ตอนที่ 547 ความหวังดีจากตระกูลหยาง (3)
………………..
ฟางผิงไม่ได้พูดอะไร การต่อสู้นี้เหนือความคาดหมายของทุกคนเช่นกัน
หวังจินหยางถูกแทงหน้าอกทะลุแลกกับการสังหารฝ่ายตรงข้ามด้วยสามสิบกระบวนท่า!
แต่เขาที่หน้าอกเป็นโพรงกลับเห็นได้ชัดเจนว่าฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เวลานี้แม้จะเป็นปรมาจารย์พวกนั้นก็แววตาวับวาวขึ้นมาเช่นกัน!
ผู้ฝึกยุทธ์เกิดใหม่ของประเทศจีน!
ผู้ฝึกยุทธ์ประเภทนี้ไม่อาจจะมองเป็นขั้นหกตอนกลางทั่วไปได้อีกแล้ว
—
การแข่งขันหมุนเวียนไปรอบแล้วรอบเล่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกท้าประลอง บางคนละทิ้งโอกาสท้าประลองเช่นกัน
เหลือโอกาสสามครั้งไว้ตอนท้ายสุด นี่แทบจะเป็นความคิดของใครหลายคน
ตอนนี้ยังไม่แน่ใจความสามารถซึ่งกันและกัน บุ่มบ่ามท้าประลองคู่ต่อสู้ นอกจากจะเป็นคนที่มีฝีมือแข็งแกร่ง มั่นใจในตัวเองแล้ว คนอื่นๆ ต่างเลือกที่จะรอดูก่อน
ผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดหกคน ลงมือกันหมดแล้ว ตามหลักต้องรอคนอื่นๆ ท้าประลองให้หมดก่อน ค่อยถึงรอบพวกเขาอีกที
ขั้นหกสูงสุดยี่สิบห้าคน ส่วนมากเลือกที่จะทิ้งโอกาสท้าประลอง คนอื่นๆ ก็ท้าประลองไปพอสมควรแล้วเหมือนกัน
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดที่ยังไม่ได้ท้าประลองอย่างแท้จริงคือประเทศจีน เพราะมีจำนวนเยอะที่สุด ประเทศจีนจึงเหลือสี่คนที่ยังไม่ได้ลงมือ
สองพี่น้องตระกูลหยางปิดปากเงียบมาโดยตลอด อีกสองคนกลับเป็นหลี่เฟยและเจิ้งหนานฉี ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้วนมาถึงพวกเขา
สิทธิ์ท้าประลองหลังจากนี้ล้วนอยู่ที่ประเทศจีน รอขั้นหกสูงสุดสี่คนนี้ท้าประลองจบแล้วถึงจะเป็นรอบของขั้นหกตอนปลายต่อไป
ไม่ไกลนั้น หลี่เต๋อหย่งมองไปทางประเทศจีน
สองพี่น้องตระกูลหยางไม่พูดอะไร เจิ้งหนานฉีเห็นแบบนั้นจึงแปลกใจอยู่บ้าง แต่ยังคงเดินเข้าไปข้างหน้า เลือกท้าประลองผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนปลายคนหนึ่งของแดนเทพปกรณัม
เจิ้งหนานฉีฝีมือไม่อ่อนด้อย แต่ประมือกันแล้วกลับไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายในชั่วพริบตา ทั้งไม่อาจโจมตีฆ่าอีกฝ่ายได้เช่นกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนเพิ่งเข้าสู่ขั้นหกสูงสุดอย่างเขาจะทำได้
เทียบกับเจิ้งหนานฉี หลี่เฟยลงมือโหดเหี้ยมกว่าไม่น้อย แม้จะไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ กลับทำให้บาดเจ็บหนักเหมือนกัน เดินกลับมาอย่างพึงพอใจ
ตอนนี้ขั้นหกสูงสุดเหลือแค่สองพี่น้องตระกูลหยางที่ไม่ได้ลงมือ
หยางเฮ่อมองฟางผิงที่ใบหน้าซีดเซียวไปแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฟางผิง สถานการณ์ของเธอนี้เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วต้องถูกคนมองออก ตอนนี้เธอยังเหลือสิทธิ์ถูกท้าประลองอีกสองครั้ง เพื่อความปลอดภัยของเธอ ไม่สู้ให้หยางมู่และหยางเฟิงใช้สิทธิ์ท้าประลองคนละครั้ง ช่วยเธอผ่านด่านนี้ไปเป็นยังไง?”
ด้านข้าง ซูเฮ่าหรานมองเขาไปแวบหนึ่ง รัฐมนตรีหวังกลับมองฟางผิง เห็นว่าเขาใบหน้าซีดก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบาว่า “ฟางผิง ต้านไหวหรือเปล่า?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ จะถึงรอบของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนปลายแล้ว ตามลำดับยังเป็นสิทธิ์ของประเทศจีนก่อน อย่าสิ้นเปลืองโอกาสท้าประลองของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุดจะดีกว่า ทางประเทศจีน เจี่ยงเชา นายและเจียงเหยียนแกล้งแพ้ให้ฉันสักครั้งเป็นยังไง? ไม่งั้นสถานการณ์ตอนนี้ของฉัน เกรงว่าคงไม่อาจใช้สิทธิ์ท้าประลองได้แล้ว หากแพ้ ฉันก็ไม่สามารถคว้าโควตาได้อีก”
เจี่ยงเชาพยักหน้าว่า “ไม่มีปัญหา”
เจียงเหยียนไม่เห็นต่างเช่นกัน พยักหน้าว่า “ฉันเหลือไว้หนึ่งสิทธิ์ ท้าประลองคนอื่นก็ได้แล้ว ไม่เป็นไร”
สองคนนี้รับปากอย่างฉับไว หยางเฮ่อกลับถอนหายใจเบาๆ “ไม่ทันแล้ว ผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดที่ปิดบังตัวตนคนนั้นของแดนเทพปกรณัม…จับจ้องเธอแล้ว ตอนนี้เขาแกล้งเป็นขั้นหกตอนปลาย ทางประเทศจีนถึงจะได้สิทธิ์ก่อนก็ทำได้แค่ท้าประลองหนึ่งครั้ง ยังมีโอกาสอีกครั้ง…เกรงว่าเขาจะลงมือแล้ว”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
ไม่ใช่แค่ผู้หลอมสารจิงกับเลือดที่ปิดบังตัวตนคนนั้น กระทั่งขั้นเก้าจากแดนเทพปกรณัมยังมองฟางผิงอย่างสงสัยอยู่บ้าง ฟางผิงจะหน้าซีดเกินไปแล้ว
ส่วนยอดฝีมือที่ปิดบังตัวตนพวกนั้น ตู้หงบอกทุกคนแล้ว นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเหมือนกัน ไม่งั้นท้าประลองสุ่มสี่สุ่มห้าไปโดนอีกฝ่ายเข้า นั่นก็อันตรายแล้ว
รัฐมนตรีหวังหน้าเปลี่ยนสี ตอนนี้สถานการณ์ของฟางผิงไม่ดีเท่าไหร่ ยังมีโอกาสถูกท้าประลองอีกสองครั้ง
แม้จะถึงรอบผู้ฝึกยุทธ์ตอนปลายแล้ว ทางประเทศจีนแพ้ให้ฟางผิงหนึ่งครั้ง แต่ยังเหลืออีกครั้ง ครั้งต่อไปจะถึงรอบของแดนเทพปกรณัม
รัฐมนตรีหวังไม่วางใจเท่าไหร่ เมื่อกี้พวกเขาเกิดความขัดแย้งกัน ทุกคนเห็นตำตา
หยางเฮ่อเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกคนไม่จำเป็นต้องมองฉันแบบนี้ ฟางผิงเป็นอัจฉริยะของประเทศจีน ตระกูลหยางไม่ยินดีที่จะเห็นเขาถูกคนถือโอกาสซ้ำเติมอยู่แล้ว ยิ่งใช้สิทธิ์ถูกท้าประลองของเขาหมดเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ป้องกันเกิดเหตุไม่คาดฝัน”
ช่วงเวลาสั้นๆ นั้นฟางผิงไม่ค่อยมั่นใจว่าตกลงหยางเฮ่อคิดจะทำอะไรกันแน่
หากสองพี่น้องตระกูลหยางไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ อยากผูกสัมพันธ์กับเขา ฟางผิง…อาวุธวิเศษขั้นเก้าคงไม่อาจมอบให้ แต่เขายังมีอาวุธวิเศษขั้นแปดอยู่
หากตระกูลหยางไม่มองตัวเองเป็นศัตรูอีก อาวุธวิเศษขั้นแปดคลี่คลายปัญหาตระกูลหยางได้ ฟางผิงไม่คิดเกี่ยงงอนเช่นกัน
หยางเฮ่อฟังจบก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องพวกนี้ไว้ค่อยพูดกันทีหลัง งั้นฉันจะให้หยางมู่ท้าประลองเธอละกัน!”
“ได้”
สิ้นเสียงของฟางผิง หยางมู่ก็หยัดกายขึ้นว่า “ฉันท้าประลองฟางผิง!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลายคนก็เหนือความคาดหมายอยู่บ้าง
คนกันเองท้าประลองคนกันเอง นอกจากจะถึงช่วงเวลาสำคัญจริงๆ การช่วงชิงโควตาตกสู่ทางตันถึงจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้
ตอนนี้การท้าประลองหนึ่งครั้ง นอกจากจะสิ้นเปลืองโอกาสของหยางมู่หนึ่งครั้งแล้ว ยังสิ้นเปลืองโอกาสของฟางผิงด้วยเช่นกัน
จากความสามารถของฟางผิง บางทีอาจสามารถทำลายยอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือดอีกคนได้
ไม่ไกลนั้น หลี่เต๋อหย่งขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เห็นฟางผิงลุกขึ้นก็ทำได้เพียงพยักหน้าว่า “ขึ้นเวที!”
ฟางผิงและหยางมู่เดินออกไปพร้อมกัน เห็นเขาเดินออกไปแล้ว หยางเฮ่อก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “หยางมู่ ระวังความเหมาะสมด้วย อย่าทำให้ฟางผิงบาดเจ็บ”
หยางมู่เอ่ยทันที “เข้าใจแล้ว แต่แม่ทัพฟางก็อย่าประมาทเกินไป ถึงช่วงหลัง หากยังเหลือคนเยอะ อาจจะเพิ่มโอกาสท้าประลองอีก นั่นก็เป็นปัญหาแล้ว ดังนั้นพวกเราต้องแสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์สักหน่อย!”
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่นานก็ฟื้นฟูรอยยิ้มว่า “ได้”
—————-
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน