ตอนที่ 524 สู้แค่ชาตินี้ (3)
………………..
กลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ฟางผิงไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว
ตอนนี้ฟางผิงกำลังบังคับให้ตาเฒ่าหลี่เซ็นสัญญาหนี้อยู่!
ตาเฒ่าหลี่อัดอั้นตันใจ รวมถึงจนใจด้วยเช่นกัน เซ็นสัญญาหนี้…จำเป็นด้วยหรือไง?
เห็นชัดๆ ว่าคืนไม่ไหว!
แม้จะจนใจ ตาเฒ่าหลี่ก็ยังเซ็นไปอยู่ดี หนึ่งล้านล้าน!
ฟางผิงคิดเขาเป็นเลขกลมๆ บอกว่าลดเศษหลายแสนล้านให้เขา คำพูดนี้ทำให้ทุกคนแทบจะอกแตกตาย
ถึงเวลานี้แล้ว สัญญาหนี้ของฟางผิงแทบจะเยอะจนจำไม่ไหวอยู่บ้าง
ทั้งหลังจากแลกเปลี่ยนสัตว์ปีศาจขั้นเก้าตัวนี้มา ค่าทรัพย์สินของฟางผิงก็มีการเพิ่มขึ้นจริงๆ
ทรัพย์สิน : 500,000,000,000 (เปลี่ยนแปลง)
ปราณ : 7700 แคล (7800 แคล)
จิตใจ : 920 เฮิรตซ์ (940 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (90%)
ช่องเก็บของ : 100 ลูกบาศก์เมตร (+)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที (+)
เลียนแบบกลิ่นอาย : ค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนต่อนาที (+)
ห้าแสนล้าน!
สัตว์ปีศาจขั้นเก้าในสภาพสมบูรณ์หนึ่งตัว มูลค่าแตะสูงถึงหนึ่งแสนสองหมื่นกว่าล้าน ทั้งนี่ยังเป็นมูลค่าที่ระบบคำนวณให้ เทียบกับอาวุธวิเศษแล้วยังแพงกว่า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง กระดูกของเถี่ยมู่ ถูกฟางผิงขายไปในมูลค่าหนึ่งหมื่นห้าพันล้าน
ตอนนี้ยังมีหนี้อีกจำนวนมากไม่ได้เก็บกลับมา ฟางผิงอารมณ์ดีไม่น้อย ครั้งนี้ลงถ้ำใต้ดินได้กลับมาเป็นกอบเป็นกำจริงๆ
ส่วนอู๋ขุยซาน ฟางผิงบอกให้เขาใช้อาวุธวิเศษใช้หนี้ เหล่าอู๋จ้องตาเขาแทบจะถลนออกมา ให้ตายยังไงก็ไม่รับปาก
นี่ทำให้ฟางผิงจนใจอย่างยิ่ง!
เขาพูดแล้วว่าจะให้ยืมใช้แทน ผลปรากฏว่าอู๋ขุยซานไม่ยอม ทำท่าราวกับว่านายฆ่าฉันให้จบๆ ไปซะเถอะ พาให้ฟางผิงกลัดกลุ้มใจอย่างมาก
แน่นอนว่าเขาสามารถเข้าใจได้
เหล่าอู๋กำลังรักษาความเกรงขามสุดท้ายไว้!
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แทบจะแซ่ฟางอยู่แล้ว ชีวิตน้อยๆ ของตัวเองถูกอีกฝ่ายช่วยเหลือไว้ ตอนนี้เขาไม่มีอะไรแล้ว เหลือแค่อาวุธวิเศษขั้นเก้าชิ้นเดียวที่พอจะเป็นของตัวเองได้ นี่หากเอาไปใช้หนี้ให้ฟางผิงอีก อธิการอย่างเขาคงจะกลายเป็นเรื่องตลกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ฟางผิงจะให้ใช้หนี้แล้วยืมแทน ในความคิดของเขา เป็นการทำเรื่องเกินความจำเป็น ไม่ถึงกับต้องขนาดนั้น
ฟางผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อู๋ขุยซานไม่รับปาก เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้จริงๆ
ถอนหายใจเล็กน้อย ฟางผิงไม่ได้รีบเช่นกัน ตอนนี้มีเงินเพิ่มมาห้าหมื่นล้านหรือน้อยลงห้าหมื่นล้านก็ไม่ต่างกัน
รอค่าทรัพย์สินของตัวเองถึงเก้าแสนห้าหมื่นล้านแล้ว หากเหล่าอู๋ไม่ใช้หนี้ให้ตัวเองจริงๆ เขาจะให้ตาเฒ่าหลี่จัดการซะ
—
ท่ามกลางความวุ่นวาย รอจนช่วงบ่าย หลี่เจิ้นก็มาแล้ว
หลี่เจิ้นไม่ได้รั้งตัวอยู่ในถ้ำใต้ดินนาน ตอนนี้ถ้ำใต้ดินเป่ยหูไม่มีขั้นสุดยอดนั่งรักษาการณ์ แต่เขตแดนสิบสองทางใต้หรือก็คือถ้ำใต้ดินซีไห่ เขาต้านสมุทรทางนั้นมีขั้นสุดยอดเฝ้าอยู่คนหนึ่ง
ปกติหลี่เจิ้นไม่ได้รับผิดชอบให้เฝ้าระวังที่เขาต้านสมุทร ตอนนี้เรื่องที่เทียนหนานจบลงแล้ว เขาออกมาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป
ประโยชน์หลักๆ ของขั้นสุดยอดคือการป้องกันความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในถ้ำใต้ดิน อย่างเช่นถ้ำใต้ดินเทียนหนานเมื่อสองปีก่อน
ส่วนขั้นสุดยอดเขตหวงห้ามที่อยู่ตรงข้าม คนพวกนี้ไม่อาจฆ่าผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์โดยพลการ
ทั้งขั้นสุดยอดพวกนั้นไม่อาจรั้งตัวอยู่ใกล้เขาต้านสมุทรนานเหมือนกัน พวกเขาอยู่ในราชสำนักที่เป็นถิ่นของตัวเอง ปกติไม่ค่อยออกมาเขตข้างนอก
เรื่องแรกที่หลี่เจิ้นเข้ามา ไม่ใช่การฉลองชัยชนะ แต่เป็นการจัดพิธีไว้อาลัยร่วมกับจางเทาให้พวกปรมาจารย์ที่ตายในสนามรบ
หากไม่ใช่ว่าปรมาจารย์ที่อยู่แนวหน้าพวกนี้ล่อยอดฝีมือพวกนั้นไป แม้เขาจะเก็บงำกลิ่นอายได้ก็สามารถเข้าสู่เมืองเฉียงเวยอย่างบ้าระห่ำได้จริงๆ งั้นเหรอ?
หากไม่ใช่ว่าคนของเมืองเจิ้นซิงและพวกราชาเฉียงเวยห้ำหั่นกันเอง ผลประโยชน์จะตกมาถึงมือของเขาที่อยู่ขั้นหกหรือไง?
หากมีความสามารถ เขาไปฆ่าคนพวกนี้ตรงๆ นั่นถึงจะเป็นความสามารถอย่างแท้จริง!
ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย ไม่จำเป็นต้องวางแผนมากมาย เดินฝ่าทะลวงออกไปตลอดทาง นี่ถึงจะเป็นความสามารถ
หากยอดฝีมือมนุษย์ตายในสงครามทั้งหมด ฟางผิงคนเดียวเก็บงำและปรับเปลี่ยนกลิ่นอาย จะสามารถปกป้องได้กี่คนกัน?
ยอดฝีมือแปลกหน้าที่ตายในวันนี้ หากวันพรุ่งนี้กลายเป็นคนที่คุ้นเคยล่ะ!
ตาเฒ่าหลี่อยู่ดีๆ ก็เดินเส้นทางหมื่นวิถีเป็นหนึ่งอะไรนั่น เพราะอะไรกัน?
คิดไปคิดมา ฟางผิงก็เริ่มใจลอยอยู่บ้าง
ข้างหน้าฝูงชน ขั้นสุดยอดทั้งสองเหมือนจะใจลอยเหมือนกัน ยอดฝีมือปรมาจารย์ตายในสงครามครั้งเดียวกว่ายี่สิบคน วันเวลาแบบนี้ยังต้องเกิดขึ้นอีกกี่ครั้งกี่หน
ไม่รู้ว่านึกอะไรได้ จู่ๆ หลี่เจิ้นก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “ต้องมีวันหนึ่งที่ชำระหนี้แค้นได้! ฉันจะสู้แค่ชาตินี้เท่านั้น!”
จางเทาเผยสีหน้าเรียบนิ่ง เนิ่นนานก่อนจะเอ่ยว่า “อย่าส่งต่อภัยพิบัติให้ลูกหลานรุ่นหลังอีกเลย ให้เรื่องทั้งหมดสิ้นสุดที่พวกเราเถอะ!”
“ต้องชนะ!”
ชั่วพริบตานี้ ขั้นสุดยอดสองคนก็ตะโกนดังลั่น!
แฝงไปด้วยความโกรธแค้น ไม่ยินยอมและโศกเศร้า
ให้สงครามสิ้นสุดที่รุ่นพวกเขาเถอะ ให้ลูกหลานรุ่นหลังอย่าได้แบกรับน้ำตาและการหลั่งเลือดอีก สู้แค่ชาตินี้เท่านั้น!
“ต้องชนะ!”
ชั่วพริบตานี้คนนับไม่ถ้วนก็พากันตะโกน!
——————
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน