ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 543

ตอนที่ 543 ควรจัดอันดับวัยรุ่นสักหน่อยแล้ว (2)

………………..

ฟางผิงไม่ได้พูดอะไร หลี่หานซงพูดเรื่องพวกนี้ เขาก็ปวดหัวเหมือนกัน

แม่งเหอะ เจ้าหมอนี้แทบจะเชื่ออย่างไม่สงสัยอีกแล้ว เขายังอายที่จะพูดอีกด้วยซ้ำไป คิดวนเวียนในหัวว่าเขาจะถูกซ้อมตายในสักวันหรือเปล่า

และคนที่จะซ้อมเขาตายก็คือหลี่หานซง

ในหมู่สามคนนี้ เหยาเฉิงจวิน…เขาไม่ได้หลอกอีกฝ่าย

เหล่าหวัง นั่นแทบไม่เชื่อเขาด้วยซ้ำ

หลี่หานซง เจ้าหมอนี้เชื่อมโยงประสบการณ์ของตัวเองเข้าด้วยกัน จมดิ่งเข้าไปทีละขั้น เชื่อเรื่องทั้งหมดนี้อย่างแน่วแน่

หากมีวันหนึ่งพบว่าฟางผิงหลอกเขาทั้งหมด ไม่ซ้อมฟางผิงตาย เขาจะทำใจได้หรือไง?

“ยังต้องพัฒนาความสามารถให้เร็วหน่อย ศัตรูภายนอกยังอยู่ ภายในก็อันตรายล้นหลาม หัวเหล็กก็คือระเบิดเวลา วันดีคืนดีอาจจะชกฉันหนึ่งหมัดได้ทุกเมื่อ ระเบิดหัวตัวเองขึ้นมา นั่นก็พูดยากแล้ว”

—

วันที่สองนี้ทุกคนต่างพูดคุยกัน ไม่นานเวลาก็ล่วงเลยไปแล้ว

วันที่ต่อมา การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

เช้าตรู่ ทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกว้างใจกลาง

หลี่เต๋อหย่งขมวดคิ้วแน่น ไม่ได้มองที่เด็กวัยรุ่นพวกนั้น แต่มองไปยังเงาร่างหนึ่งบนหลังคาไม่ไกลนั้น เจ้าหมอนี้มาอยู่ตรงนี้ทำไม?

บนหลังคานั้น ตาเฒ่าหลี่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น

ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา ทั้งไม่ได้ทักทายปรมาจารย์พวกนี้เหมือนกัน

เจ้าหมอนี้หลังจากที่มาถึงที่นี่เมื่อคืนก็ยืนอยู่บนหลังคาอยู่ตลอด ไม่สนใจใครทั้งนั้น

ใครไปถามอะไร เขาก็ไม่คิดสนใจ

แน่นอนว่ายังคงสนใจไม่กี่คน…อย่างเช่น…ประธานสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์

ยอดฝีมือจะพิถีพิถันมารยาทหน่อยไม่ได้?

ฟางผิงไอ้ลูกหมานั่น เมื่อวานไปบังคับคนให้เปลี่ยนฉายา ไอ้เวรนี้ก็มาให้เปลี่ยนแปลงอันดับอีกคน พวกนายว่างกันนักหรือไง?

ประธานสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์โมโหจนคร้านจะสนใจเขาแล้ว เขายินดีจะแกล้งเป็นรูปปั้นอยู่ที่นี่ งั้นก็ตามสบาย ดูสิว่านายจะแกล้งได้นานเท่าไหร่

หลี่เต๋อหย่งกวาดสายตามองหลี่ฉางเซิงแวบหนึ่ง ไม่สนใจเขาอีก

ด้านข้าง ซูเฮ่าหรานกลับจนใจอยู่บ้าง

หลี่ฉางเซิงแกล้งเป็นรูปปั้น นั่นไม่ใช่แกล้งจริงๆ ปราณของเขา…ล็อกอยู่ที่คนๆ หนึ่งอยู่ตลอด

ไม่ใช่เขา!

แต่เป็นยอดฝีมือขั้นแปดคนหนึ่งข้างเขา!

ยอดฝีมือขั้นแปดคนนี้ใบหน้าดำคล้ำเป็นก้นหม้อ โทสะสุมหัวอย่างยิ่ง!

หลี่ฉางเซิงบีบเค้นทุกฝีก้าว ปล่อยปราณอย่างดุดัน ไอสังหารพวยพุ่ง!

ราวกับครู่ต่อมาจะออกกระบวนท่า ฟันเขาตายด้วยกระบี่เดียว!

“พวกกากเดน!”

“หากไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสสิ้นชีพ พี่ใหญ่ตายในสนามรบ จะเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”

ครั้งนี้ตระกูลหยางมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดมาเข้าร่วมการแข่งสองคน ถ้าคว้าโควตาได้ บางทีไม่นานก็อาจจะถือกำเนิดขั้นเจ็ดอีกสองคน

ตอนนี้ยอดฝีมือตระกูลหยางตายแทบหมดเกลี้ยง

เหลือแค่เขาและหยางชิง ผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงสองคนเท่านั้น หากมีเพิ่มขึ้นอีกสองคน ปรมาจารย์สี่คนนั่งรักษาการณ์ แม้จะไม่มีพลังต่อสู้ของขั้นสุดยอดและขั้นเก้า นั่นก็ไม่นับว่าด้อยจนเกินไปแล้ว

สำหรับเรื่องนี้ เขาให้ความสำคัญอย่างมาก ตามเข้ามาด้วยตัวเองก็เพื่อรับประกันว่าจะคว้าโควตาได้

ในหมู่ทายาทของขั้นสุดยอด ขั้นหกสูงสุดสองคนนี้ ฝีมือถือว่าไม่อ่อนด้อยแล้ว

น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสของตระกูลเขาต้องมาตกตาย กลัวก็แต่ว่า…คนที่จะลงมือกับตระกูลหยางไม่ใช่ทายาทขั้นสุดยอดพวกนั้น แต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารของประเทศจีนพวกนี้

ทางประเทศจีน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ รัฐบาล รวมถึงตระกูลหยางสองคนของพวกเขาถึงจะเป็นเป้าหมายที่แต่ละฝ่ายจับตามอง

เพื่อรับประกันว่าจะคว้าโควตาได้ เขาเคยเอ่ยกับสองคนนั้นจริงๆ หากถึงช่วงเวลาสำคัญ คนอื่นรับมือได้ยาก เป้าหมายของพวกเขาก็คือคนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้พวกนั้น

แต่ใครจะรู้ว่าทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะส่งหลี่ฉางเซิงมา

นี่หมายความว่าอะไร?

“ผู้ฝึกยุทธ์ที่พลังชีวิตไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาคนหนึ่ง คิดว่าฉันกลัวนายจริงๆ รึไง!”

ขั้นแปดตระกูลหยางแค่นเสียงในใจ เจ้าคนเหิมเกริม!

เขาก็เป็นยอดฝีมือขั้นแปดเหมือนกัน ประมือกันจริงๆ แม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฉางเซิง ถ่วงเวลาหน่อย เจ้าหมอนี้ก็ผลาญพลังตัวเองตายได้แล้ว มีอะไรให้เหิมเกริมกัน

ในตอนที่ทุกคนกำลังคิดฟุ้งซ่าน จู่ๆ หลี่เต๋อหย่งก็เอ่ยว่า “คนมาถึงแล้ว! ทุกคน ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าบ้าน ไปต้อนรับกันเถอะ!”

สิ้นเสียง ปรมาจารย์กว่าสิบคนที่อยู่ตรงนี้ก็ทยอยเดินไปยังประตูใหญ่ของสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์

ครั้งนี้ประเทศจีนมีปรมาจารย์มาคุมทัพไม่น้อย

แต่ต่ำลงไปกว่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะยังมีขั้นหกตอนกลางอีกหลายคน นี่จะเยอะเกินไปแล้ว ทำให้แต่ละฝ่ายต่างมองเห็นโอกาส

บทสทนาของคาร์มอนและโรซิธยังไม่ทันจบ ก็มีคนเอ่ยภาษาจีนด้วยสำเนียงแปร่งๆ ขึ้นว่า “สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์โลก…น่าจะมีการจัดอันดับขั้นหกทั่วโลกได้แล้ว! ในการจัดอันดับเทพ ผู้ฝึกยุทธ์ประเทศจีนมีมากที่สุด แต่ล้วนเป็นคนแก่ บางทีควรจะมีการจัดอันดับวัยรุ่นออกมา นี่ถึงจะยุติธรรม!”

“ถูกต้อง ควรจะจัดอันดับวัยรุ่นออกมา แบบนี้ถึงจะพิสูจน์ความสามารถผู้ฝึกยุทธ์รุ่นใหม่ได้ ประเทศไหนบ่มเพาะได้ดีที่สุด! คนรุ่นก่อนแข็งแกร่ง ไม่ได้หมายความว่าคนรุ่นใหม่จะแข็งแกร่งเหมือนกัน!”

“…”

คนต่างชาติพวกนี้ สลับกันพูดไปมา ความนัยของคำพูดที่เผยออกมาก็คือผู้ฝึกยุทธ์รุ่นก่อนของประเทศจีนนั้นแข็งแกร่ง แต่รุ่นใหม่ไม่ค่อยไหว กินบุญเก่ากันทั้งนั้น

ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่ตามพวกเขามา ไม่มีใครตัดบทเช่นกัน ต่างเผยรอยยิ้มขึ้นมา

ผู้ฝึกยุทธ์ โดยเฉพาะผู้ฝึกยุทธ์รุ่นใหม่ควรจะเป็นเช่นนี้!

หากไม่กล้าช่วงชิง ไม่กล้าทุ่มสุดชีวิตเพราะรุ่นก่อนแข็งแกร่ง นั่นจะล้ำหน้าได้ยังไงกัน!

ศัตรูภายนอก ไม่มีฝ่ายไหนไม่อยากให้ตัวเองแข็งแกร่งกว่าอยู่แล้ว

ประเทศจีนมีขั้นสุดยอดจำนวนมาก หมายความว่ามีอำนาจในการพูดมากกว่า

แต่ตอนนี้ไม่มีขั้นสุดยอด พวกคนรุ่นเก่าคล้อยหลังที่อายุเพิ่มขึ้นก็สูญเสียความทะเยอทะยานไปแล้ว

แต่คนรุ่นใหม่ควรจะพุ่งหาดวงอาทิตย์ เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ประเทศจีนที่มียอดฝีมือมากที่สุดก็คือกระดานรองเหยียบของแต่ละขั้วอำนาจ รุ่นคนหนุ่มสาวเหยียบย่ำผู้ฝึกยุทธ์ของประเทศจีนขึ้นไป นั่นถึงจะเพิ่มความมั่นใจได้ มองข้ามแรงกดดัน ก้าวข้ามไปอย่างรวดเร็ว!

ไม่ไกลนั้น พวกปรมาจารย์ประเทศจีนไม่สนใจเช่นกัน

แค่ตะโกนปลุกใจเท่านั้น คงไม่อาจห้ามปากใครได้หรอก

ทุกครั้งเจ้าพวกนี้ต่างทำแบบนี้มาตลอด ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ทุกคนต่างคุ้นชินนานแล้ว

หวังแค่ว่าสุดท้ายแล้วตอนที่เดินออกไปยังจะสามารถมั่นใจแบบนี้ได้ นั่นถึงจะเรียกว่าแข็งแกร่ง

“ในเมื่อทุกคนมาถึงแล้ว งั้นก็เตรียมเริ่มการแข่งขันเถอะ”

พวกยอดฝีมือไม่คิดสิ้นเปลืองเวลาอยู่แล้ว ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ทุกคนสามารถเจียดเวลามาเข้าร่วมการแข่งขันได้ก็ไม่ง่ายแล้ว

แต่ละประเทศล้วนมีปรมาจารย์มาสามสี่คน น้อยหน่อยก็คนสองคน

แทบจะเป็นขั้นเก้าทั้งหมด!

ขั้นเก้าไม่ได้ว่างขนาดนั้น หากไม่ใช่กลัวว่าเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่พวกนี้จะถูกคนลอบฆ่า คงไม่มีเวลามาเตร็ดเตร่เที่ยวเล่นที่ประเทศจีนหรอก

————-

………………..