เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 555

ตอนที่ 555 ไม่มีสติพอ (1)

………………..

หลังจากการท้าประลองของเจี่ยงเชา การต่อสู้ก็ดำเนินต่อไป

ฟางผิงเอาแต่ครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา

รอจนถึงตอนที่ขั้นหกตอนกลางท้าประลอง จู่ๆ เขาก็เอ่ยว่า “จื่อซู่ เธอยังมีโอกาสท้าประลองอีกสามครั้งสินะ?”

ซูจื่อซู่พยักหน้า

“รอบนี้วางแผนจะท้าประลองหรือเปล่า?”

“ไม่…”

ซูจื่อซู่เอ่ยอย่างเขินอายอยู่บ้าง “ฉันคิดว่ารอถึงคนสุดท้ายน่าจะพอแล้ว เข้ารอบไปเลย…”

เธอวางแผนจะนอนรอชนะ จึงพูดอย่างกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

ฟางผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่มีโอกาสไม่สูงนัก อย่างน้อยซูจื่อซู่ต้องชนะสักสนามถึงจะมีหวัง

รอบหลังๆ นั้นไม่ได้สูญเสียเยอะเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็เอ่ยว่า “เธอท้าประลองหวังจินหยาง จากนั้นยอมแพ้ซะ!”

หวังจินหยางมองฟางผิงแวบหนึ่ง ฟางผิงเอ่ยว่า “นายถูกท้าประลองไปหนึ่งครั้งแล้ว ให้จื่อซู่ท้าประลองนายอีกครั้ง เดี๋ยวนายท้าประลองกับหัวเหล็ก หัวเหล็กยอมแพ้ จากนั้นหัวเหล็กท้าประลองเหล่าหวังอีกครั้ง หัวเหล็กยอมแพ้อีกครั้ง…หัวเหล็ก รอบนี้กันให้เหล่าหวังเข้ารอบไปก่อน นายใช้โอกาสถูกท้าประลองเหล่าหวังให้หมด…”

หลี่หานซงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมากอีก

ด้านข้าง เหยาเฉิงจวินเอ่ยว่า “หรือให้ฉันทำดีกว่า…”

“ต้องรักษาผลชนะติดตัวไว้ นายไม่ได้ฟื้นฟูพลังจิตใจเร็วขนาดนั้น รอบหน้าถ้ามีโอกาสจะกันให้นายเข้ารอบ เดี๋ยวนายก็ต้องท้าประลองหัวเหล็ก หัวเหล็กแพ้อีกครั้ง…ให้พวกเราใช้โอกาสถูกท้าประลองหมดแล้วค่อยว่ากัน หัวเหล็ก นาย…เหลือโอกาสท้าประลองไว้สองครั้ง ต้องชนะหนึ่งสนามให้ได้!”

หลี่หานซงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “วางใจ ต้องชนะแน่!”

ในหมู่พวกเขาสามคน หลี่หานซงมีการป้องกันแข็งแกร่งที่สุด ทั้งยังฟื้นฟูไว ถ้าลงสนาม อันที่จริงมีโอกาสชนะมากที่สุด

ฟางผิงครุ่นคิดจนถึงตอนนี้จึงค้นพบว่าแต่ละประเทศต่างพยายามใช้โอกาสถูกท้าประลองของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนกลางและตอนปลาย

มาถึงเวลานี้แล้ว เขายังจะมองไม่ออกได้ยังไง

ทุกคนต่างเหลือโอกาศถูกท้าประลองของยอดฝีมือพวกนั้นเอาไว้ ถึงตอนสุดท้ายแล้วถ้าไม่มีผลชนะอยู่กับตัว พวกหลี่หานซงถูกคนจับจ้อง บางทีอาจจะต้องท้าประลองกับผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดหรือปรมาจารย์พวกนั้นแล้ว

ส่วนซูจื่อซู่…พวกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนกลางยังมีคนที่ไม่ถูกคัดออก นี่เห็นได้ชัดว่าจะให้พวกเขาแก้ไขปัญหากันเอง

โอกาสท้าประลองน้อยลงหนึ่งครั้งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ไม่นานก็มาถึงการท้าประลองของขั้นหกตอนกลาง พวกหลี่หานซงทำตามที่ฟางผิงบอกเช่นกัน ใช้โอกาสของกันและกันให้หมดไป

โอกาสถูกท้าประลองของเหล่าหวังถูกใช้หมดสามครั้งแล้ว เข้ารอบด้วยการชนะทั้งหมด ขอแค่เขาไม่เป็นฝ่ายไปท้าประลองคนอื่น คนอื่นก็ไม่มีโอกาสท้าประลองเขาแล้ว

ทางหลี่หานซงก็ใช้ไปสองครั้งแล้วเหมือนกัน

หลังจากนั้นไม่นาน รอบที่สี่ก็เริ่มขึ้น

รอบนี้ต่อสู้ไม่เยอะแล้ว ดูเหมือนแต่ละฝ่ายต่างวางแผนอะไรบางอย่าง ใช้โอกาสคนบางส่วนให้หมดไป รับประกันให้คนพวกนี้เข้ารอบ

รอจนถึงภิกษุหนวดยาวจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าคนนั้น หนวดยาวไม่ได้ถูกท้าประลองมาโดยตลอด ทั้งไม่ได้ท้าประลองคนอื่นด้วย

เวลานี้สายตากลับตกอยู่ที่หลี่หานซง เอ่ยเนิบช้าว่า “ฉันท้าประลองหลี่หานซง!”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ฟางผิงก็เผยสีหน้าดูไม่ได้

หลี่หานซงถูกท้าประลองสองครั้งแล้ว ท้าประลองกับคนอื่นไปอีกสองครั้ง ตอนนี้ถูกท้าประลองอีก ครั้งสุดท้ายเขาทำได้แค่ต้องชนะเท่านั้น

ซูเฮ่าหรานมองฟางผิงไปแวบหนึ่ง ฟางผิงเอ่ยเสียงเบาว่า “ยอมแพ้”

ซูเฮ่าหรานไม่พูดมาก เอ่ยว่า “ยอมแพ้!”

เห็นฉากนี้ จู่ๆ ฟางผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ปรมาจารย์ซู ไม่สู้ให้หัวเหล็กท้าประลองจื่อซู่ ช่วยคุณคัดเธอออก?”

ซูเฮ่าหรานมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “หากเธอแพ้ก็แล้วไป ชนะแล้ว…นั่นก็ไม่อาจหลีกให้พวกเธอได้อีก”

แพ้แล้ว หลี่หานซงท้าประลองซูจื่อซู่ เขาไม่คัดค้านอะไร

แต่ชนะแล้ว เวลานี้หลี่หานซงจะทำให้ซูจื่อซู่ถูกคัดออก นั่นคงไม่ได้แล้ว

ฟางผิงหัวเราะ ไม่พูดอีก ดูท่าซูเฮ่าหรานจะรู้สึกซับซ้อนในใจเหมือนกัน ด้านหนึ่งไม่อยากให้หลานสาวไป อีกด้านไม่อยากจะปล่อยโควตาไป บางทีอาจวาดหวังให้หลานสาวกลายเป็นปรมาจารย์ได้

นับวันสถานการณ์ก็ยิ่งไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสกลายเป็นปรมาจารย์ได้รวดเร็วก็ไม่อาจจะปล่อยไปง่ายๆ

สามปีหลังจากนี้อาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว

รอบที่สี่สิ้นสุดลง ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว

เวลานี้หลี่เต๋อหย่งประกาศว่า “ตอนนี้ยังมีผู้ฝึกยุทธ์ที่รักษาผลชนะได้ยี่สิบหกคน ผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่มีผลชนะยังมีโอกาสท้าประลองอีกสิบสองคน ทั้งหมดสามสิบแปดคน รอบนี้ทุกคนครุ่นคิดให้ดีว่าจะท้าประลองหรือเปล่า เพราะโอกาสถูกท้าประลองของหลายคนน้อยลงแล้ว รอบนี้ไม่ท้าประลอง โอกาสถูกท้าประลองใช้หมดแล้ว งั้นแม้พวกเธอจะเหลือโอกาสท้าประลองไว้ ก็ไม่มีใครให้เธอท้าประลองอีก ไม่สามารถคว้าโควตาได้แล้ว”

พูดจบ หลี่เต๋อหย่งก็เอ่ยว่า “ผู้ฝึกยุทธ์ที่สิทธิ์ถูกท้าประลองสามครั้งใช้หมดแล้ว ทั้งยังรักษาผลชนะไว้ได้มาอยู่รวมกับฉันก่อน”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลายคนจึงหยัดกายขึ้นเดินไปทางหลี่เต๋อหย่ง

ฟางผิงและหวังจินหยางอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน

ฟางผิงมองหลี่หานซงและเหยาเฉินจวินแวบหนึ่ง พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินไปทางนั้น

ไม่นานหลี่เต๋อหย่งก็มองสำรวจไปรอบๆ “ทั้งหมดสิบเจ็ดคน พวกเธอสิบเจ็ดคน ไม่ว่าจะมีโอกาสท้าประลองหรือเปล่า ขอแค่หลังจากนี้ไม่ท้าประลองอีก งั้นโควตาก็แทบจะเป็นที่แน่นอนแล้ว”

“ยี่สิบเอ็ดคนที่เหลือ ในหมู่พวกเธอต้องมีคนถูกคัดทิ้งแปดคน โควตาถึงจะถูกกำหนดอย่างเป็นทางการ”

—————

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน