“ พวกเจ้ายอมแพ้แล้วรึ ?” เมื่อเห็นท่าทีสลดของทั้งสาม จางหยูก็พูดขึ้นมาอย่างช้าๆ” ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่อยากเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหล…”
ซื่อเซียวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ ใครบอกว่าเรายอมแพ้ !”
เย่าหยางและอู่หมิงเองก็ไม่คิดยอมแพ้
จางหยูยักคิ้ว “ งั้นรึ ? งั้นพวกเจ้าจะทำอะไรได้อีก ?”
แม้ว่าจะคาดการณ์อยู่แล้วว่าทั้งสามจะล้มเหลวแต่จางหยูก็ยังรู้สึกผิดหวังในใจ
เขาคาดหวังกับคนเหล่านี้ แต่โชคร้ายที่ความคาดหวังนั้นไม่ได้หมายความว่าพวกนี้จะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้
เมื่อได้ยินคำถามของจางหยู ซื่อเซียวกลับชะงักไปทันที
วิธีรุนแรงไม่ได้ผล พวกเขาลองกันมาแล้ว
หากต้องการเปิดมิติของมันงั้นก็ต้องคิดหาทางอื่น
แต่กล่องกระบี่นั้นเป็นตัวตนหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์กับมิติไม่มีช่องว่างแม้แต่น้อย จึงไม่รู้เลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
“ เมื่อจ้าวแห่งทะเลโกลาหลสร้างมันขึ้นมา งั้นมันก็ต้องมีทางเปิดออกได้แน่” อู่หมิงพูดขึ้น “ บางทีอาจจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ในกล่องกระบี่นี้”
ซื่อเซียวได้ยินแบบนั้นก็บินเข้าไปหากล่องกระบี่และพยายามหากลไกของมัน แต่โชคร้ายที่ถึงจะตรวจสอบทุกส่วนของมันแล้ว แต่ก็ไม่พบกลไกใดๆเลย
เย่าหยางเองก็ตรวจสอบกล่องกระบี่เช่นกันแต่ก็ไม่พบกลไกใดๆ
“ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ภายใน” เย่าหยางพูดขึ้น “ ข้าคิดว่าน่าจะเป็นอย่างอื่น”
อู่หมิงคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ ทำไมไม่ฉีดพลังจิตเข้าไป ?”
ซื่อเซียวและเย่าหยางมองหน้ากัน พวกเขากดมือลงไปที่กล่องกระบี่และโคจรพลังจิตเข้าไปในกล่องทันที
ต่อมากล่องกระบี่กลับเปล่งแสงออกมาราวกับตื่นขึ้น พลังจิตที่ไหลอยู่ในกล่องกระบี่เหมือนทำงานขึ้นมา คลื่นพลังอันน่ากลัวปะทุออกมาจนทำให้พวกเขาใจสั่น
ซื่อเซียวตาเป็นประกายขึ้นมา “ ดูเหมือนว่า…จะได้ผล !”
เย่าหยางและอู่หมิงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น สายตาพวกเขาแสดงความแปลกใจออกมา
หลังจากที่พยายามมานานสุดท้ายกล่องกระบี่ก็มีปฏิกิริยาแล้วถึงจะแค่เล็กน้อยก็ตาม
พวกเขาเหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายได้ พวกเขาเริ่มเพิ่มพลังจิตเข้าไปทันที !
จากพลังจิตที่ไหลเข้ามา แสงของกล่องกระบี่ก็เริ่มที่จะสว่างขึ้น พลังจิตที่ไหลอยู่ภายในเริ่มเข้มข้นกว่าเก่า จางหยู แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา “ พวกนี้…หากทางเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้จริงๆรึ ?”
แต่การฉีดพลังจิตเข้าไปนั้นเขาเคยลองมาแล้ว มันเหมือนไม่ได้ผลใดๆ กล่องกระบี่ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้แม้แต่น้อย เมื่อเปลี่ยนเป็นพวกนี้แล้วทำไมกล่องกระบี่ถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้ ?
“ เพราะพวกนี้เป็นจักรพรรดิของทะเลโกลาหลรึ ?” จางหยูคิด
แม้ว่าเขาจะไม่อาจจะเดาเหตุผลเรื่องนี้ออก แต่จางหยูก็ยังคาดหวัง หากพวกนี้เปิดมิติของกล่องกระบี่ได้จริงๆ งั้นก็ถือว่าดี
จางหยูยืนรออยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจพวกนี้
มันแค่ว่า….เมื่อเวลาผ่านไปแม้ว่าแสงจากกล่องกระบี่จะสว่างขึ้นพร้อมกับพลังจิตด้านในที่ผันผวนอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอื่นเลย มิติในกล่องกระบี่ยังเงียบงันไม่มีท่าทีว่าจะเปิดออกแม้แต่น้อย “ เกิดอะไรขึ้นกัน ?” จางหยูสงสัย
ผ่านไปสักพักซื่อเซียว, เย่าหยางและอู่หมิงก็หยุดมือ พวกเขาดึงมือกลับมาพร้อมเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัว ก่อนจะพากันหอบหายใจ
จางหยูบินเข้าไปหาแล้วถามขึ้น “ ทำไมถึงหยุดมือ ?”
ซื่อเซียวและคนอื่นๆมองหน้ากัน พวกเขาเองก็ไม่พอใจแต่ก็หมดหนทาง
“ ข้าใช้พลังจิตแทบจะหมดแล้ว” อู่หมิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตอบกลับ “ หากเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะส่งผลเสียต่อแก่นจิตได้”
ซื่อเซียวหงุดหงิดอย่างมาก เขาไม่อยากจะหยุดแต่ปัญหาคือพลังจิตเขาแทบหมดแล้ว เขาได้แต่ต้องหยุด ที่สำคัญกว่านั้นคือกล่องกระบี่เหมือนกับหลุมที่ไร้ก้น ไม่ว่าจะถ่ายเทพลังจิตไปแค่ไหนแต่มิติของกล่องกระบี่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออกเลย ราวกับความพยายามของพวกเขาไร้ค่า
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็อุทานออกมา“ น่าเสียดายจริงๆ ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้เสียอีก”
“ กล่องกระบี่นี่เหมือนกับหลุมที่ไร้ก้น” เย่าหยางพูดขึ้น “ ด้วยความแข็งแกร่งของเราสามคนแล้วไม่อาจจะพอเพียงได้ ”
ซื่อเซียวมองไปที่จางหยู “ เจ้าไม่คิดจะลองหน่อยรึ ?”
เย่าหยางและอู่หมิงพากันมองไปที่จางหยู
พวกเขาสงสัยว่าจางหยูเคยใช้วิธีนี้กับการเปิดมิติของกล่องกระบี่ไปแล้ว
“ ข้าเคยลองมานานแล้วแต่มันดีดพลังจิตของข้าออกมา” จางหยูถอนหายใจออกมา “ หากไม่เป็นเช่นนั้นข้าคงไม่ให้พวกเจ้าลอง”
“ ดีดออกรึ ?” ซื่อเซียวสงสัยขึ้นมา “ ทำไมกัน ?”
จางหยูมองไปยังทั้งสามคน “ พวกเจ้าไม่เชื่อรึ ?” ซื่อเซียวกับคนอื่นๆไม่ได้พูดอะไรแต่สีหน้าก็เพียงพอที่จะบอกความคิดได้
“ ก็ได้ เมื่อพวกเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะพิสูจน์ให้เห็น “ จางหยูกดมือลงบนกล่องกระบี่แล้วโคจรพลังจิตเข้าไป
แต่ตอนที่พลังจิตของเขาสัมผัสกับกล่องกระบี่ พลังจิตกลับโดนดีดออกมาราวกับจนกับกำแพงที่มองไม่เห็น
จางหยูดึงมือกลับมาและพูดขึ้น “ ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อรึยัง ?”
เมื่อเห็นแบบนั้นทั้งสามคนก็พากันตกใจ ไม่คิดเลยว่ากล่องกระบี่จะดีดพลังจิตของจางหยูออกมาได้
“ บางทีอาจจะเป็นตามที่เจ้าบอกมา กล่องกระบี่นี้เป็นของทะเลโกลาหล ข้าเป็นจักรพรรดิทะเลบรรพกาล ดังนั้นมันจึงปฏิเสธพลังจิตของข้า” จางหยูพูดขึ้น “ หากไม่เป็นเช่นนั้น ข้าเกรงว่าข้าคงเปิดมันได้นานแล้ว”
“ งั้น…เจ้าไม่ได้เปิดมิติของกล่องกระบี่รึ ?” ซื่อเซียวอึ้ง
เย่าหยางตะลึง “ ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ใช่เพราะไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลรึถึงได้แกร่งแบบนี้ได้ ?”
พวกเขาเชื่อว่าที่จางหยูแข็งแกร่งก็เพราะไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซื่อเซียวและคนอื่นๆก็พากันได้สติ
กลับเป็นว่ามันไม่ใช่พวกเขาโชคดีรึ จางหยูโง่ที่จางหยูให้โอกาสพวกเขาเพราะไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้
ไม่แปลกเลยที่จางหยูไม่ปฏิเสธอะไรตั้งแต่แรก
“ ข้าคิดว่าเขาคิดจะยืมมือเรามากกว่าที่เราต้องการให้เขาร่วมมือเสียอีก ?” ซื่อเซียวคิด เขาราวกับมองความคิดของ จางหยูออก
เย่าหยางและอู่หมิงมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าซับซ้อน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาโดนจางหยูจูงจมูกมาตั้งแต่แรกแล้ว “ เป็นยังไง พวกเจ้าอยากจะลองกันอีกรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าทั้งสามจะล้มเหลวและไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้แต่พลังจิตของพวกนี้ก็ทำให้กล่องกระบี่ตอบสนองได้ ดังนั้นจางหยูจึงเห็นความหวังที่จะเปิดมิติของกล่องกระบี่ออกได้ บางทีมิติของกล่องกระบี่อาจจะไม่จำเป็นต้องเปิดโดยสายเลือดตระกูลซุน ตราบใดที่มีพลังจิตมากพองั้นก็เป็นไปได้ที่จะเปิดมิติของกล่องกระบี่ออกได้
แม้ว่าจะเปิดมิติของมันไม่ได้แต่ก็ยังส่งผลดีต่อกล่องกระบี่ได้อยู่
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู ทั้งสามก็มองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มขมขื่น
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากจะลองต่อ แต่พลังจิตของพวกเขานั้นแทบจะหมดแล้วไม่อาจจะทำอะไรต่อได้
ยิ่งไปกว่านั้นกล่องกระบี่นี่ก็เหมือนหลุมที่ไร้ก้น พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเปิดมิติของมันได้รึไม่ “ เราต้องการเวลา” อู่หมิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “ เมื่อพลังจิตของเราฟื้นฟูกลับมา เราถึงจะลองอีกได้”
ซื่อเซียวมองไปที่จางหยู “ แม้ว่าเราไม่อาจจะเปิดมิติของมันออกได้ในครั้งนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าเสียแรงเปล่า สหายคังเฉียงคงไม่ปฏิเสธเราในครั้งหน้าหรอกนะ ?”
จางหยูยิ้มออกมา “ตามที่เราตกลงกันไว้ หากพวกเจ้าไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้ พวกเจ้าก็ห้ามยุ่งเรื่องนี้อีกแต่ครั้งนี้ข้าให้เป็นกรณีพิเศษ ข้ารับปากว่าจะให้พวกเจ้าทดสอบจนกว่าจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้ นอกจากนี้แล้วพวกเจ้าก็บอกหว่านเก่อและเรนไนมาช่วยได้เช่นกัน”
แรงงานดีๆแบบนี้แน่นอนว่าจางหยูไม่คิดที่จะปฏิเสธ
ซื่อเซียวลังเลสักพักก่อนจะถามขึ้น “ เจ้าให้เราดูแลกล่องกระบี่นี้ได้รึไม่ ?”
“ ให้พวกเจ้ารึ ?” รอยยิ้มของจางหยูหายไป สายตาของเขาสะท้อนความเย็นชาออกมา“ ข้าพูดดีไปจนพวกเจ้าเข้าใจผิดคิดว่าข้าใจดีรึไง ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก