ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1689
จากขั้น 8 เป็น 9 นั้นไม่ใช่การพังกำแพงธรรมดา มันต้องใช้เวลาที่ยาวนานอย่างมาก
มันราวกับเปลี่ยนจากบึงเป็นทะเล มันยากแค่ไหนที่จะสั่งสมพลังให้มากระดับนั้นได้
สิ่งที่จางหยูต้องทำในตอนนี้คือสั่งสมความเข้าใจและรอเวลาที่เหมาะในการทะลวงผ่านได้
จ้านเทียนเกอได้ทำการควบคุมพาหนะมิติให้เดินทางต่อไป หลินเป่ยชานและเกลดันใช้โอกาสนั้นในการทำความเข้าใจการสร้าง เสี่ยวเสียเบื่อที่ไม่มีอะไรทำ เมื่อเห็นคนอื่นๆบ่มเพาะ มันก็ได้แต่ต้องทำการบ่มเพาะไปด้วย
ในทางกลับกันแล้วการบ่มเพาะของเสี่ยวเสียน่ะง่ายกว่าและได้ผลในทันที
ตอนนั้นเองอยู่ๆความเร็วของพาหนะมิติก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
จางหยู, หลินเป่ยชานและคนอื่นๆได้สติกลับมาและมองไปที่จ้านเทียนเกอ
จ้านเทียนเกอเปลี่ยนสีหน้าไปและพูดขึ้นมา “ ไม่มีอะไร แค่โจรโกลาหลไม่กี่คน”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมาก่อนจะตะโกนบอกกับพวกโจรว่า “ ไปให้พ้น” ซึ่งทำให้เขากลืนกินพวกโจรโกลาหล มันกินเวลาแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น แค่ฮึดฮัดออกมาก็กำจัดโจรโกลาหลที่เป็นผู้ควบคุมขั้น 6 ได้
จ้านเทียนเกอได้แสดงพลังของผู้นำขั้น 8 กำจัดโจรพวกนี้ได้ในพริบตาเหลือแค่จิตผู้สร้างที่หากปล่อยให้อยู่ที่นี่ต่อไปอีกไม่นานคงกลายเป็นสุสานขั้น 6
กลุ่มโจรโกลาหลคนอื่นๆพากันลนลานขึ้นมาและรีบตะโกนขึ้น “ ผู้ควบคุมขั้น 8” ชัดแล้วว่านี่ไม่ใช่แค่ผู้ควบคุมขั้น 8 ทั่วไปแต่เป็นผู้นำขั้น 8 ด้วย
จ้านเทียนเกอแสดงสีหน้าเฉยเมยราวกับเพิ่งขยี้มดไป เขามองไปที่จิตผู้สร้างที่กระจายไปโดยรอบก่อนจะทำการควบคุมพาหนะมิติให้เดินหน้าต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ อึก” เสี่ยวเสียตัวสั่น “ ชายคนนี้แข็งแกร่ง” มันกลัวจ้านเทียนเกอที่ฆ่าผู้ควบคุมขั้น 6 ได้ในพริบตาและทำให้พวกโจรกังวลได้ แม้ว่าตัวมันจะแข็งแกร่งและไม่ต้องเกรงกลัวการโจมตีของพวกที่ต่ำกว่าขั้น 9 แต่มันก็ไม่อาจจะทำแบบจ้านเทียนเกอได้ที่ทำให้ศัตรูหลายพันคนต้องถอยกลับไป ก่อนจะควบคุมพาหนะมิติให้เดินหน้าต่อ
เวลาผ่านไป 1,500 ปีในที่สุดพาหนะมิติก็ได้เข้ามาในเขตใต้ตอนเหนือได้
ตอนนั้นความเข้าใจของจางหยูเพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมาก ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผู้ควบคุมขั้น 9 เลย
เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาอยู่ห่างจากผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่มากนัก บางทีอีกไม่กี่ร้อยปีเขาอาจจะขึ้นไปถึงขั้น 9 ได้สำเร็จ คนในโกลาหลมักจะคำนวณเวลาเป็นยุค ยุคหนึ่งมีประมาณ 1-2 ล้านล้านปี พูดโดยทั่วไปแล้วการจะกลายเป็นยอดฝีมือจริงๆต้องใช้เวลาสักพัก มันไม่อาจจะใช้เวลาหลักวันได้ แม้แต่การพัฒนาจากขั้น 1 มาถึงขั้น8 นั้นก็ยังต้องใช้เวลาหลายสิบยุคก่อนจะขึ้นเป็นผู้นำในตำนานได้
แน่นอนว่ามันอาจจะมีคนที่โชคดีอย่างพวกที่ได้รับหินแห่งการสร้างขั้นสวรรค์ที่ทำให้ย่นเวลาได้อย่างมาก
แต่หินแห่งการสร้างขั้นสวรรค์และสมบัติอื่นๆนั้นมีจำกัด บทบาทของมันก็มีจำกัดด้วย มันอาจจะช่วยในการบ่มเพาะได้อย่างมากแต่มันไม่ได้มีมากมายนัก มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนถวิลหาสุสานขั้นที่ 9 ยังไงซะสุสานทุกแห่งก็คงอยู่ได้ชั่วครู่ คนอย่างจางหยูที่พัฒนาตัวได้เร็วแบบนี้บอกได้ว่าโดดเด่น เขาคือคนที่หายากอย่างมาก
ไม่เคยมีใครขึ้นจากขั้น 8 เป็นขั้น 9 ได้ในเวลาแค่ไม่กี่พันปี ไอลีนโนเวล
ด้วยการมีโลกตันเถียนทำให้จางหยูต่างจากคนอื่นๆ มันทำให้จางหยูทำเรื่องที่คนอื่นๆไม่อาจจะทำได้ คนอื่นไม่อาจจะสั่งสมความเข้าใจได้แบบจางหยู ในตอนที่พาหนะมิติได้เข้าใกล้โลกขั้น 9 ใบหนึ่ง จ้านเทียนเกอก็ได้พูดขึ้นมา “ เรามาถึงโลกนภาใต้แล้ว “
จางหยูมองดูแผนที่ที่เบเกิลเคยเอาให้กับเขาและพบเครื่องหมายของโลกนภาใต้ มันมีเครื่องหมายบนแผนที่ มันเป็นโลกที่ดูเจริญกว่าโลกสวรรค์ร้าง ชัดแล้วว่ามันเป็นโลกที่แข็งแกร่งกว่า
หลินเป่ยชานสูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความตะลึง
“ โลกนภาใต้ถือว่าเป็นโลกอันดับหนึ่งในเขตใต้ตอนเหนือ มันคือที่รวมตัวของยอดฝีมือส่วนมากในเขตใต้ตอนเหนือ ผู้ควบคุมขั้น 8 มีไม่น้อยกว่า 10 คน มันเป็นที่ตั้งของหลายกองกำลัง ข้าคิดจะรับการทดสอบผู้ควบคุมขั้น 8 ข้าลังเลที่จะมาที่โลกนภาใต้เพราะสถานการณ์ที่นี่ซับซ้อนเกินไป สุดท้ายข้าก็เลือกไปที่โลกอื่น “ เกลดันพูดขึ้นมา
เกลดันและคนอื่นๆดูเหมือนจะไม่ได้เป็นมิตรกับโลกนภาใต้นัก “ งั้นรึ ?” หลินเป่ยชานพูดขึ้นมา “ ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ”
“ เจ้าเก็บตัวมานาน เป็นธรรมดาที่เจ้าจะไม่รู้” เกลดันพูดขึ้น “ ข้ามาที่นี่ก็ตอนที่รู้ว่าเบเกิลนั้นอยู่ในโลกนภาใต้เพื่อเข้าทดสอบผู้ควบคุมขั้น 8 ต้องบอกว่าเบเกิลน่ะแข็งแกร่งอย่างมาก ตอนเขายังเด็ก เขามีเรื่องกับคนไปทั่วและยังกดดันโลกนภาใต้ด้วย พวกผู้เยาว์ไม่กล้าหาเรื่องเขา” พูดถึงจุดนั้นเกลดันก็หัวเราะอย่างขมขื่น “ พวกนั้นไม่อาจจะสู้กับเบเกิลได้ พวกนั้นจึงระบายอารมณ์กับคนอื่นๆอย่างคนจากเขตตะวันออกตอนเหนืออย่างเราที่ต้องรับผลแทน”
“ พวกคนที่โดนเบเกิลรังแก ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ” หลินเป่ยชานมองไปที่เกลดัน “ พวกต่ำกว่าขั้น 8 นั้นข้ากลัวว่าคงไม่น่าสนใจ การที่ท่านโดนพวกนั้นหมายหัว มันก็เพียงพอจะยืนยันความสามารถและพรสวรรค์ของท่าน บางทีท่านควรจะดีใจ”
เกลดันกรอกตาใส่ “ ข้าไม่ต้องการเกียรตินี้ เอาจริงๆแล้วหากไม่ใช่เพราะเจ้าสำนักและจ้านเทียนเกออยู่ที่นี่ด้วย งั้นข้าก็คงไม่คิดมายังโลกนี้ คนพวกนี้โดนเบเกิลรังแกไม่รู้เท่าไหร่ ผ่านมาหลายปีพวกนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยวางเรื่องนี้”
“ มันมีผู้ควบคุมขั้น 9 ในโลกนภาใต้รึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
หลินเป่ยชานและเกลดันมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า “ เราไม่รู้”
จ้านเทียนเกอพูดขึ้นมา “ โลกนภาใต้นั้นคือที่รวมตัวของผู้คนมากมาย มันคงอยู่มานาน บอกได้ว่านี่คือหนึ่งในโลกที่เก่าแก่ที่สุดในโกลาหล มันคล้ายกับโลกจำลองของสุสานขั้น 9 หากบอกว่าไม่มีผู้ควบคุมขั้น 9 ที่นี่ข้าคงไม่เชื่อ มันแค่ว่าด้วยความแข็งแกร่งของเราแล้ว แม้ว่าจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 ตรงหน้าแต่เราก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ นอกซะจากว่าอีกฝ่ายจะเผยตัวและเผยความแข็งแกร่งออกมา ใครกันจะบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ”
จางหยูเดินลงมาจากพาหนะมิติและถามถึงตำแหน่งของวังดอกไม้แดงจากคนอื่นๆ
จ้านเทียนเกอรีบเดินตามไป เขาแสดงท่าทีสบายใจราวกับว่าเข้ามาในโลกขั้น 9 ทั่วไป
หลินเป่ยชานและเกลดันดูสีหน้าหม่นลงและรีบเดินตามจางหยูไป
เพราะได้ยินที่จ้านเทียนเกอบอกว่าโลกนภาอาจจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 เสี่ยวเสียจึงดูสงบเสงี่ยมยิ่งกว่าเก่า ยังไงซะผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ลบตัวตนของมันได้ หากพบกับผู้ควบคุมขั้น 9 และทำอีกฝ่ายไม่พอใจ มันอาจจะโดนทำลายไปจากโกลาหลนี้ก็ได้
หลังจากที่เข้ามาในโลกนภาใต้ หลินเป่ยชานก็พูดขึ้นมา “ น้องชาย เจ้ายังไม่มีตราขั้น 8 ที่นี่มีการทดสอบขั้น 8 อยู่”
จางหยูไม่สนใจเรื่องนี้ เรื่องที่เขาสนใจตอนนี้คือเรื่องวังดอกไม้แดงแต่หากมีเวลาเขาก็คิดจะเข้ารับการทดสอบขั้น 8 อยู่
มันราวกับเปลี่ยนจากบึงเป็นทะเล มันยากแค่ไหนที่จะสั่งสมพลังให้มากระดับนั้นได้
สิ่งที่จางหยูต้องทำในตอนนี้คือสั่งสมความเข้าใจและรอเวลาที่เหมาะในการทะลวงผ่านได้
จ้านเทียนเกอได้ทำการควบคุมพาหนะมิติให้เดินทางต่อไป หลินเป่ยชานและเกลดันใช้โอกาสนั้นในการทำความเข้าใจการสร้าง เสี่ยวเสียเบื่อที่ไม่มีอะไรทำ เมื่อเห็นคนอื่นๆบ่มเพาะ มันก็ได้แต่ต้องทำการบ่มเพาะไปด้วย
ในทางกลับกันแล้วการบ่มเพาะของเสี่ยวเสียน่ะง่ายกว่าและได้ผลในทันที
ตอนนั้นเองอยู่ๆความเร็วของพาหนะมิติก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
จางหยู, หลินเป่ยชานและคนอื่นๆได้สติกลับมาและมองไปที่จ้านเทียนเกอ
จ้านเทียนเกอเปลี่ยนสีหน้าไปและพูดขึ้นมา “ ไม่มีอะไร แค่โจรโกลาหลไม่กี่คน”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมาก่อนจะตะโกนบอกกับพวกโจรว่า “ ไปให้พ้น” ซึ่งทำให้เขากลืนกินพวกโจรโกลาหล มันกินเวลาแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น แค่ฮึดฮัดออกมาก็กำจัดโจรโกลาหลที่เป็นผู้ควบคุมขั้น 6 ได้
จ้านเทียนเกอได้แสดงพลังของผู้นำขั้น 8 กำจัดโจรพวกนี้ได้ในพริบตาเหลือแค่จิตผู้สร้างที่หากปล่อยให้อยู่ที่นี่ต่อไปอีกไม่นานคงกลายเป็นสุสานขั้น 6
กลุ่มโจรโกลาหลคนอื่นๆพากันลนลานขึ้นมาและรีบตะโกนขึ้น “ ผู้ควบคุมขั้น 8” ชัดแล้วว่านี่ไม่ใช่แค่ผู้ควบคุมขั้น 8 ทั่วไปแต่เป็นผู้นำขั้น 8 ด้วย
จ้านเทียนเกอแสดงสีหน้าเฉยเมยราวกับเพิ่งขยี้มดไป เขามองไปที่จิตผู้สร้างที่กระจายไปโดยรอบก่อนจะทำการควบคุมพาหนะมิติให้เดินหน้าต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ อึก” เสี่ยวเสียตัวสั่น “ ชายคนนี้แข็งแกร่ง” มันกลัวจ้านเทียนเกอที่ฆ่าผู้ควบคุมขั้น 6 ได้ในพริบตาและทำให้พวกโจรกังวลได้ แม้ว่าตัวมันจะแข็งแกร่งและไม่ต้องเกรงกลัวการโจมตีของพวกที่ต่ำกว่าขั้น 9 แต่มันก็ไม่อาจจะทำแบบจ้านเทียนเกอได้ที่ทำให้ศัตรูหลายพันคนต้องถอยกลับไป ก่อนจะควบคุมพาหนะมิติให้เดินหน้าต่อ
เวลาผ่านไป 1,500 ปีในที่สุดพาหนะมิติก็ได้เข้ามาในเขตใต้ตอนเหนือได้
ตอนนั้นความเข้าใจของจางหยูเพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมาก ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผู้ควบคุมขั้น 9 เลย
เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาอยู่ห่างจากผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่มากนัก บางทีอีกไม่กี่ร้อยปีเขาอาจจะขึ้นไปถึงขั้น 9 ได้สำเร็จ คนในโกลาหลมักจะคำนวณเวลาเป็นยุค ยุคหนึ่งมีประมาณ 1-2 ล้านล้านปี พูดโดยทั่วไปแล้วการจะกลายเป็นยอดฝีมือจริงๆต้องใช้เวลาสักพัก มันไม่อาจจะใช้เวลาหลักวันได้ แม้แต่การพัฒนาจากขั้น 1 มาถึงขั้น8 นั้นก็ยังต้องใช้เวลาหลายสิบยุคก่อนจะขึ้นเป็นผู้นำในตำนานได้
แน่นอนว่ามันอาจจะมีคนที่โชคดีอย่างพวกที่ได้รับหินแห่งการสร้างขั้นสวรรค์ที่ทำให้ย่นเวลาได้อย่างมาก
แต่หินแห่งการสร้างขั้นสวรรค์และสมบัติอื่นๆนั้นมีจำกัด บทบาทของมันก็มีจำกัดด้วย มันอาจจะช่วยในการบ่มเพาะได้อย่างมากแต่มันไม่ได้มีมากมายนัก มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนถวิลหาสุสานขั้นที่ 9 ยังไงซะสุสานทุกแห่งก็คงอยู่ได้ชั่วครู่ คนอย่างจางหยูที่พัฒนาตัวได้เร็วแบบนี้บอกได้ว่าโดดเด่น เขาคือคนที่หายากอย่างมาก
ไม่เคยมีใครขึ้นจากขั้น 8 เป็นขั้น 9 ได้ในเวลาแค่ไม่กี่พันปี ไอลีนโนเวล
ด้วยการมีโลกตันเถียนทำให้จางหยูต่างจากคนอื่นๆ มันทำให้จางหยูทำเรื่องที่คนอื่นๆไม่อาจจะทำได้ คนอื่นไม่อาจจะสั่งสมความเข้าใจได้แบบจางหยู ในตอนที่พาหนะมิติได้เข้าใกล้โลกขั้น 9 ใบหนึ่ง จ้านเทียนเกอก็ได้พูดขึ้นมา “ เรามาถึงโลกนภาใต้แล้ว “
จางหยูมองดูแผนที่ที่เบเกิลเคยเอาให้กับเขาและพบเครื่องหมายของโลกนภาใต้ มันมีเครื่องหมายบนแผนที่ มันเป็นโลกที่ดูเจริญกว่าโลกสวรรค์ร้าง ชัดแล้วว่ามันเป็นโลกที่แข็งแกร่งกว่า
หลินเป่ยชานสูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความตะลึง
“ โลกนภาใต้ถือว่าเป็นโลกอันดับหนึ่งในเขตใต้ตอนเหนือ มันคือที่รวมตัวของยอดฝีมือส่วนมากในเขตใต้ตอนเหนือ ผู้ควบคุมขั้น 8 มีไม่น้อยกว่า 10 คน มันเป็นที่ตั้งของหลายกองกำลัง ข้าคิดจะรับการทดสอบผู้ควบคุมขั้น 8 ข้าลังเลที่จะมาที่โลกนภาใต้เพราะสถานการณ์ที่นี่ซับซ้อนเกินไป สุดท้ายข้าก็เลือกไปที่โลกอื่น “ เกลดันพูดขึ้นมา
เกลดันและคนอื่นๆดูเหมือนจะไม่ได้เป็นมิตรกับโลกนภาใต้นัก “ งั้นรึ ?” หลินเป่ยชานพูดขึ้นมา “ ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ”
“ เจ้าเก็บตัวมานาน เป็นธรรมดาที่เจ้าจะไม่รู้” เกลดันพูดขึ้น “ ข้ามาที่นี่ก็ตอนที่รู้ว่าเบเกิลนั้นอยู่ในโลกนภาใต้เพื่อเข้าทดสอบผู้ควบคุมขั้น 8 ต้องบอกว่าเบเกิลน่ะแข็งแกร่งอย่างมาก ตอนเขายังเด็ก เขามีเรื่องกับคนไปทั่วและยังกดดันโลกนภาใต้ด้วย พวกผู้เยาว์ไม่กล้าหาเรื่องเขา” พูดถึงจุดนั้นเกลดันก็หัวเราะอย่างขมขื่น “ พวกนั้นไม่อาจจะสู้กับเบเกิลได้ พวกนั้นจึงระบายอารมณ์กับคนอื่นๆอย่างคนจากเขตตะวันออกตอนเหนืออย่างเราที่ต้องรับผลแทน”
“ พวกคนที่โดนเบเกิลรังแก ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ” หลินเป่ยชานมองไปที่เกลดัน “ พวกต่ำกว่าขั้น 8 นั้นข้ากลัวว่าคงไม่น่าสนใจ การที่ท่านโดนพวกนั้นหมายหัว มันก็เพียงพอจะยืนยันความสามารถและพรสวรรค์ของท่าน บางทีท่านควรจะดีใจ”
เกลดันกรอกตาใส่ “ ข้าไม่ต้องการเกียรตินี้ เอาจริงๆแล้วหากไม่ใช่เพราะเจ้าสำนักและจ้านเทียนเกออยู่ที่นี่ด้วย งั้นข้าก็คงไม่คิดมายังโลกนี้ คนพวกนี้โดนเบเกิลรังแกไม่รู้เท่าไหร่ ผ่านมาหลายปีพวกนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยวางเรื่องนี้”
“ มันมีผู้ควบคุมขั้น 9 ในโลกนภาใต้รึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
หลินเป่ยชานและเกลดันมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า “ เราไม่รู้”
จ้านเทียนเกอพูดขึ้นมา “ โลกนภาใต้นั้นคือที่รวมตัวของผู้คนมากมาย มันคงอยู่มานาน บอกได้ว่านี่คือหนึ่งในโลกที่เก่าแก่ที่สุดในโกลาหล มันคล้ายกับโลกจำลองของสุสานขั้น 9 หากบอกว่าไม่มีผู้ควบคุมขั้น 9 ที่นี่ข้าคงไม่เชื่อ มันแค่ว่าด้วยความแข็งแกร่งของเราแล้ว แม้ว่าจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 ตรงหน้าแต่เราก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ นอกซะจากว่าอีกฝ่ายจะเผยตัวและเผยความแข็งแกร่งออกมา ใครกันจะบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ”
จางหยูเดินลงมาจากพาหนะมิติและถามถึงตำแหน่งของวังดอกไม้แดงจากคนอื่นๆ
จ้านเทียนเกอรีบเดินตามไป เขาแสดงท่าทีสบายใจราวกับว่าเข้ามาในโลกขั้น 9 ทั่วไป
หลินเป่ยชานและเกลดันดูสีหน้าหม่นลงและรีบเดินตามจางหยูไป
เพราะได้ยินที่จ้านเทียนเกอบอกว่าโลกนภาอาจจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 เสี่ยวเสียจึงดูสงบเสงี่ยมยิ่งกว่าเก่า ยังไงซะผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ลบตัวตนของมันได้ หากพบกับผู้ควบคุมขั้น 9 และทำอีกฝ่ายไม่พอใจ มันอาจจะโดนทำลายไปจากโกลาหลนี้ก็ได้
หลังจากที่เข้ามาในโลกนภาใต้ หลินเป่ยชานก็พูดขึ้นมา “ น้องชาย เจ้ายังไม่มีตราขั้น 8 ที่นี่มีการทดสอบขั้น 8 อยู่”
จางหยูไม่สนใจเรื่องนี้ เรื่องที่เขาสนใจตอนนี้คือเรื่องวังดอกไม้แดงแต่หากมีเวลาเขาก็คิดจะเข้ารับการทดสอบขั้น 8 อยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก