ตอนที่ 537 ออกด่าน (1)
………………..
ตอนที่ฟางผิงศึกษาเกี่ยวกับการปรากฏพลังจิตใจของตัวเอง ระหว่างนั้นก็ค้นพบจุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง
“ทำไมพ่อแม่และยัยหน้ากลมถึงไม่สามารถแสดงหน้าตาที่แท้จริงออกมาได้?”
ในห้องแหล่งพลังงาน
ฟางผิงขยาย ‘เมืองหยางเฉิง’ ให้ใหญ่ขึ้น ประเด็นหลักคือต้องการดูบ้านของตัวเอง
ในบ้านมีเงาอยู่สามคน
ก่อนหน้านี้ที่ปรากฏพลังจิตใจเหมือนยังจะมีเสียงออกมา ตอนนี้กลับไม่มีแล้ว ราวกับสิ่งไม่มีชีวิต
เงาสามร่างดูเหมือนภาพลวงตาอยู่บ้าง ไม่ได้มีชีวิตชีวาแบบนั้น เทียบกับบ้านแล้ว ยังขาดความเป็นจริงอยู่บ้าง
“เหล่าหวัง รู้สาเหตุหรือเปล่า?”
เวลานี้ต่อให้ฟางผิงจะสิ้นเปลืองพลังจิตใจเติมเข้าไปขนาดไหนก็ไม่สามารถทำให้เงาภาพลวงตาสองร่างปรากฏอย่างชัดเจนได้
กลับเป็นบ้านหลังอื่นๆ ที่เขาสามารถทำได้
คล้อยหลังจากที่สิ้นเปลืองพลังจิตใจเติมเข้าไป ตึกพวกนั้นที่เดิมทีกลวงโล่งกำลังถูกเขาตกแต่งอย่างสมบูรณ์ ราวกับมีการคงอยู่จริงๆ
หวังจินหยางครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยว่า “น่าจะไม่สามารถปรากฏมนุษย์ออกมาได้”
หลี่หานซงเอ่ยเช่นกัน “เป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีใครปรากฏมนุษย์มาก่อนเหมือนกัน ไม่ใช่แค่มนุษย์ มนุษย์ถ้ำก็ไม่ได้”
พวกเขาพูดขนาดนี้ ฟางผิงจึงเข้าใจขึ้นมาอยู่บ้าง “ไม่น่าล่ะ!”
ไม่แปลกใจที่หลู่เฟิ่งโหรวสร้างนกเฟิ่งหวงเผาต้นไม้ ไม่ใช่เผาเจ้าเมืองเทียนเหมิน
ก่อนหน้านี้ฟางผิงสงสัยมาโดยตลอด จะสร้างให้ซับซ้อนเพื่ออะไร ยังต้องทำตัวแทนออกมาอีก
ตอนนี้ดูแล้ว สาเหตุที่ปรากฏต้นเทียนเหมินออกมา นั่นเป็นเพราะหลู่เฟิ่งโหรวไม่สามารถปรากฏคนที่แท้จริงออกมาได้
“ก็ถูก…”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มทันที “นี่หากปรากฏมนุษย์ออกมาจริงๆ ยอดฝีมือระดับสูงยังพอว่า ระดับกลางและระดับล่างพวกนั้นแยกไม่ออกว่าเป็นความจริงหรือภาพลวงตา ฉันปรากฏคนใกล้ตัวของพวกเขาออกมา คนพวกนี้อาจจะหลงเข้าไปจริงๆ น่ะสิ”
นึกมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ฟางผิงก็กระตือรือร้นขึ้นมา ยิ้มตาหยีว่า “เหล่าหวัง นายว่าถ้าฉันปรากฏเมืองหยางเฉิงให้สมจริงสักหน่อย จากนั้นทำลายเมืองหยางเฉิงในความเป็นจริง เอาพลังจิตใจของฉันไปใส่แทนที่ งั้นคนหยางเฉิงจะเข้าใจผิด ใช้ชีวิตติดอยู่ท่ามกลางภาพมายาของเมืองหยางเฉิงตลอดไปหรือเปล่า?”
หวังจินหยางเอ่ยอย่างหมดคำพูด “อย่างแรกการปรากฏพลังจิตใจต้องสิ้นเปลืองพลังจิตใจ! เมืองหยางเฉิงขนาดสมจริง นายอย่าลืมว่าการรักษาการปรากฏพลังจิตใจที่ใหญ่ขนาดนี้ต้องสิ้นเปลืองพลังจิตใจไปเท่าไหร่? ต่อให้พลังจิตใจนายฟื้นฟูไวขนาดไหน แข็งแกร่งขนาดไหน นายคิดว่าตัวเองจะประคองได้นานเท่าไหร่ ครึ่งชั่วโมง? หนึ่งชั่วโมง? อย่างที่สอง ของปลอมก็คือของปลอม สิ่งก่อสร้างอาจจะสมจริงได้ แต่ใช้ชีวิตประจำวันอย่างกินนอนขับถ่าย หรือนายยังต้องส่งทรัพยากรเข้าไป? เอาเถอะ เรื่องพวกนี้ยังไม่พูดถึง นายคิดจะปรากฏเมืองแห่งหนึ่งให้มีการคงอยู่จริงๆ ฟางผิง นายเคยคิดไหมว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่?”
“อธิการคนก่อนเพื่อปรากฏมหาวิทยาลัยหนานเจียงแล้ว นายรู้หรือเปล่าว่าเขาใช้เวลาไปกี่ปี? แม้จะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังทำไม่สำเร็จ มหาวิทยาลัยเล็กๆ อย่างหนานเจียง อธิการใช้เวลาไปกว่ายี่สิบปีกลับไม่สามารถปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์ได้ อย่าพูดว่าปรากฏออกมาสมจริงเลย มหาวิทยาลัยหนานเจียงมีแค่เปลือกกลวงๆ เท่านั้น ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าเติมแต่งเข้าไปยากขนาดไหน ยอดฝีมือหลายคนปรากฏออกมาเป็นภูเขาลูกหนึ่ง อันที่จริงยอดเขายังง่ายกว่าสิ่งก่อสร้าง ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น แต่ถึงจะเป็นเขาหนึ่งลูก พวกยอดฝีมืออยากจะปรากฏเขาลูกนี้ให้สมจริงก็ยังไม่สามารถทำได้ ยากจนเกินไป! มีเวลาและกำลังแบบนี้ พวกเขาไม่อาจเสียไปกับปรากฏพลังจิตใจ แต่จะใช้กับการฝึกความแข็งแกร่งของพลังจิตใจ พัฒนาพลังจิตใจมากกว่า…”
ฟางผิงพยักหน้า แต่ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเขาทำไม่ได้ ฉันอาจไม่เสมอไป นายอย่าพูดเลย ฉันพบว่าหลังจากผู้ฝึกยุทธ์เข้าขั้นแปดไปแล้วเหมือนจะไม่สนใจกับการปรากฏพลังจิตใจอีก ถึงขั้นแปด พวกเขาจะสนใจร่างทองมากกว่า แต่การปรากฏพลังจิตใจของขั้นแปดในการต่อสู้นั้นไม่แข็งแกร่งพอจริงๆ งั้นเหรอ? ไม่ใช่อยู่แล้ว! การหลอมรวมของพลังจิตใจจะอ่อนแอขนาดนั้นได้ยังไง แค่ทุกคนไม่สามารถเสียเวลามากมายไปกับเรื่องนี้ ไม่มีพลังจิตใจมากพอที่จะทำเรื่องพวกนี้เท่านั้น ฉันยังพอลองดูได้ วางแผนจะปรากฏ ‘เมืองหยางเฉิง’ ที่แท้จริงออกมาสักหน่อย!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยตาเป็นประกาย “ถ้าปรากฏเมืองสมจริงออกมาหนึ่งแห่ง ปรากฏพื้นฐานเหมือนของจริง เมืองหนึ่งแห่งจะมีน้ำหนักเท่าไหร่? รอวันไหนฉันทำได้แล้ว ไม่ใช่ว่าโยนเข้าไปครั้งเดียวก็สามารถทำลายเมืองราชาหนึ่งแห่งราบคาบได้แล้วหรือไง? อีกอย่างขอแค่นายปรากฏสำเร็จ แม้จะถูกทำลายก็สามารถอาศัยการฟื้นฟูซ่อมแซมปรากฏครั้งที่สองได้อย่างรวดเร็ว นี่หมายความว่าขอแค่พลังจิตใจเพียงพอ หลังจากนี้ฉันจะสามารถเอาเมืองหนึ่งแห่งไปทุบเมืองเล่นได้ทุกวันแล้ว…”
หวังจินหยางและหลี่หานซงต่างเหนื่อยใจอยู่บ้าง หลี่หานซงอดเอ่ยไม่ได้ “ฟางผิง นายปรากฏเป็นโลกที่สงบสุข…”
“เหลวไหล ไม่ทำลายถ้ำใต้ดินจะสงบสุขได้ยังไง? สงบสุขใช้กับมนุษยชาติ สำหรับถ้ำใต้ดิน พวกเราต้องใช้อาวุธกำราบ จัดการพวกเขา หัวเหล็ก ใช่หลักการนี้หรือเปล่า?”
“ใช่”
“นี่ก็ถูกแล้ว ความสงบสุขจะมาได้ยังไง? ฉันปรากฏเมืองหยางเฉิงที่สงบสุข ก็ต้องใช้ความแข็งแกร่งของเมืองหยางเฉิงมาทำลายถ้ำใต้ดิน แบบนี้แล้วถึงจะเหมาะสมกับนิยามของความสงบสุข”
“เหมือนจะเป็นแบบนั้น”
หลี่หานซงพยักหน้า มีเหตุผล!
มนุษยชาติสงบสุข นั่นหมายถึงถ้ำใต้ดินประสบหายนะ
พูดแบบนี้ การปรากฏพลังจิตใจของฟางผิงไม่ใช่แค่ดูสวยงามอย่างเดียวอีกแล้ว แต่หมายถึงนี่คืออาวุธที่ใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งความสงบสุข?
หลี่หานซงคล้ายกับคิดอะไรอยู่ หวังจินหยางไม่คิดจะพูดอีกด้วยซ้ำ
ฟางผิงคิดจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ปรากฏเมืองหนึ่งแห่ง แม้ว่าเมืองหยางเฉิงจะไม่ได้ใหญ่ แต่ต้องไม่ได้ทำง่ายๆ อย่างแน่นอน
ฟางผิงสามารถปรากฏพื้นที่เล็กๆ ออกมาได้ จากการคาดเดาของหวังจินหยาง อย่างน้อยพลังจิตใจเขาต้องแตะถึงหนึ่งหมื่นเฮิรตซ์ขึ้นไป!
นั่นเป็นสิ่งที่ยอดฝีมือขั้นแปดสูงสุดถึงจะทำได้!
ปรากฏเมืองแห่งหนึ่ง ต้องมีพลังจิตใจแข็งแกร่งเท่าไหร่?
หวังจินหยางไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ หนึ่งแสนเฮิรตซ์พอหรือเปล่า?
เกรงว่ายังจะขาดอีกมาก!
พลังจิตใจหนึ่งพันเฮิรตซ์ของฟางผิงเพียงพอให้ประคองบ้านเล็กๆ นั่นเท่านั้น แต่เมืองหยางเฉิง ใหญ่กว่าบ้านของเขาหมื่นเท่า แสนเท่า…
ยอดฝีมือขั้นเก้าพลังจิตใจกล้าแกร่งแค่ไหน?
ในสถานการณ์ที่ฟางผิงแข็งแกร่งขึ้น การปิดประตูจึงทำได้รวดเร็ว
เวลาสั้นๆ ห้าวันเท่านั้น หลี่หานซงขาดแค่นิดเดียวก็จะสามารถปิดประตูได้แล้ว
วันที่ 25 พฤษภาคม
รอฟางผิงปรากฏใบหน้างุนงงแล้ว หลี่หานซงก็ฉีกยิ้มว่า “ฉันอยากจะไปลองฝึกในที่สูงบ้างเหมือนกัน ครั้งก่อนนายยังปรากฏพลังจิตใจได้เลย ฉันอาจจะไม่ปรากฏ แค่ให้ฉันปลดปล่อยพลังจิตใจไปข้างนอกได้ก็พอแล้ว! ฟางผิง ทะลวงด่านในที่สูง มีประโยชน์จริงๆ ใช่หรือเปล่า?”
ฟางผิงเผยสีหน้าหมดคำพูด นายโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่?
ผู้ฝึกยุทธ์ไม่มีคนโง่
หลี่หานซงไม่ได้โง่ เขารู้สึกแค่ว่ามีหวังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ผู้ฝึกยุทธ์ต่างเป็นแบบนี้ เพื่อพัฒนาความสามารถ ไม่ยินยอมที่จะละทิ้งโอกาสใดใดไปอยู่แล้ว
เพื่อพัฒนาความสามารถ ฉินเฟิ่งชิงยังยอมให้เขาโกนหัวด้วยซ้ำ กินดินก็ยังไม่คิดลังเลสักนิด
แม้หลี่หานซงจะไม่ถึงกับโกนหัวเพื่อการสิ้นเปลืองปราณไม่กี่แคล แต่ไปทะลวงด่านบนที่สูง ไม่แน่ว่าอาจจะโชคดีก็ได้?
ถึงฟางผิงจะจนใจยังคงเอ่ยไปว่า “แล้วแต่นาย แต่รอดึกๆ ก่อนเถอะ ประตูแห่งชีวิตของนายปิดผนึกแล้ว ถูกคนเห็นคงไม่ดี”
คนที่รู้เรื่องนี้ไม่ได้เยอะ หรือจะพูดว่าตอนนี้มีแค่สี่คนเท่านั้น
ขั้นสุดยอดสองคน บางทีอาจจะเห็นบางอย่าง แต่คนอื่นๆ ไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น
หลี่หานซงและหวังจินหยางไม่เคยปรากฏประตูซานเจียวต่อหน้าคนนอกมาก่อน
ประตูแห่งชีวิตปิดผนึกแล้ว บางทีอาจจะก่อให้เกิดปัญหาบางอย่างได้
การต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก ไม่จำเป็นต้องจงใจเปิดประตูซานเจียวออกมา
เว้นเสียแต่ว่าจะต่อสู้จนถึงช่วงสำคัญแล้ว ปลดปล่อยเปิดการใช้งานประตูซานเจียว นั่นจะเพิ่มพลังต่อสู้ขึ้นช่วงใหญ่
เวลาอื่นๆ แทบไม่เป็นไร
แต่การทะลวงด่าน นั่นจำเป็นต้องปรากฏออกมา
—————–
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน