ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 302

ตอนที่ 302 ราชาสัตว์อสูร
จางหยูเหม่อลอยอยู่สักพัก ก่อนที่ดวงตาจะเป็นประกายขึ้นมา
ด้วยชื่อเสียงและการสร้างภาพของจางหยู รวมไปถึงปาฏิหาริย์ต่าง ๆ
ทำให้ไม่มีใครที่ไม่รู้สึกเคารพและเลื่อมใสเขา
ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูในตอนนี้ และทักษะหลอกลวง แม้แต่
พวกขอบเขตหลี่ซวนก็ยังเชื่อในคำพูดของเขา แต่ชายหนุ่มผู้นี้เหมือน
จะไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย…
แม้ว่าจะไม่ใช้การมองทะลุขั้นสูงเพื่อตรวจสอบข้อมูลของอีกฝ่าย
แต่จางหยูก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามัน “ผิดปกติ !”
ดวงตาเขากระตุกเล็กน้อย เขาพยายามจะระงับอารมณ์ของตัวเอง
เอาไว้ และใช้การมองทะลุขั้นสูงกับอีกฝ่าย
ในพริบตาข้อมูลของชายหนุ่มก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของจางหยู
***
กูเฉิน (ราชาสัตว์อสูร)
เพศ : ชาย
อายุ : 8,970 ปี
พรสวรรค์ทางกายภาพ : หมาป่าละโมบ (กระตุ้นแล้ว) อสูรกลืน
สวรรค์ (กระตุ้นแล้ว), 6 ดาวขั้นสูง
พรสวรรค์ในการรับรู้ : ไม่มี
พรสวรรค์พิเศษ : คลั่งสังหาร (6 ดาว), กลืนสวรรค์ (5 ดาว)
ขอบเขต : ตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์
ทักษะ : คลั่งสังหารขั้น 5, กลืนสวรรค์ขั้น 5, เคลื่อนย้ายพริบตา
สถานะ : แก่ชรา
***
ราชาสัตว์อสูร !
เมื่อเห็นชื่อนี้จางหยูก็ต้องตะลึง เปลือกตาของเขาถึงกับกระตุกขึ้นมา
แม้เขาจะไม่รู้ว่าราชาสัตว์อสูรทำอะไรได้บ้าง แต่เขาก็รู้ดีว่าราชา
สัตว์อสูรผู้นี้น่ากลัว จนสัตว์อสูรทั่วไปเรียกขานเขาว่าราชาสัตว์อสูร
แน่นอนจากข้อมูลที่ได้มานั้น จางหยูก็เริ่มมีลางสังหรณ์แย่ ๆ ขึ้นมา
8,970 ปี !
สัตว์ประหลาดเฒ่า !
นี่คือสัตว์ประหลาดตัวจริง !
“สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวน !” จางหยูเคยได้ยินที่โอวเสินเฟิงบอกว่า
ขอบเขตตุ้นซวนมีอายุได้มากกว่า 3,200 ปีและชายผู้นี้ก็ใช้อายุขัยนั้น
จนเกินแล้ว สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนที่มีอายุกว่า 9,000 ปีแน่นอน
ว่าต้องเป็นปิศาจที่แข็งแกร่ง เพราะสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนทั่วไป
ไม่อาจจะมีอายุได้ถึง 9,000 ปีแบบนี้
จางหยูมองไปที่ข้อมูลที่เป็นสีม่วงแดงของกูเฉิน พร้อมกับครุ่นคิด
พรสวรรค์เหล่านี้ล้วนแต่น่ากลัว !
จากพรสวรรค์ที่จางหยูเคยเห็นมา ไม่มีใครเทียบได้กับพรสวรรค์
ของกูเฉินแม้แต่อันเดียว
แม้แต่อัจฉริยะระดับ 6 ดาวอย่างเซียวเหยียน หนิวซิงไห่, เซี่ยเฟิงก็ยัง
แย่กว่ามาก !
ส่วนที่น่ากลัวที่สุดคือ ชายคนนี้ถึงกับมีเคลื่อนย้ายพริบตา ที่จางหยู
คิดว่าเป็นรางวัลพิเศษจากระบบ และมีเขาคนเดียวที่มี แต่ตอนนี้เขา
กลับเห็นว่ากูเฉินก็มีทักษะนั้นด้วย จากการมีทักษะนี้ก็ทำให้เห็นว่า
กูเฉินนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ไม่รู้ว่าความต่างของท่าเคลื่อนย้ายพริบตา
ที่กูเฉินกับจางหยูมีนั้นต่างกันยังไง ?
เมื่อเห็นขอบเขตของกูเฉิน สมมติฐานที่จางหยูตั้งไว้ก็ได้รับการยืนยัน
สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวน !
กูเฉินผู้นี้คือสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวน และที่น่ากลัวที่สุดคือเป็น
ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์ !
ตามระบบการบ่มเพาะของทวีปป่าแล้ว ระดับการบ่มเพาะของกูเฉิน
ผู้นี้อยู่จุดสูงสุดแล้ว ไม่มีใครเหนือกว่าเขาไปได้ แม้แต่พวกที่แข็งแกร่ง
ในอดีต ก็ทำได้แค่แข็งแกร่งทัดเทียมกับชายคนนี้เท่านั้น
“ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์ !” จางหยูรู้สึกว่าเลือดในตัวหยุดไหล
“ขีดจำกัดของการบ่มเพาะ !”
เขาไม่เคยเจอกับพวกขอบเขตตุ้นซวน แต่ตอนนี้อยู่ ๆ กับมีคนที่น่า
กลัวซึ่งถึงขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์โผล่มา มันเกินกว่าที่เขาจะ
คาดคิดถึง
ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของคำว่าราชาสัตว์อสูร ราชาสัตว์อสูร
ทั้งมวล !
ต้องเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งและน่ากลัวที่สุดในทวีปป่ าเท่านั้นที่จะ
ได้รับตำแหน่งนี้มา ในอีกความหมายคือกูเฉินอาจจะเป็นสัตว์อสูรที่
แข็งแกร่งที่สุดในทวีป หนึ่งในพวกตัวตนระดับสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
สัตว์อสูรตัวไหนเมื่ออยู่ต่อหน้ากูเฉินแล้ว ก็ได้แต่ต้องยอมก้มหัวให้
แม้แต่พวกสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนก็ตาม
“การเปิดสอนของข้าถึงกับทำให้ราชาสัตว์อสูรสนใจ” จางหยูไม่รู้ว่า
ควรจะภูมิใจหรือขมขื่นดี
เอาสั้น ๆ คือตอนนี้เขารู้สึกซับซ้อน
เมื่อเห็นว่าจางหยูมองมา กูเฉินก็แปลกใจ “เจ้าสำนักแสดงสีหน้า
แบบนี้มีอะไรรึ ? มีอะไรแปลกหรือไง ?”
เขายังคงพูดอย่างมั่นใจ แม้ว่าเขาจะแปลกใจแต่เขาก็ยังแสดงท่าทีใจ
เย็นออกมา ราวกับว่าไม่มีอะไรในโลกที่ทำให้เขาสับสนได้
ตอนนั้นสายตาของทุกคน ต่างก็พากันจับจ้องไปที่กูเฉินด้วยความ
สงสัยและไม่พอใจ
แม้ว่ากูเฉินจะพูดออกมาอย่างสุภาพ และไม่คิดจะทำให้ใครไม่พอใจ
แต่อารมณ์ของเขาก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับผู้อื่น เขาทำตัวเฉยชา และ
มันก็ทำให้หลายคนไม่พอใจ ในมุมมองของพวกเขาแล้ว ผู้คนเมื่ออยู่
ต่อหน้าเจ้าสำนักแล้วก็น่าจะแสดงความเคารพออกมา ไม่ใช่เฉยชา
เช่นนี้
หลินจื้อเป่ ยและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันมองไปที่กูเฉินด้วยคิ้วที่ขมวด
พวกเขาถึงกับไม่พอใจด้วยซ้ำ
แต่อู่ฉิงฉวนมองไปที่กูเฉินด้วยแววตาสงสัย เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายดูคุ้น
ตาแต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหน ไม่รู้ว่าทำไมอู่ฉิงฉวนถึงได้
รู้สึกว่ากูเฉินนั้นไม่ธรรมดา ซึ่งทำให้เขาถึงกับอิจฉาขึ้นมานิด ๆ แต่
เขาไม่อาจจะบอกได้ว่าทำไม
ไป่หลิง, มังกรแดงและสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ต่างก็พากันสับสน พวกเขา
นั้นรู้สึกพิเศษกับกูเฉิน พวกเขารู้สึกคุ้นเคยกับอีกฝ่าย แต่ไม่อาจจะ
รับรู้ได้ถึงปราณสัตว์อสูรจากอีกฝ่ายไปได้ นี่มันความคุ้นเคยแบบ
ไหนกัน ?
“แปลก แปลกจริง ๆ” มังกรแดงและสัตว์อสูรต่างก็มองไปที่กูเฉิน
ด้วยสายตาสับสน
จางหยูมองไปที่กูเฉินสักพักก่อนจะส่ายหน้า “ผิดปกติ ? มันไม่ได้มี
อะไรผิดปกติแต่มันก็แค่เรื่องคาดไม่ถึง”
กูเฉินพูดด้วยท่าทีสนใจ “คาดไม่ถึง ?”
“ใช่ ข้าไม่คิดว่าการเปิดสอนของข้า จะทำให้ท่านสนใจได้” จางหยู
ยิ้มออกมา
“โอ้ ? งั้นเจ้าสำนักรู้จักข้างั้นรึ ?” กูเฉินทึ่ง ครั้งนี้เขาแปลกใจขึ้นมา
นิด ๆ
“งั้นบอกมาทีว่าข้าเป็นใครกัน ?” เขาไม่เคยเจอกับจางหยู เขาแน่ใจ
ว่าเขาไม่เคยเห็นจางหยูมาก่อน วันนี้พวกเขาได้พบกันเป็นครั้งแรก
แต่เมื่อฟังจากที่จางหยูพูดมา จางหยูเหมือนกับจะรู้จักเขาซึ่งทำให้
เขาสงสัยขึ้นมา
จางหยูยิ้มออกมา “ท่านมั่นใจหรือว่าจะให้ข้าพูด ? ท่านไม่กลัวว่าจะ
ทำให้ผู้คนอื่นหวาดกลัวหรือไง ?”
กูเฉินหัวเราะออกมา “ทำให้ผู้อื่นกลัวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า ?”
“กูเฉินหากข้าจำไม่ผิด ชื่อท่านน่าจะเป็นกูเฉินสินะ ?” จางหยูมองไป
ที่กูเฉิน นี่มันเหมือนกับการถามอีกฝ่าย แต่เขากลับดูมั่นใจอย่างมาก
“สำหรับตำแหน่งของท่านแล้ว ข้าจะยังไม่พูดเพราะมันจะทำให้ทุก
คนกลัว”
ทันทีที่กูเฉินได้ยินแบบนั้น สีหน้าที่มั่นใจตั้งแต่แรก ซึ่งไม่เคยเปลี่ยน
กลับเปลี่ยนไปทันที
เขามองไปที่จางหยู “เจ้ารู้ชื่อข้าได้ยังไง !”
ชื่อนี้นอกจากตัวเขาเองแล้วก็ไม่มีคนนอกที่รู้ ในสายตาของคนนอก
แล้ว เขามีแค่ชื่อเดียวก็คือราชาสัตว์อสูร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรหรือ
มนุษย์ต่างก็เรียกเขาแบบนั้น เขาคือราชาสัตว์อสูร ชื่อกูเฉินนี้เขา
แทบจะลืมมันไปแล้ว
“ใช่ ข้าชื่อกูเฉิน แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะเรียกข้าอีกชื่อหนึ่ง” สีหน้าของกู
เฉินดูเฉยเมยดังเดิม
ชื่อกูเฉินนี้ควรจะถูกฝังไปในประวัติศาสตร์ไปแล้ว มันคือความทรง
จำที่น่าเศร้าและดูหมิ่นสำหรับเขา
จางหยูส่ายหน้า “ข้าไม่ใช่แค่รู้จักชื่อนี้ แต่ยังรู้จักอีกคนด้วย เสินเซียว”
กูเฉินเงยหน้าขึ้นมองจางหยูด้วยสีหน้าตะลึง “เจ้าเป็นใครกัน !”
ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจจางหยู เขาแค่คิดว่าจางหยูเป็นเพียงคนเสแสร้ง
ที่แกล้งเล่นบทเป็นเซียน แต่ตอนนี้จางหยูกลับพูดถึงสองเรื่องซึ่งทำ
ให้ใจเขาเต้นรัว และเขาก็ไม่กล้าจะท้าทายจางหยูอีกต่อไป เพราะ
สองชื่อนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะรู้ได้ ในทวีปป่ าแห่งนี้นอกจากจางหยู
แล้ว ก็มีไม่กี่คนที่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกูเฉินกับ
เสินเซียวได้
เขามองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าคือสัตว์ประหลาดเฒ่า
จากยุคที่แล้วงั้นรึ ?”
จากนั้นเขาก็ส่ายหน้า “ไม่ พวกขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์มีชีวิตอยู่
ได้หมื่นปี เจ้าไม่อาจจะเป็นคนของยุคนั้นได้”
ในทวีปป่ านั้น เวลาหมื่นปีจะถูกเรียกว่ายุค และตอนนี้ก็เป็นยุคใหม่
ไม่มีคนจากยุคที่แล้วรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
“ไม่ต้องกังวลไป ความสัมพันธ์ของท่านกับเสินเซียว ข้าเพิ่งจะรู้ ไม่
มีใครในโลกนี้ที่คาดถึง” จางหยูมองไปที่กูเฉินด้วยสีหน้าหวั่นเกรง
แต่ในใจกลับรู้สึกภูมิใจ เขารู้สึกดีกับการหลอกคนขอบเขตตุ้นซวน
ขั้นสมบูรณ์ได้ “สำหรับข้าแล้ว การที่ท่านถือว่าข้าเป็นคนจากยุคก่อน
ข้าคงบอกอะไรไม่ได้ในเรื่องนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นกูเฉินก็ยิ้มออกมา “เจ้าแน่ใจรึว่ามีแค่เจ้าที่รู้เรื่องนี้?”
จางหยูยักคิ้ว “มีปัญหาอะไรรึ ?”
“หากเป็นเช่นนั้นก็ดี ! “กูเฉินมองไปที่จางหยูด้วยแววตาอาฆาต “ดังนั้น
ตราบใดที่เจ้าหายไปจากโลกนี้ ความลับนี้ก็จะหายไปด้วยไม่ใช่รึ ?”
“โอ้ ? ท่านต้องการจะฆ่าข้ารึ ?” หัวใจของจางหยูเต้นรัว แต่สีหน้า
เขายังดูใจเย็น แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังแสดงความไม่พอใจออกมา
ราชาสัตว์อสูรต้องการจะฆ่าเขา !
บอกก่อนว่าจางหยูไม่ได้ลนลานเลยแม้แต่น้อย แต่เขารู้ว่าหากกูเฉิน
คิดจะฆ่าเขาจริง ๆ ก็ไม่มีใครจะช่วยเขาได้ ดังนั้นเขาจึงต้องทำใจเย็น
และอย่าลนลาน ไม่งั้นแล้วหากเขาหนี ภาพลักษณ์ที่เขาสร้างมาก็จะ
ถูกทำลายลง
“ฆ่าเจ้า? ไม่ ข้าแค่ต้องการยืนยันความแข็งแกร่งของเจ้า และให้ทุก
คนรู้ว่าโดนเจ้าหลอก” กูเฉินพูดด้วยท่าทีเฉยเมย แต่ในใจของเขานั้น
แอบหวั่นเกรงจางหยูอยู่ เพราะว่าเขาไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ของจางหยู ดังนั้นมีวิธีเดียวที่จะทำให้ทราบก็คือ ทดสอบ มันไม่ใช่
การสู้เอาเป็นเอาตายกับจางหยู แต่หากจางหยูเสแสร้งว่าเป็นเซียน
และไม่มีความแข็งแกร่งอะไร สิ่งที่เรียกว่าทดสอบก็จะกลายเป็นการ
พิสูจน์ความจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก