เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 554

ตอนที่ 554 ชนะคนโดยไม่ต้องใช้กำลัง (2)

………………..

เวลานี้…ทั้งสนามตกสู่ความเงียบอย่างน่าตกใจ

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนปลายที่ท้าประลองเขาคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก!

สู้หรือไม่สู้ดี?

เจ้าหมอนี้ ทำท่าราวกับถ้านายมีความสามารถก็ซ้อมฉันให้ตายดูสิ จะน่าชิงชังเกินไปแล้ว!

ฟางผิงเผยสีหน้าแข็งทื่อเช่นกัน อดถามไม่ได้ “เขา…ผู้อาวุโสของเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ งั้นเหรอ?”

ซูเฮ่าหรานถึงกับจนใจ ไม่อยากพูดออกมา

รัฐมนตรีหวังแทบจะไม่ปรากฏสีหน้าอะไร เจ้าหมอนี้ทำขายหน้าประเทศจีนแท้ๆ แต่ยังคงอธิบายไปว่า “ราชาสงครามเป็นหนึ่งในขั้นสุดยอดที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษยชาติ ขั้นสุดยอดของมนุษย์มีทั้งหมดประมาณห้าสิบคน อย่างน้อยราชาสงครามก็สามารถจัดอยู่ในห้าอันดับแรก หลักๆ เป็นยังไงฉันไม่รู้ แต่ฉันได้ยินมาว่าเมื่อนานมาแล้ว ขั้นสุดยอดถ้ำใต้ดินและขั้นสุดยอดมนุษย์ประมือกัน ราชาสงครามเคยต่อสู้หนึ่งต่อสองกับเผ่าพืชปีศาจ ขั้นสุดยอดคนหนึ่งและพืชปีศาจขั้นสุดยอดตัวหนึ่งลงมือกับเขาพร้อมกัน…ท้ายที่สุดผู้ที่ถอนตัวออกไปกลับเป็นสองคนนั้น เธออย่าลืมว่าขั้นสุดยอดล้วนเป็นประเภทที่เดินมาจนสุดทางแล้ว ตามหลักอันที่จริงแทบไม่ต่างกันมาก แต่ราชาสงครามสู้หนึ่งต่อสองยังเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบ หนึ่งต่อหนึ่ง…เกรงว่าจะมีความสามารถฆ่าขั้นสุดยอดได้จริงๆ แล้ว…”

“ผู้บัญชาการหลี่ก็ทำได้ไม่ใช่เหรอครับ? งั้นเขากับราชาสงครามใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”

คำพูดนี้รัฐมนตรีหวังก็ไม่อาจพูดได้แล้ว

ซูเฮ่าหรานครุ่นคิดแล้วกลับเอ่ยว่า “ผู้บัญชาการหลี่ถูกขนานนามว่าเป็นราชาพิภพ ทั้งยังเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่อยู่จุดสูงสุดของมนุษยชาติ ทางประเทศจีน ราชาสงคราม ราชาพิภพ ราชานักรบในหมู่ขั้นสุดยอดแล้วต่างเป็นประเภทที่ฝีมือแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ว่า…อันที่จริงอันดับหนึ่งที่ยอมรับโดยทั่วกันคือราชาสยบฟ้าผู้อาวุโสของตระกูลหลี่! เธออย่าลืมว่าราชาขั้นสุดยอดล้วนมีฉายาสั้นๆ แต่ผู้อาวุโสตระกูลหลี่กลับเป็นฉายาคู่…”

ซูเฮ่าหรานพูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ตระหนักได้ว่าพูดมากไป เวลานี้หลี่อี้หมิงกลับรับบทสนทนาว่า “ราชาขั้นสุดยอดล้วนเป็นฉายาสั้นๆ ฉายาเดิมของผู้อาวุโสก็ใช่เหมือนกัน แต่จากที่ได้ยินมา ผู้อาวุโสได้เดินสองเส้นทางแล้ว! ดังนั้นฉายาเดิมยังถูกเติมเข้ามาอีก กลายเป็นฉายาคู่ ไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสอ่อนแอ แต่หมายความว่าผู้อาวุโสเดินสองเส้นทางแล้วจริงๆ อย่ามองว่าเทพสงคราม เทพดวงอาทิตย์ของพวกต่างชาติก็เป็นคำยาวๆ นั่นไม่ได้มีความหมายอะไร มีแค่ประเทศจีนของเราเท่านั้น ในหมู่ขั้นสุดยอด ผู้อาวุโสเป็นขั้นสุดยอดคนเดียวที่มีฉายาคู่ ทั้งไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก ไม่สนใจการจัดอันดับ ไม่งั้นในหมู่ขั้นสุดยอดน่าจะเป็นผู้อาวุโสที่อยู่อันดับแรก”

ซูเฮ่าหรานเห็นหลี่อี้หมิงจะอ้าปากพูดอีกก็หัวเราะว่า “จะพูดยังไงดีล่ะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อาจมีคู่แข่งอยู่เหมือนกัน แต่ทุกคนยังไม่เคยประมือกัน ราชาสยบฟ้าก็ไม่อาจเรียกตัวเองว่าเป็นที่หนึ่ง ถึงระดับขั้นนั้นแล้วคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้อีก”

ฟางผิงเอ่ยด้วยใบหน้าตกตะลึง “พูดแบบนี้ ราชาสงครามอาจจะมีความสามารถฆ่าขั้นสุดยอด งั้นไม่ใช่ว่าราชาสยบฟ้าจะ…”

“ถูกต้อง!”

ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าราชาสงครามอาจจะสามารถขั้นสุดยอดได้ อันที่จริงซูเฮ่าหรานไม่มั่นใจ ตอนนี้กลับเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง “ราชาสยบฟ้าเคยฆ่าขั้นสุดยอดมาก่อน แต่ไม่ใช่จากเขตหวงห้าม เป็นทะเลหวงห้าม เกราะในขั้นสุดยอดของหลี่อี้หมิงก็คือสัตว์ปีศาจตัวนั้น…”

ฟางผิงอึ้งไปเล็กน้อย อดมองหลี่เฟยไปแวบหนึ่งไม่ได้ หลี่เฟยถูกมองจนรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง

หลี่อี้หมิงเอ่ยเสียงดังว่า “มองเขาทำไม ราชาสยบฟ้าเป็นผู้อาวุโสของฉัน ปู่ฉันเป็นขั้นสุดยอด มีของดีอะไรก็ให้ฉันก่อน รอฉันไม่ต้องการแล้วก็ให้พวกเขาอีกที ผู้ฝึกยุทธ์มองฝีมือเป็นหลักอยู่แล้ว ฉันไปเมืองเจิ้นซิง ตระกูลหลี่ได้ของมา ไม่ให้ฉันละจะให้ใครอีก…”

ฟางผิงไร้คำจะโต้ตอบ!

หลี่เฟยกลับใบหน้าแดงก่ำ โมโหอยู่บ้าง

แม่งเหอะ เป็นโจรก็กล้าอวดอยู่ที่นี่ได้?

หลี่อี้หมิงเจ้าหมอนี้อาศัยที่ปู่ตัวเองเป็นขั้นสุดยอด หลายครั้งมักจะวางอำนาจบาตรใหญ่ที่เมืองเจิ้นซิง ตั้งใจไปรังแกคนโดยเฉพาะ

คนของเมืองเจิ้นซิงแทบจะถูกเขาจัดการไปไม่น้อยแล้ว

คลังสินค้าของตระกูลหลี่ เจ้าหมอนี้อยากเข้าก็เข้าได้ทันที จะเหมือนหลี่เฟยที่ไหนกัน…ไม่มีสิทธิ์เข้าไปด้วยซ้ำ เขากล้าบุกเข้าไป คนตระกูลหลี่คงจะซ้อมเขาตาย

เวลานี้ฟางผิงรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจเรื่องชาวบ้านขึ้นมาไม่น้อย

“หลี่ เฉิน เสิ่น เจี่ยง ซู เหวย เจิ้ง หลิว เจียง…”

เมืองเจิ้นซิงลบตระกูลหยางออกไป ยังมีอีกสิบสองตระกูล

ตอนนี้ดูแล้ว ตระกูลหลี่แข็งแกร่งที่สุด นอกจากมีขั้นสุดยอดสองคน ขั้นสุดยอดสองคนนี้ยังเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่ขั้นสุดยอดอีก นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

ตระกูลเจี่ยงน่าจะฝีมือไม่อ่อนด้อยเหมือนกัน ไม่เห็นเหรอว่าเจี่ยงเชาเหิมเกริมขนาดไหน?

ตระกูลอื่นๆ ฟางผิงคาดเดาอย่างคร่าวๆ ตระกูลซูน่าจะไม่แย่เหมือนกัน ตระกูลอื่นๆ ก็พูดยากแล้ว

อันที่จริงมองจากฝีมือทายาทขั้นสุดยอดที่เข้าร่วมก็มองออกได้แล้ว ซูจื่อซู่อ่อนแอที่สุด อ่อนแอที่สุดไม่ได้หมายความว่าตระกูลจะอ่อนแอที่สุด ตระกูลซูอาจจะไม่ได้ครองความได้เปรียบในผู้ฝึกยุทธ์รุ่นอายุต่ำกว่าสามสิบปีเท่านั้น

แต่หากอ่อนแอจริงๆ ครั้งนี้เมืองเจิ้นซิงส่งมาแค่เก้าคน ตัดตระกูลเฉินและตระกูลเสิ่นจากหน่วยทหารออก เมืองเจิ้นซิงยังมีอีกสองตระกูลที่ไม่สามารถคว้าโควตาได้

ซูจื่อซู่ที่อยู่ขั้นหกตอนกลางนึกไม่ถึงว่าจะมาเข้าร่วมการแข่งได้ หมายความว่าผู้อาวุโสของเธอเก่งกาจ

รู้ตั้งแต่แรกคงไม่ท้าประลอง!

เดี๋ยวผู้อาวุโสเขามาล้างแค้น เดี๋ยวให้พี่ชายโรคจิตของเขามาล้างแค้น กระทั่งปู่ของเขายังลากออกมาด้วย

หากปล่อยให้พูดต่อไปอีก ยังจะดึงใครออกมาล้างแค้นอีก?

ฉันยังไม่ทันได้สู้นายเลย ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเดียวกัน นายไม่อายบ้างหรือไง?

เจี่ยงเชาไม่คิดว่าน่าอายกลับภูมิใจซะด้วยซ้ำ ตอนที่เดินกลับมายังเอ่ยเสียงดังว่า “การแข่งขันนี้เดิมทีก็แข่งผู้หนุนหลังกันชัดๆ ทายาทของราชาสงครามยังเข้าไปในเขตหวงห้ามไม่ได้ นั่นยังจะเล่นอะไรกันอีก หลี่อี้หมิง นายก็อย่าสู้เลย สู้เพื่ออะไร คว้าโควตาไปตรงๆ ก็ได้แล้ว ดูสิใครจะไม่กล้าให้นาย!”

หลี่อี้หมิงมองเขาด้วยแววตาเยียบเย็น เอ่ยอย่างรังเกียจว่า “นายอย่ามายืนใกล้ฉัน นายไม่รู้จักฉัน ฉันก็ไม่รู้จักนายเหมือนกัน!”

เจี่ยงเชาเบะปาก โง่หรือเปล่าล่ะ!

คว้าโควตาได้โดยตรง ยังจะสู้อีกทำไม ไม่ได้รับบาดเจ็บ ดีจะตายไป?

เจี่ยงเชาน่าจะคว้าโควตาได้แน่นอนแล้ว

อีกฝ่ายยอมถอยไม่สู้ต่อ คนอื่นๆ น่าจะไม่ท้าประลองเขาอีกเหมือนกัน แม้จะมีคนที่ผู้อาวุโสฝีมือใกล้เคียงกับราชาสงคราม เกรงว่าคงไม่สนใจจะสู้กับเขาเหมือนกัน

ทายาทขั้นสุดยอดบางส่วนยังต้องการหน้าตา ทั้งอยากพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน

เจี่ยงเชาไม่มีความคิดจะพิสูจน์ตัวเองแม้แต่น้อย สู้กับเขาไปไม่มีประโยชน์

ทางฟางผิงกลับมองเจ้าอ้วนนี้ด้วยแววตาลึกล้ำ

จนถึงตอนนี้แล้ว ฟางผิงคิดว่าเจ้าอ้วนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ชนะคนโดยไม่ต้องใช้กำลัง การต่อสู้ชั้นสูงชัดๆ!

—————-

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน