“ เจ้าสำนัก”
“ อาจารย์”
ทุกคนเห็นจางหยูปรากฏตัวขึ้นมาก็พากันเข้าไปต้อนรับเขาทันที
แม้ว่าเจ้าสำนัก, จางลู่และร่างแยกอื่นๆจะบอกว่าจางหยูปลอดภัย แต่ทุกคนก็ยังกังวลอยู่ดี เมื่อเห็นจางหยูปรากฏตัว พวกเขาก็พากันสบายใจขึ้นมา
“ เจ้าสำนัก แล้วจักรพรรดิซื่อเซียวล่ะ ? การต่อสู้จบแล้วรึ ?” เฉินกูถามขึ้นมา
เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของทุกคน จางหยูก็ส่ายหน้าและพูดขึ้น “ นั่นแค่ร่างแยกของเขา ไม่ใช่ร่างหลัก ”
ตอนนั้นเองจางหยูก็พูดขึ้นต่อ “ สบายใจได้ ร่างแยกนั้นได้ระเบิดตัวเองไปแล้ว มันจะไม่เป็นภัยต่อทุกคน”
ทุกคนต่างก็พากันแปลกใจ ร่างแยกระเบิดตัวเองรึ ?
งั้นเจ้าสำนักก็ขึ้นไปถึงระดับจักรพรรดิจริงๆรึ ?
“ ซื่อเซียวได้ทำการระเบิดตัวเองไป มันยากจะรับรองได้ว่าเขาจะไม่กลับมา ” จางหยูมองไปรอบๆ “ พวกเจ้าต้องรีบบ่มเพาะ หากสู้กับซื่อเซียวไม่ได้ ข้าจะไม่โทษพวกเจ้า แต่หากเป็นร่างแยกของเขาแล้วพวกเจ้ายังสู้ไม่ได้อีก งั้นก็หมายความว่าพวกเจ้ายังพยายามไม่พอ”
“ นี่คือร่างแยกของจักรพรรดิ ! ” หยวนเทียนจียิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“ แล้วยังไง ?” จางหยูพูดขึ้น “ ร่างแยกของจักรพรรดิไม่จำเป็นจะต้องสูงส่งกว่าคนของสำนักคังเฉียง !”
ทุกคนไม่ได้พูดอะไรออกมา พวกเขารู้สึกว่าเจ้าสำนักคาดหวังกับพวกเขามากเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะทัดเทียมกับร่างแยกของจักรพรรดิได้ พวกเขาได้แต่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด “ ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไร พยายามอย่าไปที่เขตซื่อเซียวก็พอ” จางหยูเตือนขึ้นมา “ ตอนนี้ท่าทีของซื่อเซียวที่มีต่อเรานั้น ยังไม่ชัดเจน หากเขาลงมือกับพวกเจ้า ข้าอาจจะปกป้องพวกเจ้าไม่ได้”
จางหยูนึกถึงการรับรู้ในทะเลโกลาหลก่อนหน้านี้ที่เขารู้สึกได้ถึงอันตราย หากนั่นคือซื่อเซียว แม้ว่าทุกคนจะซ่อนตัวอยู่ในสำนักคังเฉียง แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย
หยวนเทียนจีพยักหน้าและพูดขึ้น “ ลูกปัดของเรานั้นยังใช้ไม่หมด แน่นอนว่าเราคงจะไม่กลับไปยังเขตซื่อเซียวเร็วๆนี้ ”
การสร้างลูกปัดต้องใช้เวลานาน ดังนั้นการดูดซับมันจึงใช้เวลานานเช่นกัน
จางหยูส่งข้อความบอกกับจางลู่และร่างแยกคนอื่นๆ “ พวกเจ้าไปยังเขตซื่อเซียวเพื่อสำรวจลู่ทางก่อน ลองตรวจสอบท่าทีของซื่อเซียว หากเขาไม่สนใจพวกเจ้า งั้นก็พิสูจน์แล้วว่าเขาทำตามคำพูดจริงๆ ”
“ แล้วหากเขาลงมือกับเราล่ะ ?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ งั้นนั่นก็ถือว่าเป็นโชคร้ายของเจ้า” จางหยูพูดเล่นขึ้นมา “ หากเขาลงมือกับเจ้า ก็กลับมายังทะเลบรรพกาลได้ไม่ใช่รึ? แน่นอนว่าภารกิจนี้อันตราย แต่ตราบใดที่เจ้าระวังตัวมากพอ งั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร “
จางหยูสั่งการมาแล้ว ร่างแยกจะปฏิเสธได้รึ ?
“ ก็ได้ ” จางลู่ได้แต่ต้องตกลง “ ใครใช้ให้เราเป็นร่างแยกของเจ้าล่ะ เราไม่อาจจะขัดคำสั่งของเจ้าได้…”
คนที่ไปสำรวจสุสานก็เป็นเขา ตอนนี้เขาต้องไปยังเขตซื่อเซียวอีก จางลู่รู้สึกว่าเขาคือเครื่องมือดีๆนี่เอง
หากจางลู่เลือกได้ เขาอยากเป็นคนธรรมดาจะดีกว่า
เมื่อได้รับประโยชน์มากมาย ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องตอบแทน มันไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆในโลกใบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการสำรวจเขตซื่อเซียวในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้น มันยังมีเจ้าสำนัก, ความว่างเปล่า รวมถึงร่างแยกคนอื่นๆด้วย ร่างแยกมากมายช่วยลดแรงกดดันให้เขาได้ เขาไม่ได้ตัวคนเดียว มันจึงทำให้เขาปลอดภัยขึ้นมาอย่างมาก
“ มีคำถามอะไรอีกรึไม่ ?” จางหยูถามจางลู่
“ ไม่มี ” จางลู่พร้อมจะเดินทางไปที่เขตซื่อเซียวแล้ว
“ หากเช่นนั้นก็ไปได้” จางหยูโบกมือ
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว จางเฮ่าหลันก็ก้าวเท้าออกมาถามกับจางหยู “ หยูเอ๋อร์ เจ้าบอกข้ามาตามตรง เจ้ามั่นใจรึว่าเจ้าจะจัดการกับจักรพรรดิซื่อเซียวได้? “
เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของพ่อ จางหยูก็เงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ หากข้ามีเวลาเติบโตมากพอ แน่นอนว่าไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้….ข้ายังไม่ใช่คู่มือของเขา” จักรพรรดิใช้เวลาหลายร้อยล้านยุคกว่าที่จะเติบโตมาจนถึงจุดนี้ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่จางหยูจะเทียบได้ แต่จางหยูเชื่อว่าจักรพรรดิไม่ใช่ขีดจำกัดของตัวเอง
“ งั้นข้าจะเตรียมการไว้ล่วงหน้า หากจักรพรรดิซื่อเซียวลงมือจริงๆ งั้นทุกคนก็อาจจะรับมือไม่ทัน ” จางเฮ่าหลันชอบวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อรับมือกับทุกอย่าง
จางหยูพูดขึ้นมา “ งั้นต้องรบกวนท่านพ่อจัดการด้วย ”
โชคดีที่สำนักคังเฉียงมีจางเฮ่าหลันเป็นรองเจ้าสำนัก ตลอดหลายปีมานี้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เก็บตัวบ่มเพาะ มีแค่เรื่องใหญ่เท่านั้นที่เขาจะออกมาจัดการด้วยตัวเอง หากไม่ใช่เพราะจางเฮ่าหลันคอยดูแลจัดการเรื่องที่สำนักให้ เขาเกรงว่าสำนักคังเฉียงคงไม่พัฒนามาถึงระดับนี้ได้
….
ณ.อาณาเขตของเผ่าสวรรค์
ร่างแยกของซื่อเซียวเดินทางเข้าไปในอาณาเขตของเผ่าสวรรค์อีกครั้ง
ทันทีที่เขาเข้าไปที่นั่น ฉิวหวังก็รับรู้ได้และปรากฏตัวขึ้นมาทันที
“ ซื่อเซียว ” ฉิวหวังมองซื่อเซียวด้วยสีหน้าเฉยเมย “ ยังไม่ทันครบปี เจ้ากลับมาเร็วจริงๆ เจ้าพร้อมจะชดเชยให้กับข้าแล้วรึ ?”
ซื่อเซียวมองไปที่ฉิวหวัง เขาไม่รู้ว่าจางหยูนั้นคือฉิวหวังปลอมตัวมารึไม่ แต่เขาก็ได้แต่ต้องยอมรับ
“ เจ้าอยากให้ข้าชดใช้ยังไงก็บอกมา ?” ซื่อเซียวพร้อมรับบทลงโทษแล้ว
ฉิวหวังคิ้วขมวด “ เจ้าบอกว่าจะให้คำตอบที่ข้าพอใจไม่ใช่รึ ? ทำไมถึงกลับมาถามข้า ?”
เมื่อเห็นท่าทีของฉิวหวัง ซื่อเซียวก็สงสัยขึ้นมา การกระทำของฉิวหวังนั้นไม่เหมือนคนที่ปลอมตัวเป็นจางหยูแม้แต่น้อย หากเรื่องนี้เป็นแผนการของฉิวหวังจริงๆ งั้นฉิวหวังควรจะใช้โอกาสนี้ในการเอาเปรียบเขา ? ทำไมถึงต้องสนใจสิ่งที่เรียกว่าคำตอบด้วย ?
ซื่อเซียวส่ายหน้าสลัดความคิดนี้ออกไปจากหัว “ เรื่องทีมคังเฉียงนั้นข้าไม่อาจจะอธิบายได้ ข้าบอกได้แค่ว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงเป็นถึงระดับจักรพรรดิ ข้าส่งร่างแยกไปหาเขา เขาเรียกตัวเองว่าจักรพรรดิคังเฉียง เราต่างก็รู้ว่าจักรพรรดิมีแค่ 9 คน มันไม่อาจจะมีเพิ่มได้ เขาต้องเป็นจักรพรรดิปลอมตัวมาแน่ แต่จะเป็นคนไหนนั้นข้าไม่อาจจะตรวจสอบได้ในตอนนี้ สมาชิกทีมคังเฉียงมาจากสำนักที่เรียกว่าสำนักคังเฉียง”
“ งั้นรึ ?” ฉิวหวังสีหน้าหม่นลง “ นั่นคือคำตอบที่น่าพอใจที่เจ้าพูดถึงรึ ?”
“ ข้ายอมรับว่าข้ารับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบ แต่การปลอมตัวของเขานั้นดีเกินไป ข้าไม่อาจจะมองออกได้แม้แต่น้อย” แม้ว่าเขาจะเย่อหยิ่งแค่ไหน แต่ตอนนี้เขากลับยอมรับว่ามันเป็นความผิดของเขาเอง เห็นได้ชัดว่าเขาให้การยอมรับจางหยูแค่ไหน “ ข้าบอกไปหมดแล้ว ข้าไม่คิดจะหนีความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ข้าแค่อยากจะบอกเจ้าว่า ข้าไม่ใช่หัวหน้าทีมคังเฉียงจริงๆ ข้าไม่ได้ว่างขนาดนั้น “
เมื่อได้ยินที่ซื่อเซียวอธิบายออกมา ฉิวหวังก็ต้องแปลกใจ
เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงเป็นคนอื่น
“ เอาเถอะ ไม่ว่าหัวหน้าทีมคังเฉียงจะเป็นใคร แต่เจ้าก็ไม่อาจจะหนีความรับผิดชอบได้ ” ฉิวหวังครุ่นคิดอย่างเกียจคร้าน “ เจ้าว่ามาเถอะ เจ้าจะชดเชยให้ข้าอย่างไร ”
ในสายตาของฉิวหวัง จักรพรรดิคังเฉียงจะต้องเป็นหนึ่งในสี่จักรพรรดิเผ่าชีวิตที่ปลอมตัวมา เพราะจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ไม่มีทางปลอมตัวเป็นมนุษย์ และฆ่าคนในเผ่าสวรรค์เอง สำหรับว่าจะเป็นจักรพรรดิคนไหนนั้นเขาไม่สน แค่รู้ว่าเป็นจักรพรรดิเผ่าชีวิตก็เพียงพอแล้ว
“ ลูกปัดจิตสวรรค์ ” ซื่อเซียวกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา “ ลูกปัดจิตสวรรค์ 3 ลูก !” หากลูกปัดดั้งเดิมมีบทบาทสำคัญต่อจ้าวโกลาหล งั้นลูกปัดจิตสวรรค์ก็มีบทบาทสำคัญต่อจักรพรรดิ การดูดซับลูกปัดจิตสวรรค์ 3 ลูกนั้นจะย่นเวลาในการบ่มเพาะไปอย่างมาก
แต่ลูกปัดจิตสวรรค์ไม่ได้สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิแต่มันกำเนิดขึ้นโดยทะเลโกลาหล
แน่นอนว่าหากจักรพรรดิยอมเสียเวลาในการสร้างลูกปัดจิตสวรรค์ขึ้นมา มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่จะมีใครยอมเสียเวลาทำแบบนั้น
“ ไม่พอ ” ฉิวหวังแสดงท่าทีโลภออกมา
“ ข้าเหลือแค่ 3 ลูกเท่านั้น !” ซื่อเซียวสีหน้าหม่นลง
“ 5 !” ฉิวหวังยกมือขึ้น “ ตราบใดที่เจ้าให้ลูกปัดจิตสวรรค์ 5 ลูก เรื่องนี้ข้าจะถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ซื่อเซียวสีหน้าหม่นหมองยิ่งกว่าเก่า “ ลูกปัดจิตสวรรค์ล้ำค่าแค่ไหน เจ้ากับข้าต่างก็รู้ ลูกปัดจิตสวรรค์ 3 ลูกก็เพียงพอแสดงความจริงใจที่ข้ามีแล้ว อย่ากดดันข้ามากไปกว่านี้เลย”
“ นี่คือผลของการทำผิดกฎ ไม่งั้นแล้วจักรพรรดิคนอื่นอาจจะทำตาม” ฉิวหวังพูดขึ้น
“ข้าบอกไปแล้วว่าข้าไม่ได้ทำ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลย ” ซื่อเซียวกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา
“ ใครจะไปรู้กัน ? ” ฉิวหวังตอบกลับ
ซื่อเซียวรู้สึกเศร้า แม้ว่าจะสู้กับจางหยูมาแล้วแต่ก็ไม่อาจจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ยังไงซะใครจะไปรู้ว่าซื่อเซียวอาจจะแต่งเรื่องขึ้นมาเองก็ได้ ?
ซื่อเซียวกดความโกรธในใจเอาไว้และมองไปที่ฉิวหวัง หลังจากนั้นสักพักก็ได้แต่พูดขึ้นมา “ เจ้าชนะ ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก