ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 317

ตอนที่ 317 ดินแดนนิพพาน
หลังจากที่ลำดับความคิดและความเป็นไปได้ต่าง ๆ แล้ว จางหยูก็หัน
ไปสนใจผังหลงและโจวถิง
“ท่านฉลาดมาก คนอื่นยังไม่ทันได้เข้าใจ แต่ท่านกลับผูกมัดอัจฉริยะ
ได้” จางหยูยิ้มออกมา การที่โจวถิงรีบดึงผังหลงมาเป็นพวก แม้แต่
ตัวเขาก็ยังรู้สึกเหนือความคาดหมาย
โจวถิงหัวเราะออกมา
จางหยูยิ้มและพูดขึ้นมา “หากข้าเดาไม่ผิด เรื่องบังสวรรค์นั่น ท่าน
คงพิสูจน์แล้วว่ามันคือเรื่องจริงหรือไม่แล้วสินะ ?”
ตอนที่โจวถิงบอกให้เขาเล่าเรื่องบังสวรรค์ จางหยูก็พอเดาข้อสรุปนี้
ได้
โจวถิงลังเลและพูดขึ้นมา “ท่านเซียน ผู้น้อยได้ทำการยืนยันเรื่องบัง
สวรรค์ไปเมื่อสิบวันก่อน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็แปลกใจ “โอ้ ? งั้นที่ท่านพูดมา ท่านมั่นใจ
ได้ยังไง ?”
“เทคโนโลยีสมัยใหม่” โจวถิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และอธิบาย
“หลังจากที่ผู้น้อยได้ยินเรื่องบังสวรรค์มา สิ่งแรกที่ทำก็คือหาคนมา
พิสูจน์ความจริงเรื่องบังสวรรค์ มังกรบรรพกาลนั้นยังไม่มีหลักฐาน
ข้อพิสูจน์ แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ ท่านเซียนได้อธิบายทุกอย่างไว้
อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น ดังนั้นผู้น้อยจึงเริ่มจากด้านนี้ ข้าน้อยได้เรียก
ช่างนับไม่ถ้วนมาสร้างสิ่งที่ท่านเซียนได้อธิบายเอาไว้ หลังจากที่
ทดสอบมาหลายครั้ง ในที่สุดเราก็ได้สิ่งที่ท่านเซียนเรียกว่าปืน”
“ท่านสร้างปืนขึ้นมาได้รึ ?” สีหน้าของจางหยูแสดงความหวาดกลัว
ออกมา
“รอสักครู่ ท่านเซียน !” เมื่อโจวถิงพูดจบ เขาก็รีบออกจากห้องไป
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจเขาก็กลับมาพร้อมกับกล่องใบหนึ่ง
โจวถิงเปิดกล่องและส่งมันให้กับจางหยู “ท่านเซียน นี่คือปืนที่เรา
ทำขึ้นมา”
จางหยูหยิบปืนขึ้นมาและมองมันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็วางมันใส่
กล่องดังเดิมแล้วพูดขึ้น “ใช่ นี่คือปืนจริง ๆ”
ภายนอกเขาดูใจเย็นแต่ในใจเขากลับตะลึง
ปืน !
มันกลับเป็นปืนจริง ๆ !
โลกแห่งการบ่มเพาะกลับมีสิ่งของที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีโผล่มา นี่
มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !
“ไม่ใช่ว่าทวีปป่ าได้พัฒนาเป็นโลกที่มีทั้งเทคโนโลยีและการบ่มเพาะ
งั้นรึ?” จางหยูสับสนขึ้นมา “โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพราะ
เรื่องบังสวรรค์ ตอนนี้แม้แต่ปืนก็ยังถูกสร้างขึ้นมาไม่ใช่รึ ? นี่หมาย
ความว่าสักวันมันอาจจะมีสิ่งของต่าง ๆ อย่างเช่นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์
รถยนต์โผล่มาหรือเปล่า?”
ถ้าคนพวกนี้สนใจเรื่องคอมพิวเตอร์มากกว่าอาวุธจางหยูคงไม่กังวล
จางหยูกลัวจริง ๆ ว่าคนพวกนี้จะศึกษาการทำระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นมา!
มันไม่เกินไปเลยที่จะบอกว่าเมื่อระเบิดนิวเคลียร์โผล่มา มันคงเป็น
หายนะสำหรับทวีปป่ าทั้งหมด !
นอกจากพวกขอบเขตตุ้นซวนแล้ว เดาว่าคงไม่มีใครต้านทานพลังของ
ระเบิดนิวเคลียร์ได้ แม้แต่พวกขอบเขตตุ้นซวนก็ใช่ว่าจะต้านทานได้
ด้วยซ้ำ
บางทีทั้งทวีปป่ า อาจจะมีแค่ 6 คนที่ไม่ได้กลัวระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่ง
พวกเขาคือพวกระดับสูงสุดทั้ง 6 คน !
“ใช่ พวกระดับสูงสุด !” จางหยูได้สติกลับมา “ระเบิดนิวเคลียร์นั้น
ทรงพลังก็จริง แต่ไม่อาจจะเป็นภัยต่อพวกระดับสูงแบบนั้นได้ ยังไง
ซะพวกระดับสูงทุกคนก็มีเคลื่อนย้ายพริบตา พวกเขาสามารถหนี
ออกไปนอกระยะการระเบิดได้…”
ผลการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์นั้นรุนแรงมาก แม้ว่าระเบิดจะ
ดับลงไปแล้ว แต่รังสีก็ยังคงอยู่และสักวันมันจะกัดกินโลกนี้
แม้ว่าพวกระดับสูงจะไม่สนใจชีวิตของคนทั่วไป แต่พวกเขาก็ไม่มี
ทางปล่อยให้เกิดการระเบิดได้ ยังไงซะพวกเขาก็อาศัยอยู่ในดินแดน
แห่งนี้ ถ้าหากโลกนี้ถูกทำลาย พวกเขาจะไปไหนกัน ?
จางหยูตะโกนก้องในใจตัวเอง “ข้าถูกเรียกว่าเซียน ข้าถือว่าตัวเอง
เป็นเซียนแต่กลับมากังวลเรื่องพวกนี้…”
จางหยูละสายตาจากโจวถิง และมองไปที่ผังหลงก่อนจะถามคำถาม
ที่เขารู้คำตอบอยู่แล้ว “เจ้าหนู เจ้าชื่ออะไร ?”
อันที่จริงจางหยูอายุน้อยกว่าผังหลง ผังหลงอายุ 24 ปี เขาอายุแค่ 23 ปี
การที่จางหยูเรียกเขาว่าเจ้าหนูนั้น เขาก็ไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
แต่เขากลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ เขายังโค้งให้และตอบกลับด้วย
ความเคารพ “ท่านเซียน ผู้น้อยชื่อว่าผังหลง”
“ผังหลงเจ้าสนใจจะเข้าร่วมสำนักคังเฉียงในฐานะศิษย์หรือไม่ ?”
จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
เขารู้ว่าผังหลงได้เข้าร่วมกับทางราชวงศ์แล้ว แต่สำนักไม่ได้มีเรื่อง
บาดหมางกับราชวงศ์ ผังหลงเป็นได้ทั้งศิษย์ของสำนักคังเฉียงและ
คนของราชวงศ์ มันก็เหมือนกับโจวซินเอ๋อร์ นางเป็นทั้งองค์หญิง
และคนของสำนักคังเฉียง ฐานะทั้งสองนั้นไม่ได้ขัดแย้งกัน
จางหยูคิดว่าเขาคือเจ้าสำนักที่ชอบพวกที่มีพรสวรรค์ ตอนที่เขาพบ
กับอัจฉริยะ 6 ดาว ก็เป็นธรรมดาที่เขาไม่อาจจะมองข้ามได้
ยิ่งกว่านั้นอัจฉริยะ 6 ดาวผู้นี้เกิดขึ้นมาเพราะเรื่องบังสวรรค์ เขาคือ
หนึ่งในผู้โชคดีเพราะเรื่องบังสวรรค์
จางหยูรู้สึกว่าตั้งแต่ที่เขาพูดถึงเรื่องบังสวรรค์และสร้างอัจฉริยะ
แบบนี้ขึ้นมา เขาก็ควรช่วยบ่มเพาะเด็กคนนี้
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจางหยู ระบบก็พูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ระบบ
ตรวจจับได้ว่าผังหลงมีพรสวรรค์ระดับ 6 ดาวและกำลังจะส่งภารกิจ”
***
ภารกิจหลักที่ 28 : รับผังหลงเป็นศิษย์สำนักคังเฉียง
เพื่อสร้างสำนักที่ยิ่งใหญ่ จะต้องมีศิษย์ทุกประเภท ในฐานะเจ้าสำนัก
แล้ว โฮสต์มีหน้าที่ค้นหาและรับอัจฉริยะเหล่านั้น
รางวัล : เต๋าอมตะ (ดินแดนทะเลเร้นลับ— ดินแดนนิพพาน)
เวลาจำกัด : ครึ่งปี
บทลงโทษ : ไม่มี
***
จางหยูเหมือนกับไม่ได้ยินเนื้อหาของภารกิจและยังคงยิ้มให้กับผัง
หลง
ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ระบบมักจะปล่อยภารกิจออกมาช้ากว่าที่จางหยู
คิดเอาไว้ และเขาก็เริ่มชินกับมันแล้ว
“เต๋าอมตะ (ดินแดนทะเลเร้นลับ— ดินแดนนิพพาน)” รางวัลของ
ภารกิจนี้ จางหยูรู้ดีกว่าใคร ดินแดนทะเลเร้นลับคือขั้นแรกของการ
บ่มเพาะ ซึ่งจะแบ่งเป็นเปิดทะเลแห่งความขมขื่น บ่มเพาะน้ำพุแห่ง
ชีวิต สร้างสะพานแห่งทวยเทพ จนกระทั่งบ่มเพาะไปถึงดินแดน
นิพพาน ในขอบเขตทั้ง 4 นั้น แน่นอนว่าดินแดนนิพพานคือขอบเขต
การบ่มเพาะที่สูงที่สุดของดินแดนทะเลเร้นลับ หลังจากนั้นก็จะทะลวง
ไปยังดินแดนตำหนักเร้นลับ ให้รางวัลเป็นขอบเขตการบ่มเพาะใน
บังสวรรค์ นี่นับว่าเป็นรางวัลพิเศษจริง ๆ
ทะเลแห่งความขมขื่น น้ำพุแห่งชีวิต สะพานแห่งทวยเทพ และดินแดน
นิพพาน สิ่งเหล่านี้คือขอบเขตทั้ง 4 ของดินแดนทะเลเร้นลับ ซึ่ง
สามารถแทนเป็นขอบเขตฉีซวน, ว่อซวน, ตันซวนและหลิงซวนของ
ทวีปป่าได้
แน่นอนระบบบ่มเพาะที่ต่างกันก็มีดีเป็นของตัวเอง
“ดินแดนนิพพานนั้นคล้ายกับขอบเขตหลิงซวน…” จางหยูพอใจ
อย่างมากกับรางวัลจากภารกิจ “ไม่รู้ว่าการบ่มเพาะทั้งสองอย่างนี้จะ
ขัดแย้งกันหรือไม่…” ยังไงซะระบบการบ่มเพาะก็แตกต่างกัน จางหยู
รู้ถึงปัญหาเรื่องนี้และไม่ได้แปลกใจอะไร “เนื่องจากระบบส่งภารกิจ
และรางวัลแบบนี้ออกมา มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ?”
จางหยูไม่มัวคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เขามองไปที่ผังหลงและพูดขึ้นมา
ด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล เจ้าลองคิดทบทวนดูเอง”
ผังหลงพยายามกดความตื่นเต้นที่มี เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลาย
ครั้งกว่าจะทำใจเย็นลงได้ เขากำลังจะพูดออกมาแต่เมื่อมองไปที่
โจวถิงที่อยู่ข้างกาย เขาก็ต้องลังเลขึ้นมา
“ข้า…” ผังหลงพูดขึ้น “ท่านเซียน ข้าได้เข้าร่วมกับราชวงศ์แล้ว”
ตอนนี้เขาถือว่าเป็นคนของราชวงศ์แล้ว การเข้าร่วมสำนักคังเฉียง
เขาต้องได้รับอนุญาตจากโจวถิงก่อน หากโจวถิงไม่เห็นด้วย ก็เป็น
ธรรมดาที่เขาจะไม่อาจเข้าร่วมสำนักคังเฉียงได้ แน่นอนหากเขายืน
กรานว่าจะออกจากราชวงศ์ เขาก็สามารถเข้าร่วมสำนักคังเฉียงได้
แต่หากเขาทำแบบนั้นจางหยูคงสงสัยในตัวเขา
โจวถิงรีบพูดขึ้นมา “ไม่เป็นไรผังหลงแม้ว่าเจ้าจะเข้าร่วมกับราชวงศ์
แล้วแต่เจ้าก็สามารถเข้าร่วมกับสำนักคังเฉียงได้ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้
ขัดแย้งอะไรกัน เจ้าสบายใจได้ เจ้าเลือกได้เองว่าจะเข้าร่วมสำนักคัง
เฉียงรึไม่”
ผังหลงมีสิทธิเข้าร่วมสำนักคังเฉียง โจวถิงจะไปห้ามได้ยังไง ?
เรื่องบังสวรรค์คือสิ่งที่จางหยูเล่าออกมาเอง ระบบการบ่มเพาะของ
บังสวรรค์นั้นชัดแล้วว่ามีแค่จางหยูที่รู้ ไม่ต้องเดาเลยว่ามันจะดีที่สุด
ที่จะให้ผังหลงเข้าร่วมสำนักคังเฉียง และรับการสั่งสอนจากจางหยู
โจวถิงไม่คิดว่าเขาคือคนที่รอบรู้หากเทียบกับจางหยู
ในด้านนี้แน่นอนว่าจางหยูเหนือกว่า !
นอกจากจางหยูแล้วไม่มีใครอื่นอีกที่มีสิทธิจะสั่งสอนผังหลง!
“ท่านเซียน ผู้น้อยอยากเข้าร่วมสำนักคังเฉียง !” ครั้งนี้ผังหลงไม่ได้
ลังเลและแสดงความต้องการของตนเองออกมา
จางหยูยิ้มออกมา “ดี นี่คือสัญญานภา มันคือตัวยืนยันว่าเจ้าจะเป็น
ศิษย์สำนักคังเฉียง หลังจากที่ลงชื่อลงไปแล้ว เจ้าจะเป็นคนของสำนัก
คังเฉียง” ตอนที่พูดนั้นจางหยูได้โบกมือพร้อมกับม้วนคัมภีร์ที่โผล่
มาค่อย ๆ ลอยเข้าไปหาผังหลง
ผังหลงรีบลงชื่อลงไป ก่อนจะคืนสัญญาให้กับจางหยู แต่ไม่คิดเลย
ว่าตอนที่เขายกมือนั้น สัญญานภากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ข้าเก็บมันไว้แล้ว”
การกระทำแบบนี้ทำให้ทั้งโจวถิงและผังหลงตกตะลึง
“พรุ่งนี้เช้าให้มารายงานตัวที่สำนักคังเฉียง” ร่างของจางหยูหายไป
ทันที ราวกับว่าเขาไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเสียง
หัวเราะที่ยังก้องอยู่ในบ้าน
โจวถิงยิ้มกว้างออกมา เขาบอกกับผังหลง “ยินดีด้วยน้องชาย !” ด้วย
อายุที่มากของเขา แต่เขากลับเรียกผังหลงว่าน้อง ซึ่งถือว่าให้ความ
เคารพอีกฝ่าย
“การเข้าร่วมสำนักคังเฉียง นั่นก็หมายความว่าชะตาของเจ้าได้เปลี่ยน
ไปอย่างสิ้นเชิง อนาคตของเจ้าคงจะไม่ธรรมดา หวังว่าเมื่อน้องชาย
ประสบความสำเร็จแล้ว จะไม่ลืมราชวงศ์อาณาจักรโจว” ตอนนี้ผัง
หลงเพิ่งจะได้เป็นศิษย์สำนักคังเฉียง กลับมีฐานะที่สูงส่งขนาดนี้
การเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือนี้ แม้แต่โจวถิงที่เป็น
บรรพบุรุษของตระกูลโจวก็ไม่กล้าจะมองข้ามผังหลง
ผังหลงยิ้มและพูดขึ้นมา “ในอนาคตข้าจะไม่ลืมบุญคุณของผู้อาวุโส”

ที่บ้านพักหลังเล็ก ๆ จางหยูได้เคลื่อนย้ายมาอยู่ใจกลางสวน
เขานอนอยู่บนเก้าอี้ไม้พร้อมกับครุ่นคิด “ระบบรับรางวัล !”
“รางวัลเต๋าอมตะ (ดินแดนทะเลเร้นลับ— ดินแดนนิพพาน) ถูกส่ง
มอบ โปรดตรวจสอบ”
จางหยูรออยู่สักพัก แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อะไร ตอนที่เขากำลังจะสอบถามกับระบบนั้น เสียงของระบบก็ดัง
ขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ระบบตรวจจับว่าภายในร่างกายของโฮสต์ มีพลังงาน
ที่ขัดแย้งกัน ดังนั้นจึงปิดกั้นพลังอีกด้านไว้ชั่วคราวและส่งเพียงแค่
ความรู้ และประสบการณ์ในความรู้ด้านนี้ให้ เมื่อโฮสต์แก้ไขความ
ขัดแย้งนี้ได้ ระบบจึงจะส่งพลังนี้คืน”
จางหยูตะลึง “นี่มันเรื่องอะไรกัน ?”
มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก