ตอนที่ 536 วิธีการต่อสู้ (2)
………………..
เวลาต่อจากนั้น ฟางผิงก็ช่วยทั้งสองคนปิดผนึกประตูแห่งปราณพร้อมทั้งเริ่มศึกษาทักษะต่อสู้ทางจิตใจไปด้วย
เคล็ดวิชาต่อสู้แทบจะเป็นการพังพินาศไปพร้อมศัตรู
ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ต่ำกว่าระดับสูงหรือว่าสูงกว่าระดับสูง อันที่จริงสิ่งที่ไล่ตามคือการควบคุมพลังอย่างหนึ่ง
เคล็ดวิชาทั่วไปมีไม้ตายอยู่เช่นกัน สิ่งที่เรียกว่าไม้ตายก็คือต้องควบคุมพลังให้แตะถึงจุดหนึ่ง อาศัยกระบวนท่าแสดงประสิทธิภาพของการควบคุมพลังนี้ นั่นถึงจะเป็นไม้ตาย
“เคล็ดวิชาต่อสู้ของเหล่าจาง…ฝึกขึ้นมาแล้วน่าอดสูจริงๆ”
ในห้องแหล่งพลังงาน ฉวยโอกาสช่วงพักผ่อน ฟางผิงอ่านวิชาดาบปราบเซียนพลางถอนหายใจติดต่อกัน
ทุกครั้งที่เห็นชื่อเคล็ดวิชาต่อสู้ของจางชิงหนาน เขาแทบจะรู้สึกอายแทน
ส่วนเคล็ดวิชาต่อสู้ของหลู่เฟิ่งโหรว จนถึงตอนนี้เขาเคยฝึกแค่วิชาเกาทัณฑ์เลือดของเธอเท่านั้น นี่ยังนับว่าปกติ
แต่พวกวิชาหมัดใต้หล้าไร้ศัตรู ฟางผิงยังรู้สึกอับอายเช่นเดียวกัน
หวังจินหยางฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็วพลางเอ่ยว่า “ชื่อเคล็ดวิชาต่อสู้ไม่เป็นไรหรอก ถ้านายพอใจก็ตั้งชื่อใหม่ได้ ประเด็นยังคงอยู่ที่การควบคุมพลังเป็นยังไงต่างหาก พวกยอดฝีมือสร้างเคล็ดวิชาต่อสู้ก็เพราะสถานการณ์ของผู้ฝึกยุทธ์ไม่เหมือนกัน เรียนเคล็ดวิชาต่อสู้ของคนอื่นอาจจะทำให้ตัวเองแสดงประสิทธิภาพออกมาไม่ได้เต็มร้อยเสมอไป”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เต็มร้อย? มีคนทำได้ด้วยหรือไง? อย่างน้อยในหมู่คนที่ฉันรู้จัก มีแค่อาจารย์ที่อยู่ขั้นหกเคยทำครั้งหนึ่ง แต่นั่นเป็นผลจากการสั่งสมมาสิบปี ใช้ชีวิตแลกชีวิต เดิมทีก็ไม่นึกถึงผลที่ตามมาข้างหลัง สามารถทำถึงขั้นแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ครึ่งหนึ่ง นั่นก็นับว่าแข็งแกร่งแล้ว วิชาดาบปราบเซียนของผู้ว่าจาง เขาเป็นคนสร้างเอง ถือว่าเหมาะสมกับการต่อสู้ของเขาแล้ว แต่จากคำพูดของผู้ว่าจาง เขาอยู่ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดก็แสดงพลังออกมาได้แค่หกสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แม้จะเป็นแบบนี้ ตอนแรกเขาก็ใช้โอกาสนี้ฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดคนหนึ่งได้อยู่ดี ดังนั้นฉันไม่ได้คาดหวังจนเกินไป สามารถให้ฉันแสดงพลังออกมาครึ่งหนึ่ง ฉันคิดว่าฉันก็ไม่อ่อนด้อยแล้ว”
หวังจินหยางฟังจบก็ขมวดคิ้วว่า “สิ่งที่นายคิดคือผู้ฝึกยุทธ์นอกพื้นที่ถ้ำใต้ดินพวกนั้น ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้ไม่ได้มีการควบคุมพลังที่สูงจริงๆ แต่ผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะในถ้ำใต้ดินอยู่ในเขตหวงห้ามกันหมด ในเมื่อพวกเขาถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ อัจฉริยะล้วนทำในสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ พวกเขาเรียนรู้ได้ไวกว่า ควบคุมได้ไวกว่า ในพื้นที่ข้างนอกควบคุมพลังได้ถึงครึ่งพบเห็นได้น้อย แต่เมื่อถึงเขตหวงห้าม บางทีอาจจะมีพวกปีศาจปรากฏตัวบางส่วน การควบคุมพลังทำได้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์หรือกระทั่งสูงกว่านั้น ฟางผิง นายอย่าประเมินคนอื่นต่ำไป ถ้ำใต้ดินสามารถกดขี่มนุษยชาติได้ ถึงกระทั่งเป็นฝ่ายรุกรานเขตแดนของมนุษย์ ยอดฝีมือมีเยอะกว่าพวกเรา ต้องมีความพิเศษอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเราถึงขั้นหกกันหมด อัจฉริยะขั้นหกของเขตหวงห้ามบางส่วน ถ้ามีคนอยู่ในช่วงที่พลังสูงสุด ไม่สามารถเข้าสู่ระดับสูงได้เร็วๆ นี้ งั้นพวกเขาก็มีเวลาเพียงพอ ทั้งมีคุณสมบัติที่จะควบคุมพลังได้มากขึ้นแล้ว”
ฟางผิงพยักหน้าเบาๆ เอ่ยว่า “นี่เป็นเรื่องจริง ยังไงพวกเราก็ยังเด็กเกินไป อาจเทียบกับเจ้าพวกนั้นไม่ได้เสมอไป”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็ยิ้มตาหยีว่า “แต่ไม่เป็นไร ผู้ฝึกยุท์ขั้นหกไม่มีอะไรต้องกังวล ยอดฝีมือขั้นหกปราณหนึ่งหมื่นแคล แม้ยอดฝีมือพวกนี้จะมีการควบคุมพลังค่อนข้างสูง เคล็ดวิชาต่อสู้ฝึกถึงจุดสุดยอดแล้ว นับว่าเขาระเบิดพลังได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ ปราณแปดพันแคลระเบิดได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งอานุภาพการระเบิดของพลังจิตใจ หนึ่งเฮิรตซ์เทียบเท่าได้กับปราณสิบแคล ขอแค่ฉันระเบิดพลังจิตใจแปดร้อยเฮิรตซ์ทำลายล้างก็เพียงพอให้เอาชนะอีกฝ่ายแล้ว พลังจิตใจของฉันปรากฏแล้ว พื้นฐานถูกจัดในขั้นเจ็ด ภายใต้การระเบิดระดับเดียวกัน ฉันสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้อยู่แล้ว”
หวังจินหยางขมวดคิ้วแน่น “ผู้ฝึกยุทธ์ประมือกัน ไม่ได้มองแค่เรื่องพวกนี้! นายควรจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีที่สุด!”
“เข้าใจแล้ว”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตอนที่อยู่ขั้นสาม อาจารย์หลี่ไม่ได้พูดถึงเรื่องพวกนี้แค่ครั้งเดียว ผู้ฝึกยุทธ์ประมือกันต้องมองจากหลายเรื่อง ระดับเดียวกัน ระเบิดพลังเหมือนกัน เคล็ดวิชาเดียวกัน บางทีคนหนึ่งอาจสามารถฆ่าอีกคนได้ในเสี้ยวพริบตา มองที่ประสบการณ์ พรสวรรค์ในการต่อสู้ การคาดเดาสถานการณ์ รวมถึงความกล้าหาญ พละกำลัง และโอกาส เรื่องพวกนี้ฉันรู้ดี เหล่าหวัง อย่ามองว่าฉันเอาแต่ใช้กำลังได้หรือเปล่า พวกนายมองแค่ภายนอกเท่านั้น”
ฟางผิงถอนหายใจ “เจอคู่ต่อสู้พื้นที่ถ้ำข้างนอก หากไม่อ่อนแอกว่าฉันก็แข็งแกร่งกว่าฉัน คนที่อ่อนแอ ฉันฆ่าเขาในชั่วพริบตา คนที่แข็งแกร่ง ฉันสู้เขาไม่ได้ นี่ไม่เกี่ยวกัน อีกอย่างพื้นที่ข้างนอกถึงฉันจะคว้าโอกาสทุกวินาทีก็ไม่มีเวลาไปจับเครื่องบินรบอย่างพวกนั้นได้อยู่ดี หรือฉันจะไม่รู้จักจับช่องโหว่ของคู่ต่อสู้ รอคอยโอกาสแล้วค่อยๆ โจมตีฆ่าอีกฝ่ายหรือไง? ฉันรู้อยู่แล้ว แต่ใครจะให้เวลาหรือรอคอยฉัน ดังนั้นนายอย่ามองว่าฉันมุทะลุ ฉันแค่ไม่มีทางเลือก ในเมื่อสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว งั้นฉันก็ขี้เกียจจะรอโอกาสเหมือนกัน”
หวังจินหยางยังคงส่ายหัวว่า “ฉันกลัวว่าปล่อยให้นายเป็นเหมือนก่อนหน้านี้จะทำให้สูญเสียสัญชาตญาณต่อสู้บางอย่าง ผู้ฝึกยุทธ์ต่างพัฒนาการต่อสู้และเคล็ดวิชา นี่ต้องขัดเกลาออกมาจากการต่อสู้เช่นกัน ในมือนายถือปืนที่ลูกกระสุนไร้จำกัด อีกฝ่ายมีแค่กริชสั้นเล่มเดียว พวกนายฝีมือพอๆ กัน ตอนนี้สิ่งที่นายทำคือยิงปืนอย่างไม่หยุดหย่อน กลับไม่ได้คำนึงถึงวิธีการที่ง่ายที่สุดในการฆ่าศัตรู ถึงกระทั่งลืมสัญญาตญาณในการต่อสู้ของตัวเอง หากอีกฝ่ายมีความอดทน รอคอยโอกาสก็สามารถฆ่านายในการโจมตีเดียวได้แล้ว ฟางผิง ฉันคิดว่านายยังต้องใช้เวลากับเรื่องนี้ให้มากหน่อย ในสายตาของฉัน นายมีวิธีการอย่างหลากหลาย ฆ่าศัตรูไม่จำเป็นต้องบดขยี้อีกฝ่ายอย่างเต็มรูปแบบ ขอแค่คนที่รอดสุดท้ายเป็นนาย คนที่ตายคือคู่ต่อสู้ นี่ก็เพียงพอแล้ว”
“พูดถึงผู้ฝึกยุทธ์ที่ต่ำกว่าขั้นเจ็ดสูงสุดละกัน ยังไม่ได้หลอมกะโหลก นี่เป็นจุดตายของทุกคน นายตัดแขน ตัดขาสองข้างของเขา เขายังไม่ตาย นายโจมตีอวัยวะภายในของเขา เขาก็อาจไม่ตายเสมอไป แต่นายทำลายกะโหลกของเขา เขาต้องตายอย่างแน่นอน! ก่อนหน้านี้สงครามที่เมืองเยวี่ยกุ้ย ยอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือดคนนั้น สุดท้ายยังถูกนายผลาญพลังตาย นายเองก็ฟื้นฟูปราณและพลังจิตใจหลายต่อหลายครั้ง อันที่จริงการต่อสู้ไม่ได้ยากขนาดนั้น ฉันไม่ได้พูดมาโดยตลอด วันนั้นหากนายไม่ลงมือก่อน รอคอยโอกาส ยังมีหวังที่จะจำกัดเขาในกระบวนท่าเดียว แต่นายกลับพุ่งเข้าไปต่อสู้กับอีกฝ่ายตรงๆ สนใจแค่ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหน แข็งแกร่งยังไงก็ไม่สามารถฟื้นฟูได้ทันอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็วนายจะสามารถผลาญพลังเขาตายได้ นายคงคิดแบบนี้สินะ?”
“ตอนนั้นถ้านายเก็บงำกลิ่นอาย ซ่อนตัวในที่ลับ ฉันและหัวเหล็กสกัดเขาไว้ สร้างโอกาสให้นายหนึ่งครั้ง นายแทบจะสามารถฆ่าเขาด้วยกระบวนท่าเดียว! แม้ว่าผลลัพธ์จะเหมือนกัน แต่ขั้นตอนต่างกัน นั่นหมายถึงหลายอย่างแล้ว ฟางผิง บดขยี้อีกฝ่ายตรงๆ นั้นรู้สึกดีอยู่แล้ว แต่ฉันคิดว่าใช้สิ่งแลกเปลี่ยนที่น้อยที่สุดเอาชนะศัตรูถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรทำในตอนนี้”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน