ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1736

“ เจ้าสำนัก เจ้าโดนแซงหน้าไปแล้ว” เฒ่าเทียนจียิ้มและมองไปที่เจ้าสำนัก
  ในอดีตนั้นแต่ละครั้งเจ้าสำนักจะเป็นคนทะลวงผ่านไปก่อนคนอื่น เขากลายเป็นร่างแยกที่มีระดับการบ่มเพาะมากที่สุด แต่ครั้งนี้เจ้าสำนักยังไม่ทะลวงผ่าน เซียนกระบี่พเนจรกลับเป็นคนแรกที่ขึ้นมาขั้น 9 ได้
  หมาป่าละโมบและความว่างเปล่าพากันมองไปที่เจ้าสำนัก ชายคนนี้น่ะคอยจัดการเรื่องในสำนักมาตลอด แต่ระดับการบ่มเพาะก็พัฒนาไม่น้อยไปกว่าพวกเขา มันทำให้พวกเขากดดันกันอย่างมาก สุดท้ายครั้งนี้ก็ไม่ใช่เจ้าสำนักที่เป็นคนแรกที่ทะลวงไปผ่านได้
  “ ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องปกติรึ? ในเมื่อพวกเจ้าบ่มเพาะกันตลอด พวกเจ้ามีเวลามากกว่าข้าไม่ใช่รึไง? พวกเจ้าจะดีใจกันทำไม ? ” เจ้าสำนักพูดเช่นนี้ก็ทำให้ร่างแยกมากมายต้องปวดใจอย่างมาก  ตลอดหลายปีมานี้เจ้าสำนักทำให้พวกเขากดดันกันอย่างมาก พวกเขาอยากจะเกียจคร้านแต่ก็ไม่กล้า พวกเขากลัวว่าจะตามหลังไกลเกินไป
  “ ข้าไม่เข้าใจเจ้า” หมาป่าละโมบส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “ เจ้าจะบ่มเพาะทำไม ? เจ้าออกไปเที่ยวเล่นแล้วไม่พอใจรึไง ? เจ้าไม่มีงานอดิเรกอย่างอื่นนอกจากการบ่มเพาะรึ ?”
  เจ้าสำนักถอนหายใจออกมา “ พวกเจ้าไม่เข้าใจ…ข้าต้องจัดการเรื่องราวในสำนักบ่อยๆ หาเวลาบ่มเพาะได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ข้าจะมีเวลาไปสนใจเที่ยวได้ยังไง ? ” เขาไม่ใช่หุ่นยนต์ เขาจะไม่อยากผ่อนคลายได้ยังไงแต่เขาทำไม่ได้ หากเขาไม่ใช้เวลาในการบ่มเพาะ งั้นอีกไม่นานเขาก็ต้องตามหลังคนอื่น
  ตอนนี้เซียนกระบี่พเนจรก็ยังแซงหน้าเขาขึ้นไปขั้นที่ 9 ได้แล้ว
  โชคดีที่เขาห่างจากขั้นที่ 9 ไม่มากนัก ช่องว่างระหว่างเขากับเซียนกระบี่พเนจรก็ไม่ได้มากมายอะไร
  …
  หลังจากยินดีกับเซียนกระบี่พเนจร จางหยูก็ไม่ได้สนใจสถานการณ์ของร่างแยก เขาได้ควบคุมพาหนะมิติเพื่อเดินทางต่อ โดยมีเสี่ยวเสียนอนอยู่บนไหล่ซ้ายและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์นอนอยู่บนไหล่ขวา
  เพราะไม่ได้มีจุดหมายที่ชัดเจน จางหยู จึงเดินทางไปโลกขั้น 9 ทุกแห่งที่เขาผ่าน เขาจะไปกินอาหารและชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่นั่น รวมไปถึงเรียนรู้ความแตกต่างของแต่ละโลก การที่มีเสี่ยวเสียและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยก็ทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
  “ นายท่าน เราไปโลกขั้น 9 ที่ยังไม่มีในแผนที่ได้รึไม่ ?” เสี่ยวเสียถามขึ้นมา
  จางหยูมองไปที่เสี่ยวเสีย “ เจ้ามีเหตุผลอะไร ?”
  เสี่ยวเสียพูดขึ้นมา “ ข้าอยากกินจิตปฐมบทโกลาหล ”   มีแค่โลกขั้น 9 ที่ไม่มีในแผนที่โกลาหลเท่านั้นที่อาจจะมีจิตปฐมบทโกลาหลอยู่ โลกแบบนั้นอาจจะเพิ่งสร้างขึ้นมาเหมือนกับโลกซวนหวง แน่นอนว่าโลกแบบนั้นมีมากกว่าโลกที่มีอยู่ในแผนที่เป็นสิบเท่า
  “ ได้ ข้าจะไปที่นั่น” ยังไงซะ เมื่อไม่มีเป้าหมายชัดเจน จางหยูก็เลือกที่จะเดินทางไปทั่วทุกที่
  เขามองไปที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ “ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ เจ้าอยากกินจิตปฐมบทโกลาหลรึไม่ ?”
  เสี่ยวหลิงเอ๋อร์แสดงสีหน้ารังเกียจออกมา “ ไม่ น่ารังเกียจจะตาย ”
  ไม่ต้องพูดถึงทิศทางการเติบโตของนางที่ต่างจากเสี่ยวเสีย ถึงจะกินได้แต่นางก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น
  “ รังเกียจรึ ? เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยแม้แต่น้อย” เสี่ยวเสียพูดขึ้นมา “ จิตปฐมบทโกลาหลน่ะคืออาหารที่อร่อยที่สุดในโกลาหล !”
  เสี่ยวเสียรู้สึกเหมือนโดนหยาม ก็แค่กินจิตปฐมบทโกลาหลไม่ใช่รึไง ทำไมต้องแสดงท่าทีรังเกียจแบบนี้ด้วย ?
  “ พอได้แล้ว จะกินหรือไม่กินก็แล้วแต่พวกเจ้า อย่าทะเลาะกัน ” จางหยูพูดขึ้นก่อนจะมองไปที่เสี่ยวเสีย “ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ไม่คิดจะแย่งกินกับเจ้า เจ้าควรจะดีใจไม่ใช่รึ ? ด้วยวิธีนี้จิตปฐมบทโกลาหลก็จะเป็นของเจ้าแค่คนเดียว เจ้าไม่พอใจรึ ?”
  เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา เสี่ยวเสียที่หงุดหงิดอยู่ก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ จริงสิ !” มันตื่นเต้นด้วยความดีใจ “ จิตปฐมบทโกลาหลเป็นของข้า !”
  ไม่นานจางหยูก็พาทั้งสองไปยังโลกขั้นที่ 9 ที่ยังก่อตัวไม่สมบูรณ์
  “ เจ้าลองไปจัดการดู ข้าจะไปที่อื่นกับเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ เมื่อเจ้าจัดการเสร็จแล้วก็มาหาเรา” จางหยูบอกกับเสี่ยวเสีย เสี่ยวเสียยังไม่ทันได้ตอบกลับ ก็ถูกส่งเข้าไปในมิติมืดที่ที่จิตปฐมบทโกลาหลอยู่ ต่อมาเสี่ยวเสียก็ผ่านเข้าไปในมิติมืดที่คล้ายกับมิติมืดของโลกสวรรค์
  ตอนนั้นเจ้าของโลกมังกรหมอกยังอ่อนแออย่างมาก เขาสยบจิตปฐมบทโกลาหลมานาน พลังของเขาเกือบจะหมดลงแล้ว ในทางกลับกัน จิตปฐมบทโกลาหลกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้เขาแทบไม่มีพลังจะยับยั้งมันอีก
  เจ้าของโลกมังกรหมอกแทบจะสิ้นหวัง “การเกิดใหม่ครั้งที่ 9 แล้ว ข้าไม่อาจจะเป็นผู้สร้างที่แท้จริงได้รึ ?”
  หากเขาล้มเหลวในครั้งนี้ เขาก็จะตายและกลายเป็นพลังงานให้กับโกลาหล
  “ ยอมแพ้ซะ” ที่ด้านล่างค่ายกลนั้นมีสิ่งมีชีวิตลึกลับได้พูดขึ้นมา “ นี่คือจุดจบที่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ บางทีอาจจะมีคนเปลี่ยนแปลงและทำลายการเกิดใหม่ได้ แต่ชัดแล้วว่าเจ้าน่ะไม่อาจจะทำได้”
  ตอนนั้นเองก็มีเสียงตื่นเต้นดังขึ้นมา “ ฮาฮา ข้าเจอเจ้าแล้ว ! ”   สีหน้าของจ้าวแห่งโลกมังกรหมอกพลันเปลี่ยนไป เขาคิดว่าศัตรูมาที่นี่ แต่เมื่อแผ่การรับรู้ไปแล้วเขากลับไม่รู้สึกถึงอะไร
  มีแค่จิตปฐมบทโกลาหลที่รับรู้ถึงเสี่ยวเสีย มันแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา “ เจ้า เจ้าคือ…”
  “ ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้า” ตอนที่เสี่ยวเสียพูดจบมันก็พุ่งเข้าหาจิตปฐมบทโกลาหลทันที
  “ จบสิ้นแล้ว” จ้าวแห่งโลกมังกรหมอกสิ้นหวังในทันที
  จิตปฐมบทโกลาหลกลับแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมา “ ขอบคุณ ! ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าแล้ว เจ้านี่จบสิ้นแน่ ! เรา….”
  ก่อนที่มันจะพูดจบจิตปฐมบทโกลาหลก็กรีดร้องออกมา ร่างของมันสั่นไหวอย่างรุนแรง หากจ้าวแห่งโลกมังกรหมอกเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ก็อาจจะเห็นได้ว่าร่างของจิตปฐมบทโกลาหลนั้นเริ่มหายไป ราวกับโดนบางอย่างกลืนกิน  จ้าวแห่งโลกมังกรหมอกตัวสั่น เขาเตรียมพร้อมที่จะตายแล้วแต่ไม่นานเขาก็ได้สติ “ เสียงร้องของจิตปฐมบทโกลาหล !”
  เขาสับสนและไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ได้
  “ ท่านทำอะไร ! “ จิตปฐมบทโกลาหลตะโกนถามขึ้นมา “ท่านเข้าใจผิดรึไม่ ? ข้าคือจิตปฐมบทโกลาหลของโลกนี้ ! ส่วนเจ้าของโลกนี้อยู่ที่นั่น …”
  จ้าวแห่งโลกมังกรหมอกถึงกับขนลุก
  แต่เสี่ยวเสียกลับพูดขึ้น “ สับสนรึ ? ข้ามากินเจ้าต่างหาก !”
  เมื่อพูดจบ เสี่ยวเสียก็ทำการกลืนกินจิตปฐมบทโกลาหลอีกครั้ง ร่างกายส่วนหนึ่งของจิตปฐมบทโกลาหลโดนกลืนลงไปในท้องของมันทันที
  จิตปฐมบทโกลาหลสับสนอย่างมาก
  จ้าวแห่งโลกมังกรหมอกก็สับสนเช่นกัน
  นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน ?   จิตปฐมบทโกลาหลลึกลับมาจัดการกับจิตปฐมบทโกลาหลของเขางั้นรึ ?
  ตอนนั้นเขาถึงกับคิดว่าเขาฝันอยู่ !
  แต่เสียงกรีดร้องของจิตปฐมบทโกลาหลที่ดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ได้บอกเขา “ ไม่ นี่ไม่ใช่ความฝัน นี่คือความจริง ! มันกำลังโจมตีจิตปฐมบทโกลาหลอยู่จริงๆ !”
  ตอนนี้เขาเริ่มได้สติ
  เสียงของจิตปฐมบทโกลาหลค่อยๆเบาลงเรื่อยๆจนสุดท้ายก็เงียบไป ตอนนั้นเองที่เขาได้สติกลับมา จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าการผูกมัดของการเกิดใหม่นั้นหายไปด้วย ตอนนี้เขาได้ก้าวขึ้นเป็นผู้สร้างที่แท้จริงอย่างเป็นทางการ
  มันแค่ว่า…
  “ ทำไมถึงไม่ได้พลังมาเพิ่ม ?” เขาสับสน “ ไม่ใช่ว่าจิตปฐมบทโกลาหลถูกทำลายไปแล้วรึ ?”
  ตอนที่เขารู้สึกว่าได้ขึ้นเป็นผู้สร้างที่แท้จริง เขาก็มั่นใจว่าจิตปฐมบทโกลาหลน่ะตายไปแล้ว แต่ที่แปลกคือถึงจิตปฐมบทโกลาหลตายไป แต่โลกเขาก็ไม่ได้พลังกลับมา ความเข้าใจการสร้างของเขาไม่ได้พัฒนาขึ้น
  แม้ว่ามันจะแปลกแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก การที่หลุดพ้นจากการเกิดใหม่ได้นี้เขาก็พอใจอย่างมากแล้ว เขาค่อยไปทำความเข้าใจเพิ่มทีหลังก็ได้
  สิ่งที่เขากังวลตอนนี้คือจิตปฐมบทโกลาหลลึกลับนั้นหลังจากที่ทำลายจิตปฐมบทโกลาหลของเขาไปแล้ว มันจะปล่อยเขาไปรึคิดจะทำลายที่นี่ต่อ ?
  หลังจากที่รอกว่าครึ่งวันเมื่อไม่เห็นการเคลื่อนไหวใดๆเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วพูดขึ้นมา “ จะ..จิตปฐมบทโกลาหลลึกลับ เจ้ายังอยู่รึไม่ ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก