ตอนที่ 540 รสชาติที่คุ้นเคย (2)
………………..
ฟางผิงกระจ่างใจดี กวาดสายตามองทั้งสองคนไปแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
ตระกูลหยางไม่พอใจ เขารู้เหมือนกัน ครั้งก่อนหยางชิงคนนั้นไม่พอใจอย่างมาก
ไม่ใช่อะไร สินสงครามที่ฟางผิงได้รับ ในสายตาของตระกูลหยาง ควรเป็นของพวกเขา
เพราะครั้งก่อนฟางผิงบอกเองว่าเขาเป็นคนฉวยผลประโยชน์ คนที่จัดการเจ้าเมืองเฉียงเวยอย่างแท้จริงคือเถี่ยมู่และหยางเต้าหง
จากกฏการแบ่งสินสงคราม แม้ว่าหยางเต้าหงจะตายก็ต้องแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง
แต่นั่นหมายถึงสงครามส่วนรวม ภารกิจของทางการ
หยางเต้าหงไปพื้นที่ระหว่างเขตแดนไม่ใช่ภารกิจของทางการ นับได้แค่ว่าเป็นการสำรวจส่วนตัวของเมืองเจิ้นซิงหรือกระทั่งของตระกูลหยางเอง
เวลานี้ฟางผิงจึงไม่จำเป็นต้องแบ่งสินสงครามตามกฏเดิม
เขาพาร่างของหยางเต้าหงกลับมา คืนอาวุธวิเศษขั้นเก้าให้ก็ถือว่าสุดความสามารถแล้ว
ดังนั้นครั้งก่อนแม้จะเป็นพวกหนานอวิ๋นเยวี่ยก็ไม่มีใครเอ่ยเรื่องแบ่งสินสงครามให้ตระกูลหยางเช่นกัน
เรื่องนี้จะแบ่งไม่แบ่ง นั่นเป็นความเต็มใจของฟางผิงเอง
ฟางผิงไม่อยากแบ่ง ใครก็ไม่อาจพูดอะไรได้
แต่ฟางผิงต้องไม่เต็มใจอยู่แล้ว
ล้อเล่นอะไรกัน หยางชิงจากตระกูลหยางคนนั้น ครั้งก่อนหากให้ความเกรงใจเขาหน่อย ขอบคุณไม่กี่ประโยค…เขาน่าจะไม่แบ่งให้เหมือนกัน แต่ต้องหลงเหลือความประทับใจไว้แน่
ผลปรากฏว่าหยางชิงไม่แม้แต่จะขอบคุณสักประโยค ฟางผิงคร้านจะสนใจพวกเขาเหมือนกัน
ฟางผิงกล้ามั่นใจว่าหากไม่มีตัวเอง นอกจากพวกหยางเต้าหงจะตายเกลี้ยงแล้ว กระทั่งอาวุธวิเศษขั้นเก้าและร่างยังจะเอากลับมาไม่ได้เลย
สถานการณ์ในวันนั้น ถ้าไม่มีเขา ท้ายที่สุดคนที่ฮุบทุกอย่างน่าจะเป็นเจ้าเมืองเฉียงเวย เพราะตั้งแต่แรกแทบไม่มีใครค้นพบอีกฝ่ายเลย แน่นอนว่าต้องไม่มีการต่อสู้ครั้งสุดท้ายอยู่แล้ว
ตู้หงกำลังช่วยแนะนำทุกคนอยู่
ทางรัฐบาล คนอื่นๆ เจ็ดคน นอกจากหลี่อี้หมิงแล้ว ยังมีแซ่เสิ่นคนหนึ่ง แซ่เฉินอีกคนหนึ่ง
ทั้งยังอยู่ขั้นหกสูงสุดทั้งหมด!
คำนวณแบบนี้ ทายาทของสามขั้นสุดยอดอยู่ขั้นหกสูงสุดทั้งหมด รวมถึงตู้หง ยอดฝีมือขั้นสูงสุดของรัฐบาลก็อยู่ในกลุ่มนี้ สี่คนที่เหลือล้วนอยู่ตอนปลาย
ยี่สิบคน ขั้นสูงสุดแปดคน ตอนปลายแปดคน ตอนกลางสี่คน
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งสาม รวมฟางผิงต่างอยู่ตอนกลาง
ดูแล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้นั้นอ่อนแอที่สุดแล้ว
แต่พวกฟางผิงอายุน้อยที่สุด แม้จะเป็นคนที่อายุมากที่สุดอย่างหลี่หานซงก็เพิ่งยี่สิบสามปีเท่านั้น ฟางผิงยี่สิบปี หวังจินหยางยี่สิบเอ็ดปี คนอื่นๆ โดยเฉพาะตระกูลหยางสองคนนั้นเกินสามสิบไปแล้ว ตู้หงก็เพิ่งสามสิบปีพอดี
ตู้หงแนะนำยกใหญ่แล้วก็เอ่ยว่า “คนจากฝ่ายอื่นๆ ก็มาถึงเกือบหมดแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ พวกเขาอยู่ในโรงแรมที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ให้ การแข่งขันจะเริ่มขึ้นวันมะรืน กฏกติกาก็เรียบง่าย ท้าประลอง! ทุกคนจะมีโอกาสท้าประลองคนอื่นสามครั้ง ทั้งอาจจะถูกท้าประลองอีกสามครั้ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือต่อสู้หกสนาม สุดท้ายจะเหลือสามสิบคนที่มีโอกาศเข้าสู่เขตหวงห้าม ง่ายๆ แบบนี้แหละ!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แม่ทัพตู้ งั้นถ้าอยู่ฝ่ายเดียวกัน สามารถท้าประลองกันได้หรือเปล่า?”
“อันนี้…ไม่ได้จำกัด”
ตู้หงมองเขาแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยว่า “แต่ไม่มีความจำเป็น คนกันเอง ควรร่วมมือกันจัดการคนนอกมากกว่า”
ฟางผิงหัวเราะว่า “นั่นแน่นอน ฉันอยากให้ประเทศจีนคว้าโควตาได้เยอะๆ เหมือนกัน คว้าได้ยี่สิบคน นั่นก็ยิ่งดี เข้าไปเขตหวงห้ามด้วยกัน ความคิดต่อส่วนรวมนี้ ฉันยังคงมีอยู่แล้ว”
พูดจบ ฟางผิงก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “คนจากฝ่ายอื่นๆ ฝีมือเป็นยังไงเหรอ?”
“ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่จากคำพูดของพวกปรมาจารย์ ฝีมือไม่อ่อนด้อยเลย ขั้นหกสูงสุดมีไม่น้อย หลอมสารจิงกับเลือด…เหมือนมีหลายคนเหมือนกัน”
ห้าฝ่ายอื่นๆ มีขั้นสุดยอดหลายสิบคนเช่นกัน รวมกันเทียบกับประเทศจีนแล้วยังมากกว่า
ประเทศจีนมียอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือด อีกฝ่ายก็มี ฟางผิงไม่เหนือความคาดหมายเช่นกัน
“เรื่องนี้ไม่แน่ใจแล้ว”
ตู้หงส่ายหัวว่า “โอกาสเป็นปรมาจารย์มีน้อย หลายปีมานี้แทบมีไม่กี่คน ทั้งแม้จะมีคนกลายเป็นปรมาจารย์ก่อนอายุสามสิบปีก็อาจไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันเสมอไป ปรมาจารย์…ถ้ายินดี อันที่จริงก็สามารถเข้าสู่เขตหวงห้ามได้ แน่นอนว่าผ่านโควตาเข้าไปจะปลอดภัยกว่าหน่อย ดังนั้นโดยทั่วไปการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวจะเป็นการช่วงชิงของขั้นหก ทั้งปรมาจารย์ที่ต่ำกว่าสามสิบปีลงไป อันที่จริงก่อหน้านี้ก็เคยเข้าไปในเขตหวงห้ามแล้ว ผ่านการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวเข้าไปเช่นเดียวกัน กลุ่มเมื่อสามปีก่อน เข้าสู่ขั้นปรมาจารย์มีไม่น้อย หลายคนยังไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ แต่พวกเขาไม่อาจมาเข้าร่วมเป็นครั้งที่สอง ไม่มีความหมาย”
ฟางผิงพยักหน้า พูดแบบนี้เขากลับนึกออกแล้ว
ก็ถูก กลุ่มเมื่อสามปีก่อน ถึงกระทั่งกลุ่มเมื่อหกปีก่อน ตอนนี้อาจจะไม่ถึงสามสิบปี ทั้งหลังจากเข้าสู่เขตหวงห้ามอาจจะสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้อายุไม่เกินกันทั้งนั้น
“งั้นจะมีคนโกงหรือเปล่า ให้ปรมาจารย์ที่ไม่เคยเข้าสู่เขตหวงห้ามพวกนั้นเปลี่ยนแปลงอายุกระดูกมาเข้าร่วมการแข่งขัน?”
ฟางผิงถามออกมาอีกครั้ง คำพูดนี้ทำให้สองคนของตระกูลหยางเผยสีหน้าดูไม่ได้ขึ้นมาทันที


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน