ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1766

ตอนที่จางหยูตะลึงกับความแข็งแกร่งของบรรพชนกระดูกนั้น เสี่ยวเสียก็ได้บอกกับจางหยูว่า “ นายท่าน ข้ารับรู้ได้ว่าคลื่นพลังของชายคนนี้เหมือนกับเนี่ยเวิ่น ”
  จางหยูใจสั่น “ เนี่ยเวิ่นรึ ? ”
  เขาเงียบแต่ในใจได้ถามขึ้นมา “ เจ้ามั่นใจรึ ?”
  “ ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด ” เสี่ยวเสียดูไม่มั่นใจแค่เล็กน้อย “ บางทีชายคนนี้อาจจะเคยติดต่อกับเขา ”
  ตัวตนของเนี่ยเวิ่นนั้นลึกลับอย่างมาก การที่เกี่ยวข้องกับเนี่ยเวิ่นได้นั้นดูเหมือนว่าตัวตนของชายแก่คนนี้จะไม่ธรรมดา
  น่าสงสัยเสี่ยวเสียสามารถรับรู้ได้แต่จางหยูกลับไม่อาจจะรับรู้ได้
  “ เขาพาเนี่ยเวิ่นเข้าไปในเขตหวงห้ามรึ ?” จางหยูสงสัยนิดๆ “ แต่เขามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้รึ? ”
  หากบรรพชนกระดูกมีความสามารถนำเนี่ยเวิ่นเข้าไปในเขตหวงห้ามได้ งั้นความแข็งแกร่งของชายแก่คนนี้ก็มากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ บางทีอาจจะขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลแล้ว
  ในโกลาหลแล้วนอกจากตัวเขาแล้ว มันเป็นไปได้ด้วยรึที่จะมีคนไปถึงระดับนั้นได้ ?
  “ หากเป็นเขา แล้วทำไมเขาต้องทำแบบนั้น ?” จางหยูคิดหาเหตุผลไม่ออก “ มันส่งผลดียังไงที่เอาเนี่ยเวิ่นเข้าไปในเขตหวงห้าม ?”
  มันมีแต่เรื่องน่าสงสัย
  หลังจากครุ่นคิดสักพักจางหยูก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ บรรพชนกระดูกกับเนี่ยเวิ่นเกี่ยวข้องกันยังไง เนี่ยเวิ่นถูกชายแก่นำตัวไปที่เขตหวงห้ามจริงๆรึ ?
  ยิ่งบรรพชนกระดูกลึกลับเท่าไหร่ จางหยูก็ยิ่งสงสัยมากเท่านั้นว่าอีกฝ่ายมีต้นกำเนิดยังไง ?
  บนลานหิน เมื่อจางหยูถ่ายเทพลังเข้าไปในเสาแสง เสาแสงก็ยกระดับขึ้นมาอย่างมาก พลังมิติและเวลากับพลังลึกลับได้เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้การเปลี่ยนแปลงนี้ จางหยูก็ลดความเร็วในการเทพลังเข้าไป
  เขาไม่อยากทำตัวโดดเด่นเกินไป
  นอกจากจางหยูแล้ว ซุนเมิ่งก็ได้นั่งลงบนลานแล้วเทพลังของตนลงไปในเสาแสง
  ราชาทุกคนต่างก็พากันเทพลังไปยังจุดเดียวกัน
  ในยุคของพวกเขา บางทีพวกเขาอาจจะเป็นราชาผู้สูงส่งแต่ที่นี่ทุกคนน่ะเท่าเทียมกัน ไม่มีใครด้อยกว่าใคร นอกจากจางหยู, บรรพชนกระดูกและซุนซิงแล้วคนอื่นๆต่างก็เท่าเทียมกัน
  หลังจากนั้นสักพักจางหยูก็หยุดมือ เขาลืมตาขึ้นมาช้าๆ “ ข้ายังมีเรื่องต้องไปจัดการที่ด้านนอก เมื่อข้าเสร็จธุระแล้วจะมาหาเจ้า ”
  บรรพชนกระดูกลืมตาขึ้นมองจางหยู ก่อนจะพยักหน้า “ หวังว่าสหายจะรับกลับมาโดยเร็วที่สุด ”
  “ ข้าเองก็จะไปเช่นกัน “ ซุนเมิ่งพูดขึ้น “ ครั้งนี้ข้ารีบมาไปหน่อยและยังไม่ได้บอกกล่าวกับทางวิหาร”
  “ เมื่อพบน้องเจ้าบอกเขาว่าให้จับตาดูสถานการณ์ไว้ด้วย บอกเขาให้แจ้งเรื่องนี้มาทันทีที่เห็นวี่แววการทำลายล้าง ” ซุนซิงพูดขึ้นมา
  “ ได้ ” ซุนเมิ่งพยักหน้า
  “ แล้วเจอกันใหม่” จางหยูลุกขึ้นและป้องมือให้กับทุกคน
  ไม่นานทั้งสองก็ออกจากลานหินไป
  เมื่อออกมายังมิติที่คล้ายกับความว่างเปล่า จางหยูก็มองไปที่ซุนเมิ่ง “จะออกไปยังไง ?”
  โกลาหลนภานั้นเหมือนกับโกลาหลขนาดย่อม แต่แข็งแกร่งน้อยกว่าโกลาหล เขามั่นใจว่าจะเปิดมิติของที่นี่ออกได้ แต่เขาไม่มั่นใจว่ามันจะนำไปสู่ที่ไหน แม้จะมีโอกาสสูงที่จะไปโผล่ที่โกลาหล แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะไปโผล่ในเขตหวงห้าม หากเป็นเช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องตลก
  “โกลาหลนภาเป็นอิสระจากเขตหวงห้าม” ซุนเมิ่งพูดขึ้น “เมื่อทำลายมิติที่นี่ก็จะออกไปยังโกลาหลได้”
  จางหยูได้ยินแบบนั้นก็สงสัยขึ้นมา “ บรรพชนกระดูกเคยเข้าไปในเขตหวงห้ามมาแล้วรึ ?”
  ซุนเมิ่งกำลังจะทำลายมิติแต่ก็เห็นท่าทีแปลกๆของจางหยู นางอดได้ที่จะถามขึ้นมา “ อาจารย์คิดอะไรรึ ?”
  “ เจ้ารู้รึไม่ว่าบรรพชนกระดูกมาจากไหนกัน ?” จางหยูถามขึ้นมา
  “ บรรพชนกระดูกรึ ?” ซุนเมิ่งส่ายหน้า “ เขาคือคนที่อายุเยอะที่สุดในโกลาหล ไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากไหน อาจารย์สนใจในตัวบรรพชนกระดูกรึ ?”
  “ เขาแข็งแกร่ง ข้าสนใจความแข็งแกร่ง”จางหยูไม่ได้บอกความจริงกับซุนเมิ่ง เขาแค่ทำท่าพูดเล่น “ ยังไงซะด้วยระดับของเราแล้ว คนที่เป็นภัยต่อเราได้ก็มีไม่กี่คน”
  ซุนเมิ่งยังไม่ทันได้พูดอะไร จางหยูก็ถามขึ้น “ ใช่สิ เจ้ารู้รึไม่ว่าบรรพชนกระดูกได้ออกจากที่นี่ไปรึไม่ ?”
  “ ไม่ ” ซุนเมิ่งพูดขึ้น “ บรรพชนกระดูกไม่ได้ออกจากที่นี่ตั้งแต่ที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมา คนอื่นๆเองก็เช่นกัน บรรพชนจะแจ้งผ่านทางวิหารแทน ”
  “ เจ้ามั่นใจรึ ?”
  “ แน่นอน ” ซุนเมิ่งพูดอย่างมั่นใจ “ บรรพชนกระดูกกังวลเรื่องโกลาหลมากที่สุด โกลาหลนภานี้ต้องมีเขาอยู่ด้วย เพื่อที่จะสร้างโกลาหลนภาให้กลายเป็นโกลาหลที่แท้จริง เขาไม่มีทางออกไปจากที่นี่ ”
  พูดถึงตรงนี้ซุนเมิ่งก็เหมือนรับรู้สิ่งผิดปกติได้และถามขึ้น “ อาจารย์สงสัยว่าเขาออกจากโกลาหลนภาไปรึ ? อาจารย์เคยเห็นบรรพชนกระดูกในโกลาหลรึ ?”   “ ไม่ใช่ ” จางหยูส่ายหน้า
  “ แล้วอาจารย์ถามถึงเขาทำไมกัน ?” ซุนเมิ่งคิ้วขมวด “อาจารย์สงสัยว่าบรรพชนกระดูกทำเรื่องเลวร้ายไว้รึ ? บรรพชนกระดูกผู้นี้เป็นมิตรมาโดยตลอด ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น ?” นอกซะจากว่าจางหยูจะมีหลักฐาน งั้นซุนเมิ่งก็ยากที่จะเชื่อ
  “ เจ้าคิดมากเกินไป ข้าแค่สงสัยเกี่ยวกับตัวเขา ” จางหยูหัวเราะออกมา
  ซุนเมิ่งจะเชื่อได้ยังไง หากแค่สงสัย ทำไมจางหยูต้องถามว่าบรรพชนกระดูกได้ออกจากโกลาหลนภาไปรึไม่ ?
  “ ข้าไม่รู้ว่าอาจารย์สงสัยสิ่งใดแต่ข้ามั่นใจว่าเขาไม่ได้ออกจากโกลาหลนภา” ซุนเมิ่งพูดขึ้น “ บัตรหยกนั้นรับรู้กันได้ คนที่เข้าออกโกลาหลนภานั้นคนอื่นๆจะรู้ได้แต่ข้าไม่รับรู้เลยว่าบัตรหยกนั้นมีท่าทีผิดปกติอันใด”
  “ ข้าก็แค่สงสัย” จางหยูพูดขึ้น
  เขาไม่ได้พูดถึงเนี่ยเวิ่น เพราะเขาไม่มั่นใจว่าเป็นฝีมือของบรรพชนกระดูก
  บางทีการรับรู้ของเสี่ยวเสียอาจจะผิดพลาด ?
  รึว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ?
  “ ไปกันเถอะ” จางหยูบอกกับซุนเมิ่ง “ ค่อยกลับไปคุยกันที่โกลาหล”
  ซุนเมิ่ง พยักหน้าก่อนที่จะทลายกำแพงมิติแล้วปรากฏตัวที่ส่วนนอกของเขตหวงห้าม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก