เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 525

ตอนที่ 525 เส้นทางขั้นเก้า (2)

………………..

คนกลุ่มนี้ ไม่นานก็พาร่างของเจ้าเมืองเฉียงเวยมาถึงเขตพักผ่อน

กลางลานกว้าง ขั้นสุดยอดสองคนรออยู่ที่นั่นแล้ว

เห็นพวกอู๋ขุยซานมา ขั้นสุดยอดสองคนก็ไม่พูดมาก ทักทายกันแล้ว จางเทาก็เอ่ยว่า “งั้นเริ่มเลยเถอะ แต่ยังต้องเดินในเส้นทางของตัวเอง อย่าให้มามีอิทธิพลมากเกินไป อธิการอู๋ ห้ามจมอยู่ในเส้นทางของคนอื่นเด็ดขาด หากจมเข้าไปแล้ว นายไม่ใช่เขา ไม่พูดถึงจะสามารถเดินเส้นทางนี้ได้หรือเปล่า ถึงจะเดินได้ นายก็จะเป็นขั้นเก้าที่อ่อนแอ ไม่ใช่ขั้นเก้าที่แข็งแกร่ง”

คำพูดนี้ใช้ได้กับขั้นเก้าทุกคน

ก่อนหน้านี้คนของเมืองเจิ้นซิงและเขตหวงห้ามต่างแย่งชิงร่างของขั้นสุดยอด แต่แม้จะแย่งได้ เดินตามเส้นทางผู้อาวุโสตระกูลหยาง นั่นก็เป็นเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ของคนอื่นอยู่ดี ถึงจะกลายเป็นขั้นสุดยอดสำเร็จก็จะเป็นประเภทที่อ่อนแอ

แน่นอนว่าต่อให้ขั้นสุดยอดอ่อนแอแค่ไหน ก็ยังถือเป็นขั้นสุดยอด เทียบกับขั้นเก้าที่ไม่ได้อยู่ขั้นสุดยอดต้องแข็งแกร่งกว่าอยู่แล้ว

อู๋ขุยซานสูดลมหายใจเข้าลึก พยักหน้าอย่างหนักแน่น

หลี่เจิ้นและจางเทาต่างไม่พูดมาก ทั้งสองคนเริ่มซัดฝ่ามือใส่ร่างของเจ้าเมืองเฉียงเวย ฟางผิงมองอยู่พักหนึ่ง เหมือนจะไม่เกิดความผิดปกติอะไร

แต่ไม่นาน เจ้าเมืองเฉียงเวยก็คล้ายมีชีวิตขึ้นมา ให้ความรู้สึกราวกับเป็นคนเป็นๆ

ฟางผิงเผยสีหน้าแปลกใจ การแสดงวิวัฒนาการเส้นทางของขั้นเก้าอลังการขนาดนี้เลย?

เรื่องจริงกลับพิสูจน์ว่าฟางผิงคิดมากไป

บนร่างของเจ้าเมืองเฉียงเวยปลดปล่อยแสงสีทองอ่อนๆ ไม่ได้สว่างจ้าเท่าไหร่ ในเวลานี้อู๋ขุยซานก็ปล่อยพลังจิตใจสัมผัสกับร่างเจ้าเมืองเฉียงเวย

ฟางผิงเห็นแบบนั้นก็ปล่อยพลังจิตใจของตัวเองเช่นกัน…ผลปรากฏว่าเพิ่งจะปล่อยออกมา หลี่เจิ้นก็ถลึงตาใส่เขา!

สายตานี้ทำให้ฟางผิงหวาดกลัวได้แล้ว!

พลังจิตใจถูกดึงกลับไปทันที!

ใช่แล้ว ดึงกลับไปราวกับไม่เคยปลดปล่อยมาก่อน

หลี่เจิ้นไม่ได้พูดอะไร จางเทาซัดฝ่ามือใส่ร่างเจ้าเมืองเฉียงเวยอย่างต่อเนื่องพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า วิวัฒนาการเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์แบบนี้ เธอสามารถมองเป็นของที่ใช้ครั้งเดียวหมดได้ เธอตัดเอาบางส่วนไป สิ่งที่อธิการของเธอเห็นก็จะไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์อีกแล้ว”

“อ่อ”

ฟางผิงพยักหน้าทันที แบบนี้นี่เอง

ไม่แปลกใจที่ครั้งนี้ไม่ได้เชิญขั้นแปดคนอื่นๆ มาดูวิวัฒนาการเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ด้วย สรุปแล้วใช้ได้แค่คนเดียวสินะ

แต่ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักอะไรได้ ใบหน้าดำคล้ำขึ้นมา!

เหล่าจาง…นึกไม่ถึงว่าจะแอบฟังพวกเขาอีกแล้ว!

คนๆ นี้จะว่างเกินไปแล้ว?

เรื่องตัดและคัดลอกเป็นสิ่งที่อู๋ขุยซานเพิ่งพูด จางเทากลับยกตัวอย่างเหมือนคำที่อู๋ขุยซานใช้อย่างบังเอิญขนาดนี้?

ฟางผิงเผยสีหน้าหมดคำพูดจริงๆ ไม่เคยเห็นขั้นสุดยอดที่ว่างจัดขนาดนี้มาก่อน

ไม่สิ เขาเหมือนไม่เคยเห็นขั้นสุดยอดอย่างสองคนนี้มาก่อนเลยต่างหาก ทั้งยังเพิ่งรู้จักได้ไม่นาน บางทีขั้นสุดยอดอาจจะว่างแบบนี้เหมือนกันหมด

ยังไงคนเขาก็อยู่สูงบนยอด เงียบเหงาเกินไป ว่างไม่มีอะไรทำ หาความสนุกสักหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ

อู๋ขุยซานปลดปล่อยพลังจิตใจ เหมือนกำลังรับรู้และมองดูอะไรบางอย่าง

บางครั้งก็เผยท่าทีสงสัย บางครั้งก็ให้ความรู้สึกราวกับตื่นรู้

ด้านข้าง หลู่เฟิ่งโหรวมองอู๋ขุยซานแทบไม่ขยับเขยื้อย เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นอยู่บ้าง

ตาเฒ่าหลี่กลับดูจนง่วงหงาวหาวนอนอยู่บ้าง เขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ยังคิดว่าสามารถเห็นอะไรได้ซะอีก ผลปรากฏว่าเห็นแค่อู๋ขุยซานแสดงสีหน้าเท่านั้น

มองไปมองมา ตาเฒ่าหลี่ก็เอ่ยอย่างอู้อี้ว่า “คิดว่าทุกคนจะได้ดูหนังด้วยกันซะอีก ผลปรากฏว่าเจ้าหมอนี้ดูอยู่คนเดียว น่าเบื่อชะมัด”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ถังเฟิงก็อดกลั้นจนหน้าดำหน้าแดง

หลู่เฟิ่งโหรวมีโทสะเช่นกัน ถลึงตามองเขาอย่างดุดัน

ฟางผิงอยากจะหัวเราะ ยกนิ้วโป้งให้ตาเฒ่าหลี่ จะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนเกินไปแล้ว

ตอนนี้เหล่าอู๋กำลังดูหนังอยู่คนเดียวจริงๆ ทั้งยังไม่ได้แบ่งให้คนอื่นดูด้วย น่าเบื่ออยู่บ้างจริงๆ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ร่างที่สว่างไสวของเจ้าเมืองเฉียงเวยก็หม่นแสงลง

ราชาเฉียงเวยที่เหมือนคนเป็นๆ ก่อนหน้านี้ เวลานี้ร่างราวกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ในสายตาฟางผิง เหมือนจะมีอะไรบางอย่างขาดไปเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ถึงราชาเฉียงเวยจะตายก็ให้ความรู้สึกที่เหมือนกำลังนอนหลับทำนองนั้น ไม่ก็นั่งสมาธิเข้าด่านอยู่

แต่ตอนนี้กลับขาดความรู้สึกที่เหมือนกับคนเป็นไป คล้ายเป็นแค่รูปปั้นเท่านั้น

หลังจากนั้นสักพัก อู๋ขุยซานก็ลืมตาขึ้น เผยแววตาลึกล้ำ ไม่นานก็ค้อมกายให้ขั้นสุดยอดทั้งสอง เอ่ยเสียงเบาว่า “ขอบคุณผู้บัญชาการและรัฐมนตรี…”

“ไม่ต้องเกรงใจ”

ขั้นสุดยอดสองคนร่วมมือกันแสดงวิวัฒนาการเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ ทั้งยังสิ้นเปลืองต้นกำเนิดเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่ออกแรงนิดหน่อยเท่านั้น

จางเทาเอ่ยเป็นมารยาทแล้วก็ยิ้มว่า “รู้สึกเป็นยังไง?”

“ได้รับอะไรไม่น้อยจริงๆ!”

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนต้นคนอื่นๆ

พวกฟางผิง ก่อนหน้านี้พยายามอย่างสุดชีวิตถึงร่วมมือกันฆ่ายอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือดของเมืองเยวี่ยกุ้ยคนนั้นได้

ทั้งหมดทั้งมวล ฟางผิงสิ้นเปลืองพลังจิตใจและปราณไปนับไม่ถ้วน

เป็นแบบนี้ก็ยังสู้อย่างยากลำบากอยู่ดี

แต่ในแหล่งแร่ขนาดใหญ่เมืองราชา เผชิญหน้ากับขั้นหกสูงสุด ในสถานการณ์ที่ฟางผิงระเบิดเต็มกำลัง ฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้เวลามากมาย แม้ตัวเองจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อยก็ตาม

เขาถึงกระทั่งเคยฆ่าขั้นหกสูงสุดที่อ่อนแอคนหนึ่งในระหว่างที่อยู่ขั้นห้ามาก่อน

แต่ในเวลานั้น หากเขาเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่หลอมสารจิงและเลือด แม้ฟางผิงจะรวบรวมพลังฟ้าดินหนึ่งร้อยหลุนก็ระเบิดอีกฝ่ายไม่ตายอยู่ดี คนที่ตายน่าจะเป็นเขามากกว่า

ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างถังเฟิง ฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนต้นหรือตอนกลางที่อยู่ในขั้นหลอมสารจิงกับเลือดก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น

ฆ่าขั้นหกสูงสุดที่ไม่ได้หลอมสารจิงกับเลือด ระเบิดเต็มกำลังก็ไม่ได้ยากจนเกินไป

ในตอนที่ฟางผิงยังครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ อู๋ขุยซานก็เอ่ยว่า “ความแตกต่างระหว่างขั้นสุดยอดและขั้นเก้า เทียบกับขั้นหกทั่วไปและผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดแล้วมีความแตกต่างเยอะกว่า แน่นอนว่านี่เป็นแค่การคาดเดาของฉัน แต่น่าจะไม่ผิดพลาดจากนี้ ไม่แปลกใจที่เอาแต่พูดว่าขั้นสุดยอดเป็นพลังสูงสุดที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้อย่างแท้จริง ตอนนี้กลับเข้าใจได้แล้ว”

ถ้าขั้นสุดยอดคนหนึ่ง เทียบได้กับเจ้าเมืองขั้นเก้าสองสามคน งั้นมนุษยชาติก็ไม่อาจต่อต้านกับถ้ำใต้ดินได้แล้ว

ถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่ง ยอดฝีมือขั้นเก้ามีมากมาย อย่างทางเทียนหนาน รวมกับสัตว์ปีศาจมีเกือบสามสิบคนแล้ว

หากขั้นสุดยอดหนึ่งคนต้านขั้นเก้าได้สองสามคน งั้นขั้นสุดยอดสิบสี่คนของประเทศจีน ไม่ใช่จะต้านได้แค่ถ้ำใต้ดินเทียนหนานเท่านั้นเหรอ?

ฟางผิงอดเอ่ยไม่ได้อยู่บ้าง “เวลานั้นบอกว่าระหว่างที่ผู้บัญชาการหลี่ประมือกับพวกขั้นเก้า ฆ่าขั้นเก้าไปแค่คนเดียวไม่ใช่เหรอครับ?”

อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างครุ่นคิด “อาจจะเป็นการเตือน ไม่ก็…บางทีคนที่ตายอาจเป็นขั้นสุดยอด?”

ฟางผิงสะบัดหัว เป็นไปได้ยังไง

อู๋ขุยซานไม่พูดมากอีก เผยสีหน้าดีใจ “พวกเรากลับไปกันได้แล้ว ทางนี้ไม่ต้องการพวกเราแล้ว ครั้งนี้ได้รับอะไรกลับไปมากจริงๆ!”

พูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ อู๋ขุยซานก็เงียบไป

เขาได้รับกลับมาเยอะ มีอาวุธวิเศษขั้นเก้า ทั้งมีเส้นทางของขั้นเก้าแล้ว

แต่สัญญาหนี้หนึ่งแสนล้าน…นั่นเหมือนกับก้างปลาทิ่มในลำคอ

สัญญาหนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักอยู่ที่ตัวเองเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ใกล้จะทะลวงขั้นเก้าแล้ว นึกไม่ถึงว่าต้องพึ่งพาผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกคนหนึ่งมาจนถึงตอนนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าขายหน้า

—————–

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน