ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 315

ตอนที่ 315 หลอกลวงกลายเป็นความจริง (I)
เด็กหนุ่มเป็นคนเดียวในหมู่ผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนของอาณาจักร
โจว ก่อนที่จะรับรู้กงล้อชีวิตได้ มันไม่มีใครสนใจหรอกว่าเขาจะแซ่
อะไร ตอนนี้คนที่บอกว่าเป็นคนของราชวงศ์ ได้เชิญเขาเข้าร่วมตระกูล
ราชวงศ์ของอาณาจักร มันทำให้เขาตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก
“ข้าเป็นแค่คนธรรมดา ระดับการบ่มเพาะไม่ได้สูงส่งอะไรมาก คิด
ไม่ถึงจริง ๆ เลยว่าวันหนึ่งจะได้รับการชื่นชมจากราชวงศ์ได้” ผังหลง
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าราชวงศ์จะเชิญให้เขาเข้าร่วมวงศ์ตระกูล
อาณาจักรโจวนั้นก่อตั้งมา 500 ปีแล้ว เวลาที่นานแบบนี้ทำให้ผู้คน
มากมายรู้สึกว่าได้กลายเป็นคนของอาณาจักรโจว ในใจของผู้คน
มากมายล้วนคิดว่ากองกำลังอื่นกับกองกำลังของราชวงศ์โจวนั้น
แตกต่างกัน กองกำลังของราชวงศ์โจวให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา
พรสวรรค์ของผังหลงนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไร หลังจากที่บ่มเพาะมา
ได้ 12 ปี เขาก็ขึ้นมาถึงขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 6 หลังจากที่ได้ฟังการ
สอนจากจางหยู เขาก็ทะลวงผ่านขึ้นไปยังขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 7 ได้
หากไม่มีเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ชั่วชีวิตนี้เขาคงก้าวไปถึงแค่
ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 หรือถ้าโชคดี ก็อาจจะทะลวงขอบเขตว่อซวน
ขั้นต่ำได้ แต่สำหรับโลกแห่งการบ่มเพาะแล้ว ขอบเขตว่อซวนก็ยังคง
อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำอยู่ดี
ตอนนี้โอกาสที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขาได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
“ข้าเต็มใจ !” ผังหลงมองไปที่โจวถิงด้วยสีหน้าตื่นเต้น เขาไม่รู้เลยว่า
การที่รับรู้กงล้อชีวิตได้นั้นมันมีความหมายยังไง
เขาอดกลั้นความตื่นเต้นที่มีในใจ และพูดออกมาด้วยความเคารพ “ผู้
อาวุโส ข้าเต็มใจจะเข้าร่วมกับราชวงศ์โจว !”
สำหรับคนทั่วไปแล้ว การได้เข้าร่วมกับราชวงศ์นั่นคือการก้าวกระโดด
ขึ้นสู่ท้องฟ้า ผังหลงรู้สึกเช่นนั้น
“ดี !” โจวถิงพอใจเป็นอย่างมาก คนแรกที่รับรู้ได้ถึงกงล้อชีวิตคือ
อัจฉริยะ และถูกเขาดึงตัวเข้าพวก เขาจะไม่ดีใจได้ยังไง “น้องชาย
ข้ารับปากว่าเจ้าจะไม่รู้สึกผิดกับการตัดสินใจในวันนี้! ข้าเป็นตัวแทน
ของราชวงศ์ ราชวงศ์จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยในการบ่มเพาะของเจ้า
ทั้งทรัพยากรที่ต้องใช้ในการบ่มเพาะและที่พัก รวมไปถึงคนที่เจ้ารัก
และแม้แต่ครอบครัวของเจ้าด้วย”
คนอื่น ๆ ไม่รู้ว่ากงล้อชีวิตนี้มีความหมายยังไง แล้วโจวถิงรู้ได้ยังไง?
สำหรับอัจฉริยะคนแรกที่รับรู้ได้ถึงกงล้อชีวิต มันคุ้มค่าที่ราชวงศ์จะ
ทดสอบ !
ผู้คนโดยรอบแสดงสีหน้าสงสัยออกมา แต่โจวถิงกลับไม่สนใจ ใน
ความเห็นของเขาแล้ว ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อตัวเขาและราชวงศ์
ทางที่ดีที่สุดคือไม่มีคนรู้เลย แต่โจวถิงเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่นานคง
กระจายไปทั่วแน่ ๆ สิ่งสำคัญคือเวลา
ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือ การดึงคนแบบนั้นเข้าร่วมราชวงศ์
และผูกมัดพวกนั้นเอาไว้กับราชวงศ์ให้ได้ ตอนที่พวกเขารู้ตัว
ราชวงศ์จะได้มีสิทธิเหนือกว่า ผลก็คือไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของโจวถิงต่างก็มองไปที่ผังหลงด้วยสายตาอิจฉา
การเข้าร่วมกับราชวงศ์ใช่ว่าคนธรรมดาจะทำได้ ยิ่งไปกว่านั้นโจวถิง
ก็ได้รับปากต่อหน้าทุกคนแล้ว บอกได้ว่าจากวันนี้เป็นต้นไป โชคชะตา
ของผังหลงได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้แต่คนที่เขารักและครอบครัว
ก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
“ช่างเป็นคนที่โชคดี !” ทุกคนมองไปที่ผังหลงและอยากไปแทนที่
อีกฝ่าย
ในหมู่ผู้คน ชายวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปีได้ถามขึ้นมาด้วยความ
คาดหวัง “ผู้อาวุโส ข้าอยู่ขอบเขตว่อซวนขั้นสูง พรสวรรค์ก็ไม่เลว
นัก ข้าขอถามผู้อาวุโสที ข้าสามารถเข้าร่วมกับราชวงศ์ได้ด้วยรึไม่
?” ขอบเขตว่อซวนขั้นสูง หากมองไปทั่วทั้งเขตตงโจวแล้ว ชายวัย
กลางคนผู้นี้นับได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงคนหนึ่ง ด้วยขอบเขต
ของเขา เขาย่อมได้รับความเคารพจากผู้คนนับไม่ถ้วน ในเขตต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเขตจ้านเจียง เหอตงและที่อื่น ๆ เขาก็มีฐานะที่สูงใน
ระดับหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายักษ์ใหญ่อย่างราชวงศ์แล้ว ขอบเขตว่อ
ซวนขั้นสูงไม่นับว่าเป็นอะไรได้ ถ้าหากราชวงศ์ดูแลพวกเขามา
ตั้งแต่ต้น พวกเขาจะภักดีต่อราชวงศ์อย่างมาก แต่คนแบบชายคนนี้
ยากที่ราชวงศ์จะสนใจ
ชายวัยกลางคนไม่คิดจะเข้าร่วมกับราชวงศ์ตั้งแต่แรก แต่เมื่อเห็นว่า
ผังหลงถูกเชิญ เขาก็มีหวังขึ้นมา จะบอกว่าคนที่อยู่ขอบเขตว่อซวน
ขั้นสูง ไม่ได้ดีไปกว่าเด็กน้อยที่อยู่ขอบเขตฉีซวนได้ยังไง ?
เขายิ้มและมองไปที่โจวถิงด้วยสีหน้ามั่นใจ แต่ต่อมาคำพูดของโจวถิง
กลับทำให้เขาตะลึง “ขอบคุณที่ขอเข้าร่วมกับราชวงศ์ แต่ทรัพยากร
ของราชวงศ์นั้นมีจำกัด ตอนนี้ข้าไม่ได้สนใจใคร หากต้องการใคร
อื่นในอนาคต ข้าจะให้โอกาสกับเจ้า” เขาปฏิเสธออกมา แต่ก็ไว้หน้า
อีกฝ่ายอยู่
“ผู้อาวุโส ข้ารับไม่ได้ ทำไมข้าเข้าไม่ได้ แต่เขาเข้าได้ ?” ชายวัย
กลางคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมากเมื่อครู่ ตอนนี้กลับกลายเป็นอับอาย
ต่อหน้าผู้คนไปทั่ว ในใจของเขารู้สึกเก้อเขิน และไม่พอใจต่อราชวงศ์
อาศัยอะไร? เด็กน้อยขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 7 คนหนึ่งอาศัยอะไรกัน
ได้เข้าร่วมกับราชวงศ์ แต่เขากลับทำเข้าร่วมไม่ได้ ?
ทรัพยากรของราชวงศ์มีจำกัดงั้นรึ ?
มันต้องใช้เวลานานกว่ารึไง กับการบ่มเพาะคนที่อยู่ขอบเขตว่อซวน
หากเทียบกับคนที่อยู่ขอบเขตฉีซวน ?
เหตุผลของโจวถิงนั้นชัดแล้วว่าชายวัยกลางคนไม่เชื่อ แต่โจวถิงเป็น
ใครกัน ?
เขาคือสัตว์ประหลาดขอบเขตหลิงซวนที่อยู่มาถึง 800 ปี !
เขาใช้เหตุผลในการปฏิเสธ เพื่อไว้หน้าชายวัยกลางคน แต่อีกฝ่ายได้
คืบอยากจะเอาศอกงั้นรึ ?
“หากข้าอยากเชิญใครก็เป็นเรื่องของข้า เจ้ารับไม่ได้รึ ? หากรับไม่ได้
ก็มาเผชิญหน้ากับข้าซะสิ !” โจวถิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ข้าไม่คิดว่าขอบเขตว่อซวนขั้นสูงนั้นจะยิ่งใหญ่อะไร ต่อหน้าพวก
ระดับสูงจริง ๆ แล้ว ขอบเขตว่อซวนก็ไม่ต่างอะไรจากมดปลวก
อย่าลืมคำพูดของท่านเซียน ขอบเขตฉีซวน, ว่อซวน, ตันซวนเป็นแค่
พื้นฐานของการบ่มเพาะ มีแค่เข้าไปยังขอบเขตหลิงซวนเท่านั้น ถึง
จะเข้าสู่การบ่มเพาะที่แท้จริง”
ชายวัยกลางคนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ แต่ไม่กล้าจะปฏิเสธ
ออกมา
คนรอบ ๆ ที่อยากจะขอเข้าร่วมกับราชวงศ์ด้วย แต่เมื่อเห็นว่าชายวัย
กลางคนโดนปฏิเสธ ความต้องการที่จะเสี่ยงโชคของพวกเขาก็ดับ
วูบไป
เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนสลดไป โจวถิงก็ไม่สนใจอีกฝ่ายอีก
โจวถิงหันไปมองรอบ ๆ และพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้ารับปาก
ใครก็ตามที่รับรู้ถึงกงล้อชีวิตได้ ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน ไม่ว่าจะอายุ
เท่าไหร่ ทางราชวงศ์จะรับพวกเจ้าเข้าร่วมทั้งหมด ข้ารับรองได้ว่า
พวกเจ้าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ด้อยไปกว่าผู้นำเขตเลย”
ต้องรู้ก่อนว่าผู้นำเขตนั้นมีสถานะเทียบเท่ากับข้าราชการระดับสูง
แม้แต่พวกเจ้าหน้าที่ในเมืองหลวงก็ไม่กล้าที่จะดูหมิ่นพวกเขา !
ยกตัวอย่างเช่นผู้ดูแลเขตตงโจว ถึงแม้ว่าจะอยู่แค่ขอบเขตว่อซวนขั้น
สูง และมีผู้คนมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเขา แต่ด้วยสถานะที่ไม่ธรรมดา
และเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์โจว ดังนั้นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่าก็
ยังต้องให้เกียรติเขา
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็ตาที่เป็นประกายกันขึ้นมาและพา
กันหายใจกันถี่ขึ้น
โจวถิงหันกลับมาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและถามกับผังหลง “น้องชาย
ชื่อของเจ้าล่ะ ?”
“ข้าแซ่ผัง ผู้น้อยผังหลงขอบคุณผู้อาวุโสที่รับข้า” ผังหลงตอบกลับ
ด้วยความเคารพ
“น้องผังหลง ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เหมาะในการพูดคุย ไปคุยกันที่อื่นเถอะ”
โจวถิงมองไปรอบ ๆ และบอกกับผังหลง
ผังหลงไม่คิดปฏิเสธและพยักหน้าตอบรับ “ได้ !”
ไม่นานโจวถิงและผังหลงก็ได้ออกจากโรงแรมและหายไปในหมู่
ผู้คน จนทั้งสองหายไป พวกคนในโรงแรมก็เพิ่งจะได้สติ
“เด็กน้อยพรสวรรค์ธรรมดา แค่เพราะรับรู้ได้ถึงกงล้อชีวิต เขาถึงกับ
เข้าร่วมกับราชวงศ์ได้เลยรึ?” การปรากฏตัวของผังหลงทำให้หลาย
คนต้องอิจฉา พวกเขาเหมือนกับเห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา
ของพวกเขาได้ “หากข้ารับรู้กงล้อชีวิตได้ ข้าก็เข้าร่วมราชวงศ์ได้รึ?”
สำหรับคนส่วนมากในอาณาจักรโจวแล้ว ราชวงศ์คือกองกำลังขนาด
ใหญ่ซึ่งแม้แต่ตระกูลใหญ่ก็ยังสนใจ !
ยังไงซะ แม้ว่าตระกูลใหญ่จะแข็งแกร่ง แต่ราชวงศ์นั้นมีกองกำลัง
ท้องถิ่น ในพื้นที่ของอาณาจักรนั้น ราชวงศ์มีสิทธิขาด การอยู่ใน
อาณาเขตของอาณาจักรโจวก็ต้องเคารพราชวงศ์ กฎนี้ออกแบบโดย
ราชวงศ์ แม้แต่ตระกูลใหญ่ก็ไม่กล้าที่จะขัดกฎของราชวงศ์
การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของผังหลงทำให้หลายคนเริ่มมีความหวัง
ขึ้นมา
“กงล้อชีวิต !” ผู้คนหันไปสนใจสิ่งที่ถูกพูดถึงในบังสวรรค์ และ
เริ่มต้นบ่มเพาะ คนมากมายพยายามรับรู้กงล้อชีวิต และถือว่านี่เป็น
โอกาสในการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง
ค่ำคืนนี้สำหรับผู้คนมากมายคือค่ำคืนที่ไม่อาจจะข่มตาได้ลง สิ่งที่
เกิดขึ้นในโรงแรมได้ทำให้ทุกคนตื่นเต้น ผู้คนไม่สนใจว่าผังหลง
เป็นใคร และไม่สนว่าชายวัยกลางคนเป็นใคร พวกเขารู้แค่ว่าตอนที่
พวกเขารับรู้กงล้อชีวิตได้ พวกเขาก็จะได้เข้าร่วมกับราชวงศ์ และ
ได้รับการดูแลไม่ต่างจากผู้นำเขต !
พระจันทร์ราวกับสาวน้อยขี้อาย มันเริ่มหลบในอยู่หมู่เมฆ และถูก
แทนที่ด้วยดวงอาทิตย์เพิ่มแสงสว่างให้กับเนินเขาแห่งนี้
ที่บ้านพักหลังหนึ่ง….
ตอนที่แสงอาทิตย์พุ่งผ่านหน้าต่าง ส่องแสงให้กับในห้อง จางหยูก็
ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล ตอนที่เขาตื่นขึ้นมานั้น เขาได้แสดงสีหน้า
ประหลาดออกมา เขาหลับตาลงและลองตรวจสอบรอบตัว ทันใดนั้น
เขาก็ลืมตาขึ้นด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความตะลึง “นี่มันอะไร ?”
เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามีจุดแสงสีทองนับไม่ถ้วนเคลื่อนที่มาหา
เขาราวกับไม่รู้จบ จุดแสงสีทองนี้ทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นทะเลสี
ทอง
“บุญกุศล!” จางหยูเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้
ว่าจุดแสงสีทองนี้คือบุญกุศล “แต่มัน…มีพลังเยอะแบบนี้ได้ยังไง ?”
จางหยูรับรู้ได้ว่าบุญกุศลรอบ ๆ บ้านนี้ ไม่ได้น้อยไปกว่าบุญกุศลที่
เขาได้มาตอนที่อยู่บนเรือ
“ครั้งที่แล้วที่ได้บุญกุศลมหาศาล ข้ายังไม่รู้เหตุผลของมันเลย” จางหยู
แปลกใจและรู้สึกหมดหนทาง ยิ่งบุญกุศลมากเท่าไหร่ พลังของร่าง
ทองคำก็ยิ่งน่ากลัวมากเท่านั้น บางทีตอนที่มันเกิดเรื่องแบบนี้อีกรอบ
มันอาจจะขึ้นไปถึงขั้นที่ต้านทานพลังของขอบเขตตุ้นซวนได้ แต่ยิ่ง
บุญกุศลมากมายเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจเหตุผลของ
มันได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงรู้สึกกังวลขึ้นมา
จางหยูแสดงสายตาสงสัยออกมา “ตอนที่ข้าพูดเรื่องการเปิดสอนเมื่อ
วาน ข้าได้รับบุญกุศลกลับมาอย่างมาก แต่พลังตอนนี้มันมากกว่า
เมื่อวานเป็นร้อยเท่า….”
เขาไม่เข้าใจ มันมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาได้บุญกุศลมากมายแบบนี้
มา ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก