ตอนที่ 538 หลอกได้คนแล้วคนเล่า (1)
………………..
วันที่ 1 มิถุนายน
นอกสนามบินปักกิ่ง
“เฮงซวย!”
หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่ง จู่ๆ ก็เอ็ดด่าออกมา
เห็นว่าด้านข้างมีคนมองตัวเองอยู่ หญิงสาวก็ดุไปว่า “มองอะไร! ถ้ามองอีกจะใช้ขวานสับนายซะ!”
“ประธานหลิง!”
หานซวี่เผยสีหน้าจนใจ หันไปส่งรอยยิ้มขอโทษให้คนที่ผ่านทางมา เวลานี้ค่อยเอ่ยว่า “อย่าเอาความโกรธไประบายใส่คนอื่นสิ ผู้ฝึกยุทธ์ฝึกวิชาไม่ใช่เพื่อรังแกเพื่อนร่วมชาติสักหน่อย…”
หลิงอีอีเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ต้องมาพูดสอน! ฉันไม่ได้จะสับเขาจริงๆ สักหน่อย!”
ระหว่างที่พูด หลิงอีอียังคงโมโหอย่างถึงที่สุด “หลี่หานซงคิดจะทำอะไร! นึกไม่ถึงว่าเขาจะไปเป็นอาจารย์ที่เซี่ยงไฮ้ ไอ้เวรนี้ ฉันอยากจะสับเขาด้วยขวานจริงๆ!”
หลี่หานซงไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แล้ว!
เดือนมิถุนายนนับว่านักศึกษาปีสี่ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้สำเร็จหลักสูตรการศึกษาแล้ว
หลี่หานซง ประธานสมาคมมหาวิทยาลัยลาออกจากตำแหน่งประธานตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว คนที่รับช่วงต่อไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นหานซวี่ที่ตอนนี้อยู่ปีสอง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนปลาย
หลิงอีอีที่เป็นนักศึกษาปีสาม อยู่ขั้นสี่ตอนปลายเช่นเดียวกันกลับเป็นรองประธาน
หากเป็นปีก่อน ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนปลาย นั่นถือว่าแข็งแกร่งมากแล้ว
รุ่นก่อนพวกฟางผิงนั้น ประธานสมาคมแต่ละมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ขั้นสี่แทบมีให้เห็นน้อย
แต่ปี 2009 กลับปรากฏยุคเฟื่องฟูของประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศ
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ ขั้นหกตอนกลาง ปรากฏพลังจิตใจแล้ว
เซียวอวี้หมิง โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจว ขั้นห้าตอนต้น
หลิวซื่อเจี๋ย มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หวากั๋ว ขั้นห้าตอนต้น
เฉินเฮ่าหราน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จิงหนาน ขั้นห้าตอนต้น…
ขั้นหก ขั้นห้า โผล่ออกมาไม่ขาดสาย
ขั้นสี่แทบจะกลายเป็นค่ามาตรฐานของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
กระทั่งมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปบางส่วนและมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่สายศิลปะการต่อสู้โดยเฉพาะยังอัดทรัพยากรให้หัวกะทิของมหาวิทยาลัยทะลวงถึงขั้นสี่!
ไม่ถึงขั้นสี่ รับตำแหน่งประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ ตอนนี้ขายหน้าอยู่บ้าง
แต่หลังจากผ่านช่วงเวลาเฟื่องฟูสั้นๆ นั้น นอกจากฟางผิงและหวังจินหยางที่ยังเรียนไม่จบ คนอื่นๆ ต่างจบการศึกษาแล้ว
ตอนแรกระหว่างที่ประธานสมาคมแต่ละมหาวิทยาลัยจบการศึกษา หานซวี่ที่อยู่ขั้นสี่ตอนปลายรับช่วงต่อ ในความคิดของหลิงอีอีไม่ได้มีอะไร มหาวิทยาลัยปักกิ่งยังคงแข็งแกร่งเหมือนเช่นเคย
ส่วนหลี่หานซง เดิมทีในสายตาของหลิงอีอี นั่นควรต้องรั้งตัวอยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ประเด็นอยู่ที่เธอนึกไม่ถึงว่าหลี่หานซงที่เป็นเกียรติยศความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยปักกิ่งจะไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แล้ว!
หลายวันนี้มีข่าวแพร่กระจายออกมา
หลี่หานซงส่งประวัติให้กับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ กรรมการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อนุมัติคำขอแล้ว หลี่หานซงกำลังจะรับตำแหน่งอาจารย์สาขายุทโธปกรณ์ของนักศึกษาใหม่ในรุ่นต่อไป
ยอดฝีมือขั้นหกคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นอัจฉริยะอายุน้อย จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งไปทำงานที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
นอกจากอยู่ขั้นหกแล้วยังเป็นอดีตประธานของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ นั่นเท่ากับเป็นตัวแทนของนักศึกษา
หลายวันนี้นักศึกษาบางส่วนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งแทบจะด่าหลี่หานซงถึงโคตรเหง้าแล้ว
แม้หลี่หานซงจะไปมหาวิทยาลัยอื่น พวกเขายังคงรับได้
แต่กลับเลือกไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้!
คนหักหลัง!
คำเรียกต่างๆ นานาถูกโยนไปหาหลี่หานซง
ในอดีตเคารพนับถือขนาดไหน วันนี้ก็จงเกลียดจงชังเท่านั้น
แม้หลิงอีอีจะไม่ถึงกับชิงชัง แต่ยังคงไม่พอใจหลี่หานซงอย่างถึงที่สุด ทำไมเจ้าหมอนี้ต้องไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้?
“พวกนายเนี่ยนะ!”
ตอนนี้ฟางผิงขึ้นรถมาแล้ว ข้างหลังนั้น หลี่หานซงเดินตามขึ้นมาอย่างเงียบๆ หวังจินหยางก็ขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
ฟางผิงขึ้นมาก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกนายยังมองไม่ออกหรือไง คนอื่นมองไม่ออกก็แล้วไปเถอะ แต่พวกนายมองไม่ออกนั่นก็โง่แล้ว! มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งใต้หล้าล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน หรือจะพูดว่าผู้ฝึกยุทธ์ใต้หล้าล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน! ผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเราคืออะไร? เป็นนักรบที่ต่อต้านการรุกรานของถ้ำใต้ดิน! พวกเราต่างเป็นสหายร่วมรบ เป็นเพื่อนร่วมชาติ! ฉันได้ยินว่าเพราะหลี่หานซงเข้ามาในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นึกไม่ถึงว่าจะถูกเรียกว่าเป็นคนทรยศ คนหักหลัง?”
“คนทรยศนั้นใช้กับวีรบุรุษของมนุษยชาติอย่างนั้นเหรอ? พวกไร้ประสบการณ์ที่ไม่เคยเข้าถ้ำใต้ดินกลุ่มหนึ่ง เอาความกล้าขนาดนั้นมาจากไหน ให้ความอัปยศแบบนี้กับยอดฝีมือที่ทำสงครามในถ้ำใต้ดิน? ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลี่หานซงฆ่าในถ้ำใต้ดินยังมากกว่าที่พวกนายเคยเจอมาซะอีก นึกไม่ถึงว่านายจะไม่คิดกดคำครหาเช่นนี้ลงไป นึกไม่ถึงว่ายังจะมาตั้งคำถามพร้อมกับหลิงอีอีผู้หญิงไร้สมองคนนี้?”
ฟางผิงทำสีหน้าไม่พอใจ ชำเลืองมองหลิงอีอีที่ถลึงตาใส่ตัวเองแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงดังว่า “หลิงอีอี เธอพูดมา หลี่หานซงเป็นคนทรยศหรือเปล่า?”
“เขา…” หลิงอีอีเอ่ยอย่างโมโห “ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ รั้งตัวอยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ได้หรือไง?”
“มหาวิทยาลัยปักกิ่ง?”
ฟางผิงแค่นหัวเราะ “มหาวิทยาลัยปักกิ่งให้อะไรหลี่หานซงได้? ช่วยเขากลายเป็นปรมาจารย์งั้นเหรอ? ในเวลานี้มนุษยชาติเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ ฉันถามพวกนาย รั้งตัวอยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นอาจารย์ขั้นหกคนหนึ่งหรือไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กลายเป็นขั้นเจ็ดถึงกระทั่งปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งกว่านั้นมาปกป้องมนุษยชาติดีกว่ากัน? ฆ่าศัตรู หรือยังต้องแบ่งว่าเป็นคนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้? ยอดฝีมือปรมาจารย์ฆ่าศัตรู เป็นระดับสูงแทบทั้งหมด จะมีพวกถ้ำตายอีกเท่าไหร่?”
“ปรมาจารย์คนหนึ่งเทียบได้กับกองทัพผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปหนึ่งหมื่นคน! ไม่สิ กองทัพผู้ฝึกยุทธ์หนึ่งหมื่นคนยังผลาญกำลังปรมาจารย์ตายไม่ได้เลย นายว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน? ความเห็นส่วนตัวความเห็นส่วนรวมพวกนี้ ถึงระดับกลางแล้ว พวกนายยังไม่เข้าใจสักนิด มีหน้าอะไรเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์? หากทุกคนเป็นเหมือนพวกนายหมด ใจแคบขนาดนี้ ต่อว่าเขาเป็นคนทรยศเพียงเพราะว่าหลี่หานซงไม่รั้งตัวอยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง งั้นมนุษยชาติยังจะมีความหวังอย่างนั้นเหรอ?”
หลิงอีอีถูกว่าจนหน้าแดงก่ำ หานซวี่ก็เผยสีหน้าลำบากใจเช่นกัน
แต่ไม่นาน หลิงอีอีก็โต้แย้งว่า “งั้นไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็กลายเป็นปรมาจารย์ได้หรือไง?”
“เหลวไหล!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยใบหน้าลำพองใจ “พวกนายดูสิ หลี่หานซงเข้าสู่ขั้นหกพอๆ กับฉันสินะ? แต่เขาไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่กี่วัน ตอนนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนกลางแล้ว นี่ก็เพียงพอให้พิสูจน์ทั้งหมดแล้ว?”
“ขั้นหกตอนกลาง!”
ทั้งสองคนเผยสีหน้าตกตะลึง หานซวี่อดเอ่ยไม่ได้ “รุ่นพี่หลี่ นายอยู่ขั้นหกตอนกลางแล้ว?”
“อืม”
“นี่…” หานซวี่นิ่งอึ้งไปชั่วพริบตา
หลิงอีอีใบหน้าแข็งค้างเช่นกัน ทำไมเร็วถึงขนาดนี้?
—————–
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน