ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 373

ตอนที่ 373 เรื่องน่าอัศจรรย์
เมื่อได้ยินคำเตือนจากเจ้าสำนัก จางหยูก็นึกได้ทันที “หากเจ้าไม่พูด
ข้าคงลืมไปแล้ว”
เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว เขาก็พบว่าการเปิดสอนคือวันพรุ่งนี้จริง ๆ
“ก็ได้ ข้าจะอยู่ที่นี่อีกสักหน่อย หลังจากที่เปิดสอนเสร็จแล้วค่อยไป”
จางหยูคิดและส่งข้อความกลับ “เจ้าเหนื่อยมาโดยตลอดสองวันนี้เจ้า
ก็พักสักหน่อย รอข้ากลับไปที่สำนักคังเฉียงก่อน”
จางหยูตรวจสอบตำแหน่งของเจ้าสำนัก และเคลื่อนย้ายไปที่นั่น
ทันที ฝ่ามือของเขากำบอลธาตุเอาไว้ มันอัดแน่นขึ้นจากหลิงซี่ธาตุ
มันมีพลังงานที่สูงจนน่าตกใจ
จางหยูส่งบอลธาตุให้กับเจ้าสำนัก “บอลนี้หากค่อย ๆ ดูดซับมัน เดา
ว่าหลังจากที่เจ้าดูดซับมันเสร็จ เจ้าจะทะลวงผ่านไปได้”
เจ้าสำนักมองไปที่ลูกบอลด้วยความตื่นเต้น “ขอบคุณมากร่างหลัก!”
เมื่อพูดจบ เจ้าสำนักก็รับมันไปอย่างไม่ลังเล เขาได้นั่งขัดสมาธิแล้ว
ดูดซับพลังจากลูกบอล ความแข็งแกร่งของวังวนเพิ่มขึ้นมาด้วย
ความเร็วที่น่าฟัง มันอยู่ในช่วงพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว
จางหยูยืนอยู่ข้าง ๆ ร่างเจ้าสำนักอย่างใจเย็น เพื่อคอยคุ้มกันอีกฝ่าย
ประมาณ 15 นาทีผ่านไป อยู่ ๆ พลังรอบตัวของเจ้าสำนักก็เปลี่ยนไป
พลังอันน่ากลัวแผ่ออกไปทั่วทุกทิศทาง
จางหยูกางอาณาเขตออกไป เพื่อกั้นพลังงานเอาไว้อย่างง่ายดาย ทำให้
พลังของร่างเจ้าสำนักไม่อาจจะรั่วไหลออกไปภายนอกได้
หลังจากนั้นสักพัก เจ้าสำนักก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับสายตาที่ดูเด็ดเดี่ยว
ขึ้นกว่าเดิม
“ขอบคุณมากร่างหลัก” เจ้าสำนักมองไปที่จางหยู ด้วยความช่วยเหลือ
จากจางหยู เขาก็ประหยัดเวลาไปได้มาก ระดับการบ่มเพาะของเขา
พัฒนาขึ้นมาถึงขอบเขตหลี่ซวนขั้นต่ำได้ ด้วยระดับการบ่มเพาะใน
ตอนนี้ เขาสามารถรับมือเรื่องต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิมไม่จำเป็นต้อง
ขี้ขลาดแบบเดิมแล้ว
ด้วยระดับการบ่มเพาะขอบเขตหลีซวนขั้นต่ำ แม้แต่พวกขอบเขตตุ้น
ซวนขั้นต่ำ เขาก็สามารถรับมือได้
จางหยูยิ้มออกมา “เจ้ากับข้าคือคนคนเดียวกัน ทำไมต้องคิดมากด้วย?”
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “เจ้าควรไปหาที่พักผ่อนก่อน อีกสองวันนี้
เจ้าไม่ต้องออกมา”
เจ้าสำนักพยักหน้ามันเป็นเวลาสองวันที่ยากจะได้มาเขาจะปฏิเสธได้
ยังไง
หลังจากบอกลาจางหยู เจ้าสำนักก็บินออกมาจากสำนักคังเฉียง และ
หายไปในทันที
หลังจากที่เจ้าสำนักออกไปแล้ว จางหยูก็ได้กลับไปยังบ้านพักและ
พบว่าอ้าวเสี่ยวหร่าน, เสี่ยวเฉียงและอู่ซินซินไม่ได้อยู่ที่นั่น มันทำ
ให้บ้านทั้งหลังเงียบสงัด จนบ้านนี้ดูไร้ชีวิตชีวา
กระทั่งตกดึก เสี่ยวเฉียงและอ้าวเสี่ยวหร่านถึงได้กลับมาที่บ้าน
ภายใต้แสงสว่างจากดวงจันทร์ จางหยูได้มองไปที่อ้าวเสี่ยวหร่าน
และพูดขึ้น “เจ้าตัวน้อย ข้าเห็นเจ้าเอาแต่เล่นสนุกตลอดทั้งวันโดยไม่
ทำอะไรเลย เจ้าไม่คิดที่จะบ่มเพาะเลย?”
สีหน้าของจางหยุไม่ใช่แค่เคร่งเครียด แต่ยังน่ากลัวอีกด้วย
น่าเสียดายที่อ้าวเสี่ยวหร่านไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย นางทำสัญญา
เท่าเทียมกับจางหยู เป็นธรรมดาที่นางจะรู้ว่าจางหยูรู้สึกยังไง จางหยู
ไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย นางรู้ดีกว่าใครอื่น
“ท่านพี่ เสี่ยวหร่านผิดไปแล้ว เสี่ยวหร่านจะไม่ทำอีกแล้ว” อ้าวเสี่ยว
หร่านแสดงสีหน้าน่าสงสารออกมา มันคงยากที่จะหาใครปฏิเสธ
นางได้
จางหยูถอนหายใจออกมา และพูดขึ้น “เจ้าตัวน้อย พี่ไม่ได้ว่าเจ้าหรอก
นะ แค่ว่าเรื่องของเจ้านั้นซับซ้อน และเจ้าก็ไม่รู้ว่า มีความลับอะไรที่
เบื้องหลังเจ้า พี่ไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้ตลอด หากเจ้าปกป้องตัวเอง
ไม่ได้พี่จะสบายใจได้ยังไง?”
จางหยูคงไม่อาจจะทำใจให้สบายได้
เด็กนี่ราวกับดวงดาว ต่อหน้านางแล้วเขาไม่อาจจะโกรธได้เลย
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู นางก็ตะลึงก่อนจะน้ำตาจะคลอขึ้นมา
“ข้าขอโทษท่านพี่ !”
บางทีคำพูดของจางหยูคงแย่ไปหน่อย
เมื่อเห็นสีหน้าของนาง จางหยูก็รู้สึกผิดขึ้นมา แม้ว่าความฉลาดของ
นางจะยังไม่สูงนัก แต่ก็พอเข้าใจเรื่องพื้นฐานได้บ้าง เขาไม่ควรพูด
เรื่องชีวิตกับนาง มันโหดร้ายกับนางเกินไปหน่อย
มันน่าเสียดายที่เขาพูดมันออกไปแล้ว และยากที่จะปกปิดเรื่องนี้
ต่อไปได้
“ช่างเถอะไปพักผ่อนซะ” จางหยูเงียบไปและโบกมือ “ในอนาคตพี่
จะไม่บังคับให้เจ้าต้องบ่มเพาะอีก”
หากเทียบกับเรื่องอื่น ๆ แล้ว เขาหวังว่าอ้าวเสี่ยวหร่านจะใช้ชีวิตอย่าง
มีความสุขในทุก ๆ วัน ส่วนเรื่องอื่น ๆ เขาที่เป็นที่จะเป็นคนจัดการ
เอง
“จริงรึ?” อ้าวเสี่ยวหร่านตาเป็นประกายขึ้นมา อารมณ์โศกเศร้าเมื่อ
สักครู่นี้ ถูกแทนที่ด้วยความสุข
เจ้าตัวน้อยที่มีความคิดเท่ากับเด็กน้อย กระโดดโลดเต้นไปมาทันที
“แน่นอนว่าจริง พี่เคยโกหกเจ้าตอนไหนกัน?” จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะ
หรือร้องไห้ดี “เอาล่ะ เจ้าเล่นมาทั้งวันแล้ว ไปพักได้แล้วจริง ๆ แล้ว
อ้าวเสี่ยวหร่านถึงไม่ได้นอนทั้งวัน ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่จางหยูติด
นิสัยและเชื่อว่ามันถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนแล้ว
เมื่อเห็นว่านางเดินไปที่เตียงเพื่อพักผ่อน จางหยูก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“มันเป็นไปไม่ได้ที่หวังให้นางคิดบ่มเพาะด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่าข้า
ต้องคิดหาทางอื่น” สำหรับอ้าวเสี่ยวหร่านแล้ว จางหยุตามใจนางไป
หน่อย จนนางแทบจะเอาแต่ใจตัวเอง “นางเป็นถึงมังกรโลหิตพูด
ตรง ๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องบ่มเพาะไปทีละขั้น ตราบใดที่ได้กิน
แก่นโลหิตของสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่แข็งแกร่งเข้าไป นางก็สามารถ
พัฒนาระดับการบ่มเพาะขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว”
แต่เขาควรไปหาแก่นโลหิตของสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิมากมายมาจาก
ไหนกัน?
สัตว์อสูรขอบเขตตันซวนในชั้นเรียนสัตว์อสูรงั้นรึ?
ราชาสัตว์อสูรเฉินกูรึ?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนพวกนั้น ต้องมีสายเลือด
ที่น่าประทับใจ และยิ่งกับเฉินกูที่เป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ หากนางได้
แก่นโลหิตของพวกนั้นมา ระดับการบ่มเพาะของอ้าวเสี่ยวหร่านก็จะ
พัฒนาขึ้นมาด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
แต่ตอนนี้จางหยูยังไม่อาจที่จะหาข้ออ้างดี ๆ ได้
ก่อนหน้านี้เขาใช้ข้อแก้ตัวว่า จะช่วยกระตุ้นสายเลือดขึ้นมาเพื่อหลอก
เอาแก่นโลหิตจากเหล่าสัตว์อสูรขอบเขตตันซวน แต่สัตว์อสูรขอบเขต
ตุ้นซวนและเฉินกู ได้กระตุ้นสายเลือดของตัวเองขึ้นมาแล้ว พวกเขา
ไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากจางหยูในเรื่องนี้ เป็นธรรมดาที่ข้อแก้
ตัวนี้จะใช้ไม่ได้ผลกับพวกนั้น
“แก่นโลหิตสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ข้าจะเอามันมาได้ยังไง?” จางหยูคิด
เขาต้องการแก่นโลหิตสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ยิ่งเยอะยิ่งดี มันจะมีทางไหน
บ้างที่จะได้แก่นโลหิตสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิพวกนั้นมา?
จางหยุครุ่นคิดอยู่นาน
อยู่ ๆ จางหยูก็ได้ความคิดที่น่าแปลกใจออกมา “ทักษะแยกร่างเทียม!”
ทักษะแยกร่างเทียมใช้พลังงาน รวมไปถึงวิญญาณ เพื่อขึ้นโครงสร้าง
ร่างกาย, พรสวรรค์, สายเลือดและส่วนอื่น ๆ เมื่อมันถูกสร้างขึ้น
มาแล้ว ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงมันได้อีก…
จางหยูจำได้ว่า ทักษะนี้สามารถสร้างร่างเผ่าไหนก็ได้ มันไม่ได้
หมายความว่าเขาสามารถสร้างสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิขึ้นมาได้?
เมื่อคิดได้แบบนั้น ความคิดนี้ก็ราวกับเมล็ดที่ฝังรากเข้าไปในหัวของ
เขา สีหน้าที่สงบนิ่งก่อนหน้านี้กลับเริ่มดูตื่นเต้นขึ้นมา ในหัวใจเขามี
แต่ความตื่นเต้นที่ไม่อาจจะควบคุมได้
นี่เป็นความคิดที่บ้าบิ่นจริง ๆ !
จางหยูไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าความคิดนี้มัน
ใช้ได้จริง!
หากทำตามความคิดนี้ งั้นแก่นโลหิตของสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ก็ไม่ใช่
ปัญหาอีกต่อไป แก่นโลหิตที่อ้าวเสี่ยวหร่านต้องการ ก็จะไม่มีปัญหา
อีก และจางหยูก็ถึงกับจะมีสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิในสังกัดจำนวนมากด้วย!
“ลองดู หากล้มเหลวก็ไม่ได้เสียหายอะไร!” จางหยูสูดหายใจเข้าลึก ๆ
เพื่อกดความตื่นเต้นที่มีในใจลง
ต่อมาจางหยูก็ได้ใช้เคลื่อนย้ายพริบตากลับขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง
ภายใต้แสงจันทร์ ชั้นเมฆที่บดบังดวงจันทร์ไว้นั้น ทำให้แสงดูพร่า
มัว เพราะจางหยูอยู่ห่างจากพื้นสูงเกินไป จึงไม่อาจจะมีใครมองเห็น
เขาได้ แม้แต่พวกขอบเขตตันซวนก็เห็นได้แค่จุดสีดำเล็ก ๆ ไม่อาจจะ
ตรวจสอบได้ และไม่อาจจะเดาได้ว่าจุดสีดำนั้นคือจางหยู
จางหยูถอนหายใจออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับเริ่มทำการทดสอบ
อย่างแรกเลยเขาลองสร้างหมาป่ าละโมบขึ้นมาดู
หมาป่ าคือสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่โด่งดังของทวีปป่ า มันคือสัตว์อสูร
ศักด์ิสิทธ์ิชั้นสูง เหมือนกับมังกรสมมุติเทพ, สัตว์อสูรกลืนสวรรค์,
ราชาปีศาจวัว, จิ้งจอกเวทย์และพวกอื่น ๆ ยกเว้นแค่มังกรสมมุติเทพ
ที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นแล้ว พวกที่เหลือนั้นมีมากกว่าหลายเท่า
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิชนิดอื่น ๆ รวมทั้งหมาป่ าละโมบเคยปรากฏตัวขึ้น
เพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ พวกมันไม่อาจจะเอาอะไรมาเทียบได้
และไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า มันคือสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ตัวตนสูง
ที่สุดของทวีปป่า พวกมันไม่ได้อ่อนแอกว่ามังกรสมมุติเทพเลย
การสร้างร่างแบบนั้นขึ้นมาได้แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!
ในอากาศนั้น จางหยุได้ถึงแก่นพลังออกมา และคิดภาพของหมาป่ า
ละโมบขึ้นมา
เผ่า : สัตว์อสูร
รูปร่าง : หมาป่าละโมบ
สายเลือด : หมาป่าละโมบสายเลือดสมบูรณ์
ร่างกาย : 6 ดาว
***
ไม่นาน ด้วยการหลอมรวมพลังวิญญาณของจางหยู อยู่ ๆ แก่นพลังงาน
ที่ไร้ชีวิต ก็เปลี่ยนแปลงไป มันเปลี่ยนเป็นรูปร่างสัตว์อสูร ร่างของ
หมาป่ าที่ถูกสร้างขึ้นโดยจางหยู ถูกตั้งชื่อไว้ว่าเทพหมาป่ า
***
เทพหมาป่า
เผ่า : สัตว์อสูร
เพศ : ชาย
อายุ : 0 ปี
ร่างกาย : หมาป่ าละโมบ (ทำงาน), 6 ดาวขั้นสูง
การรับรู้ : ไม่มี
พรสวรรค์พิเศษ : คลั่งสังหาร (6 ดาว)
ขอบเขต : ไม่มี
ทักษะ : คลั่งสังหารขั้น 6
ในขณะเดียวกัน ตอนที่หมาป่ าถูกสร้างขึ้นมา ดวงจันทร์ที่อยู่ไกลออก
ไป ก็ได้ระเบิดลำแสงที่น่ากลัวออกมา ราวกับว่าทั้งโลกได้เปลี่ยนไป
สู่ความบ้าคลั่ง ราวกับโลกนี้มีบางอย่างถูกเพิ่มเข้ามา
ที่เขตกลาง
คนนับไม่ถ้วนต่างก็ตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกระดับสูงสุด
ของมนุษย์สี่คน คือพวกที่ตะลึงที่สุด
“การเปลี่ยนแปลงของหลิงซี่”
“พระเจ้า…นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ตอนที่หมาป่ าละโมบ
ปรากฏขึ้นมา ตามที่ตำราโบราณได้บันทึกเอาไว้รึ?”
“เป็นไปได้ด้วยรึ ที่จะมีหมาป่ าละโมบกำเนิดขึ้นมาได้?”
“แค่เฉินกูก็เป็นภัยต่อพวกเราแล้ว หากเพิ่มหมาป่าละโมบเข้าไป…”
ทั้งสี่คนต่างก็ขนลุก
ในเวลาเดียวกัน ทั้งสี่ก็ได้สั่งการให้หยุดตามหาชายลึกลับและทำการ
ค้นหาตัวหมาป่าละโมบแทน เมื่อพบแล้วให้ฆ่าทิ้งทันที !
เมื่อหมาป่ าละโมบเติบโตขึ้นมา มันจะต้องทัดเทียมกับราชาสัตว์อสูร
ได้ และอาจจะเป็นภัยยิ่งกว่าเฉินกูก็ได้ !
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ไม่อาจที่จะปล่อยให้มันเติบโตขึ้นมาได้!” พวกที่
แข็งแกร่งของมนุษย์นับไม่ถ้วน ต่างก็พากันลนลาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก