ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 321

ตอนที่ 321 ทางข้างหน้า
จางหยูโบกมือและมองไปที่โอวเสินเฟิง “อาจารย์โอว ท่านพูดอีก
รอบสิ”
เขาเข้าใจว่าโอวเสินเฟิงต้องรู้บางอย่าง ไม่งั้นคงไม่มีทางที่จะพูด
ขึ้นมาโดยไร้เหตุผล
“เจ้าสำนัก ข้าผิดไปแล้ว ในอนาคตข้าจะไม่ถามเรื่องนี้อีก” โอวเสิน
เฟิงเข้าใจผิด เขากลัวยิ่งกว่าเดิม ร่างวิญญาณของเขาถึงกับสั่นไหว
เล็กน้อย
จางหยูตอนนี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ไม่ต้องกังวลไป ข้า
ไม่ได้โกรธเจ้า แต่ข้าแค่ไม่เข้าใจคำพูดของท่านเมื่อครู่นี้เท่านั้น”
เมื่อได้ยินแบบนั้นโอวเสินเฟิงก็ใจเย็นลง เขาได้ถามกลับมาอย่างไม่
แน่ใจ “เจ้าสำนัก ท่านไม่โกรธจริง ๆ รึ ?”
จางหยูพูดด้วยท่าทีประชดประชัน “ทำไม ท่านคิดว่าข้าเป็นคนใจแคบ
หรือยังไงกัน ?”
โอวเสินเฟิงได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา “แน่นอนว่าไม่”
“เช่นนั้นก็อย่าคิดมาก” จางหยูส่ายหน้าและพูดต่อ “โอ้ เลิกพูดไร้สาระ
ก่อน เมื่อครู่ท่านว่ายังไงนะ ? ท่านพูดอีกรอบได้หรือไม่ ?”
โอวเสินเฟิงเมื่อเห็นว่าจางหยูไม่ได้โกรธจริง ๆ เขาจึงรวบรวมความ
กล้าพูดขึ้นมา “เจ้าสำนัก ข้าเพิ่งพูดไปว่าท่านได้บ่มเพาะกฎธาตุไม้
จนถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ จนสามารถที่จะควบคุมมันได้ นี่มันคือ
ระดับไหนของกฎกัน? เท่าที่ข้ารู้มาผู้บ่มเพาะจะทำได้เพียงยืมพลัง
ของโลกตามความเข้าใจของตนเอง แม้แต่พวกระดับสูงก็ไม่ใช่
ข้อยกเว้น แต่ท่านกลับควบคุมมันได้อย่างตามใจ ดังนั้นข้าจึงสงสัย
ว่าท่านอยู่ในระดับไหนกันของการเข้าใจกฎ ?”
หลังจากนั้นโอวเสินเฟิงก็อธิบายต่อ “ข้าแค่สงสัย ข้าไม่ได้สนใจจะรู้
ถึงความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักเลย “
ครั้งนี้โอวเสินเฟิงอธิบายทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจนและจางหยูก็
เข้าใจได้ทันที
สายตาเขาดูแปลกไป “ท่านหมายความว่าข้าเข้าใจกฎธาตุไม้แล้วรึ ?
และอยู่ในระดับที่สูงกว่าพวกระดับสูงคนอื่นรึ ?”
เนื่องจากเขารู้จักตัวเองดีว่า ยังไม่ได้อัดแน่นแกนกฎธาตุไม้ขึ้นมา
แล้วเขาจะไปเข้าใจกฎไม้ได้ยังไง นี่ไม่ต้องนับการไปเทียบกับพวก
ระดับสูงคนอื่นเลย
เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดของจางหยูโอวเสินเฟิงก็ดูไม่มั่นใจ “เจ้า
สำนัก ข้าเดาผิดไปงั้นรึ ?”
“กฎธาตุไม้…” จางหยูเผยรอยยิ้มลึกลับออกมา “ท่านคิดว่าข้าบ่ม
เพาะกฎธาตุไม้จนไปถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ งั้น…ดูนี่อีกครั้ง”
ตอนที่พูดนั้น กฎธาตุไฟในอาณาเขตของเขาก็กลับมาอัดแน่นในฝ่า
มือของจางหยู
มันเป็นลูกบอลไฟราวกับลาวา ที่แผ่ความร้อนออกมาทำให้อากาศ
โดยรอบบิดเบี้ยวไปเพราะความร้อน
รูม่านตาของโอวเสินเฟิงหดเล็กด้วยความตะลึง “นี่มัน….”
“ท่านลองดูว่านี่คืออะไร ?” จางหยูพูดขึ้นอย่างใจเย็น
“เจ้า…เจ้าสำนักไม่ใช่แค่บ่มเพาะกฎธาตุไม้ แต่รวมไปถึงธาตุไฟด้วย
ความเข้าใจต่อกฎธาตุไฟของเจ้าสำนักไม่ได้ด้อยไปกว่ากฎธาตุไม้
เลย !” โอวเสินเฟิงพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง ความตะลึงนี้มีแต่
ผู้บ่มเพาะกฎเท่านั้นที่จะเข้าใจได้ คนทั้งโลกเองก็คงจะต้องตะลึง
เช่นกัน ตั้งแต่อดีตจนมาถึงตอนนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น จางหยูนั้นได้
แหกกฎที่เคยตั้งกันมา
ลูกบอลไฟนี้มีความร้อนสูง แม้จะอยู่ห่าง แต่โอวเสินเฟิงก็ยังรับรู้ได้
ถึงความร้อนราวกับวิญญาณกำลังโดนเผาไหม้ มันทำให้เขารู้สึก
เจ็บปวด หากผ่านไปนานกว่านี้เขาคงรู้สึกว่าเขาโดนเผาจริง ๆ
“เจ้าสำนัก หยุดก่อน ได้โปรดหยุดก่อน” โอวเสินเฟิงไม่กล้าทนต่อ
และได้แต่อ้อนวอนออกมา
จางหยูตกใจ เขารีบสลายหลิงชี่ธาตุไฟในมือทิ้งทันที เขาไม่คิดว่าลูก
บอลหลิงชี่ธาตุไฟจะมีพลังที่น่ากลัวแบบนี้ และโอวเสินเฟิงก็ยังอยู่
ขอบเขตหลิงซวนด้วย แต่กลับถูกลูกบอลธาตุไฟนี้ทำให้วิญญาณ
ของโอวเสินเฟิงเสียหาย
มันแปลกที่จางหยูไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เขาไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนเลย
แม้แต่น้อย มันเหมือนกับลูกบอลธรรมดา หากไม่ใช่เพราะท่าทีของ
โอวเสินเฟิงเป็นของจริง จางหยูคงคิดว่าโอวเสินเฟิงคงแสร้งทำ
“นี่แค่อัดแน่นหลิงชี่ธาตุไฟ มันก็มีพลังที่ร้ายแรงแบบนี้ได้ยังไง?”
จางหยูแปลกใจ เขารู้สึกว่าเขามองข้ามอะไรบางอย่างไป
เมื่อเห็นว่าโอวเสินเฟิงแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด
จางหยูก็ขอโทษออกมา “ขอโทษด้วย อาจารย์โอว ข้าประมาทไป ข้า
ทำให้ท่านบาดเจ็บ…” แน่นอนเขาคงไม่บอกว่า เขาไม่รู้ว่าการอัด
แน่นหลิงชี่ธาตุไฟจะมีพลังที่รุนแรงแบบนี้
เขาคิดว่ามันเป็นแค่ลูกไฟธรรมดา “ข้าไม่คิดว่าด้วยความแข็งแกร่งที่
ท่านมี ท่านจะรับพลังของบอลธาตุไฟไม่ได้…”
ขนาดอยู่ห่างแบบนี้ก็ยังทำให้โอวเสินเฟิงบาดเจ็บแบบนี้ได้ หากมัน
โดนเข้าจัง ๆ ล่ะ ?
ดูเหมือนว่าจางหยูไม่ได้ตั้งใจจนทำให้โอวเสินเฟิงบาดเจ็บ
ตอนนี้วิญญาณเขาอ่อนแออย่างมาก แม้ว่าความแข็งแกร่งจะอยู่
ขอบเขตหลิงซวน แต่มันก็อ่อนแอกว่าเดิม 20-30%
เมื่อได้ยินคำขอโทษจากจางหยูโอวเสินเฟิงก็ยิ้มออกมา เขาไม่มี
ความกล้าพอที่จะไปเอาเรื่องกับจางหยู
“หากต้องโทษก็คงต้องโทษข้าที่อ่อนแอเกินไป” โอวเสินเฟิงถึงกับ
ออกตัวว่าเป็นฝ่ายผิด “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักแล้ว แม้ว่า
ท่านจะแค่อัดแน่นหลิงชี่ธาตุเป็นลูกบอล แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดา
จะต้านทานได้”
จางหยูหัวเราะและถามขึ้นมา “ท่านคิดว่ายังไงเกี่ยวกับกฎธาตุไฟ
ของข้า ?”
เนื่องจากโอวเสินเฟิงคิดว่าเขาบ่มเพาะกฎธาตุไฟด้วย เขาจึงถาม
คำถามนี้กับโอวเสินเฟิง
“ร้ายกาจมาก” โอวเสินเฟิงเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ข้ารับรองได้
ว่า ตอนนี้ไม่มีใครเหนือกว่าเจ้าสำนักไปได้ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็เริ่มคิดทันที เขายังไม่ได้อัดแน่นแกนกฎ
และยังไม่ได้บ่มเพาะกฎ แต่กลับสามารถใช้หลิงชี่ธาตุได้ทรงพลัง
กว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นหลิงชี่ธาตุอะไรก็ตาม มันก็เหมือนเป็นส่วน
หนึ่งของร่างกายเขา เขาสามารถควบคุมมันได้ตามใจ ตอนแรกเขา
คิดว่า มันเป็นความสามารถทั่วไปที่พวกขอบเขตหลิงซวนก็ทำได้
แต่ฟังจากที่โอวเสินเฟิงบอกมาแล้ว มันดูเหมือน….ความสามารถนี้
จะไม่ธรรมดา คนอื่น ๆ ไม่อาจจะทำได้ แม้แต่พวกระดับสูงก็ไม่
อาจจะทำได้
เมื่อเห็นว่าจางหยูเงียบไป โอวเสินเฟิงก็พูดขึ้นต่อ “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าสำนัก
บ่มเพาะกฎธาตุไม้และไฟไปถึงระดับไหนแล้ว แต่เท่าที่ข้ารู้มา ยิ่ง
เข้าใจกฎได้ลึกซึ้งเท่าไหร่ก็สามารถยืมพลังของโลกได้มากเท่านั้น
กระบวนการในการทำความเข้าใจกฎคือการพัฒนาพลังที่ยืมจาก
โลก เจ้าสำนักสามารถบังคับหลิงชี่ธาตุและอัดแน่นมันเป็นลูกบอล
ได้ ความเข้าใจกฎของท่านขึ้นไปจนเกินขีดจำกัด !”
เข้าใจกฎเพียง 10% ก็สามารถใช้พลังจากโลกได้แค่ 10%
เข้าใจกฎ 90% เราสามารถใช้พลังกว่า 90% จากโลกได้
การบ่มเพาะจนไปถึงขั้นสมบูรณ์ จะสามารถใช้พลังของโลกได้อย่าง
เต็มที่ !
หลิงชี่ธาตุนั้นไม่มีทางเปลี่ยนแปลง พลังของมันไม่มีทางเปลี่ยนแปลง!
“ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องอะไรที่คนบ่มเพาะกฎสามารถทำได้ ข้าก็ทำได้
เช่นกัน เผลอ ๆ ข้าอาจจะทำได้ดียิ่งกว่าพวกเขา!” จางหยูก็ตาเป็น
ประกายขึ้นมา และแสดงความมั่นใจออกมา “ข้าถึงกับควบคุมหลิงชี่
ธาตุได้อย่างอิสระ และใช้พลังมันออกมาได้อย่างเต็มที่ !”
เขายังไม่ได้บ่มเพาะกฎ แต่กลับสามารถใช้หลิงชี่ของโลกได้อย่าง
อิสระ ซึ่งไม่มีใครสามารถทำแบบเขาได้
พวกขอบเขตหลิงซวน, หลี่ซวนและตุ้นซวน แม้แต่พวกระดับสูงทั้ง
6 คนก็ไม่อาจทำได้ดีเท่ากับเขา !
ในด้านนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะนำหน้าทุกคน จนไปถึงขั้นสูงสุดของมัน
แล้ว !
เขามีส่วนที่แย่กว่าคนอื่นคืออาณาเขตของเขาเล็กเกินไป มันแค่ 300
ฟุตเท่านั้น มันน้อยกว่าพวกขอบเขตหลี่ซวนและตันซวนหลายเท่า!
จริงที่ว่าเขาสามารถดึงหลิงชี่ธาตุในอาณาเขตได้ พลังของมันถึงกับ
เป็นภัยต่อพวกขอบเขตหลี่ซวน แต่ถ้าหากเทียบกับพวกขอบเขตตุ้น
ซวน อาณาเขตของพวกนั้นใหญ่กว่าเขาเป็นร้อยเท่าและครอบคลุม
ได้ทั้งเมือง ซึ่งหลิงชี่ธาตุของอาณาเขตนั้นจะมากขนาดไหนกัน?
และมันจะมีพลังธาตุแค่ไหนกัน ?
“สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือการพัฒนาอาณาเขต” จางหยูรู้ว่านี่คือกุญแจ
สำคัญในการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง “ตอนนี้ข้าเป็นเหมือน
นักมวยที่ไม่มีทักษะ มีดีแค่เรี่ยวแรง มีแค่การยกระดับอาณาเขตขึ้นมา
เท่านั้น ถึงจะเพียงพอที่จะเป็นภัยต่อศัตรูได้”
จะพัฒนาอาณาเขตยังไง ?
จางหยูไม่มีทางอื่นเลยนอกจากต้องทดสอบมันด้วยตัวเอง
ยังไงซะโอวเสินเฟิงก็ไม่อาจที่จะแนะนำเขาในด้านนี้ได้ คนอื่น ๆ
ทำความเข้าใจกฎแล้วทำให้อาณาเขตพัฒนาขึ้นมา แต่จางหยูนั้นต่าง
ออกไป สถานการณ์ของเขาพิเศษ และไม่มีใครชี้แนะเขาได้
นี่คือเส้นทางแห่งความโดดเดี่ยว จางหยูไม่รู้ว่าเขาจะไปในเส้นทางนี้
ได้ไกลแค่ไหน
“ในที่สุดข้าก็พอรู้สถานการณ์ของตัวเองแล้ว” จางหยูดีใจเป็นอย่าง
มาก แม้ว่าปัญหาจะยังคงอยู่ แต่เขาก็รู้ทิศทางว่าควรพยายามไปใน
ทิศทางไหน มันคือข่าวดีสำหรับจางหยู
จางหยูหันกลับมามองโอวเสินเฟิงอีกรอบ
เมื่อเห็นสีหน้าอ่อนแรงของโอวเสินเฟิงจางหยูก็รู้สึกอึดอัดใจ ยังไง
ซะโอวเสินเฟิงก็พูดเพราะความหวังดี แต่เขากลับทำให้โอวเสินเฟิง
บาดเจ็บ
จางหยูเพ่งสมาธิและควบคุมหลิงชี่ธาตุไม้ในอาณาเขตให้เข้าห่อหุ้ม
ตัวโอวเสินเฟิงเอาไว้ “รักษา”
แค่คิด หลิงชี่ธาตุไม้ก็แผ่พลังชีวิตออกมา จุดแสงนับไม่ถ้วนได้
หลอมรวมเข้ากับวิญญาณของโอวเสินเฟิง
โอวเสินเฟิงตกตะลึงไปกับการกระทำของจางหยู แต่เมื่อรู้ถึง
จุดประสงค์ของจางหยู เขาก็ผ่อนคลายขึ้นมาทันที
“ดูเหมือนว่ามันจะได้ผล” จางหยูดวงตาเป็นประกายขึ้นมา เขาแค่
ทดสอบ เขาไม่มั่นใจว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ แต่ผลลัพธ์นี้ แน่นอนว่า
ทำให้เขาแปลกใจ หลิงชี่ธาตุไม้นั้นเหมือนกับอยู่ในการควบคุมของ
เขา แค่คิดเขาก็สามารถฟื้นฟูร่างวิญญาณที่อ่อนแอของโอวเสินเฟิง
ได้อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่สามอึดใจ ร่างวิญญาณที่บาดเจ็บของโอวเสินเฟิงก็หายดีขึ้นมา
ผลลัพธ์นี้มันน่าทึ่ง !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก