ตอนที่ 527 โตแล้วจะทำอะไรก็ได้ (2)
………………..
ปีนี้ฟางหยวนอายุสิบหกปี ฟางผิงอยากให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกสักสองปี
หากรู้ความจริงเรื่องถ้ำใต้ดินแล้ว นั่นคงไม่สามารถมีสภาพจิตใจเหมือนตอนนี้ได้อีก
ทั้งผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ พอถึงขั้นสามแล้ว ไม่สิ บางทีขั้นสองก็อาจจะเริ่มเข้าสู่ถ้ำใต้ดิน
ถึงกระทั่งตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีการหารือกันแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสามารถพาเข้าไปสังเกตการณ์ในถ้ำใต้ดินก่อนได้เช่นกัน ไม่ออกนอกเมือง แค่สำรวจอยู่ในเมืองเท่านั้น
แต่ถึงจะเป็นภายในเมือง จะไม่มีอันตรายเลยหรือไง?
ในถ้ำใต้ดิน เรื่องที่โจมตีเมืองก็เกิดขึ้นบ่อยๆ
ฟางผิงพยายามฝึกวิชา เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย นั่นเพื่ออะไร?
ยิ่งใหญ่จนถึงขั้นเพื่อปกป้องมนุษยชาติทุกคนหรือไง?
ฟ้าถล่มยังมีผู้แข็งแกร่งประคองไว้ เขายังไม่มีคุณสมบัตินี้ เขาแค่หวังให้ครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้ดีและปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของเขาได้
แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าฟางหยวนจะสมัครสอบศิลปะการต่อสู้!
ฟางผิงหัวเสียขึ้นมา ฟางหยวนพองลมแก้ม ขบริมฝีปากว่า “พี่ ฉันไม่ใช่เด็กอีกแล้ว! เข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ งั้นก็ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ ทำภารกิจ ฉันรู้เรื่องนี้ แต่ฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้วเถอะ! ครั้งนี้เสี่ยวหยาก็สมัคร อาจารย์ซ่งไม่เห็นจะว่าอะไร…”
ฟางผิงแค่นเสียงว่า “อาจารย์ซ่งคืออาจารย์ซ่ง ฉันคือฉัน ไม่อนุญาตให้สมัคร ไม่อนุญาตให้ไปสอบด้วย!”
“พี่!”
“เอาเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักก่อน พวกเธอเล่นกันไปเถอะ”
ฟางผิงไม่พูดอีก ตรงดิ่งเข้าบ้านไปทันที
เขาไปแล้ว ฟางหยวนก็เผยสีหน้าขุ่นเคือง เอ่ยอย่างไม่พอใจ “เขาเอาแต่เห็นฉันเป็นเด็ก! ฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเป็นทางการแล้ว ฉันไปมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ถึงจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ถึงจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ได้…”
“หยวนหยวน”
ซ่งหยาเอ่ยปลอบใจ “พี่ฟางต้องหวังดีต่อเธอแน่ อันที่จริงตอนที่ฉันบอกพ่อว่าจะสมัครสอบศิลปะการต่อสู้ พ่อฉันก็ไม่คุยด้วยหลายวัน เหมือนจะไม่ยินดีเท่าไหร่ อันที่จริง…อันที่จริงก่อนหน้านี้พ่อเคยบอกว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้รุ่นของพวกพี่ฟางผิงแรงกดดันค่อนข้างเยอะมากๆ โดยเฉพาะพวกเขาที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ แรงกดดันมากกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปซะอีก หยวนหยวน ไม่ได้จริงๆ ก็ช่างมันเถอะ”
ฟางหยวนยู่ปากเอ่ยอย่างกลัดกลุ้มว่า “ฉันรู้! ครั้งก่อนเขากลับไปถูกคนลอบโจมตี เขา…เขาได้รับบาดเจ็บหนัก! แทบจะใส่เสื้อผ้าหุ้มร่างกายอย่างมิดชิดนอนหลับอยู่หลายวัน…”
ฟางหยวนเอ่ยด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฉันแค่อยากเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ให้เร็วหน่อย แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หน่อย อย่างน้อยคงไม่ถึงกับหนีไม่ได้ ครั้งนั้นถ้าไม่ใช่ว่าฉันกับพ่อแม่ยังอยู่ที่นั่น เขาคงหนีไปได้แล้ว…”
ฟางหยวนตาแดงขึ้นมาเรื่อยๆ “เขามักจะเป็นอย่างนี้ แทบไม่บอกอะไร เอาแต่พูดเรื่องดีๆ พวกนั้น บอกว่าตัวเองเก่งถึงขนาดไหน! ครั้งก่อนอาจารย์พาพวกเราไปเยี่ยมคุณตาคุณยายพวกนั้น…พิการไปตั้งหลายคน! ยังมีคนตายอีกมากมาย! ปีก่อนมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีอาจารย์ตายไปเยอะ ปีนี้ก็เหมือนกัน! เขากลับมาไม่เห็นเคยพูดเรื่องพวกนี้เลย! คุณตาคุณยายพวกนั้นรู้ว่าฉันเป็นน้องสาวของฟางผิง ยังเอ็นดูฉันไม่น้อย บอกว่าพี่ชายสร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ช่วยมหาวิทยาลัยทำเรื่องดีตั้งมากมาย…พี่ฉันเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยสองปีเท่านั้นกลับกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้ว ฉันไม่ใช่คนโง่สักหน่อย มีอะไรง่ายดายแบบนั้นที่ไหนกัน!”
“หยวนหยวน…”
ด้านข้าง หลี่หงอวี้เอ่ยเสียงเบา “งั้นเธอไปพูดกับพี่ฟางดีๆ เขาต้องเข้าใจเธอได้แน่”
“ไม่มีทาง!”
ฟางหยวนเอ่ยอย่างโมโห “เขาเป็นผู้ชายที่ยึดติดกับอุดมคติทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่ายังไงมีแค่เขาคนเดียวก็เพียงพอแล้ว! ทั้งยังเป็นจอมหลอกลวง เอาแต่หลอกฉันว่าพรสวรรค์แย่ ฝึกวรยุทธ์ไม่มีอนาคต อาจารย์ยังบอกแล้ว ฉันหลอมกระดูกสองครั้งได้ พรสวรรค์ก็ดีมากแล้ว!”
“คิกๆ…”
พวกซ่งหยาอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
—
บนชั้นสอง
ฟางผิงส่ายหัวเบาๆ มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
เจ้าเด็กแสบ อยู่ในบ้านอย่างสงบเสงี่ยมไม่ดีหรือไง มีเวลาว่างก็ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ ดูหนังฟังเพลง มีความสุขจะตายไป
เด็กแสบนี่ยังจะแบ่งเบาภาระให้ตัวเองได้?
ยังไงฟางผิงก็ตัดสินใจแล้ว อย่างน้อยต้องให้เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ถึงสิบแปดปี ไม่ให้เด็กแสบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หรอก
รอสิบแปดปีแล้ว ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกที
มีตัวเองอยู่ เจ้าตัวแสบไม่ขาดแคลนทรัพยากรฝึกวิชาแน่ ฟางผิงยินดีบ่มเพาะเธอให้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ปราณมากกว่า…
คิดแบบนี้ จู่ๆ ฟางผิงก็ยิ้มให้ตัวเองอย่างดูแคลน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน