“ขอรับ จักรพรรดิ !” เก่อเย่ตอบกลับด้วยความเคารพ
“ หากเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร เจ้าบอกมาได้เลย” ซื่อเซียวพูดขึ้น “ ทั้งเขตซื่อเซียวรวมถึงคนทั้งหมด ทั้งจิงหงกับคนอื่นๆ เจ้าเลือกมาได้เลย”
เก่อเย่อึ้ง ไม่คิดเลยว่าเพื่อจะตรวจสอบทีมคังเฉียง ซื่อเซียวถึงกับให้จิงหงมาเป็นผู้ช่วยของเขา
เขารู้ทันทีว่าซื่อเซียวให้ความสำคัญกับทีมคังเฉียงมากแค่ไหน !
“ จักรพรรดิ ” เก่อเย่โค้งให้และพูดขึ้นด้วยความเคารพ “ ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ ตราบใดที่กองทัพซื่อเซียว, กองทัพเทียนลั่วและเมืองต่างๆ เปิดรับการตรวจสอบก็พอแล้วเพื่อที่ข้าจะได้ตรวจสอบข้อมูลภายในได้” “ ได้ ข้าจะให้พวกนั้นร่วมมือกับเจ้าแต่ข้าหวังว่าเจ้าจะให้คำตอบที่ข้าพอใจได้ ”
เก่อเย่สูดหายใจเข้าลึกๆ “ ข้าจะไม่ทำให้จักรพรรดิผิดหวัง !”
ซื่อเซียวพยักหน้าก่อนจะหายตัวไปทันที
ต่อมาทั้งเขตซื่อเซียวก็มีเสียงของซื่อเซียวดังขึ้น “ ข้า จักรพรรดิซื่อเซียว เก่อเย่รับคำสั่งของข้าเพื่อตรวจสอบทีมคังเฉียง ทุกคนต้องร่วมมือกับเขา ใครฝ่าฝืนฆ่าทิ้งได้ทันที หากใครมีเบาะแสใดๆก็รายงานให้กับกองทัพสังเกตการณ์ได้ และจะได้รางวัลเป็นลูกปัดดั้งเดิม 100 ล้านก้อน ”
เสียงนี้แฝงไปด้วยแรงอาฆาตจนทำให้ทุกคนใจสั่น
ลูกปัดกว่าร้อยล้านก้อน แค่นี้ก็ทำให้ทุกคนตาแดงก่ำได้
“ ทีมคังเฉียงไปทำอะไรไว้ ? แม้แต่จักรพรรดิก็ยังตามหาพวกเขา…”
“ พระเจ้า ลูกปัด 100 ล้านก้อน !” “ หากข้ารู้เบาะแสของทีมคังเฉียงก็คงจะดี !”
ณ.กองทัพเทียนลั่ว
จิงหงยังรอการกลับมาของซูจิงอยู่ เมื่อได้ยินเสียงของจักรพรรดิ เขาก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไป
“ ทีมคังเฉียงรึ ?” จิงหงอึ้ง ไม่คิดเลยว่าแม้แต่จักรพรรดิก็ยังสนใจทีมคังเฉียง เพราะกระทั่งเสียเทียนก็ไม่อาจจะทำให้จักรพรรดิสนใจได้ ทีมคังเฉียงนี้มีอะไรพิเศษกัน ?
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมจักรพรรดิถึงได้ตรวจสอบทีมคังเฉียง ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิคิดยังไงกับทีมคังเฉียง
ทุกคนรู้แค่ว่าจักรพรรดิให้ความสำคัญกับทีมคังเฉียงอย่างมาก เขาถึงกับให้รางวัลมหาศาลสำหรับเบาะแส
ที่สำนักงานแห่งหนึ่ง
อู๋ห่าวได้สั่งการออกไปทันที “ ส่งคนไปที่หมู่บ้านฉิงเหยียน เรียกซีหยุนมาที่นี่” ลูกน้องยังไม่ทันได้ตอบกลับ อู๋ห่าวก็พูดขึ้นต่อ “ หลินเทียนเป่า เจ้าไปจัดการ”
หลินเทียนเป่าคือผู้บัญชาการที่เป็นลูกน้องของอู๋ห่าว
“ ขอรับผู้อาวุโส ” หลินเทียนเป่าพูดขึ้น
หลินเทียนเป่าหมุนตัวและมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านฉิงเหยียนทันที เขาไม่กล้าจะรอช้าเลยแม้แต่น้อย
ไม่นาน ซีหยุนและหลินเทียนเป่าก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ลานของสำนักงานใหญ่
“ ฮ่าฮ่า ซีหยุน เราได้พบกันอีกแล้ว” อู๋ห่าวรีบเข้ามาต้อนรับ “ ไม่เจอกันหลายเดือน พี่คิดถึงเจ้าจริงๆ”
มุมปากของซีหยุนพลันกระตุก เขารู้สึกว่าอู๋ห่าวช่างหน้าหนาไร้เทียมทานจริงๆ
โชคดีที่อู๋ห่าวไม่ได้พูดคำพูดเช่นนี้ออกมาอีก แต่กลับเปลี่ยนเรื่อง เขาได้แสดงสีหน้าจริงจังออกมา “ คำพูดของจักรพรรดิ เจ้าคงได้ยินแล้วสินะ ?” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซีหยุนก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ ข้าได้ยินแล้ว”
“ ทีมคังเฉียงก่อตั้งขึ้นมาในเขตของเจ้า เจ้าพบกับพวกเขามาหลายครั้งแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้ารู้เบาะแสอะไรของพวกเขารึไม่ ? “อู๋ห่าวถามขึ้น” จักรพรรดิให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมากและยังให้รางวัลมหาศาล หากเจ้ารู้อะไร เจ้าควรบอกข้า หากยืนยันได้ว่ามันเป็นความจริง ข้าจะได้รายงานเรื่องนี้ไปยังแม่ทัพ คนที่จะได้รางวัลคือเจ้า”
หลังจากนั้นสักพักอู๋ห่าวก็พูดขึ้นมา “ แน่นอน ข่าวลือที่พูดถึงตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงมัน ”
มันมีข่าวมากมายเกี่ยวกับทีมคังเฉียง มีน้อยคนนักที่ไม่เคยได้ยินชื่อของทีมคังเฉียง
“ ข้าไม่ได้รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ” ซีหยุนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ เท่าที่ข้ารู้คือพวกเขาต่างก็มาจากหมู่บ้านเสี่ยวอัน ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องของพวกเขามาก่อน ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เพิ่งตั้งทีมก็ทำเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาได้ แม้แต่จักรพรรดิก็ยังสนใจพวกเขา”
อู๋ห่าวขมวดคิ้ว “ไม่มีข้อมูลอื่นเลยงั้นหรือ ?”
ทีมคังเฉียงมาจากหมู่บ้านเสี่ยวอัน อู๋ห่าวรู้เรื่องนี้อยู่แล้วจางหยูได้มอบหมายให้เขาไปหาคนที่เคยไปที่นั่นมา
“ข้าขอโทษด้วยที่ทำให้ผิดหวัง” ซีหยุนพูดขึ้น
อู๋ห่าวโบกมือ “ คิดมากอะไรกัน ที่เจ้ามาก็ถือว่าดีมากแล้ว”
อู๋ห่าวพูดขึ้นต่อ “ เจ้ากลับไปก่อน หากมีข่าวอะไรเกี่ยวกับทีมคังเฉียงเจ้ามาหาข้าได้ทันที”
ซีหยุนพยักหน้าก่อนจะกลับไปยังหมู่บ้านฉิงเหยียน
อู๋ห่าวกุมขมับทันที “ ดูเหมือนว่ามีแค่ต้องไปที่หมู่บ้านเสี่ยวอันถึงจะได้เบาะแส นอกจากนี้เรื่องการหาคนที่หัวหน้าทีมคังเฉียงพูดถึง ก็ต้องไปคุยกับแม่ทัพด้วย”
เมื่อคิดแบบนั้นอู๋ห่าวก็ล้วงเอาหยกออกมาเพื่อติดต่อไปหาเก่อเย่
เมื่อได้รับข่าวจากอู๋ห่าว เก่อเย่ก็ใจชื้นขึ้นมา เขาไม่คิดว่าจะได้ข้อมูลเร็วแบบนี้ ข่าวนี้มาจากหนึ่งในคนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด
เก่อเย่เดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของกองทัพทันที
“ ท่านแม่ทัพ !” อู๋ห่าว, หลินเทียนเป่าและคนอื่นๆต่างก็พากันทำความเคารพ
เก่อเย่โบกมือแล้วมองไปที่อู๋ห่าว “ ที่เจ้าบอกมาเป็นความจริงรึ ?”
เขาต้องมาพบอู๋ห่าวด้วยตัวเองและยืนยันเรื่องนี้
“ ขอรับท่านแม่ทัพ !” อู๋ห่าวพยักหน้ารับรอง “ ตอนที่ผู้อาวุโสจากไป เขาได้บอกว่าหากข้าหาคนที่เขาบอกมาเจอให้ส่งคนไปยังหมู่บ้านเสี่ยวอันเพื่อแจ้งเรื่องนี้กับผู้ดูแล…”
เก่อเย่พยักหน้า “ดีมาก หากยืนยันได้ว่าข่าวนี้เป็นความจริง เจ้าเก็บรางวัลเอาไว้ได้เลย”
เรื่องทีมคังเฉียงมาจากหมู่บ้านนี้อันที่จริงก็เผยแพร่มานานแล้ว มันทำให้คนนับไม่ถ้วนแห่กันไปที่หมู่บ้านเสี่ยวอัน ถึงอู๋ห่าวจะบอกข่าวนี้ไปแต่ก็อาจจะไม่ได้รางวัล แต่อู๋ห่าวได้ให้ข้อมูลอีกอย่าง เรื่องหัวหน้าทีมคังเฉียงตามหาคนอยู่ มันคือเบาะแสสำคัญสำหรับเก่อเย่
หลังจากยืนยันข่าวแล้ว เก่อเย่ก็ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านเสี่ยวอันทันที
หมู่บ้านเสี่ยวอัน
แค่ไม่กี่วันก็มีผู้คนมากมายมายังหมู่บ้านแห่งนี้ ที่นี่ดูคึกคักขึ้นมาอย่างมาก คนอื่นๆยังแห่กันมาที่นี่เพื่อเสี่ยงโชค
ในตอนที่เก่อเย่มาถึง หมู่บ้านเสี่ยวอันก็เต็มไปด้วยผู้คน
“ ใครคือผู้ดูแลที่นี่ ?” เก่อเย่ลอยอยู่บนอากาศแล้วถามขึ้นมาพร้อมเสียงที่ดังก้องไปทั่ว ทุกคนพากันเงยหน้าขึ้นมองร่างบนท้องฟ้า นี่คือหนึ่งในแม่ทัพ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ แม่ทัพ ! ท่านเก่อเย่ !”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่เก่อเย่ คนโหดร้ายในตำนานกลับมายังหมู่บ้านเล็กๆนี่
ลั่วเกาลังเลที่จะบอกเรื่องทีมคังเฉียงกับคนอื่นๆ แต่เมื่อเก่อเย่มาที่นี่ เขาก็ไม่อาจลังเลได้อีก
ลั่วเกาทำความเคารพเก่อเย่และพูดขึ้น “ ข้าน้อยลั่วเกาผู้ดูแลหมู่บ้าน คำนับท่านเก่อเย่”
เก่อเย่ถามขึ้นมาทีนที “ ทีมคังเฉียงลงทะเบียนที่หมู่บ้านเจ้าใช่รึไม่ ?”
“ ใช่ !” ลั่วเกาตอบกลับ
เขาได้ส่งหนังสือที่มีข้อมูลของทีมคังเฉียงให้กับเก่อเย่แล้วพูดขึ้น “ นี่คือข้อมูลของทีมคังเฉียง เชิญท่านตรวจสอบ”
เก่อเย่รับหนับสือมาเปิดดูแล้วพูดขึ้น “นอกจากนี้แล้วไม่มีเบาะแสอื่นเกี่ยวกับทีมคังเฉียงเลยรึ ?” เขาสงสัยว่าทีมคังเฉียงนั้นมาจากไหน “ยกตัวอย่างเช่นพวกเขามาจากโกลาหลไหน ?”
ลั่วเกาไม่รู้เรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องซุนกวน “ ทีมคังเฉียงเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจ้าวโกลาหลที่ชื่อซุนกวน พวกเขาใช้เวลาเป็นปีเพื่อตรวจสอบเรื่องซุนกวน เจ้าสำนักบอกว่าหากมีข้อมูลอะไรให้ส่งคนไปยังโลกป่าในโกลาหลหิน เพื่อแจ้งกับสำนักคังเฉียง”
“ โกลาหลหินรึ ?”
“ โกลาหลหินคือโกลาหลที่ซุนกวนได้สร้างขึ้นมา ตอนนี้ที่นั่นมีต้นไม้โกลาหลคอยดูแล มันจึงยังไม่ถูกทำลาย” ลั่วเกาอธิบาย
เก่อเย่พยักหน้า “ งั้นข้าจะเดินทางไปที่โกลาหลหิน หากข่าวนี้เป็นความจริง เจ้าเตรียมรับรางวัลเอาไว้ได้ ”
เก่อเย่พูดขึ้นต่อ “ ส่งตำแหน่งโกลาหลหินให้กับข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก