ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 2005
ตอนที่ 2005 : บดขยี้
“ ช้าก่อน…” เวลกำลังจะพูดออกมาแต่ก่อนที่เขาจะได้พูดมิติรอบตัวก็สั่นไหว
ตอนนั้นคลื่นพลังหนึ่งได้ออกมาครอบคลุมเหล่าแม่ทัพเผ่าสวรรค์เอาไว้
คลื่นพลังพวกนี้น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่าบลู มันทำให้แม่ทัพราวกับเผชิญหน้ากับเทพอยู่
แต่นี่แค่เริ่มต้น ตอนที่คลื่นพลังนี้แผ่ออกมา คลื่นพลังเกือบ 300 อันที่ทัดเทียมกันได้ก็ปะทุออกมา ในพริบตาคลื่นพลังก็ได้ซับท้อนกันจนทำให้มิติของเขตต้นกำเนิดสั่นไหวอย่างรุนแรง
เหล่าแม่ทัพเผ่าสวรรค์ที่พูดออกมาตะกี้ไม่ทันได้กรีดร้องก็หายไปทันที !
แม่ทัพสองคนจากเขตข่งจู้และอีกคนจากเขตเทียนตู้ ได้หายไปทันที !
คนของทีมคังเฉียงยังไม่ได้ลงมือ พวกเขาอาศัยแค่คลื่นพลังก็ทำลายแม่ทัพสามคนได้แล้ว
คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ได้ครอบคลุมทุกคนเอาไว้ ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหน มิติเขตต้นกำเนิดก็สั่นไหวและบิดเบี้ยวไป ใจกลางคลื่นพลังที่ทับซ้อนกันนี้ มิติได้พังลงจนเกิดเป็นวังวนขึ้นมา ในอีกด้านของวังวนคือมิติภายนอกที่ลึกลับและน่ากลัว
“ ช้าก่อน” จนกระทั่งแม่ทัพทั้งสามหายไป เวลก็ถึงพูดออกมาได้
จางลู่มองไปที่เวลด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ต้องกังวล ข้าบอกให้เจ้าคิด สามคนนี้พวกเขาตัดสินใจก่อนเอง เราแค่เคารพการตัดสินใจของพวกนี้และฆ่าพวกนี้เสียแต่ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงตัดสินใจต่างกันออกไปสินะ”
เวลกลืนน้ำลายแล้วตอบกลับ “ ชะ ใช่…”
แม่ทัพคนอื่นๆกลัวจนขาสั่น พวกนั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
ทุกคนต่างก็ยอมแพ้ให้กับทีมคังเฉียง !
คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับอยู่ในนรก ทุกคนไม่อาจจะหายใจออกได้ พวกเขาอยากจะคุกเข่าลงไปแต่เกียรติในใจประคองตัวพวกเขาอยู่
น่ากลัวจริงๆ !
ทีมคังเฉียงทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกนี้เหมือนกับแม่ทัพสูงสุดเป็นร้อยๆคน มันราวกับว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็มีความแข็งแกร่งกำจัดพวกได้หมด แต่ละคนราวกับทวยเทพ
“ ทำไม…พวกเขาถึงแกร่งกันได้ถึงเพียงนี้ !”
“ พระเจ้า คลื่นพลังของพวกนี้ไม่ได้แย่ไปกว่าท่านบลูเลย !”
“ แม่ทัพสูงสุด ! มีแค่แม่ทัพสูงสุดเท่านั้นที่จะสร้างแรงกดดันแบบนี้กับเราได้ !”
“ แม่ทัพสูงสุดเกือบ 300 คน !”
“ นี่ใช่ฝันรึไม่ ? หากมันเป็นความฝัน ข้าอยากให้มันหายไปเร็วๆ !”
…
ที่เขตเผ่าสวรรค์ ข่งจู้ , หย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และเมิ่งเหยียนพากันมองหน้ากันและพบสายตาสงสัยและสับสนของอีกฝ่าย
พวกเขาเห็นภาพจากเขตต้นกำเนิด แม่ทัพเผ่าสวรรค์หลายคนหายไปในพริบตา ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นพวกเขาไม่เห็นทีมคังเฉียงลงมือเลย มันราวกับว่าพวกที่ตายไปนั้นไม่ได้เป็นฝีมือของทีมคังเฉียงเลยแต่พวกเขาเดาออกว่าการตายของพวกนี้เกี่ยวข้องกับทีมคังเฉียง
“ พวกเขาทำได้ยังไงกัน ?” ข่งจู้คิ้วขมวด “ พวกเขาใช้วิธีไหนปกปิดสายตาเราได้ ?”
พูดตามเหตุผลแล้วความแข็งแกร่งของจักรพรรดินั้น แม้ว่าแม่ทัพจะรวดเร็วแต่ก็ไม่อาจจะหลุดรอดสายตาพวกเขาไปได้
พวกเขาหาเหตุผลไม่พบ
ข่งจู้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถามเวล “ เกิดอะไรขึ้นกัน? ทั้งสามคนตายได้ยังไง ? ทำไมเจ้าถึงได้กลัวเช่นนี้ ? “ ในภาพนั้นไม่อาจจะรับรู้คลื่นพลังของทีมคังเฉียงได้”เหตุใดเขตต้นกำเนิดจึงสั่นไหวรุนแรงเช่นนี้ ?ทำไมถึงเกิดวังวนนั่นขึ้นได้ ?”
เหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันสงสัย
“ คลื่นพลังน่าตกใจ….” เวลพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่น “ มันเพราะคลื่นพลังของพวกนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ข่งจู้ก็สับสน “ เจ้าหมายความว่ายังไง ?”
เวลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ แม่ทัพสูงสุด ! พวกนี้ทุกคนเป็นแม่ทัพสูงสุด !”
เวลพูดออกมาผิดๆถูกๆ ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่อาจจะคิดอะไรออกด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินคำพูดของเวล ข่งจู้ก็หรี่ตาลงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“ เขาว่ายังไง ?” หย่วนเหยี่ยนเห็นสีหน้าของข่งจู้ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“ เขาบอกว่าคนของทีมคังเฉียงนั้นล้วนแต่เป็นแม่ทัพสูงสุด” ข่งจู้มองไปที่บลู ด้วยสีหน้าซับซ้อนก่อนจะพูดขึ้นมาช้าๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันตะลึง
“ เป็นไปไม่ได้ !” เทียนตู้พูดขึ้นมา
หย่วนเหยี่ยนและเมิ่งเหยียนคิ้วขมวด ก่อนหน้านี้ที่บลูพูดเรื่องนี้พวกเขากลับไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เวลกลับพูดแบบเดียวกัน
ข่งจู้สูดหายใจเข้าลึกๆและบอกกับเวล “ เจ้ามั่นใจรึว่าพวกเขาเป็นแม่ทัพสูงสุด ?”
ตอนนั้นเวลสงบสติอารมณ์ได้บ้างแต่เสียงก็ยังสั่นเช่นเดิม “ จักรพรรดิ คลื่นพลังของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าท่านบลู เลย ทุกคนต่างก็แกร่งกว่าข้าอย่างมาก” เวลเป็นแม่ทัพขั้นสูง คลื่นพลังที่แกร่งกว่าเขามากนั้นมีได้แค่คำอธิบายเดียวคืออีกฝ่ายต้องเป็นแม่ทัพสูงสุด
แต่คลื่นพลังของทุกคนเหนือกว่าเวลอย่างมาก มันจะดูเกินไปหน่อยหรือไม่ ข่งจู้แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ ทุกคนเลยรึ ?”
“ ใช่ ทุกคนเลย !” เวลพูดขึ้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ ตะกี้พวกเราสามคนโดนคลื่นพลังของพวกเขาบดขยี้ไปทันที ! ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้พวกเขาไม่ได้ลงมืออะไรเลย…”
พระเจ้าแค่คลื่นพลังก็ฆ่าแม่ทัพไปกว่า 3 คนได้แล้ว !
เหล่าจักรพรรดิอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
หากเป็นพวกเขา พวกเขาก็สามารถทำเช่นนี้ได้แต่ต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาเป็นจักรพรรดิ !
หากพวกเขาไม่ได้ลงมือ พวกเขาก็มั่นใจว่าร่างแยกของพวกเขาไม่อาจจะบดขยี้แม่ทัพเช่นนี้ได้แน่นอน ยังไงซะแม่ทัพพวกนี้ก็อยู่ขั้นสูง ความแข็งแกร่งเกือบจะทัดเทียมกับแม่ทัพสูงสุดได้ จากจุดนี้ก็มองออกว่าคลื่นพลังของทีมคังเฉียงนั้นน่ากลัวเพียงใด แม้ว่าอาจจะเทียบกับจักรพรรดิไม่ได้แต่แน่นอนว่าเหนือกว่าแม่ทัพและบดขยี้แม่ทัพได้
ตอนนั้นข่งจู้ก็รู้ความผิดพลาดของตัวเอง สิ่งที่เขาคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้นกลับเป็นความจริง
ในเวลาเดียวกันหย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และเมิ่งเหยียนต่างก็เริ่มหวั่นใจ
บลูไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย มันกลับเป็นว่าเขาไม่ได้โกหก
หากเหล่าจักรพรรดิเลือกที่จะลงโทษเขา งั้นเขาก็ได้แต่ต้องยอมรับมัน
“ ข้าไม่เชื่อ !” เทียนตู้ยังรู้สึกว่ามันเกินจริงไป แม้ว่าทีมคังเฉียงจะบ่มเพาะแม่ทัพได้ 30 คนก็ถือว่าเหนือความคาดหมายแล้ว มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีแม่ทัพกว่า 300 คนและทุกคนก็เป็นแม่ทัพสูงสุดกันทังหมด นี่มันพลิกมุมมองของทุกคนเกินไป “ ข้าอยากยืนยันด้วยตัวเอง !” เมื่อพูดจบ เทียนตู้ก็ได้หลับตาลง
ในเขตเทียนตู้ …….
เทียนตู้ได้ควบคุมพลังจิตทะลุกำแพงเขตต้นกำเนิดเชื่อมต่อกับจิตของแม่ทัพในทีมของเวล
“ จักรพรรดิ !” แม่ทัพจากเขตเทียนตู้รับรู้ได้ถึงบางอย่างและใจเย็นขึ้นมาทันที
เทียนตู้ได้ถามขึ้นมมา “ เกิดอะไรขึ้นในเขตต้นกำเนิด บอกข้ามา”
แม่ทัพไม่ลังเลและบอกรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเทียนตู้
ผ่านไปสักพัก
ร่างแยกของเทียนตู้ในเขตข่งจู้ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
หย่วนเหยี่ยนและเมิ่งเหยียนพากันมองไปที่เทียนตู้ด้วยความกังวล
“ บลูกับเวลไม่ได้โกหก” เทียนตู้มองไปที่บลูด้วยสีหน้าซับซ้อน ก่อนจะบอกกับหย่วนเหยี่ยนและเมิ่งเหยียน “มันน่าเหลือเชื่อแต่..คนของทีมคังเฉียงนั้นเป็นแม่ทัพสูงสุดกันจริงๆ ! อย่างน้อยส่วนมากก็เป็นแม่ทัพสูงสุด !”
เหล่าจักรพรรดิพากันเงียบไป
สักพักข่งจู้ก็ถอนหายใจออกมา “ ไม่มีหวัง ยอมแพ้เสีย”
“ ไม่ บลูล้มเหลวแต่ล็อคไม่ได้ล้มเหลว” หย่วนเหยี่ยนพูดขึ้นมา “ ตราบใดที่เราบอกล็อคล่วงหน้าให้อยู่ห่างจากทางออกสู่เขตข่งจู้ งั้นเราก็พอชดเชยความเสียหายได้บ้าง”
สิ่งที่พวกเขาเสียไปตอนนี้คือลูกปัดจิตจากส่วนเหนือ ลูกปัดจิตในส่วนใต้นั้นอยู่กับล็อค
เมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็เริ่มมีหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ถูกแล้ว ความหวังนี้อยู่ที่ล็อค !
ไม่ว่าทีมคังเฉียงจะแกร่งแค่ไหนแต่จะปิดทางออกทุกทางได้รึ ?
“ ช้าก่อน…” เวลกำลังจะพูดออกมาแต่ก่อนที่เขาจะได้พูดมิติรอบตัวก็สั่นไหว
ตอนนั้นคลื่นพลังหนึ่งได้ออกมาครอบคลุมเหล่าแม่ทัพเผ่าสวรรค์เอาไว้
คลื่นพลังพวกนี้น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่าบลู มันทำให้แม่ทัพราวกับเผชิญหน้ากับเทพอยู่
แต่นี่แค่เริ่มต้น ตอนที่คลื่นพลังนี้แผ่ออกมา คลื่นพลังเกือบ 300 อันที่ทัดเทียมกันได้ก็ปะทุออกมา ในพริบตาคลื่นพลังก็ได้ซับท้อนกันจนทำให้มิติของเขตต้นกำเนิดสั่นไหวอย่างรุนแรง
เหล่าแม่ทัพเผ่าสวรรค์ที่พูดออกมาตะกี้ไม่ทันได้กรีดร้องก็หายไปทันที !
แม่ทัพสองคนจากเขตข่งจู้และอีกคนจากเขตเทียนตู้ ได้หายไปทันที !
คนของทีมคังเฉียงยังไม่ได้ลงมือ พวกเขาอาศัยแค่คลื่นพลังก็ทำลายแม่ทัพสามคนได้แล้ว
คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ได้ครอบคลุมทุกคนเอาไว้ ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหน มิติเขตต้นกำเนิดก็สั่นไหวและบิดเบี้ยวไป ใจกลางคลื่นพลังที่ทับซ้อนกันนี้ มิติได้พังลงจนเกิดเป็นวังวนขึ้นมา ในอีกด้านของวังวนคือมิติภายนอกที่ลึกลับและน่ากลัว
“ ช้าก่อน” จนกระทั่งแม่ทัพทั้งสามหายไป เวลก็ถึงพูดออกมาได้
จางลู่มองไปที่เวลด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ต้องกังวล ข้าบอกให้เจ้าคิด สามคนนี้พวกเขาตัดสินใจก่อนเอง เราแค่เคารพการตัดสินใจของพวกนี้และฆ่าพวกนี้เสียแต่ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงตัดสินใจต่างกันออกไปสินะ”
เวลกลืนน้ำลายแล้วตอบกลับ “ ชะ ใช่…”
แม่ทัพคนอื่นๆกลัวจนขาสั่น พวกนั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
ทุกคนต่างก็ยอมแพ้ให้กับทีมคังเฉียง !
คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับอยู่ในนรก ทุกคนไม่อาจจะหายใจออกได้ พวกเขาอยากจะคุกเข่าลงไปแต่เกียรติในใจประคองตัวพวกเขาอยู่
น่ากลัวจริงๆ !
ทีมคังเฉียงทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกนี้เหมือนกับแม่ทัพสูงสุดเป็นร้อยๆคน มันราวกับว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็มีความแข็งแกร่งกำจัดพวกได้หมด แต่ละคนราวกับทวยเทพ
“ ทำไม…พวกเขาถึงแกร่งกันได้ถึงเพียงนี้ !”
“ พระเจ้า คลื่นพลังของพวกนี้ไม่ได้แย่ไปกว่าท่านบลูเลย !”
“ แม่ทัพสูงสุด ! มีแค่แม่ทัพสูงสุดเท่านั้นที่จะสร้างแรงกดดันแบบนี้กับเราได้ !”
“ แม่ทัพสูงสุดเกือบ 300 คน !”
“ นี่ใช่ฝันรึไม่ ? หากมันเป็นความฝัน ข้าอยากให้มันหายไปเร็วๆ !”
…
ที่เขตเผ่าสวรรค์ ข่งจู้ , หย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และเมิ่งเหยียนพากันมองหน้ากันและพบสายตาสงสัยและสับสนของอีกฝ่าย
พวกเขาเห็นภาพจากเขตต้นกำเนิด แม่ทัพเผ่าสวรรค์หลายคนหายไปในพริบตา ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นพวกเขาไม่เห็นทีมคังเฉียงลงมือเลย มันราวกับว่าพวกที่ตายไปนั้นไม่ได้เป็นฝีมือของทีมคังเฉียงเลยแต่พวกเขาเดาออกว่าการตายของพวกนี้เกี่ยวข้องกับทีมคังเฉียง
“ พวกเขาทำได้ยังไงกัน ?” ข่งจู้คิ้วขมวด “ พวกเขาใช้วิธีไหนปกปิดสายตาเราได้ ?”
พูดตามเหตุผลแล้วความแข็งแกร่งของจักรพรรดินั้น แม้ว่าแม่ทัพจะรวดเร็วแต่ก็ไม่อาจจะหลุดรอดสายตาพวกเขาไปได้
พวกเขาหาเหตุผลไม่พบ
ข่งจู้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถามเวล “ เกิดอะไรขึ้นกัน? ทั้งสามคนตายได้ยังไง ? ทำไมเจ้าถึงได้กลัวเช่นนี้ ? “ ในภาพนั้นไม่อาจจะรับรู้คลื่นพลังของทีมคังเฉียงได้”เหตุใดเขตต้นกำเนิดจึงสั่นไหวรุนแรงเช่นนี้ ?ทำไมถึงเกิดวังวนนั่นขึ้นได้ ?”
เหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันสงสัย
“ คลื่นพลังน่าตกใจ….” เวลพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่น “ มันเพราะคลื่นพลังของพวกนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ข่งจู้ก็สับสน “ เจ้าหมายความว่ายังไง ?”
เวลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ แม่ทัพสูงสุด ! พวกนี้ทุกคนเป็นแม่ทัพสูงสุด !”
เวลพูดออกมาผิดๆถูกๆ ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่อาจจะคิดอะไรออกด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินคำพูดของเวล ข่งจู้ก็หรี่ตาลงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“ เขาว่ายังไง ?” หย่วนเหยี่ยนเห็นสีหน้าของข่งจู้ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“ เขาบอกว่าคนของทีมคังเฉียงนั้นล้วนแต่เป็นแม่ทัพสูงสุด” ข่งจู้มองไปที่บลู ด้วยสีหน้าซับซ้อนก่อนจะพูดขึ้นมาช้าๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าจักรพรรดิต่างก็พากันตะลึง
“ เป็นไปไม่ได้ !” เทียนตู้พูดขึ้นมา
หย่วนเหยี่ยนและเมิ่งเหยียนคิ้วขมวด ก่อนหน้านี้ที่บลูพูดเรื่องนี้พวกเขากลับไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เวลกลับพูดแบบเดียวกัน
ข่งจู้สูดหายใจเข้าลึกๆและบอกกับเวล “ เจ้ามั่นใจรึว่าพวกเขาเป็นแม่ทัพสูงสุด ?”
ตอนนั้นเวลสงบสติอารมณ์ได้บ้างแต่เสียงก็ยังสั่นเช่นเดิม “ จักรพรรดิ คลื่นพลังของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าท่านบลู เลย ทุกคนต่างก็แกร่งกว่าข้าอย่างมาก” เวลเป็นแม่ทัพขั้นสูง คลื่นพลังที่แกร่งกว่าเขามากนั้นมีได้แค่คำอธิบายเดียวคืออีกฝ่ายต้องเป็นแม่ทัพสูงสุด
แต่คลื่นพลังของทุกคนเหนือกว่าเวลอย่างมาก มันจะดูเกินไปหน่อยหรือไม่ ข่งจู้แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ ทุกคนเลยรึ ?”
“ ใช่ ทุกคนเลย !” เวลพูดขึ้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ ตะกี้พวกเราสามคนโดนคลื่นพลังของพวกเขาบดขยี้ไปทันที ! ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้พวกเขาไม่ได้ลงมืออะไรเลย…”
พระเจ้าแค่คลื่นพลังก็ฆ่าแม่ทัพไปกว่า 3 คนได้แล้ว !
เหล่าจักรพรรดิอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
หากเป็นพวกเขา พวกเขาก็สามารถทำเช่นนี้ได้แต่ต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาเป็นจักรพรรดิ !
หากพวกเขาไม่ได้ลงมือ พวกเขาก็มั่นใจว่าร่างแยกของพวกเขาไม่อาจจะบดขยี้แม่ทัพเช่นนี้ได้แน่นอน ยังไงซะแม่ทัพพวกนี้ก็อยู่ขั้นสูง ความแข็งแกร่งเกือบจะทัดเทียมกับแม่ทัพสูงสุดได้ จากจุดนี้ก็มองออกว่าคลื่นพลังของทีมคังเฉียงนั้นน่ากลัวเพียงใด แม้ว่าอาจจะเทียบกับจักรพรรดิไม่ได้แต่แน่นอนว่าเหนือกว่าแม่ทัพและบดขยี้แม่ทัพได้
ตอนนั้นข่งจู้ก็รู้ความผิดพลาดของตัวเอง สิ่งที่เขาคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้นกลับเป็นความจริง
ในเวลาเดียวกันหย่วนเหยี่ยน, เทียนตู้ และเมิ่งเหยียนต่างก็เริ่มหวั่นใจ
บลูไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย มันกลับเป็นว่าเขาไม่ได้โกหก
หากเหล่าจักรพรรดิเลือกที่จะลงโทษเขา งั้นเขาก็ได้แต่ต้องยอมรับมัน
“ ข้าไม่เชื่อ !” เทียนตู้ยังรู้สึกว่ามันเกินจริงไป แม้ว่าทีมคังเฉียงจะบ่มเพาะแม่ทัพได้ 30 คนก็ถือว่าเหนือความคาดหมายแล้ว มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีแม่ทัพกว่า 300 คนและทุกคนก็เป็นแม่ทัพสูงสุดกันทังหมด นี่มันพลิกมุมมองของทุกคนเกินไป “ ข้าอยากยืนยันด้วยตัวเอง !” เมื่อพูดจบ เทียนตู้ก็ได้หลับตาลง
ในเขตเทียนตู้ …….
เทียนตู้ได้ควบคุมพลังจิตทะลุกำแพงเขตต้นกำเนิดเชื่อมต่อกับจิตของแม่ทัพในทีมของเวล
“ จักรพรรดิ !” แม่ทัพจากเขตเทียนตู้รับรู้ได้ถึงบางอย่างและใจเย็นขึ้นมาทันที
เทียนตู้ได้ถามขึ้นมมา “ เกิดอะไรขึ้นในเขตต้นกำเนิด บอกข้ามา”
แม่ทัพไม่ลังเลและบอกรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเทียนตู้
ผ่านไปสักพัก
ร่างแยกของเทียนตู้ในเขตข่งจู้ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
หย่วนเหยี่ยนและเมิ่งเหยียนพากันมองไปที่เทียนตู้ด้วยความกังวล
“ บลูกับเวลไม่ได้โกหก” เทียนตู้มองไปที่บลูด้วยสีหน้าซับซ้อน ก่อนจะบอกกับหย่วนเหยี่ยนและเมิ่งเหยียน “มันน่าเหลือเชื่อแต่..คนของทีมคังเฉียงนั้นเป็นแม่ทัพสูงสุดกันจริงๆ ! อย่างน้อยส่วนมากก็เป็นแม่ทัพสูงสุด !”
เหล่าจักรพรรดิพากันเงียบไป
สักพักข่งจู้ก็ถอนหายใจออกมา “ ไม่มีหวัง ยอมแพ้เสีย”
“ ไม่ บลูล้มเหลวแต่ล็อคไม่ได้ล้มเหลว” หย่วนเหยี่ยนพูดขึ้นมา “ ตราบใดที่เราบอกล็อคล่วงหน้าให้อยู่ห่างจากทางออกสู่เขตข่งจู้ งั้นเราก็พอชดเชยความเสียหายได้บ้าง”
สิ่งที่พวกเขาเสียไปตอนนี้คือลูกปัดจิตจากส่วนเหนือ ลูกปัดจิตในส่วนใต้นั้นอยู่กับล็อค
เมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็เริ่มมีหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ถูกแล้ว ความหวังนี้อยู่ที่ล็อค !
ไม่ว่าทีมคังเฉียงจะแกร่งแค่ไหนแต่จะปิดทางออกทุกทางได้รึ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก