปพักใหญ่ “อาวุธวิเศษขั้นเก้าสามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกัน ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเอง แต่ถ้าเธออยากแลกศพสัตว์ปีศาจไปสร้างเองก็ได้เหมือนกัน แต่ว่า…ต้องเพิ่มของบางอย่าง”
“ยังต้องเพิ่มอีก?”
ฟางผิงไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง โหดเหี้ยมจริงๆ
“เพิ่มอะไร?”
“เจ้าเมืองเฉียงเวย…”
“ไม่แลกแล้ว!”
“งั้นก็กระดูกของเถี่ยมู่” หนานอวิ๋นเยวี่ยเปลี่ยนคำพูดใหม่ทันที กระดูกของยอดฝีมือขั้นเก้าก็มีมูลค่าต่อการวิจัย
ไม่ใช่แค่มูลค่าต่อการวิจัย อันที่จริงแกนหัวใจและแกนสมองของเถี่ยมู่ยังมีอยู่เช่นกัน
มนุษยชาติ ไม่ว่าจะมนุษย์ถ้ำหรือมนุษย์โลก แกนหัวใจและแกนสมองไม่สามารถใช้หลอมอาวุธวิเศษได้ จุดนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
แต่ประโยชน์ยังคงมีไม่น้อย
อย่างเช่นสร้างห้องคุมอานุภาพ หรือให้ขั้นแปดส่วนหนึ่งวิเคราะห์ส่วนประกอบพลังงานของพวกเขา ถึงกระทั่งสามารถใช้เป็นแหล่งแร่พลังงานขนาดย่อมๆ ได้เหมือนกัน
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ้าสิ่งนี้แทบจะไม่นับเป็นเงิน
ศพสัตว์ปีศาจที่แลกมา มูลค่าจะเกินกระบี่วิเศษและศพพืชปีศาจรวมกันหรือเปล่า?
ถ้าเกิน นั่นอาจสามารถคำนวณเป็นค่าทรัพย์สินได้
นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงจึงถามว่า “ศพสัตว์ปีศาจขั้นเก้ามูลค่าประมาณเท่าไหร่เหรอครับ?”
“ไม่มีมูลค่า…” หนานอวิ๋นเยวี่ยยังไม่ทันพูดจบ ฟางผิงก็ละล่ำละลักว่า “ผมรู้ว่าของพวกนี้ใช้เงินก็ซื้อไม่ได้ ความหมายของผมคือต้องมีการกำหนดมาตราฐานบ้างสินะครับ ไม่งั้นทุกคนหลอมอาวุธวิเศษขั้นเก้า หรือต้องไปล่าสัตว์ปีศาจขั้นเก้าด้วยตัวเองหมด?”
“ประมาณหนึ่งแสนสองหมื่นล้าน”
ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย อาวุธวิเศษขั้นเก้าจะเพิ่มค่าทรัพย์สินให้ตัวเองหนึ่งแสนล้าน ร่างของต้นไม้ปีศาจไม่เยอะ ห้าหกหมื่นล้านเท่านั้น
คำนวณแบบนี้ ร่างของเถี่ยมู่น่าจะเพิ่มค่าทรัพย์สินให้ตัวเองหนึ่งถึงสองหมื่นล้านแล้ว
แต่ได้ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ฟางผิงพยักหน้าว่า “ได้ งั้นผมจะแลก”
นอกจากไม่ขาดทุน อันที่จริงยังได้กำไรนิดหน่อย ฟางผิงเจ้าเด็กนี้รวยจะตายไป ของหลายอย่างเขาไม่ได้ใช้งานด้วยซ้ำ เอาเปรียบเขานิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ไม่นาน ท่ามกลางสายตาอิจฉาของปรมาจารย์นับไม่ถ้วน ตาเฒ่าหลี่ก็แบกร่างสัตว์ปีศาจขนาดมหึมาตัวหนึ่งด้วยท่าทีดีใจอย่างบ้าคลั่ง
ร่างสัตว์ปีศาจขั้นเก้าอยู่ในมือแล้ว!
เขาสามารถสร้างกระบี่อมตะขั้นเก้าของตัวเองได้แล้ว ทั้งยังเป็นการสร้างขึ้นโดยเฉพาะ!
หลี่หานซงอึ้งไป!
ล้างแค้นกันแบบนี้เลยงั้นเหรอ?
ซูจ่านมองอธิการด้วยแววตาแปลกออกไปเช่นกัน
ช่างลึกล้ำ!
ลึกล้ำจริงๆ!
หากหลี่หานซงอยู่ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จนถึงขั้นแปดขั้นเก้าแล้วค่อยกลับมา เอาอาวุธวิเศษขั้นเก้ากลับมาได้อีก นั่นก็เจ๋งแล้ว
อธิการเผยรอยยิ้มลึกล้ำ กลับลอบถอนหายใจ ถึงเวลานั้นเธอก็คงกลับมาไม่ได้แล้ว
เป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอด น่าเสียดายที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่สามารถให้ความช่วยเหลือที่มากมายกว่านี้ได้
กลับเป็นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นับวันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้อู๋ขุยซาน หลี่ฉางเซิงพวกนี้ต่างมีพลังต่อสู้เพิ่มพูนขึ้นไปอีก
อู๋ขุยซานศึกษาร่างของเจ้าเมืองเฉียงเวย อาจจะมีหวังเข้าสู่ขั้นเก้าอีก
แค่อำนาจนี้ก็สามารถทำให้อัจฉริยะอย่างหลี่หานซงเติบโตขึ้นต่อไปได้แล้ว
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ให้ความสำคัญกับหลี่หานซง หลี่หานซงไปที่อื่นหรือรั้งตัวอยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ยังไม่มีโอกาสเท่านี้เลย
จบการศึกษา เติบโตเป็นผู้ใหญ่ สุดท้ายยังต้องเดินเส้นทางของตัวเอง
อธิการเฒ่ารู้สึกซับซ้อนในใจ หลี่หานซงกลับเริ่มครุ่นคิดขึ้นมา อธิการพูดมีเหตุผลจริงๆ!
อันที่จริงเขายังคิดจะรั้งตัวอยู่เมืองหลวง มหาวิทยาลัยปักกิ่งบ่มเพาะเขาอย่างสุดความสามารถเช่นกัน
อาจารย์ให้การดูแลไม่น้อย ซูจ่านยอดฝีมือปรมาจารย์คนนี้ ช่วงหลังแทบจะแทนที่อาจารย์ก่อนหน้านี้ของเขา พอถึงปีสามก็เป็นซูจ่านที่ชี้แนะเขากับมือมาโดยตลอด
ตอนนี้นึกถึงมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ สามารถลงถ้ำใต้ดินกับพวกฟางผิงได้สะดวกกว่า กลับไปหาบ้านเก่า กลับไปหาสหายเก่าพวกนั้นของตัวเอง…หลี่หานซงก็คิดว่าพอให้พิจารณาได้เหมือนกัน
————-
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน