ตอนที่ 92 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)
ตอนนี้นักศึกษาใหม่ไม่มีใจฟังเรื่องหอพักของตัวเองแล้ว เขาพอรู้มาอยู่บ้างว่าหลอมกระดูกครั้งที่สองคืออะไร ไม่ได้ซื่อบื้อเหมือนอย่างกัวเซิ่ง
แต่หลอมกระดูกครั้งที่สองต้องทำยังไง เขาไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าต้องทะลวงปราณให้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบแคลขึ้นไปถึงจะทำได้
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นที่รวมตัวของอัจฉริยะจริงๆ ด้วย แค่เดินเล่นในนี้ก็อาจเจอคนที่ปราณสูงกว่าร้อยห้าสิบแคลได้แล้ว
นักศึกษาคนนั้นไม่เผยท่าทีขุ่นเคืองอะไรอีก ปราณเขาอยู่ที่หนึ่งร้อยสามสิบแปดแคลเท่านั้น รู้ดีว่าตัวเองเทียบคนพวกนั้นไม่ได้เลย
ไม่ว่าสาเหตุที่อีกฝ่ายปราณสูงเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์หรือฐานะทางบ้านดี เขาล้วนไม่มีความจำเป็นต้องคับข้องใจ
—
“รุ่นพี่โจว การแบ่งหอพักมีความแตกต่างยังไงเหรอครับ?”
เมื่อออกมาจากจุดต้อนรับ ฟางผิงก็ถามขึ้นมา ในขณะที่พวกเขากำลังเดินกัน
“หอพักนักศึกษาใหม่แบ่งทั้งหมดเป็นสี่โซน แต่ละโซนมีสองร้อยห้อง โซนหนึ่งอยู่ห้องละคน โซนสองพักสองคน โซนสามพักสามคน ส่วนโซนสี่พักกันสี่คน รองรับคนได้ทั้งหมดสองพันคน ทุกโซนจะมีห้องว่างเหลือไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอการแบ่งหอพักในภายหลัง พวกนายได้อยู่โซนหนึ่ง ก็พักหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง”
“หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง…”
ฟางผิงเดาะลิ้น มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีเงินจริงๆ นักศึกษากว่าพันคน คาดไม่ถึงว่าจะจัดสรรหอพักให้ถึงแปดร้อยห้อง
โจวอวิ๋นเอ่ยด้วยยิ้มบาง “เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สร้างห้องหลังหนึ่งจะสักเท่าไหร่กันเชียว ทั้งตอนที่คนของเราจบการศึกษาออกไป ก็ประกอบกิจการใหญ่โต ช่วยสร้างหอพักให้มหาวิทยาลัยฟรี ส่วนอาณาเขตของมหาวิทยาลัยมีประมาณสามหมู่ นักศึกษาราวๆ หกพันคน นายคิดว่าจะขาดแคลนเรื่องพื้นที่อีกไหมล่ะ?”
ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและพื้นที่ ห้องพักก็ทำให้ฟรี ความจริงจะสร้างหอพักให้อยู่ห้องละคนยังได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยแค่อยากกระตุ้นพวกนักศึกษาให้พัฒนาตัวเองเท่านั้น
—
โซนหอพักตั้งอยู่ทางตะวันออกของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่โซนของนักศึกษาใหม่ แต่นักศึกษาปีอื่นก็อยู่ทางนี้เช่นเดียวกัน
ตอนที่เดินมาถึงโซนหอพัก ฟางผิงค่อยตระหนักว่าโลกทัศน์ของเขาคับแคบเกินไปจริงๆ
นี่ไม่ใช่หอพักที่เขาจินตนาการไว้สักนิด แต่เหมือนเป็นบ้านพักที่ตกแต่งอย่างมีระดับมากกว่า!
ไม่ใช่หอพักใหญ่ๆ ที่สูงหลายชั้น เป็นหอพักเล็กๆ ที่สูงแค่สองสามชั้นทั้งหมด
สองข้างทางมีต้นไม้เขียวชอุ่มละลานตา ดอกไม้ใบหญ้าชูช่ออย่างสวยงาม
ตึกเล็กๆ นั้นตั้งเรียงรายโอบล้อมอ่างเก็บน้ำโค้งเป็นทรงกลม
ฟางผิงลอบชมในใจ กัวเซิ่งเอ่ยอย่างตกตะลึงเช่นกัน “แทบไม่ต่างอะไรกับบ้านฉันเลย มหาวิทยาลัยมีเงินจริงๆ ด้วย…”
จากคำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าบ้านนายอ้วนคงมีฐานะเหมือนกัน
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร บริจาคเงินสองสามแสนเพื่อสนับสนุนหอพัก ถ้าไม่มีเงินคงทำไม่ได้หรอก
โจวอวิ๋นพอใจกับท่าทีของพวกเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “บางครั้งผู้ฝึกยุทธ์ต้องใช้ชีวิตอย่างกดดัน หากกระทั่งที่พักยังคับแคบ ไม่ช้าก็เร็วคงจะสติแตกเข้าสักวัน ทางมหาวิทยาลัยสร้างสภาพแวดล้อมแบบนี้เพื่อให้พวกเราสามารถผ่อนคลายจิตใจของเราได้ แน่นอนว่ามีแค่มหาวิทยาลัยพวกเราเท่านั้น! แม้จะเป็นปักกิ่ง ยังไม่มีเงินหนาเท่าพวกเรา!”
โจวอวิ๋นดูภาคภูมิใจกับมหาวิทยาลัยตัวเองอย่างมาก ตอนที่เอ่ยถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แม้จะไม่มีท่าทีดูแคลน แต่ก็พยายามข่มอีกฝ่ายอยู่บ้าง
โจวอวิ๋นพูดพลางเดินนำพวกเขาไปยังโซนนักศึกษาใหม่
โซนนักศึกษาใหม่ตั้งอยู่มุมตะวันออกของเขตหอพัก ตอนนี้โซนอื่นๆ ต่างเงียบเชียบ มีคนบางตา แต่โซนนักศึกษาใหม่กลับคราครั่งด้วยผู้คน
ระหว่างทางพวกฟางผิงพบเจอนักศึกษาใหม่บางส่วนที่มารายงานตัวเหมือนกัน
แต่ทุกคนไม่รู้จักกัน มีแค่โจวอวิ๋นที่ทักทายเพื่อนนักศึกษาปีสูงๆ ของเขา ไม่งั้นพวกเขาคงจะเงียบเหงาไปตลอดทาง
—
ต่อจากนั้นไม่กี่นาที ฟางผิงมาถึงห้องของตัวเอง
โซนหนึ่งห้องแปดสิบหก
ห้องแปดสิบหกอยู่ชั้นสอง โซนนักศึกษาใหม่จะเป็นหอพักสองชั้นทั้งหมด ชั้นบนถึงแค่หนึ่งร้อย ชั้นล่างเริ่มที่หนึ่งร้อยหนึ่งถึงสองร้อย
โครงสร้างทั้งหมดยังคงใช้การตกแต่งหอพักเหมือนห้องในโรงแรม
แบ่งห้องเป็นสองฟากของทางเดิน ฟากละห้าสิบห้อง
ห้องของฟางผิงอยู่กลางระหว่างแปดสิบห้าและแปดสิบเจ็ด ตรงข้ามคือหมายเลขสิบห้า
ตอนนี้หน้าห้องอื่นๆ ก็มีคนยืนอยู่ประปราย แต่แถวห้องของฟางผิงกลับเงียบกริบ คนน่าจะยังมาไม่ถึง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน