ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1696

วังดอกไม้แดงนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก หัวหน้าของวังดอกไม้แดงนั้นเป็นถึงหัวหน้าขั้น 8 สมาชิก 24 คนที่เหลือนั้นอ่อนแอที่สุดคือผู้ควบคุมขั้น 8 ทั่วไป คนที่แกร่งที่สุดเทียบกับ หลินเป่ยชาน ได้ กองกำลังแบบนี้ถึงไม่อาจจะยึดโลกนภาใต้แต่แต่ก็ไม่มีกองกำลังไหนที่ทัดเทียมได้
  กองกำลังแบบนี้แม้แต่วอซ่งก็ยังต้องกลัว
  “ ท่านหงซีเป็นใครเจ้าถึงมาถามเช่นนี้ได้ ?” ตงหยูพูดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา “ หากไม่มีธุระอะไรแล้วก็รีบกลับไปเสีย ไม่งั้นแล้ววังดอกไม้แดงคงไม่สุภาพต่อไปอีก” ตงหยู หัวหน้าของวังดอกไม้แดงพูดขึ้นมา “ เจ้าคิดว่าหัวหน้าคนเดียวจะทำให้วังดอกไม้แดงกลัวได้งั้นรึ ?”
  คนของวังดอกไม้แดงต่างก็พากันมองวอซ่งด้วยสีหน้าแปลกใจ ชายคนนี้เป็นหัวหน้ารึ ?   ไม่แปลกเลยที่ท่าทีของตงหยูถึงได้แปลกไปแบบนี้
  วอซ่ง ส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “ ข้าขอโทษด้วยเราอยากจะพบกับ ท่านหงซี ”
  ตงหยู หรี่ตาลง สีหน้านางไม่พอใจเท่าไหร่นัก บรรยากาศดูตึงเครียดขึ้นมา
  ตอนนั้น จางหยู ก็ได้พูดขึ้น “ อย่าเพิ่งใจร้อนไป เรามาที่นี่เพราะเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ ไม่นานมานี้ข้าได้รับมอบหมายจากผู้อาวุโสคนหนึ่งให้มาบอกความจริงกับ หงซี เชาบอกว่าเขาเป็นสหายของนาง…” จางหยู ไม่คิดว่าคำพูดของเขาจะทำให้คนของวังดอกไม้แดงนั้นหมดความอดทน
  “ เจ้ากล้าเรียกชื่อผู้นำของเราเช่นนี้ หาที่ตาย !” ตงหยูดูยำเกรงวอซ่งอยู่แต่เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมาเช่นนั้น นางก็แสดงสีหน้าเย็นขาออกมาทันที นางระเบิดพลังออกมาและล็อคเป้าจางหยูเอาไว้ “ ตายซะ !”
  สมาชิกคนอื่นๆต่างก็พากันมองไปที่จางหยูแล้วระเบิดพลังออกมาพลังขั้น 8 แผ่กระจายออกไปโดยรอบทำให้พิษโดยรอบนั้นถูกชะล้างไป ที่นี่ราวกับเปลี่ยนเป็นสนามรบ
  หลินเป่ยชานและเกลดันหน้าถอดสี พวกเขาไม่ได้มีพลังน่ากลัวแบบจางหยูและวอซ่ง หากต้องสู้กันจริงๆแล้วพวกเขาอาจจะต้องตายที่นี่ แน่นอนว่าหาก จางหยูและวอซ่งเอาจริงวังดอกไม้แดงก็อาจจะไม่พอใจ งั้นมันอาจจะเกิดโศกนาฏกรรมที่นี่ขึ้นจริงๆ
  ตอนที่คนของวังดอกไม้แดงกำลังจะลงมือนั้นอยู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “ ช้าก่อน ! “
  เจียงหยุนได้ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าทุกคน
  “ เจียงหยุน ” จางหยู มองไปที่อีกฝ่าย
  ตงหยู โล่งอกขึ้นมาทันที “ เจ้ามาทันเวลาพอดีเร็วเข้าร่วมมือกับข้าจัดการคนกลุ่มนี้ ”
  เจียงหยุน ยิ้มแห้งๆออกมาก่อนจะมองไปที่ จางหยู ก่อนจะรวบรวมสติแล้วพูดขึ้น “ตงหยู อย่าเพิ่งหุนหุนไป คนเหล่านี้ไม่น่าจะมาร้าย เราค่อยๆเจรจากันจะดีกว่า มันไม่จำเป็นต้องใจร้อนเช่นนี้ ”
  เมื่อได้ยินแบบนั้นและเห็นเจียงหยุนส่งสายตามาตงหยูก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ
  ตอนที่นางกำลังจะพูดบางอย่างนั้น ในหูนางก็ได้ยินเสียงของ เจียงหยุน “ คนที่ยืนอยู่ตงหน้าเจ้าคือ วอซ่ง ผู้นำในตำนาน ข้าเพิ่งปะมือกับเขาไป ข้าไม่อาจจะสู้กับเขาได้….”
  สีหน้าของ ตงหยู เปลี่ยนไปทันที นางเคยได้ยินชื่อของ วอซ่ง มาก่อน แม้ว่าจะผ่านมาหลายพันปีแล้วแต่ชื่อเสียงของ วอซ่ง ก็ยังคงอยู่ แม้ว่านางจะไม่ได้เชิดชูวอซ่ง เหมือนคนทั่วไปแต่นางก็ไม่คิดสงสัยในความแข็งแกร่งของ วอซ่ง ที่เหนือกว่าผู้นำหลายคนจนกลายเป็นผู้นำในตำนานได้
  “ แม้แต่เจ้าก็ยังสู้ไม่ได้รึ ?” ตงหยูแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา “ ผู้นำในสตำนานไม่ได้มีดีแค่ชื่อจริงๆ ”
  ความแข็งแกร่งของเจียงหยุนนั้นทัดเทียมกับนาง บางครั้งทั้งสองก็ได้ปะมือกันแต่โดยทั่วไปแล้ว เจียงหยุนน่ะเหนือกว่า เมื่อเจียงหยุนไม่อาจจะเป็นคู่มือของวอซ่งได้ งั้นนางก็ไม่อาจจะเป็นได้อย่างแน่นอน
  “ แต่แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่คู่มือของเขาแต่เมื่อเจ้ากับข้าร่วมมือกันก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเขา “มันยังมีความเย่อหยิ่งในใจนาง “ เจ้าคิดจะบอกให้ข้าหยุดรึ ?”
  เจียงหยุน ยังกล่อมต่อ “ เจ้าเห็นชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง วอซ่งรึไม่ ? ชายคนนั้น…อาจจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ! “
  เมื่อได้ยินแบบนั้น ตงหยู ก็สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง “ ผู้ควบคุมขั้น 9 !”
  “ ผู้นำในตำนานเรียกเขาว่าท่าน คนแบบเขานั้นเจ้าคิดว่าจะเรียกใครว่าท่านนอกจากผู้ควบคุมขั้น 9 ? “ – สุดท้าย เจียงหยุน ก็คิดว่า จางหยู เป็นผู้ควบคุมขั้น 9 “ นอกจากผู้ควบคุมขั้น 9 แล้วมีใครบ้างจะกล้าเรียกชื่อ ท่านหงซี เช่นนี้ ?”
  ผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะผิดใจด้วยได้
  ตงหยูเงียบไปหากจางหยู เป็นผู้ควบคุมขั้น 9 จริงๆแล้ว งั้นที่เขาพูดมาตะกี้ก็ไมใช่ปัญหาอะไร
  “ มันเป็นไปไม่ได้ที่จเจะพบกับ ท่านหงซี” ตงหยูสูดหายใจเข้าลึกๆๆและพูดขึ้น “หากเจ้ามีอะไรก็บอกข้าได้โดยตรง ข้าจะบอกกับ ท่านหงซี ให้” สีหน้าของคนวังดอกไม้แดงเปลี่ยนไป ท่าทีของ ตงหยู นั้นทำให้พวกนางสับสน ทำไมตงหยูที่โกรธจัด
  แต่เมื่อเจียงหยุนมาถึงที่นี่กลับเปลี่ยนท่าทีไปเช่นนี้ได้ ? ไม่ใช่ว่านางต้องมั่นใจยิ่งกว่าเดิมไม่ใช่รึ ? เจียงหยุนบอกอะไรกับตงหยูกันแน่ถึงได้ทำให้ท่าทีของ ตงหยู เปลี่ยนไปเช่นนี้ ?
  วอซ่งและจางหยู เดาออกว่าเจียงหยุนนั้นบอกอะไรกับตงหยูแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
  “ ข้าขอโทษด้วย” แม้ว่าท่าทีของตงหยูจะอ่อนโยนลงแต่จางหยูก็ยังยืนกราน “ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ หากให้คนอื่นบอกกับ หงซีนั้นข้าไม่อาจจะสบายใจได้ ยังไงซะข้าก็ได้รับไหว้วานมา ข้าจะฝากเรื่องนี้กับคนอื่นได้ยังไง ? ข้าต้องพบ หงซี ด้วยตัวเอง”
  เมื่อได้ยินแบบนั้นตงหยูก็ใจหล่นวูบ
  นางหงุดหงิดขึ้นมาทั้งๆที่ยอมถอยให้ขนาดนี้แต่ยังไม่ยอมอีกรึ ?
  “ งั้นเจ้าก็ไปหาเองแล้วกัน” ตงหยูพูดขึ้นมา “ มันคงอีกนานกว่าที่เจ้าจะหานางเจอ”
  นางไม่กลัวว่าจางหยูจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 จริงรึไม่ ยังไงซะนางก็พูดไปแล้ว
  นางคือหัวหน้าวังนางจะไม่มีเกียรติเลยรึ ?
  เจียงหยุนอยากจะกล่อมตงหยูให้บอกที่อยู่หงซีกับจางหยู แต่เขาไม่ใช่คนของวังดอกไม้แดงเขาจึงไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้และได้แต่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ
  เท่าที่เขารู้จักตงหยูมา การที่นางยอมถอยให้แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
  “ เจ้ามั่นใจรึว่าต้องการเช่นนี้ ?” จางหยูถอนหายใจออกมา “ คนที่ไหว้วานข้ามานั้นคือสหายของ หงซี เนื้อหาของข้อความนี้สำคัญอย่างมาก บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับชะตาของ หงซี ก็ได้ เจ้าคิดถึงผลกระทบจากเรื่องนี้ดู ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะอยากเห็นผลลัพธ์ที่เลวร้าย”
  “ เจ้าขู่ข้ารึ ? ข้าไม่เคยคิดกลัวคำขู่ใดๆ”
  “ ไม่” จางหยูส่ายหน้า “ ข้าแค่บอกความจริง” เขามองไปที่ตงหยูด้วยท่าทีเยือกเย็น “ หงซีอยู่ในอันตราย หากเจ้าห่วงนางจริงๆแล้ว เจ้าก็ไม่น่าจะหยุดเรา”
  ตงหยูมองไปที่จางหยูสักพัก
  “ นี่…” ตงหยูลังเลขึ้นมา นางไม่กลัวคำขู่ของจางหยู แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 จริงๆแต่นางก็ไม่กลัว เมื่อ จางหยูบอกว่าหงซีอยู่ในอันตราย นางก็ไม่อาจจะมองข้ามได้
  นางกัดปากด้วยความลังเล
  เจียงหยุนได้พูดขึ้นมา “ หัวหน้าวัง ข้าคิดว่าให้พวกเขาเข้าพบกับ ท่านหงซี เถอะ หากที่เขาพูดมาไม่เป็นความจริง งั้น ท่านหงซี คงจัดการเองได้…”
  ตงหยูเงียบไปสักพักพร้อมมองไปที่จางหยู ก่อนจะพูดขึ้น “ ข้าจะให้โอกาสเจ้าเข้าพบ ท่านหงซี แต่เจ้าจะได้พบกับนางรึไม่ก็ขึ้นอยู่กับการสร้างของเจ้าเอง “ พูดไปแล้วเจ้าน่ะโชคดีจริงๆ ท่านหงซี เดินทางไปที่อื่นตลอดทั้งปี ปกติแล้วนางจะไม่กลับมาหากไม่ครบหลายร้อยปี ไม่งั้นแล้วแม้ว่าข้าจะรับปากเจ้าแต่ข้าก็ไม่อาจจะทำอะไรได้แต่ที่ข้าทำได้คือช่วยเจ้าเปิดทางสู่โลกนั้น เจ้าจะได้พบกับ ท่านหงซี ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเอง ”
  “ โลกรึ ?”
  “ใช่โลกที่ท่านหงซีสร้างขึ้นมา” ตงหยูพูดขึ้น “ โลกที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง”
  จางหยูพยักหน้า “ ได้ ข้าจะลองดู ”
  หลินเป่ยชานและเกลดันต่างก็โล่งอกที่ไม่เกิดการต่อสู้ขึ้น
  ตงหยูหันกลับก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น ต่อมาก็มีดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ใจกลางวังดอกไม้แดงที่คอยๆลอยขึ้นมา มันมีลำแสงพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าสู่ดอกไม้นั่น สุดท้ายแล้วบึงก็บิดเบี้ยนวไปก่อนที่จะมีรูหนอนขนาดใหญ่เกิดขึ้น นี่คอืทางเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง
  จางหยูและคนอื่นๆมองหน้ากันก่อนจะบินไปยังทางเข้าของโลกนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก