ตอนที่ 553 วายร้าย (3)
………………..
ตั้งแต่ต้นจนจบเจี่ยงเชาแทบจะไม่ต่อสู้กับอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป พอหาโอกาสได้ถึงจะใช้กระบี่ฟาดกลับไปเท่านั้น
เขาต่อสู้ผลาญพลังอีกฝ่ายเป็นหลัก!
ยังไงอีกฝ่ายก็ไม่สามารถฆ่าเขาด้วยกระบวนท่าเดียวได้อยู่แล้ว ทะลวงการป้องกันล้วนเป็นเรื่องยาก
เขาอยู่ระดับสูงกว่าอีกฝ่ายช่วงเล็กๆ ปราณแข็งแกร่งกว่า ถ่วงเวลาจนถึงสุดท้าย ไม่มีปราณแล้วก็อาศัยร่างกายต่อสู้…อีกฝ่ายทะลวงการป้องกันของเกราะหลายชั้นไม่ได้
การต่อสู้นี้ ทำเอาฟางผิงนั่งสัปหงก
คนอื่นๆ ก็เริ่มคุยเล่นกันขึ้นมา พวกเขาแทบจะลืมไปว่าบนเวทียังมีสองคนนี้แข่งขันกันอยู่
ฟางผิงยังคิดอยากจะควักไพ่ขึ้นมาเล่นกับพวกเหล่าหวังด้วยซ้ำ
ฟางผิงหาวหวอด หวังจินหยางกลับกดเสียงว่า “นายอ้วนนี้…นายว่าเขาอาจจะเป็นพวกที่หลอกให้ศัตรูตายใจหรือเปล่า?”
“เขา?”
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “พูดยาก แต่เรื่องไร้ยางอายยังถือว่าเป็นวิถีของยอดฝีมืออยู่บ้าง…ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งไร้ยางอาย!”
ด้านข้าง พวกรัฐมนตรีหวังใบหน้าเปลี่ยนสีกันยกใหญ่!
พูดเหลวไหลอะไรกัน!
พวกเราไร้ยางอายเหมือนเจ้าอ้วนนี้หรือไง?
ขั้นหกตอนปลายสู้กับขั้นหกตอนกลาง ทั้งยังสู้กันแบบนี้อีก?
อธิการบดีหญิงจากโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งคนนั้น กวาดตามองซูเฮ่าหรานที่เผยสีหน้าดูไม่ได้ไปแวบหนึ่ง เอ่ยหยอกว่า “เก่งกาจจริงๆ ด้วย! ใช้ค่าแลกเปลี่ยนที่น้อยที่สุดเพื่อให้ได้ชัยชนะมา ถือเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอด”
ซูเฮ่าหรานแค่นเสียงในลำคอ!
เมล็ดพันธุ์ชั้นยอด…เมล็ดพันธุ์ชั้นยอดส่งให้พวกเธอเอาไหมล่ะ?
ทั้งสองคนต่อสู้กันกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ สู้จนพระอาทิตย์แทบจะตกดินแล้ว ในที่สุดเจี่ยงเชาก็เป็นฝ่ายชนะ!
เขาชนะเพราะถ่วงเวลาอีกฝ่าย ถ่วงจนขั้นหกตอนกลางหอบหายใจ ไม่อยากสู้ต่อแล้วจริงๆ เป็นฝ่ายขอยอมแพ้
นี่เป็นผู้เข้าร่วมแข่งขันคนแรกในสนามที่เป็นฝ่ายตะโกนว่า ‘ยอมแพ้’ ออกมา
เขาไม่อยากสู้แล้ว!
ไม่สิ เขาไม่อยากวิ่งแล้ว วิ่งไม่ไหวแล้วจริงๆ ทั้งตามไม่ไหวด้วย เจ้าอ้วนนั่นตะบี้ตะบันวิ่ง เขาไล่ตามจนเหนื่อย ยังต้องป้องกันกระบี่เล่มใหญ่ที่ฟาดตัวเองด้วย เขาต้านไม่ไหวจริงๆ
สู้มาถึงขั้นนี้แล้ว แทบไม่มีใครอยากให้ทั้งสองคนสู้ต่อไปอีก
เขายอมแพ้ หลี่เต๋อหย่งก็ยอมรับทันที เอ่ยอย่างรวดเร็ว “คนต่อไป!”
ด้านเจี่ยงเชาเดินกลับมาอย่างห้าวหาญองอาจ เอ่ยด้วยเหงื่อชุ่มหัวว่า “สู้ชนะแล้ว ไม่ง่ายเลย ฉันเกือบจะพลาดท่าคว้าโควตาไม่ได้แล้วสินะ?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ไร้คำพูด
ไม่มีใครเอ่ยปาก!
การท้าประลองของผู้ฝึกยุทธ์ตอนปลายค่อยๆ สิ้นสุดลง
ตอนนี้ในฝูงชนเกิดความวุ่นวายอยู่เล็กน้อย
ขั้นหกตอนกลางเริ่มแล้ว!
ทั้งสิทธิ์ท้าประลองยังวนมาถึงฟางผิงอีกครั้ง
ครั้งนี้ คนๆ นี้จะท้าประลองใครกัน?
ฟางผิงมองคาร์มอนไปแวบหนึ่ง ก่อนจะมองพวกโรซิธไปอีกที ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “โอกาสครั้งที่สาม ฉันอยากจะเหลือไว้ ดังนั้นโอกาสครั้งที่สอง บางทีอาจจะเป็นการท้าประลองสุดท้ายของฉันแล้ว!”
สิ้นเสียงนี้ คาร์มอนก็หน้าเปลี่ยนสี
ฟางผิงจับจ้องเขาตั้งนานแล้ว
ในตอนที่คาร์มอนคิดว่าฟางผิงจะท้าประลองตัวเอง จู่ๆ ฟางผิงก็มองไปทางปู้ถัวเย๋ที่ไว้ผมยาวคนนั้น “พระปลอม พวกเรามาสู้กันสักสนามเป็นไง?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลายคนต่างคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
พวกตู้หงทยอยมองฟางผิงเช่นกัน ก่อนหน้านี้พูดกันแล้วว่ารอบนี้จะจัดการแดนเทพสวรรค์และเมืองโทเทม
ฟางผิงเอ่ยจนแทบไม่ได้ยินว่า “แดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าแข็งแกร่งเกินไป ยังมีปรมาจารย์อีกหนึ่งคน ต้องลดทอนควมสามารถของพวกเขา เทือกเขาแอนดีสกลับไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น”
ทางแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าเงียบมาโดยตลอด ตอนนี้คนที่เหลืออยู่กลับเป็นรองแค่ประเทศจีน มีคนเยอะที่สุด สูญเสียน้อยที่สุดด้วยเหมือนกัน
ส่วนเทือกเขาแอนดีส หลังจากคนข้างนอกท้าประลองไปแล้วก็มีคนบาดเจ็บล้มตาย เข้ารอบไม่เยอะเกินไปอยู่แล้ว
ได้ยินแบบนี้ ทุกคนจึงค่อยตระหนักได้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าเหมือนจะแข็งแกร่งเกินไปอยู่บ้างจริงๆ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน