เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 531

ตอนที่ 531 พวกปรมาจารย์ ตัวสั่นไปเถอะ (2)

………………..

เจิ้งหนานฉีกำลังนึกสะท้อนใจเรื่องพวกนี้ เจี่ยงเชากลับไม่ได้ใส่ใจอะไร เอ่ยอย่างเริงร่า “พูดตามตรง เจ้าพวกนั้นไปเข้าร่วมการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาว ยังไงฉันก็รู้สึกฟิน มีแต่คนบ้า อยากจะเห็นพวกเขาตะครุบคนจริงๆ พวกฟางผิงสามารถจัดการยอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือดได้ งั้นจัดการไอ้พวกจมูกโตนั้นคงไม่ใช่ปัญหา ฉันไม่ได้อยากเข้าร่วมการแข่งขันนี้อยู่แล้ว แค่รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เล็กน้อยเท่านั้น…”

หลี่เฟยเอ่ยอย่างเยือกเย็น “เจี่ยงเชา ครั้งนี้อย่างน้อยประเทศจีนต้องช่วงชิงโควต้าสิบที่มาให้ได้ ถึงกระทั่งยังต้องมากกว่านั้น! อีกอย่าง พวกเขาเพิ่งจะเข้าสู่ขั้นหก อย่าฝากความหวังที่คนอื่นทั้งหมด หากเมืองเจิ้นซิงขายหน้า ไม่ได้โควต้าสักที่ นายต้องตายสถานเดียว!”

เจี่ยงเชาเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม “เกี่ยวอะไรกับฉัน พวกนายต่างหากที่เป็นกำลังหลัก คว้าโควต้าไม่ได้ นั่นก็เป็นความรับผิดชอบของพวกนาย”

“นาย!”

“เอาเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย”

ซูจื่อซู่ตัดบททั้งสองคน เบี่ยงไปอีกประเด็นแทน “พวกฟางผิงจะออกจากด่านเมื่อไหร่กันนะ?”

ด้านข้าง หวงจิ่งกำลังคุยกับปรมาจารย์คนหนึ่งของเมืองเจิ้นซิง ได้ยินก็หันมาเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “น่าจะใกล้แล้ว การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวยังเหลือเวลาอีกระยะหนึ่ง หากทุกคนรีบ ฉันจะจัดอาจารย์ส่วนหนึ่งไปแลกเปลี่ยนความรู้กับทุกคน…”

ได้ยินว่าจะแลกเปลี่ยนความรู้ เจี่ยงเชาก็รีบส่ายหน้าทันที “ไม่แลกเปลี่ยนความรู้!”

ในกลุ่นนั้นมีคนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่มีอาวุธวิเศษให้แล้ว”

“แค่กๆๆ…”

หวงจิ่งกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด ดูพูดเข้า ไม่ได้บอกว่าให้พวกนายพนันด้วยรางวัลอะไรแบบนั้นสักหน่อย

เด็กเมืองเจิ้นซิงพวกนี้ ดูท่าคงจะพะวงหน้าพะวงหลังกันแล้ว

หวงจิ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปรมาจารย์เมืองเจิ้นซิงคนนี้ก็หมดคำพูดเช่นกัน

เจ้าพวกนี้หยุดขายหน้าให้เมืองเจิ้นซิงหน่อยได้หรือเปล่า!

ฟังจากความหมาย นี่มันกลัวการต่อสู้ชัดๆ ประสบการณ์ไม่พอไม่เป็นไร แต่กลัวการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องดี แม้เมืองเจิ้นซิงจะไม่ได้ให้รุ่นหลังพวกนั้นเข้าไปทำสงครามหลั่งเลือดในถ้ำใต้ดินก่อนหน้านี้ แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่กลัวการต่อสู้

ผลการต่อสู้ของคนพวกนี้ในครั้งก่อนออกมา รวมถึงขั้นตอนภายในนั้นทั้งหมด เมืองเจิ้นซิงแทบจะรู้ทั่วกัน

คนที่ขายหน้าที่สุดก็คือเจี่ยงเชา

หากไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี้พรสวรรค์ไม่แย่ ครั้งนี้ยังปิดผนึกประตูบานที่สองได้อย่างราบรื่น เข้าสู่ขั้นหกตอนปลาย เมืองเจิ้นซิงคงไม่คิดจะให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว

ปรมาจารย์ที่นำทีมคนนั้นมีความรู้สึกเหมือนมีดอกไม้สวยๆ ปักอยู่บนขี้วัวอยู่บ้าง

พรสวรรค์ของเจี่ยงเชาไม่แย่เลยจริงๆ

อันที่จริงเข้าสู่ขั้นหกไม่ได้นานเท่าไหร่ นี่ก็ปิดประตูซานเจียวไปสองบานแล้ว เทียบกับปีศาจอย่างพี่ชายคนนั้นของเขาไม่ต่างกันมาก

พี่น้องตระกูลเจี่ยงรุ่นนี้ต่างมีพรสวรรค์สูง

แต่เทียบเจี่ยงเชากับพี่ชายแล้ว บางทีพรสวรรค์อาจไม่ต่างกันมาก แต่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว พี่ชายเขาอยู่ขั้นหกแทบจะไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ทำไมพอมาถึงเจี่ยงเชาแล้วกลายเป็นคนเอาแต่กินกับนอนเสียได้?

การมาเยือนของคนเมืองเจิ้นซิง ฟางผิงไม่รู้เรื่อง

ฟางหยวนไปเข้าร่วมการสอบสายศิลปะการต่อสู้ ฟางผิงก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

ตอนนี้ห่างจากวันที่พวกฟางผิงเข้าสู่ห้องแหล่งพลังงานเป็นเวลาสิบวันเต็มๆ แล้ว!

สิบวันที่ทุกคนไม่กินไม่ดื่ม ฝึกวิชาติดต่อกันไม่หยุด

ปราณเกลี้ยงแล้วก็มีหินพลังงานทดแทน ฟื้นฟูเร็วอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้ฟางผิงวางแผนหนึ่งวันฝึกวิชาสองสามชั่วโมง ตอนนี้ฝึกสองชั่วโมง ใช้เวลาสองชั่วโมงฟื้นฟู จากนั้นก็ฝึกวิชาต่อ

ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปคงทนไม่ไหวไปนานแล้ว

ต่อให้ฟื้นฟูเร็วขนาดไหน พลังจิตใจก็มีจำกัด

แต่ฟางผิงพบว่าเขาประเมินหวังจินหยางและหลี่หานซงต่ำไป

สองคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ

ฟางผิงยังดี เขาฟื้นฟูได้เร็วอย่างยิ่ง พลังจิตใจก็แข็งแกร่ง ฝึกวิชาตลอดเวลายังได้ สองคนนี้ด้อยกว่าเขาแค่เล็กน้อย แต่พอถึงช่วงที่ต้านไม่ไหวจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บ อาศัยสสารไม่แตกดับเพื่อฟื้นฟู!

เวลานี้ความเร็วแทบจะถึงขีดจำกัดแล้ว

ทั้งยังสามารถอาศัยสสารไม่แตกดับมาฝึกวิชา ไม่นับว่าสิ้นเปลืองเหมือนกัน

เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยมา ทุกวันสามคนแทบจะใช้เวลาปิดผนึกประตูเกือบสิบชั่วโมง

สิบชั่วโมง ทุกวันสิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินมากกว่าที่ฟางผิงคาดการณ์ไว้อีก แค่เปลี่ยนแปลงกลิ่นอายก็เป็นหกพันล้านแล้ว เขายังต้องฟื้นฟูพลังจิตใจและปราณอยู่ตลอดอีก รวมถึงรวบรวมพลังฟ้าดิน…

เป็นแบบนี้อยู่ทุกวัน สิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินเกือบแปดพันล้านแล้ว

สิบวันฟางผิงก็ใช้ค่าทรัพย์สินไปว่าแปดหมื่นล้าน มากกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ซะอีก

แต่ผลลัพธ์ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน!

ฟางผิงก็ไร้เรี่ยวแรงเช่นกัน อันที่จริงค่าทรัพย์สินไม่ได้สิ้นเปลืองที่เขาเป็นหลัก แต่ใช้กับการเลียนแบบกลิ่นอาย แพงเกินไปแล้ว!

แพงจนถึงขั้นที่ฟางผิงไร้เรี่ยวแรงแล้ว

แปดหมื่นกว่าล้าน หกหมื่นล้านใช้ไปกับการเลียนแบบกลิ่นอาย ในความเป็นจริงฟางผิงสิ้นเปลืองกับร่างกายตัวเองแค่สองหมื่นกว่าล้านเท่านั้น

เงินสองหมื่นล้านทำให้เขาเข้าสู่ขั้นหกตอนกลาง ฟางผิงรู้สึกว่ายังไม่ขาดทุน

แต่ตอนนี้…

ประเด็นสำคัญอยู่ที่เขายังรับปากช่วยเหลือเหล่าหวังและหัวเหล็กไปแล้ว!

เวลานี้ฟางผิงแทบอยากจะเบี้ยวหนี้!

หรือฉันจะเบี้ยวหนี้ดี?

นี่จะเยอะเกินไปแล้ว!

ฟางผิงอยากเบี้ยวหนี้จริงๆ แววตาที่ใช้มองทั้งสองคนยังผิดปกติไปอยู่บ้าง

หัวเหล็กจับสังเกตไม่ได้ หวังจินหยางกลับคล้ายจะมองอะไรออก ขมวดคิ้วเล็กน้อย “สิ้นเปลืองเยอะเลยงั้นเหรอ?”

ฟางผิงมักพูดบ่อยๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายนั้นสิ้นเปลืองอย่างหนัก

แต่หลักๆ สิ้นเปลืองอะไร พวกเขามองไม่ออก อย่างน้อยสิบวันนี้ก็มองไม่ออกว่าฟางผิงจ่ายอะไรออกไป

แต่คนโง่ก็คงรู้ว่าพลังพลิกฟ้าที่สามคนร่วมกันปิดประตูนี้ เกรงว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างมหาศาลจนน่าตกใจเช่นกัน

ฟางผิงยิ้มอย่างขมขื่น “สาหัสเอาการ อันที่จริงฉันกำลังสิ้นเปลืองพื้นฐานบางอย่าง พื้นฐานที่ชาติก่อนเหลือเอาไว้ ทั้งสิ่งเหล่านี้ล้วนเตรียมการณ์เพื่อให้ฉันฟื้นฟูพลังในชาตินี้ ตอนนี้สิ้นเปลืองอย่างหนัก หากสิ้นเปลืองจนหมด ฉันอาจจะไม่สามารถฟื้นฟูพลังต่อสู้เหมือนชาติก่อนได้แล้ว…”

เหล่าหวังกลอกตาใส่ แม่งเหอะ มาอีกแล้ว!

หลี่หานซงกลับกัดฟันแน่น “ร้ายแรงขนาดนี้เลย เป็นพื้นฐานที่อยู่ข้างในประตูแห่งชีวิตงั้นเหรอ?”

“ประมาณนั้น”

หลี่หานซงขมวดคิ้วเล็กน้อย “หรือว่า…พวกเราช่างมันเถอะ”

ฟางผิงมองหัวเหล็กด้วยแววตาลึกล้ำ เป็นคนดีจริงๆ!

——————

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน