ตอนที่ 531 พวกปรมาจารย์ ตัวสั่นไปเถอะ (1)
………………..
พวกฟางผิงเข้าด่านไม่ออกไปไหน โลกแทบจะบังเกิดสันติสุข
พวกปรมาจารย์ต่างไม่ปรากฏตัว
พวกผู้ฝึกยุทธ์อาวุโสก็แทบไม่เห็นหน้าค่าตา
เจ้าเด็กจอมก่อเรื่องพวกนี้ไม่สร้างความวุ่นวายอีก นั่นก็สงบสุขอย่างถึงที่สุดแล้ว ช่วงเวลาสั้นๆ นี้ กระทั่งพวกปรมาจารย์ยังรู้สึกว่าเงียบสงบเกินไป
สองปีนี้ เจ้าเด็กพวกนี้ก่อเรื่องกันไม่ใช่น้อยๆ ทุกครั้งโลกของผู้ฝึกยุทธ์แทบจะสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง
ตอนนี้หายไปในกลีบเมฆด้วยกัน พวกปรมาจารย์กลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาอยู่บ้าง
—
ในเวลาเดียวกัน
การสอบสายศิลปะการต่อสู้ปี 2010 ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีผู้สมัครสอบเยอะที่สุดเป็นประวัติการณ์!
สนามสอบแต่ละแห่งทั่วประเทศ มีจำนวนผู้เข้าสอบสายศิลปะการต่อสู้สูงถึงยี่สิบล้านคน!
การปรับเปลี่ยนระบบการสอบในปี 2010 นักเรียนทุกสายล้วนสามารถสอบสายศิลปะการต่อสู้ได้ กระทั่งมอปลายปีหนึ่งหรือปีสอง หากเงื่อนไขเหมาะสมก็สามารถสมัครสอบได้เช่นกัน เดิมทีจำนวนคนเกินสามสิบล้านไปแล้ว แต่สุดท้ายในด่านตรวจสอบประวัติการเมืองยังคัดคนออกไปได้บางส่วน
แม้ว่าปีนี้ทุกเงื่อนไขต่างเปิดกว้างแล้ว แต่เกี่ยวกับเรื่องประวัติการเมืองยังคงเข้มข้น
จำนวนผู้เข้าสอบยี่สิบเจ็ดล้านคน ในตอนที่การสอบสายศิลปะการต่อสู้เริ่มต้น แต่ละพื้นที่ทั่วประเทศแทบจะมีผู้เข้าสอบอยู่เต็มไปหมด
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ก็เป็นหนึ่งในสนามสอบเช่นกัน
—
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้
อาจารย์ผู้คุมสอบเห็นเด็กหญิงหน้ากลมข้างหน้าก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นักเรียนฟางหยวน ครั้งนี้แม่ทัพดาบคลั่งไม่ได้มาด้วยเหรอ?”
ฟางหยวนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม “อาจารย์ คุณรู้จักฉันเหรอคะ?”
“ฉันเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หวาตง ก่อนหน้านี้ฉันไปงานเลี้ยงของปรมาจารย์เซี่ยงไฮ้มาก่อน ต้องรู้จักอยู่แล้ว”
ฟางหยวนยิ้มจนหน้าบานยิ่งไปอีก ละล่ำละลักว่า “อาจารย์ พี่ฉันไม่ได้มา แต่เขาบอกว่าการสอบครั้งนี้ฉันต้องผ่านได้แน่ๆ มาหรือไม่มาก็เหมือนกัน”
ระหว่างที่พูดฟางหยวนยังยิ้มอย่างเบิกบาน “อาจารย์ ครุคาสตร์หวาตงเป็นหนึ่งในสิบมหาวิทยาลัยชื่อดัง ถ้าสอบมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ติด ไปครุศาสตร์หวาตงได้หรือเปล่า?”
อาจารย์คุมสอบคลี่ยิ้มว่า “เธอเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเป็นทางการแล้ว จะสอบไม่ติดได้อีกยังไง…”
ฟางหยวนหัวเราะว่า “ฉันจะไม่กังวลได้ยังไง? ปีนี้ผู้เข้าสอบเยอะเกินไป อาจารย์ คุณว่าฉันจะสอบเข้าครุศาสตร์หวาตงได้หรือเปล่า?”
“แน่นอนอยู่แล้ว…”
อาจารย์คุมสอบคนนั้นแทบไม่ต้องคิด ล้อกันเล่นแล้ว นี่เป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเป็นทางการ
ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกสองครั้ง!
แม้ปีนี้จะมีผู้เข้าสอบเป็นสิบล้าน คนที่แข็งแกร่งกว่าฟางหยวนก็มีไม่กี่คน
อีกอย่างพี่ชายของเด็กคนนี้เป็นเสาหลักของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้
ตอนนี้ใครจะไม่รู้บ้าง ฟางผิงอยู่ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แทบจะตัดสินได้ทุกอย่าง
พูดถึงเรื่องความสามารถ ฟางผิงคงสู้ยอดฝีมือปรมาจารย์ไม่ได้
แต่ปรมาจารย์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พวกนั้น คลุกคลีกับเขาสองปีมานี้ แทบจะกลายเป็นครอบครัวฟางผิงไปแล้ว นักศึกษาคนหนึ่งใช้ชีวิตมาได้ถึงขั้นนี้ได้ แทบจะเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แล้ว
น้องสาวของเขาสอบสายศิลปะการต่อสู้ ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเป็นทางการ จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ด้วยหรือไง
ครุศาสตร์หวาตง…ฟางผิงอาจจะไม่ชอบใจเสมอไป
ครุศาสตร์หวาคงสามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกได้ นั่นเป็นเพราะโชคดี ฝีมือไม่ได้แข็งแกร่ง มียอดฝีมือปรมาจารย์แค่สองคน ทั้งยังเป็นขั้นเจ็ดทั้งหมด เทียบกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แล้ว ความแตกต่างยังมากเกินไป
ไม่ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ มามหาวิทยาลัยครุศาสตร์หวาตง เด็กคนนี้จะน่าสนใจอยู่บ้างแล้ว
อาจารย์คุมสอบแค่พูดไปอย่างนั้น ฟางหยวนกลับมองป้ายชื่อเขาอย่างจริงจัง มองอยู่พักหนึ่งก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์ งั้นถ้าฉันสอบไม่ติดมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ฉันจะไปสมัครครุศาสตร์หวาตง อันดับสองจะเลือกครุศาสตร์หวาตงละกัน ถ้าไม่ติดครุศาสตร์หวาตงอีก ฉันจะไปหาคุณ ดีหรือเปล่า?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา อาจารย์คนนี้ก็แปลกใจอยู่บ้าง…หมายความว่ายังไง?
ยังจะสมัครครุศาสตร์หวาตงจริงๆ?
อีกอย่าง ครุศาสตร์หวาตงไม่เลือก เธอจะมาหาฉันทำไม?
อาจารย์คุมสอบงุนงงอยู่บ้าง ไม่ได้คิดมากมาย พยักหน้าว่า “ได้ทุกเมื่อ นักเรียนฟางหยวน ถึงตาเธอแล้ว เข้าไปในห้องตรวจเถอะ”
หลังจากนั้นนึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี้ยังยกเป็นผลงานของตัวเอง พูดว่าเขาเป็นคนบอกกับฉินเฟิ่งชิง ไม่งั้นพวกฟางผิงคงไม่ไปพื้นที่ระหว่างเขตแดนหรอก แบบนั้นคงช่วยปรมาจารย์ขั้นแปดสองคนนั้นกลับมาไม่ได้
ตอนแรกเจ้าหมอนี้มองเรื่องนี้เป็นความดีความชอบของตัวเอง
ผลปรากฏว่ารอจนเขาพูดออกไป ขั้นเก้าตระกูลเจี่ยงคนนั้นแทบจะฟันเขาตายแล้ว!
ไอ้เวรนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็กล้าเอาไปพูดกับข้างนอกหมด!
เรื่องพื้นที่ระหว่างเขตแดน นั่นเกี่ยวพันกับผู้อาวุโสขั้นสุดยอด ก่อนเกิดเรื่อง นอกจากเมืองเจิ้นซิงและรัฐบาลที่เคยมีการสื่อสารกันมาก่อนก็ไม่ได้บอกใครอีก แม้จะเป็นปรมาจารย์ที่เข้าร่วมสงครามก่อนหน้านี้คนพวกนั้นก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน
แต่นึกไม่ถึงว่าเมืองเจิ้นซิงจะมีคนโง่เป็นนกต่ออยู่ภายใน
หากไม่ใช่ว่าหลังจากนั้นหลี่โม่ที่เจ็บหนักยังไม่หายดีออกมาอธิบายเรื่องราว ขั้นเก้าตระกูลเจี่ยงคนนั้นคงจะฝังเจ้าหมอนี้ไปจริงๆ แล้ว
ทั้งเพราะหลี่โม่ช่วยพูดให้ หลังจากนั้นเมืองเจิ้นซิงจึงหารือกันยกใหญ่ รับปากให้พวกฟางผิงเข้าร่วมในการช่วงชิงโควต้าการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาว
หลี่โม่ที่อยู่ในอาการเจ็บหนัก ยังเล่าเรื่องราวในวันนั้นทั้งหมดออกมาอีกครั้ง…แต่ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ฟางผิงแกล้งปลอมตัวเป็นผู้อาวุโสของพื้นที่ระหว่างเขตแดน
เวลานั้นหลี่โม่สงสัยอยู่บ้างว่าเป็นฟางผิง หลังจากนั้นฟางผิงยังพาพวกเขาออกมา หากหลี่โม่ยังไม่รู้ว่าเป็นฟางผิง งั้นคงโง่จริงๆ แล้ว
แต่การปลอมแปลงของฟางผิง อันที่จริงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เขตหวงห้ามและเมืองเจิ้นซิงต่างคิดอยากเข้าไปในภายในพื้นที่ระหว่างเขตแดน เดิมทีก็เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว ภายหลังตายในสนามรบ ในสายตาของหลี่โม่ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว
พูดได้แค่ว่าฟางผิงเก็บผลประโยชน์จากเมืองเจิ้นซิงและเขตหวงห้าม แต่ฟางผิงช่วยชีวิตเขาไว้ รวมถึงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดอีกคน
ยอดฝีมือขั้นแปดสองคนฟื้นฟูขึ้นมาแล้วก็แทบไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้
พูดออกมาแล้ว อันที่จริงไม่ได้สลักสำคัญอะไร
มีประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือพิสูจน์ว่าทุกคนนั้นโง่กันหมด นี่ก็ยังเชื่อ แทบจะมองคนเป็นผู้อาวุโสจริงๆ แล้ว
แต่ก่อนที่พวกเจี่ยงเชาจะมา หลี่โม่ยังกำชับหลายประโยค ให้ระวังหน่อย อย่าทำเรื่องโง่ๆ อีก
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่คนที่รับมือง่ายๆ หลอกคนขึ้นมา นั่นแทบจะงัดไม้เด็ดขึ้นมาไม้แล้วไม้เล่า
ครั้งนี้หากถูกหลอกอีก เจ้าพวกนี้อย่ากลับมาเมืองเจิ้นซิงอีกเลย ขายหน้าไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
————
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน