ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 375

ตอนที่ 375 องค์รัชทายาทเผ่ามังกร
การเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ได้จำกัดแค่ทวีปป่ าเท่านั้น มันยังส่งผล
ไปทั้งโลกแม้แต่ที่เกาะมังกรก็เช่นกัน
เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหลิงชี่ ทันใดนั้นก็มีเสียงคำราม
ของมังกรดังขึ้นมา อากาศรอบ ๆ พลันสั่นไหวราวกับคลื่นน้ำ
เหล่ามังกรที่กลายร่างเป็นมนุษย์ได้เผลอดูดซับหลิงชี่นั้นเอาไว้ ก่อน
จะควบคุมตัวเองไม่อยู่ และเปลี่ยนร่างเป็นมังกรที่ยาวหลายสิบลี้
“เอาล่ะ หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว” หลังจากนั้นสักพักก็มีเสียงแก่ ๆ
ดังขึ้นมา
เมื่อเสียงนั้นสิ้นสุดลง มังกรทั้งหมดต่างก็พากันเปลี่ยนร่างกลับไป
เป็นคน และมองไปทางหุบเขาที่อยู่ใจกลางเกาะด้วยดวงตาที่เป็น
ประกาย
“ท่านพ่อ” ชายหนุ่มมองไปยังชายชราที่สวมมงกุฎด้วยสีหน้าเคร่ง เค
รึยด ที่หน้าผากของชายชรามีเขาสองอันงอกออกมา “ตอนนี้หลิงชี่
ได้เปลี่ยนไป มันเป็นสัญญาณบอกว่า หมาป่าละโมบได้ถือกำเนิด
ขึ้นมาแล้ว”
ไม่ต้องเดาเลยว่า ชายแก่ผู้นี้คือราชาของเผ่ามังกร ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
ของเหล่ามังกรทั้งมวล อ้าวคุน
ส่วนชายวัยกลางคนตรงหน้า ก็คือลูกชายของราชามังกร องค์รัชทายาท
ของเหล่ามังกร อ้าวอู่เหยียน
อ้าวคุนดูชราราวกับต้นไม้ที่แห้งเหี่ยว แต่ไม่มีใครในโลกนี้ที่กล้ามา
หาเรื่องเขา ไม่มีใครสงสัยในความแข็งแกร่งที่เขามี ในฐานะจักรพรรดิ
ของเหล่ามังกรแล้ว พลังที่เขามีนั้นอยู่ในระดับที่ไม่สามารถคาดเดา
ได้
“ในตำนานกล่าวเอาไว้ว่า หมาป่ าละโมบกับมังกรสมมุติเทพมีพลัง
ทัดเทียมกัน แล้วทำไมเจ้าต้องหวาดกลัวด้วย?” อ้าวคุนยังคงแสดง
ท่าที่ใจเย็นออกมาราวกับว่าเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นกับโลกนี้
ไม่ได้ส่งผลต่อเขาเลย น้ำเสียงของเขาไม่ได้แสดงความหวั่นไหว
ออกมาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินแบบนั้น น้ำเสียงของอ้าวอู่เหยียนก็ดูดีขึ้นมา “กลัวรึ? ข้า
คือองค์รัชทายาทแห่งมังกรผู้ทรงเกียรติ ข้าจะกลัวทำไมกะอีแค่หมา
ป่าละโมบ ?”
ใบหน้าของเขาแสดงความภูมิใจออกมา มันคือความภูมิใจที่มีแต่
เหล่ามังกรเท่านั้นที่จะมีได้
นอกจากอ้าวคุนแล้ว ในฐานะมังกรสมมุติเทพเพียงตัวเดียว ตอนที่
เขาเกิดมา เขาก็มีชะตาที่ต้องปกครองเผ่ามังกรและกลายเป็นราชา
มังกรตัวต่อไป แม้ว่าหมาป่าละโมบกับมังกรสมมุติเทพ จะมีฐานะ
ทัดเทียมกัน แต่ยังไงซะหากนับรวมเผ่าสัตว์อสูรทั้งเผ่าด้วยก็ยังด้อย
กว่าเผ่ามังกร แล้วแบบนี้เขาจะยังสนใจหมาป่ าละโมบงั้นรึ ?
“หากเป็นแบบนั้นทำไมเจ้าต้องสนใจด้วย?” อ้าวคุนยิ้มออกมา
“ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าละโมบ, จิ้งจอกเวทย์ก็เป็นรองเผ่ามังกรของเรา
ทั้งนั้น”
เขาพอใจกับคำตอบของอ้าวอู่เหยียน ในความเห็นของเขาแล้ว ใน
ฐานะองค์รัชทายาทของเผ่ามังกร เขาจะต้องมีความภาคภูมิใจนี้
ความภาคภูมิใจและความมั่นใจว่าจะบดขยี้ทั้งโลกได้ ไม่งั้นแล้วคง
ไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้ !
“ข้าแค่สงสัย หมาป่าละโมบมีความสามารถอะไรกัน ถึงทัดเทียมกับ
มังกรสมมุติเทพของเผ่าเราได้” อ้าวอู่เหยียนส่ายหน้า ใบหน้าของเขา
แสดงความไม่พอใจออกมา “เผ่ามังกรของเราคือสิ่งมีชีวิตระดับสูง
ที่สุดในโลก มังกรสมมุติเทพคือตัวตนสูงสุดของเผ่ามังกร มันจะมา
ทัดเทียมกับพวกเราได้ยังไง?”
นี่ไม่ใช่แค่อ้าวอู่เหยียนเท่านั้นที่คิดแบบนี้ เผ่ามังกรทั้งเผ่าส่วนมาก
ต่างก็พากันคิดเช่นนี้ พวกเขาไม่เคยชายตาแลสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เลย
เผ่ามังกรไม่เคยเห็นเผ่ามนุษย์กับเผ่าสัตว์อสูรอยู่ในสายตาและไม่สนใจ
ความบาดหมางของมนุษย์กับสัตว์อสูร พวกเขารังเกียจที่จะอยู่ในทวีป
ป่ า ดังนั้นจึงย้ายมาอยู่ที่เกาะมังกร ซึ่งห่างจากโลกและความวุ่นวาย
เหล่านั้น นี่ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขารังเกียจสงครามแต่เป็นเพราะพวก
เขาดูถูก พวกเขาคิดว่าเผ่ามนุษย์และเผ่าสัตว์อสูรไม่คู่ควรที่จะเป็น
ข้องเกี่ยวด้วย
หากมดสองตัวต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอาหาร พวกเขาคงไม่สนใจเพราะ
พวกเขาไม่เคยเห็นค่ามดทั้งสองนั้นอยู่แล้ว
หากเผ่ามังกรลงมือจริง ๆ สัตว์อสูรและมนุษย์ในทวีป คงหายสาบสูญ
ไปนานแล้ว
เผ่ามังกรมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะบดขยี้โลกใบนี้ได้!
“หมาป่าละโมบก็มีความสามารถของมัน” อ้าวคุนมองไปที่อ้าวอู่เหยียน
และพูดขึ้น “เจ้าจำไว้ว่า เผ่ามังกรของเราควรจะภาคภูมิใจในตัวเอง
และมั่นใจว่ามีพลังที่จะบดขยี้โลกใบนี้ได้ แต่อย่าหลงระเริงจนเกินไป
ใต้หล้านี้มีเผ่าพันธุ์นับล้าน แต่ละเผ่าก็มีพลังของมัน หากเจ้าประมาท
จนเกินไป เจ้าอาจจะได้รับผลเสียครั้งใหญ่ในไม่ช้า”
เขาพอใจที่อ้าวอู่เหยียนมีความภาคภูมิใจในเผ่าพันธุ์ แต่หากอ้าวอู่
เหยียนเย่อหยิ่งจนเกินไป เขาก็จำเป็นที่จะต้องเตือนลูกชายของตน
ชัดแล้วว่าราชามังกรไม่ได้ไร้สาระ ตอนที่เขายังหนุ่มและมีความ
แข็งแกร่งอยู่บนจุดสูงสุด เขาไปเจอกับเป้ยหลงเข้า และถูกท้าทาย
ในตอนนั้นเขาไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาและคิดว่าเขาน่าจะเอาชนะ
เป้ยหลงได้ง่าย ๆ แต่นั่นกลับเป็นการต่อสู้ที่น่าตกใจ ในการต่อสู้นั้น
เขาเกือบเสียหายครั้งใหญ่เพราะดูถูกเป้ยหลง !
แม้ว่าสุดท้ายเขาจะชนะ แต่มันก็เป็นชัยชนะที่ได้มาแบบฉิวเฉียด
ด้วยประสบการณ์ในครั้งนั้น เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เย่อหยิ่งดังเดิม
หากสัตว์อสูรและมนุษย์ถือว่าเป็นมด แต่หากเป็นมดที่แข็งแกร่งงั้นก็
เป็นเผ่ามังกรนี่แหละที่จะเสียหายเอง
“ท่านพ่อประเมินคนพวกนั้นสูงเกินไปหรือไม่?” อ้าวอู่เหยียนเบะปาก
“ในความเห็นของข้าแล้ว จะหมาป่าละโมบ, สัตว์อสูรกลืนสวรรค์,
ราชาปิศาจวัว, จิ้งจอกเวทย์, ต่างก็ธรรมดา หากต้องเจอกันจริง ๆ
แล้ว ก็ไม่มีใครเป็นคู่มือของท่านได้” เขารู้ตัวเองดีว่าตัวเองยังหนุ่ม
ยังแน่น เขาบ่มเพาะขึ้นมาจนถึงระดับสูงสุดได้ แต่มันก็ยังห่างไกล
กับช่วงรุ่งโรจน์ที่ท่านพ่อของเขาเคยมี มีแค่ท่านพ่อของเขาเท่านั้นที่
มีพลังเพียงพอจะบดขยี้โลกได้
ราชามังกรทุกตัว ต่างก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีป !
แม้ว่าเหล่าสัตว์อสูรและมนุษย์จะมีอัจฉริยะที่น่าพึ่งโผล่มา แต่พวก
นั้นก็แค่พอรับมือกับราชามังกรได้ สุดท้ายมันก็ไม่มีใครที่จะเอาชนะ
ราชามังกรได้ !
ในอนาคต ตอนที่อ้าวอู่เหยียนได้ขึ้นเป็นราชามังกร ความแข็งแกร่ง
ของเขาก็จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของโลกนี้
พลังของเผ่ามังกรและพลังของราชามังกร สองสิ่งนี้ได้ฝังลึกอยู่ในใจ
อ้าวอู่เหยียน แค่เพียงคำพูดไม่อาจจะทำให้เขาเปลี่ยนใจได้
“เจ้ายังเด็กเกินไป “อ้าวคุนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
อ้าวอู่เหยียนไม่ได้เด็กเกินไป เขาอายุได้ 200 ปีแล้ว เขาอยู่บนเกาะ
มังกรและอยู่ในฐานะองค์รัชทายาท เขาไม่เคยออกไปท่องโลกกว้าง
มาก่อน และไม่เคยเผชิญหน้ากับวิกฤตและความพ่ายแพ้มาก่อน จึง
เป็นธรรมดาที่เขาจะเย่อหยิ่งเหมือนกับเด็กน้อย
แม้แต่พวกนักผจญภัยอายุ 30-40 ปีก็ยังเป็นผู้ใหญ่กว่าเขา
พูดตามตรงแล้ว ความคิดของเขาก็เหมือนกับเด็กหนุ่มอายุ 20 ปี
เท่านั้น
“ดูเหมือนว่าการจะให้เจ้าอยู่บนเกาะมังกรต่อคงไม่ใช่เรื่องดี” อ้าวคุน
มองไปยังอ้าวอู่เหยียนสักพัก และพูดขึ้นมา “ได้เวลาที่เจ้าจะออกไป
ดูโลกภายนอกบ้างแล้ว”
เขารู้สึกว่านิสัยของอ้าวเหยียน จำเป็นต้องได้รับการสั่งสอน ไม่งั้น
แล้วคงเป็นเรื่องยากที่จะเติบโตขึ้นมาได้
เมื่อได้ยินแบบนั้น อ้าวอู่เหยียนก็ตกใจ และไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ท่านพ่อ โลกภายนอกมันมีอะไรดี? ข้าไม่สนใจจะไปยุ่งเกี่ยวกับ
พวกต่ำต้อย ข้าคิดว่าเกาะมังกรแห่งนี้เหมาะกับข้ามากกว่า การให้
เขาไปอยู่ร่วมกับสัตว์อสูรและมนุษย์นั้น เท่ากับว่าต้องอยู่ร่วมกับ
กลุ่มมด มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ
อ้าวคุนพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ออกไปโลกภายนอกมันดีต่อเจ้า ข้าไปที่
นั่นมาหลายปี ในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของข้า เจ้าเองก็ควรไป
รับรู้ประสบการณ์นั่นด้วย”
อ้าวอู่เหยียน แปลกใจ “ท่านพ่อเคยไปโลกภายนอกมารึ ?”
อ้าวคุนไม่ได้ตอบกลับแต่พูดต่อแทน “ลองไปรับรู้ประสบการณ์
ของโลกอื่นดู บางทีเจ้าอาจจะพัฒนาได้เร็วกว่าเดิม การอยู่ที่นี่ต่อไป
ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เจ้าเองก็สงสัยเกี่ยวกับหมาป่ าละโมบไม่ใช่รึ ?
ครั้งนี้เจ้าก็ไปตรวจสอบด้วยตัวเองสิ…” เขาคาดหวังกับอ้าวอู่เหยียน
ซึ่งบ่มเพาะขึ้นมาถึงระดับสูงสุดได้ในเวลาแค่ 200 ปี มันคงเหมาะ
กว่าหากจะเรียกเขาว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเผ่ามังกร บางทีใน
อนาคตเขาอาจจะก้าวข้ามตำนานไปได้
“ใช่สิ ข้าเกือบลืมเรื่องหมาป่าละโมบไป “อ้าวอู่เหยียนดวงตาเป็น
ประกายขึ้นมา
คนอื่น ๆ นั้นเขาไม่สนใจ แต่หากเป็นเรื่องของหมาป่ าละโมบล่ะก็
เขาอยากจะไปดูมันด้วยตาของตัวเอง
บางทีการออกไปโลกภายนอกมันคงเป็นตัวเลือกที่ดี
“เรื่องของทวีปป่า เจ้าคงเคยได้ยินมาแล้ว ข้าจะไม่พูดอีกด้วยความ
แข็งแกร่งที่เจ้ามี ตราบใดที่เจ้าไม่เข้าไปยังเขตหวงห้ามมันก็ไม่มี
อันตรายใด ๆ พวกระดับสูงสุดนั้นเมื่อรู้ตัวตนของเจ้า พวกเขาก็คง
ไม่กล้าที่จะแตะต้องเจ้า”
อ้าวคุนวางใจเรื่องความปลอดภัยของอ้าวอู่เหยียนเป็นอย่างมาก ใน
ความเห็นของเขาแล้ว ตราบใดที่อ้าวอู่เหยียนไม่อยากตายจนเข้าไป
ในเขตหวงห้าม งั้นก็ไม่มีใครทำร้ายอ้าวอู่เหยียนได้ พวกระดับสูงสุด
ทั้งสี่ของมนุษย์และราชาสัตว์อสูรเฉินกู ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะทำ
ร้ายอ้าวอู่เหยียน
“แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะปกปิดตัวตนของตัวเอง และเดินทางเข้าไปใน
ฐานะมนุษย์ อย่าเปิดเผยตัวตนของเจ้า ไม่งั้นแล้วสิ่งที่เรียกว่าการหา
ประสบการณ์นี้ก็ไร้ค่า”
หากมีใครรู้ตัวตนของอ้าวอู่เหยียน ใครบ้างที่จะกล้าหาเรื่องเขา?
หากทุกคนยกย่องและบูชาอ้าวอู่เหยียน การปรับนิสัยนี้จะมีค่าอะไร?
“อย่างแรกข้ามีกฎสามข้อ” อ้าวคุนพูดขึ้น “หลังจากที่เจ้าไปถึงทวีป
ป่ า เจ้าห้ามฝ่าฝืนกฎทั้งสามข้อ ข้อแรกคือห้ามเข้าเขตหวงห้าม ข้อ
สองคือห้ามสังหารผู้อื่น ข้อสามคือห้ามเปิดเผยตัวตนของเจ้า นอกจาก
สามอย่างนี้แล้ว ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรข้าก็ไม่ห้าม”
อ้าวอู่เหยียนเคารพพ่อตัวเองอย่างมาก เขาจดจำคำสั่งให้ขึ้นใจและ
พยักหน้า “ข้าจะจำเอาไว้”
อ้าวคุนพยักหน้าอย่างพอใจ และตักเตือนอีกรอบ “จำไว้ว่าเขตหวง
ห้ามทั้งสามคือที่อันตรายอย่างมาก เจ้าห้ามเข้าใกล้ !”
“ท่านพ่อ มันมีความลับอะไรอยู่ในเขตหวงห้ามทั้งสาม?” อ้าวอู่เหยียน
ถามออกมาด้วยความสงสัย “ท่านเคยเข้าไปหรือไม่ ?”
ต้องรู้ก่อนว่าอ้าวคุนคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!
“อย่าถามและไม่ต้องสงสัย !” อ้าวคุนแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
“เจ้าแค่ต้องรู้ว่าเมื่อเจ้าเข้าไปแล้ว เจ้าจะตาย นี่ไม่ต้องพูดถึงเจ้าเลย
แม้แต่ข้าก็ไม่อาจจะรอดกลับมาได้ ! ตลอดหลายปีมานี้พวกที่สงสัย
จนเข้าไปในเขตหวงห้าม ต่างก็ตายหมดไม่มีข้อยกเว้น ! ในหมู่คน
ตายพวกนั้นใช่ว่าจะไม่มีมังกรอยู่ !”
เมื่อได้ยินแบบนั้น อ้าวอู่เหยียนก็ใจสั่นสะท้าน เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ
และตอบกลับ “ลูกจะจำไว้ท่านพ่อ ลูกรับปากว่าจะไม่เข้าใกล้เขต
หวงห้ามทั้งสาม !”
เขตหวงห้ามทั้งสามมีสองสถานที่ที่อยู่บนทวีปป่ า แห่งหนึ่งอยู่ในเขต
ของมนุษย์ แห่งหนึ่งอยู่ในเขตของสัตว์อสูร อีกแห่งอยู่ที่เกาะแห่งนี้
ตราบใดที่อ้าวอู่เหยียนไม่คิดที่จะฆ่าตัวตาย งั้นเขาก็จะยังคงปลอดภัย
อยู่
“ท่านพ่อข้าขอตัว” อ้าวอู่เหยียนเอ่ยปากออกมา ตอนแรกเขาไม่เต็ม
ใจ แต่ตอนนี้เขากลับอดใจไม่ได้ที่จะบินไปยังทวีปป่ า เขารีบกล่าว
ลาอ้าวคุน ก่อนที่ร่างเขาจะหายไปในทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก