เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 553

ตอนที่ 553 วายร้าย (2)

………………..

ฟางผิงเห็นเหตุการณ์นี้ก็ไม่มีใจจะชมการต่อสู้แล้ว มองไปทางรัฐมนตรีหวังว่า “รัฐมนตรี ตอนนี้ผมน่าจะคว้าโควตาได้เป็นที่แน่นอนแล้ว เรื่องของเขตหวงห้ามควรต้องบอกผมสักหน่อยหรือเปล่า? จนถึงตอนนี้แล้วผมยังไม่รู้อะไรเลย แทบไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”

รัฐมนตรีหวังส่ายหัวว่า “อย่าถาม เพราะฉันก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน รอได้โควตาจริงๆ แล้วจะมีคนคลี่คลายข้อสงสัยให้พวกเธอโดยเฉพาะ”

ด้านข้าง ซูเฮ่าหรานเอ่ยขึ้นว่า “รอการแข่งขันสิ้นสุดแล้ว พวกเราจะแจ้งกับทุกคนเอง ประธานฟางไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเกินไป”

ระหว่างที่พูด ซูเฮ่าหรานราวกับลังเลอยู่บ้าง แต่ยังคงพูดออกไป “หลังจากเข้าสู่เขตหวงห้ามแล้ว หวังว่าประธานฟางจะสามารถช่วยดูแลพวกหลี่เฟย…”

ซูเฮ่าหรานกล่าวเสริมว่า “เรื่องของตระกูลหยางก่อนหน้านี้ ไม่ได้เป็นการแสดงท่าทีของทั้งเมืองเจิ้นซิง พวกหลี่เฟยไปมาหาสู่กับประธานฟางหลายครั้งแล้ว ประธานฟางรู้จักนิสัยพวกเขาดี”

รุ่นสองของเมืองเจิ้นซิงพวกนี้ นิสัยไม่นับว่าแย่เกินไป

แม้ตอนหลังจะรู้ว่าถูกฟางผิงหลอกเอาอาวุธวิเศษห้าชิ้นไป คนพวกนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไร

สาเหตุมาจากตระกูล ผู้อาวุโสแข็งแกร่ง คนพวกนี้ถึงจะเย่อหยิ่งจองหอง แต่อันที่จริงนิสัยกลับนับว่าใสซื่อบริสุทธิ์

รักหรือเกลียดแทบจะมองจากภายนอกได้อย่างชัดเจน

กลับเป็นผู้ฝึกยุทธ์จากโลกข้างนอก มีประสบการณ์โชกโชน แต่ละคนล้วนเป็นระดับสุนัขจิ้งจอก ถึงขั้นหกแล้วแทบจะไม่มีใครใสซื่ออีก

คนที่เปิดเผยจริงใจอย่างถังเฟิง หากมองเขาเป็นคนใสซื่อจริงๆ งั้นตายยังไม่รู้จะตายยังไงแล้ว

ฟางผิงไม่ได้ให้คำสัญญาอะไร เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ปรมาจารย์ซูเกรงใจแล้ว ตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจอะไรด้วยซ้ำ…”

ซูเฮ่าหรานไม่พูดอะไรอีก ฟางผิงไม่ดูแลคนอื่นๆ ไม่เป็นไรเหมือนกัน ประเด็นอยู่ที่เจ้าพวกนี้อย่าหลอกพวกเขาในเขตหวงห้ามก็พอแล้ว

รอบสองเพราะตัวแทนแต่ละประเทศสามารถยอมแพ้แทนผู้เข้าแข่งขันได้ การต่อสู้จึงสิ้นสุดไวกว่า ลดโอกาสบาดเจ็บล้มตายได้เยอะเหมือนกัน

เว้นเสียแต่จะเป็นคู่ต่อสู้ที่ฝีมือสูสีกัน ทั้งสองฝ่ายต่อสู้อย่างดุเดือด บางครั้งพอต่อสู้ได้ที่จริงๆ ผู้ฝึกยุทธ์ตัดสินความเป็นความตายอย่างรวดเร็ว เวลาชั่วพริบตา บางครั้งขั้นเก้าอาจไม่สามารถวิเคราะห์ผลแพ้ชนะได้ในทันทีเหมือนกัน

แบบนี้แล้ว รอมาถึงรอบที่สอง ขั้นหกสูงสุดท้าประลองหมดแล้วเพิ่งมีคนตายหนึ่งคนเท่านั้น

ปรมาจารย์ขั้นเจ็ดสองคนยังคงนิ่งเงียบราวกับรูปปั้นไม่ได้ท้าประลองใคร ไม่รู้ว่าตกลงคิดอะไรอยู่กันแน่

ในเวลานี้ หลี่เต๋อหย่งเดินเข้ามาแล้ว เอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่จำเป็นต้องใช้โอกาสท้าประลองทั้งหมด โอกาสสามครั้งผ่านไปแล้ว สองคนนั้นอาจจะท้าประลองพวกเธอ ตู้หง อย่างน้อยเธอต้องเหลือโอกาสท้าประลองไว้หนึ่งครั้ง รอบต่อไปอย่าท้าประลองอีก! คนอื่นก็เหมือนกัน นอกจากจะมีคนมั่นใจว่าถูกคัดออกจริงๆ จำนวนคนเพียงพอแล้ว ไม่งั้นต้องรักษาโควตาเอาไว้”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา จู่ๆ ฟางผิงก็ได้สติทันที!

ใช่แล้ว เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย

หากใช้โอกาสสามครั้งหมดแล้วจริงๆ ตอนสุดท้ายถูกคนท้าประลองแพ้ขึ้นมา งั้นก็เสียโอกาสแล้ว

โอกาสถูกท้าประลองของฟางผิงใช้ไปหมดแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี้ประกาศออกมาอย่างเหิมเกริม แม้โอกาสจะใช้ไปหมดแล้ว ปรมาจารย์ท้าประลองเขา เขาก็จะยอมรับ

หากเขาใช้โอกาสท้าประลองสามครั้งจนหมด สุดท้ายถูกคนท้าประลองแพ้ นั่นก็เสียโควตาแล้ว

กฏการแข่งขันนี้ แม้ว่าจะลวกๆ อยู่บ้าง กลับแฝงไปด้วยหลายอย่าง

กลยุทธ์การต่อสู้ รวมไปถึงปัญหาความอดทนของผู้ฝึกยุทธ์

คุณอดทนไม่ถึงตอนสุดท้าย คิดอยากจะลงมือเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ สุดท้ายก็อาจจะถูกคนอื่นคว้าผลประโยชน์ไปได้

ไม่นานก็วนมาถึงเจี่ยงเชา

เจ้าหมอนี้จนถึงตอนนี้แทบยังไม่ได้ต่อสู้สักครั้ง

ไม่มีใครท้าประลองเขา ก่อนหน้านี้เขาไม่มีโอกาสท้าประลองคนอื่นเหมือนกัน

ตอนนี้วนมาถึงเขา เจี่ยงเชามองพินิจบนร่างผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนกลางพวกนั้นอยู่นาน ท้ายที่สุดก็มองไปทางซูจื่อซู่ กระซิบว่า “จื่อซู่ พวกเรามาประลองกันดีหรือเปล่า ไม่ต้องต่อสู้จริงจังอะไร เธอยอมแพ้ก็ได้แล้ว?”

ซูจื่อซู่แทบจะโมโหออกมา!

นายอ้วนไร้ยางอายจริงๆ!

หวังจินหยางแทบจะไร้เรี่ยวแรง ไม่อยากพูดอีก

เจ้าหมอนี้จำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยหรือไง?

เจี่ยงเชาโอ้เอ้อยู่พักหนึ่ง รอจนเห็นว่าหลี่เต๋อหย่งทนไม่ไหวอยู่บ้าง จู่ๆ ก็ชี้ไปยังแดนเทพปกรณัมคนหนึ่ง ตะโกนว่า “นาย ลงสนาม!”

ซูจื่อซู่อดก่นด่าไม่ได้ “ไร้ยางอาย! เขาเตรียมตัวอยู่ค่อนวัน ฉันยังคิดว่าอย่างน้อยคงจะท้าประลองระดับเดียวกัน…นึกไม่ถึงว่าจะท้าประลองขั้นหกตอนกลางที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่ง!”

ขั้นหกตอนกลางแต่ละประเทศมีทั้งหมดห้าคน ห้าคนก่อนหน้านี้ก็เคยต่อสู้มาหมดแล้ว ในนั้นมีแดนเทพปกรณัมที่ต่อสู้มาสองสนามแล้ว อาการบาดเจ็บรุมเร้าอยู่บ้าง

ผลปรากฏว่าเจี่ยงเชากลับแล้วใหญ่ เขาเป็นขั้นหกตอนปลายคนหนึ่ง เตรียมการป้องกันอย่างแน่นหนาสุดขีด ลงสนามเลือกแล้วเลือกอีก กลับเลือกคนๆ นี้

“เดาไว้นานแล้ว!”

ฟางผิงส่ายหน้าอย่างจนใจ เจ้าอ้วนนี้ไม่เหมือนผู้ฝึกยุทธ์สักนิด แทบไม่รู้ว่าฝึกวิชามาถึงขั้นหกตอนปลายได้ยังไง ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

ทายาทขั้นสุดยอดคนอื่น ต่อให้กลัวตายขนาดไหนก็ไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนขนาดนั้น

ส่วนผู้ฝึกยุทธ์อาณาจักรหมื่นหอคอยที่แกล้งตายก่อนหน้านี้ นั่นเพราะรู้สึกว่าฝีมือแตกต่างกันจนเกินไป

แต่เจี่ยงเชาอยู่ระดับสูงกว่าอีกฝ่ายช่วงเล็กๆ นึกไม่ถึงว่าจะกลัวตายขนาดนี้

หลี่เต๋อหย่งใบหน้าดำคล้ำอยู่บ้าง แดนเทพปกรณัมคนนั้นก็เผยสีหน้าอึ้งๆ เจ้าอ้วนนี้ทำถึงขนาดนี้ เขาแทบจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดแล้ว!

ไม่งั้นจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรือไง?

แม้จะจนใจยังไง การต่อสู้ก็ยังเป็นการต่อสู้

รอคนๆ นี้ขึ้นเวทีแล้ว…ทุกคนก็ได้เปิดหูเปิดตากับการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม

—————

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน