ซื่อเซียวยอมรับว่าเขาไม่มีทางเลือกเพราะหลักฐานนั้นชี้ชัดมาที่เขา
ลูกปัดจิตสวรรค์ 5 ลูก แม้แต่จักรพรรดิแล้วก็ถือว่าทำให้หัวใจหลั่งเลือดได้เลย
ในตอนที่ส่งลูกปัดจิตสวรรค์ให้กับฉิวหวัง ซื่อเซียวก็สาปแช่งทีมคังเฉียงเอาไว้ เขาสาบานว่าจะต้องแก้แค้นทีมคังเฉียงให้ได้
“ เจ้าพอใจรึยัง ?” เมื่อเห็นรอยยิ้มพอใจของฉิวหวัง ซื่อเซียวก็ไม่พอใจอย่างมาก
“ พอใจอะไร ? นี่แลกกับคนเผ่าสวรรค์ของข้า หากข้าทำได้ ข้ายอมให้คนตายเหล่านั้นฟื้นคืนชีพมา แทนที่จะได้ลูกปัดจิตสวรรค์เหล่านี้ ”
ซื่อเซียวกัดฟันแน่น
คนเหล่านั้นจะมีความหมายอะไรกับจักรพรรดิ ?
นี่ไม่ต้องพูดถึงคนหลายหมื่นคนที่ตายไปเลย แม้ว่าจะเป็นหลายแสนคน แต่ตราบใดที่แลกกับลูกปัดจิตสวรรค์ได้ งั้นจักรพรรดิสวรรค์ก็ไม่มีทางเสียใจกับพวกนั้น
แม้แต่จักรพรรดิเผ่าชีวิตก็ด้วย
“ เอาล่ะ ข้าชดใช้ให้เจ้าแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก “ ซื่อเซียวฮึดฮัดออกมา เขาไม่สนใจจะพูดกับคนเสแสร้งต่อ “ เรื่องนี้จบสิ้นแล้ว ”
ฉิวหวังเก็บลูกปัดจิตสวรรค์และมองไปที่ซื่อเซียว “เรื่องนี้ถือว่าหายกัน เจ้าไปได้ อย่าทำแบบนี้อีก ไม่งั้นแล้วลูกปัดจิตสวรรค์ 5 ลูก คงไม่อาจจะชดเชยได้”
ซื่อเซียวไม่อยากจะพูดไร้สาระอะไรต่อ เขาเดินทางกลับทันที
ฉิวหวังมองไปทางเขตซื่อเซียว “ จักรพรรดิคังเฉียงรึ ?เขาเป็นใครกัน ?”
ดินแดนของเขากับซื่อเซียวนั้นอยู่ใกล้กัน ทั้งสองรู้จักกันดี เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของซื่อเซียวอย่างแน่นอน แต่เขาได้แต่ป้ายความผิดให้กับซื่อเซียวเท่านั้น เพราะเขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิคังเฉียงนั้นเป็นใคร
สิ่งเดียวที่เขามั่นใจคือจักรพรรดิคังเฉียงไม่มีทางเป็นซื่อเซียวแน่ๆ
ซื่อเซียวไม่ได้โง่ เขาจะป้ายความผิดให้ตัวเองทำไม?
ในเมื่อเรื่องนี้มีแต่ซื่อเซียวที่ขาดทุน แล้วทำไมซื่อเซียวถึงต้องทำมัน ?
ด้วยกำไรที่ได้มา ฉิวหวังก็ไม่คิดว่าซื่อเซียวจะโง่แบบนั้นได้
เพียงแค่ว่าฉิวหวังเดาไม่ออกว่าใครกันที่เป็นจักรพรรดิคังเฉียง เท่าที่เขาจำได้ แม้ว่าจักรพรรดิเผ่าชีวิตจะไม่ได้สนิทสนมกัน แต่ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน พวกเขาไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน ในทางกลับกันจักรพรรดิเผ่าชีวิตกับเผ่าสวรรค์นั้นอยู่คนละฝั่งกัน ดังนั้นการป้ายความผิดใส่ซื่อเซียว อาจจะไม่ใช่ฝีมือของจักรพรรดิเผ่าชีวิตแน่
แต่หากเป็นจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ มันก็ยิ่งดูไม่มีเหตุผล ยังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อเผ่าสวรรค์ไม่ใช่รึไง ?
ใครกันที่ทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้?
จักรพรรดิคังเฉียงคงไม่คิดง่ายๆว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้ตัวเองได้ลูกปัดจิตสวรรค์มาง่ายๆหรอกนะ?
“ งั้นใครกันที่เป็นจักรพรรดิคังเฉียง ?” ฉิวหวังสับสน “ ข้าไม่เคยได้ยินว่าซื่อเซียวจะมีความขัดแย้งกับใคร…รึว่าเขาเคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ?”
หากจะพูดถึงความขัดแย้งแล้ว เขาในฐานะเพื่อนบ้านก็คือคนที่ควรจะผิดกับซื่อเซียวมากที่สุด
ผ่านไปสักพัก ฉิวหวังก็ไม่อาจจะหาคำตอบได้ เขาได้แต่ส่ายหน้า ในเมื่อมันดูไม่มีเหตุผล งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องคิดต่อ
ยังไงซะเขาก็ได้ลูกปัดจิตสวรรค์มาแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมให้มันหลุดมือไป สำหรับซื่อเซียวแล้วก็ถือว่าโชคร้ายไปก็แล้วกัน
….
ที่สำนักงานกองทัพเทียนลั่ว
ร่างแยกของซื่อเซียวได้ไปที่นั่น เสียงของเขาราวกับฟ้าผ่าดังกึกก้องไปทั่ว “ แม่ทัพจิง !”
เมื่อเห็นซื่อเซียวปรากฏตัวขึ้นมา จิงหงก็รีบคุกเข่าด้วยความเคารพทันที “ จักรพรรดิ !”
“ จากนี้ไปเจ้าต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของทีมคังเฉียงเอาไว้ ข้าอยากรู้การเคลื่อนไหวของพวกเขาทุกอย่างในเขตซื่อเซียว ทุกเบาะแส ! จำไว้ว่าข้อมูลทั้งหมดของทีมคังเฉียงจะต้องได้รับการบันทึกไว้และรายงานกับข้าโดยตรง”
ในฐานะจักรพรรดิแล้ว เขาไม่อาจจะจับตาดูทีมคังเฉียงตลอดได้ เพราะเขาไม่ได้มีความอดทนพอ
ดังนั้นเขาจึงมอบหน้าที่นี้ให้กับจิงหง เมื่อได้ยินคำสั่งของซื่อเซียว จิงหงก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ รับคำสั่ง ! ”
เขาสงสัยว่าทำไมจักรพรรดิถึงได้สนใจทีมระดับราชานัก แม้ว่าจะสร้างผลงานที่โดดเด่นขึ้นมาได้ รวมถึงหัวหน้าทีมที่อาจจะเป็นแม่ทัพ แต่ก็ไม่น่าจะได้รับความสนใจจากจักรพรรดิไม่ใช่รึ ?
หรือว่าทีมคังเฉียงมีอะไรพิเศษกัน ?
แม้ว่าจะสงสัย แต่จิงหงก็ยังตอบกลับโดยไม่ลังเล เพราะในเขตซื่อเซียวแล้ว คำสั่งของจักรพรรดิเหนือกว่าทุกสิ่ง !
“ หากมีโอกาส ข้าหวังว่าเจ้าจะตามไปตรวจสอบว่าทีมคังเฉียงติดต่อกับจักรพรรดิคนไหนรึไม่ ” ซื่อเซียวพูดขึ้นต่อ
จิงหงแปลกใจ ทีมคังเฉียงเหมือนจะมีปัญหา !
แต่มันควรจะเป็นหน้าที่ของเก่อเย่ในการตรวจสอบทีมคังเฉียงไม่ใช่รึ?
แววตาเขาสะท้อนความสงสัยออกมา “ เก่อเย่บาดเจ็บ ดังนั้นข้าจึงมอบหมายให้เจ้าทำงานนี้ ” ซื่อเซียวเหมือนจะมองความคิดของจิงหงออก จึงได้พูดขึ้น “ เมื่อเก่อเย่หายดีแล้ว เจ้าก็ส่งหน้าที่นี้ให้เขาจัดการต่อได้”
จิงหงแปลกใจ “ เก่อเย่บาดเจ็บงั้นรึ ?”
ต้องรู้ก่อนว่าความแข็งแกร่งของเก่อเย่นั้นด้อยกว่าเขาแค่เล็กน้อยเท่านั้น ในหมู่แม่ทัพแล้วอยู่ระดับกลางค่อนสูง ในทะเลโกลาหลนั้น นอกซะจากว่าจักรพรรดิจะลงมือเอง ไม่งั้นแล้วใครกันที่จะเป็นภัยต่อเก่อเย่ได้ ? แม้แต่แม่ทัพชั้นนำก็ต้องเจ็บตัวหากจะทำเช่นนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยากที่จะทำร้ายเก่อเย่ได้ จนทำให้เก่อเย่ไม่อาจจะทำภารกิจทั่วไปนี้ได้
“ เจ้ารีบจัดการเถอะ ” เมื่อซื่อเซียวพูดจบก็หายตัวไปทันที
ที่ด้านนอกเขตซื่อเซียว สีหน้าเยือกเย็นของซื่อเซียวหายไป และแทนที่ด้วยความเจ็บปวดแทน “ลูกปัดจิตสวรรค์ 5 ลูก ! พระเจ้า อย่าให้ข้ารู้นะว่าเจ้าเป็นใคร !” เขาไม่เคยขาดทุนขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะปล่อยวางเรื่องนี้ได้ แต่ก่อนอื่นเขาต้องคิดให้ออกว่าจักรพรรดิคังเฉียงเป็นใครกันแน่
หากตัวตนที่แท้จริงของจักรพรรดิคังเฉียงไม่อาจจะตรวจสอบได้ งั้นมันก็คงต้องทำลายทีมคังเฉียงทิ้ง
อย่างมากก็กินเวลาแค่อึดใจเดียวเท่านั้น
แต่เขาจงใจปล่อยทีมคังเฉียงไว้เพื่อหวังว่าจะได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของจักรพรรดิคังเฉียงผ่านคนของทีมคังเฉียง
“ หวังว่าพวกนั้นจะไม่ปอดแหกไปซะก่อน หากพวกนั้นไม่มายังเขตซื่อเซียว งั้นมีปัญหาแน่ ” ซื่อเซียวได้แต่ภาวนาในใจ
เมื่อคิดแบบนั้นซื่อเซียวก็ได้สร้างร่างแยกขึ้นมา เขาควบคุมร่างแยกให้เดินทางไปยังโกลาหลหินทันที เพราะคุ้นเคยกับเส้นทาง ร่างแยกนั้นจึงเดินทางมาที่ภูเขาร้างได้อย่างรวดเร็ว เขาได้ตะโกนขึ้น “ จักรพรรดิคังเฉียง ข้าเข้าไปได้รึไม่ ?”
จางเฮ่าหลันเห็นแบบนั้นก็รีบบอกเสี่ยวเสียให้ไปแจ้งเรื่องนี้กับจางหยู
ตอนนี้ร่างแยกกำลังปรึกษากันว่าจะหาลูกปัดดั้งเดิมยังไงหลังจากที่ไปยังเขตซื่อเซียว รวมถึงควรรับภารกิจแบบไหน เมื่อรู้ว่าซื่อเซียวเดินทางมาที่นี่อีก พวกเขาก็ไม่ได้ออกไปปรากฏตัว เพราะคนที่พูดคุยกับซื่อเซียวได้มีแต่ร่างหลักเท่านั้น
“ ซื่อเซียว ” จางหยูเดินทางไปที่ตีนเขา เขามองไปที่ซื่อเซียวด้วยความแปลกใจ “เจ้าบอกว่าเรื่องนั้นหายกันแล้วไม่ใช่รึ? เจ้าคิดจะมาแก้แค้นสำนักคังเฉียงรึไง ?” เขาคอยระวังซื่อเซียว เผื่อว่าซื่อเซียวจะลงมือโจมตี
ซื่อเซียวส่ายหน้าและอธิบายออกมา “ ข้ามาหาก็เพื่อหวังว่าจะร่วมมือกับทีมคังเฉียง”
“ หือ ?” จางหยูแปลกใจพร้อมสายตาที่ดูประหลาดใจ “ ร่วมมือ?”
“ ทีมคังเฉียงของเจ้าแข็งแกร่งไม่เลว หากทีมคังเฉียงกับกองทัพทั้งสามของข้าร่วมมือกันแล้ว มันจะส่งผลต่อทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะสงครามกับเผ่าสวรรค์ หากมีทีมคังเฉียงช่วย เราคงแพ้ได้ยาก “ ซื่อเซียวอ้างถึงเหตุผลที่ฟังขึ้นอย่างมาก “ ตราบใดที่เราร่วมมือกัน ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะแบ่งลูกปัดดั้งเดิมให้ ”
ลูกปัดดั้งเดิมสำหรับจักรพรรดิแล้วแทบไม่มีประโยชน์เลย ซื่อเซียวจึงไม่ได้ให้ค่ามันนัก
จางหยูไม่เชื่อคำพูดของซื่อเซียว แต่ก็ไม่คิดจะกีดกันไม่ให้ทีมคังเฉียงเข้าไปยังเขตซื่อเซียว หากได้ลูกปัดมา งั้นเขาก็ไม่ปฏิเสธ
“ หือ ?เจ้าจะให้ลูกปัดดั้งเดิมเราเท่าไหร่ ?” จางหยูตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ขูดเลือดขุดเนื้อซื่อเซียวให้ได้มากที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก