เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 541

ตอนที่ 541 ของล้ำค่าที่หลุดมือไป (1)

………………..

ตู้หงพูดไม่กี่ประโยคแล้วก็มีปรมาจารย์เข้ามา

ในนั้นยังคงมีรัฐมนตรีหวัง

ตอนนี้ฟางผิงมั่นใจแล้วว่าเหล่าหวังเป็นผู้ช่วยวิ่งเต้นจริงๆ แทบจะหาตัวเจอได้ทุกที่

ไม่ใช่แค่รัฐมนตรหวัง รัฐบาลค่อนข้างให้ความสำคัญกับการแข่งขันเช่นกัน

ในหมู่ปรมาจารย์ ยังมีขั้นเก้าอยู่ด้วย ผู้บัญชาการหลี่เต๋อหย่งจากหน่วยทหารคนนั้น

เห็นพวกฟางผิงมาถึง หลี่เต๋อหย่งก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยว่า “มาครบกันแล้วสินะ ห้าฝ่ายอื่นๆ ก็ถึงเกือบหมดแล้วเหมือนกัน”

“แดนเทพปกรณัมสิบสี่คน อาณาจักรหมื่นหอคอยและแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าฝั่งละสิบสองคน เมืองโทเทมและเทือกเขาแอนดีสฝั่งละหกคน ทั้งหมดห้าสิบคน”

หลี่เต๋อหย่งพูดอย่างรวบรัด เอ่ยต่อว่า “คนของพวกเราไปสืบข่าวแล้ว สมาชิกที่เข้าร่วมของอีกฝ่าย ฝีมือล้วนไม่อ่อนด้อย ขั้นหกตอนกลางมีไม่เยอะ ประมาณห้าหกคนเท่านั้น ทางพวกเรา…”

หลี่เต๋อหย่งมองพวกฟางผิงแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “มีสี่คน!”

ไม่มีสามคนจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้พวกนี้ ประเทศจีนยังสามารถหาขั้นหกตอนปลายมาเพิ่มสามคนได้

แบบนี้แล้ว ประเทศจีนยี่สิบคน จะมีแค่ซูจื่อซู่ที่อยู่ขั้นหกตอนกลางคนเดียวเท่านั้น

ตอนนี้สามคนจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ดึงเส้นมาตรฐานของประเทศจีนให้ต่ำลง หากไม่ใช่ว่าจางเทาพยายามช่วงชิงให้ รวมถึงพวกฟางผิงฝีมือไม่ได้อ่อนแอจริงๆ เดิมทีคงไม่อาจให้พวกเขาเข้ามา

ฟางผิงไม่ได้สนใจพวกไก่อ่อนนี้สักเท่าไหร่ กำลังจะเอ่ยปากพูด หลี่อี้หมิงกลับหัวเราะขึ้นมาก่อน “จะสนใจว่าเขามีเท่าไหร่ไปทำไม ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่แข็งแกร่งไปกว่ากระบี่นี้ของผมหรอก!”

หลี่เต๋อหย่งกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หลี่อี้หมิง อย่ามั่นใจจนเกินไป! ฉันเตือนเธอไว้ก่อน หากสุดท้ายเธอแพ้ ไม่สามารถเข้ารอบได้ ผลที่ตามมาเธอต้องรับผิดชอบเอง!”

“เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!”

หลี่อี้หมิงเอ่ยอย่างมั่นใจ “หลอมสารจิงกับเลือดแล้วก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมเหมือนกัน!”

หลี่เต๋อหย่งไม่พูดกับเขาอีก เอ่ยต่อว่า “ในห้าฝ่ายนี้ ยอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือด พวกเราไม่ได้สืบข่าวมาว่าหลักๆ มีเท่าไหร่ ตอนนี้ไม่สามารถยืนยันได้ น่าจะประมาณห้าคน แน่นอนว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อาจจะมีขั้นเจ็ดซ่อนตัวอยู่ อีกฝ่ายสกัดกั้นการหยั่งเชิงของพวกเรา พวกเราไม่อาจพยายามเจาะลึกไปกว่านี้ได้ ก่อนอายุสามสิบปีกลายเป็นขั้นเจ็ด แม้จะยากก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีหวังเลย ถ้ามีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดปรากฏตัวออกมาจริงๆ งั้นอนุญาตให้ผู้ที่ถูกท้าประลองยอมแพ้ได้!”

เสียสละโดยไม่รู้อะไร นั่นไม่มีความจำเป็น

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเดียวกันยังสามารถต่อสู้ได้

แต่ขั้นหกสู้กับขั้นเจ็ด นั่นก็เท่ากับส่งไปตายแล้ว

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ฟางผิงคิดว่ายังเชื่อถือได้อยู่บ้าง

เขานึกว่าจะไม่สามารถยอมแพ้ได้จริงๆ แล้ว หากยอดฝีมือขั้นเจ็ดท้าประลองจริงๆ แม้จะเป็นเขาก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะรอดพ้นจากอันตรายได้เหมือนกัน

ในสถานการณ์จริง หากเจอกับขั้นเจ็ด ระหว่างต่อสู้อีกฝ่ายจะฆ่าตัวเอง ฟางผิงไม่สนใจกฏเกณฑ์อะไรอยู่แล้ว หนีก่อนค่อยว่ากัน

ส่วนไม่สามารถหนีได้…คงไม่ถึงขนาดนั้น

ฟางผิงโทรหาตาเฒ่าหลี่แล้ว บอกว่าที่นี่อันตรายมาก มีคนอาจจะจัดการเขาทุกเมื่อ ทางที่ดีเรียกเหล่าอู๋มาด้วย ถึงช่วงเวลาสำคัญก็ปรากฏตัวฟันพวกเขาซะ

ตอนนี้ตาเฒ่าหลี่น่าจะออกเดินทางแล้ว ส่วนเหล่าอู๋ออกด่านหรือยัง ไม่แน่ใจเท่าไหร่

ไม่ใช่แค่เจิ้งหนานฉี ในกลุ่มนั้น นอกจากเจี่ยงเชาที่เผยสีหน้าดีใจ คนอื่นๆ ต่างเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง!

พวกเขามาเข้าร่วมการแข่งขัน นั่นหมายถึงอยากแข็งแกร่งขึ้น

อยากแข็งแกร่งย่อมไม่ต้องการถูกเลือกปฏิบัติ ไม่งั้นใช้ชีวิตอยู่แค่ในเมืองเจิ้นซิงก็จบแล้ว

แม้พวกเขาจะไม่ไปถ้ำใต้ดิน ไม่เข้าร่วมการแข่งขันก็ไม่มีใครว่าอะไร

หลี่เต๋อหย่งเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “งั้นก็แล้วแต่พวกเธอ ท้าประลองใคร พวกเราก็ไม่ได้จำกัด”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนจึงไม่พูดอะไรอีก

ฟางผิงกลับหัวเราะว่า “ผู้บัญชการ นี่หากขึ้นสังเวียนพลั้งมือฆ่าทายาทของขั้นสุดยอดเข้า คงไม่ให้ผมชดใช้ด้วยชีวิตหรอกสินะครับ? หากเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นผมก็ไม่กล้าไปแล้ว”

หลี่เต๋อหย่งเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ขอแค่ไม่จงใจฆ่า นั่นไม่เป็นไร! อีกฝ่ายสูญเสียพลังต่อต้านแล้ว เธอยังโจมตีเขาต่อ นั่นเท่ากับจงใจฆ่า ไม่มีความจำเป็นนี้ เผลอพลั้งมือระหว่างการประลองเป็นเรื่องปกติ ขั้นสุดยอดก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์เหมือนกัน หรือหลักการนี้จะไม่เข้าใจ? ยิ่งไปกว่านั้นประเทศจีนของเราไม่ใช่คนอ่อนแอ แม้ขั้นสุดยอดจะนินทาว่าร้ายด้วยเรื่องนี้ก็ย่อมมีคนออกมาหนุนหลัง แต่ว่า…”

หลี่เต๋อหย่งมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยเน้นชัดทุกคำ “ฟางผิง ไม่มีความจำเป็นต้องหาเรื่องสร้างศัตรูอย่างไร้เหตุผล! ยั้งมือไม่ทัน เผลอฆ่าอีกฝ่ายยังพอพูดได้ แต่ถ้าเธอจงใจฆ่าอีกฝ่าย นั่นเป็นการท้าทายแล้ว! เอาใจเขามาใส่ใจเรา ครอบครัวของเธอถูกคนจงใจฆ่า เธอจะรับได้หรือเปล่า? แต่ระหว่างการประลองถูกคนพลั้งมือฆ่า ต่อให้เธอโมโหขนาดไหน โศกเศร้าขนาดไหน นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เข้าใจความหมายฉันใช่หรือเปล่า?”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจอยู่แล้ว ผมไม่ใช่คนโง่ ผู้บัญชาการวางใจ ผมไม่จงใจหาเรื่องสร้างศัตรูให้ตัวเองหรอก แต่ถ้ามีคนมาท้าทายผม งั้นผมคงไม่เกรงใจ คนนอกก็ช่างเถอะ แต่ถ้าพวกเดียวกันกล้าหันมีดเข้าหาผม งั้นผมรับประกันว่าต้องฆ่าเขาอยู่แล้ว!”

ระหว่างที่พูดประโยคนี้ ฟางผิงก็มองไปทางคนของเมืองเจิ้นซิงด้วยรอยยิ้ม

—————

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน