ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 381
ตอนที่ 381 แผนการ
แน่นอนว่าจางหยูกลัวมาก แม้ว่าเขาจะตายมาแล้ว แต่เขาก็ยังหวังว่า
เขาจะมีชีวิตที่ดี สิ่งที่เขากลัวก็คือ…การตายเหมือนหมาป่าละโมบ ที่
ร่างกายถูกทำลายและวิญญาณก็ยังสูญสิ้นไปด้วย ตัวตนที่มีอยู่ใน
โลกถูกลบไปอย่างสิ้นเชิงซึ่งเป็นสิ่งที่จางหยูรับไม่ได้
หากร่างกายสูญสิ้น แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นร่างวิญญาณ
แต่ก็ยังมีหวังที่จะกลับไปเกิดใหม่ แต่หากวิญญาณหายไปด้วย มันก็
เท่ากับการหายไปอย่างสมบูรณ์ !
จุดจบของหมาป่าละโมบ คือสิ่งที่จางหยูไม่อยากจะพบในชีวิต !
ตอนนั้นเอง ในใจของเขาก็รู้สึกถึงวิกฤตขึ้นมา เขาอยากที่จะเพิ่ม
ความแข็งแกร่งของตัวเองให้ถึงขีดสุด แม้เขาจะรู้ว่าความแข็งแกร่ง
นั้นจะไม่เพียงพอ แต่มันก็คือทางเดียวที่เขาจะรู้สึกปลอดภัยได้ มัน
ทำให้ใจของเขาผ่อนคลายได้บ้าง
“ความแข็งแกร่ง ข้าต้องรีบเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้โดยเร็วที่สุด
ความแข็งแกร่งที่มีตอนนี้ยังไม่พอ” จางหยูกำหมัดแน่น
ตอนแรกเขาคิดว่าเขามีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับเฉินกูก็พอแล้ว ใน
โลกนี้เขาถือว่าเป็นตัวตนระดับสูงสุด แต่หลังจากที่ได้เห็นความทรงจำ
ของหมาป่ าละโมบ จางหยูก็รู้ตัวว่าพวกระดับสูงสุดที่เขาคิดนั้น อ่อนแอ
ไม่ต่างอะไรจากมด เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนลึกลับนั่น
ด้วยการปรากฏตัวของตัวตนลึกลับนั้น ทำให้จางหยูที่เคยผ่อนคลาย
กลับต้องเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
“แค่ข้าคนเดียวแข็งแกร่งขึ้นมาได้มันยังไม่พอ ความแข็งแกร่งของ
ทวีปป่ าก็ต้องเพิ่มขึ้นไปด้วย !” จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา พลัง
ของคน ๆ เดียวนั้นไม่อาจจะดีกว่าพลังที่มารวมกันมา แม้แต่ตัวตน
สูงสุดอย่างราชามังกร ก็ไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก หากความ
แข็งแกร่งโดยรวมของทวีปป่ าเพิ่มขึ้นมา แม้ว่าชายลึกลับนั่นจะมา
จริง ๆ แต่คนอื่น ๆ ก็สามารถแบ่งเบาความกดดันกับเขาได้
จางหยูกลัวเป็นอย่างมาก ใครจะใจเย็นอยู่ได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ
ตัวตนลึกลับนั้น ?
“เจ้าว่ามีทางไหนบ้าง ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของทวีปป่ าขึ้นมาได้
ในเวลาอันสั้น ?” จางหยูสับสน มันไม่มีทางที่เขาจะใจเย็นอยู่ได้ เขา
ต้องฝืนสงบสติอารมณ์และถามหมาป่าละโมบ
เมื่อได้ยินแบบนั้น หมาป่ าละโมบก็ลังเลก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้า
เคร่งเครียด “มีวิธี ไม่สิ มันแค่…”
จางหยูคิ้วขมวด “พูดมา !”
“หากเจ้าเต็มใจจะส่งต่อทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์ให้กับทุกคน ข้าเชื่อว่า
ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะพัฒนาขึ้นมาได้อย่างชัดเจนในเวลา
อันสั้น” หมาป่ าละโมบสูดหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่จางหยู
“อย่างน้อยมนุษย์ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมาได้มหาศาล ภายใน
เวลาไม่กี่ปี มันจะมีกลุ่มผู้แข็งแกร่งเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าเต็มใจรึ?”
ในบางด้านหมาป่าละโมบก็คือตัวจางหยูเอง เป็นธรรมดาที่เขาจะ
เข้าใจความคิดของจางหยู
จางหยูจะยอมส่งต่อทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์ให้กับคนนอกรึ ?
“เป็นไปไม่ได้” จางหยูส่ายหน้าโดยไม่ลังเล “ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์
นั้น ข้าไม่อาจจะส่งต่อให้กับใครได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย แม้แต่
ศิษย์สำนักคังเฉียงข้าก็ยังให้แค่ทักษะแบบดัดแปลงไป”
เอาตรง ๆ แล้วจางหยูไม่เชื่อใจคนนอก แม้แต่ศิษย์ที่ภักดีต่อสำนักคัง
เฉียง จางหยูก็ไม่คิดจะส่งต่อทักษะจีอู่แบบสมบูรณ์ให้ แม้แต่อาจารย์
จางหยูก็ไม่คิดจะส่งต่อทักษะที่สมบูรณ์ให้ เพราะหากมันรั่วไหล
ออกไป มันจะนำภัยพิบัติกลับมา
ที่สำคัญที่สุดหากทุกคนได้เรียนรู้ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์แล้วไม่ใช่ว่า
ทุกคนก็จะเป็นยอดฝีมือได้ ?
มันฟังเหมือนความคิดนี้เข้าท่า แต่เมื่อทุกคนได้กลายเป็นยอดฝีมือ
แล้ว จางหยูจะรับรองความแข็งแกร่งและฐานะของตัวเองได้ยังไง ?
หากมีใครไม่พอใจเขา ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นภัยต่อชีวิตเขารึไง ?
บางทีเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาอาจจะตายเพราะฝีมือคนในทวีปป่ าก็ได้
ยิ่งไปกว่านั้นทวีปป่ าก็ไม่ได้ใหญ่โต หลิงซี่มีจำกัด หากทุกคนกลาย
เป็นยอดฝีมือได้ ไม่ใช่ว่าหลิงในทวีปจะหมดลงในเวลาไม่กี่นาทีรึ?
“ไม่อาจจะปล่อยให้ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์รั่วไหลออกมาได้ไม่ได้
เด็ดขาด! แต่หากเป็นทักษะจี๋อู่แบบดัดแปลงก็สามารถคิดทบทวน
ได้” จางหยูคิดในใจ “ตอนนี้ข้าไม่ได้อ่อนแอแล้ว ดูเหมือนว่าถึงเวลา
ที่จะต้องแก้ไขทักษะจี๋อู่ ยกตัวอย่างเช่นการปรับส่วนผิดพลาด”
ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์คือทักษะที่ไร้ข้อผิดพลาด !
ทักษะจี๋อู่ขั้นสูงมีจุดผิดพลาดแค่เพียงจุดเดียว!
ทักษะจี๋อู่ขั้นกลางมีส่วนผิดพลาด 3 จุด !
ทักษะจีอู่ขั้นต่ำมีส่วนผิดพลาด 5 จุด !
จางหยูบ่มเพาะทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์ ศิษย์สำนักคังเฉียงบ่มเพาะ
ทักษะจี๋อู่ขั้นกลางจางหยูต้องทำการแก้ไขทักษะจี๋อู่และสร้างทักษะจี๋
อู่ขั้นสูงขึ้นมา เพื่อเป็นทักษะจี๋อู่แบบที่สี่
ผลลัพธ์จากเรื่องนี้จะทำให้ปัญหาต่าง ๆ ได้รับการแก้ไข
“เมื่อถึงเวลา สำนักคังเฉียงจะแบ่งเป็นส่วนนอกและส่วนใน คนใน
ส่วนในอย่างศิษย์, อาจารย์และคนอื่น ๆ จะบ่มเพาะทักษะจี๋อู่ขั้นสูง
คนส่วนนอกอย่าง ฉินเหลียน, เซินถูเส้อ และคนอื่น ๆ จะบ่มเพาะ
ทักษะจี๋อู่ขั้นกลาง” จางหยูใจเย็นลงกว่าเดิมและคิดวางแผนออกมา
ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น “และขั้นต่ำสามารถส่งต่อให้กับคนนอกได้”
จางหยูไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยาน เขาไม่เคยคิดที่จะปกครองทวีปป่า
แห่งนี้ เขาไม่คิดที่จะได้รับความเคารพจากคนทั้งโลก เขาแค่หวังว่า
ความแข็งแกร่งของทวีปป่ าจะเพิ่มขึ้นได้ฝานสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา ใน
อนาคตหากต้องเจอกับวิกฤต ทวีปป่าก็จะไม่ล่มสลายไปง่าย ๆ
แต่แผนนี้ใช่ว่าจะเริ่มได้ง่าย ๆ หากต้องการให้แผนนี้ราบรื่นพึ่งเขา
คนเดียวคงไม่พอ
“บางทีอาจะต้องร่วมมือกับพวกระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่คน”
จางหยูยังไม่รู้จักทั้งสี่คนนั่น ถ้าไม่ใช่เพราะหมาป่ าละโมบอยู่ที่นี่ด้วย
เขาคงออกไปตามหาทั้งสี่คนนั่นแล้ว เขากลัวว่าตอนนี้ทั้งสี่คนนั้นคง
กำลังตามหาเขาอยู่ “ด้วยชื่อเสียงและอำนาจของทั้งสี่คนนั้น มัน
น่าจะง่ายกว่าที่พวกเขาจะเผยแพร่ทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำ”
ชื่อเสียงและอำนาจของจางหยูในตอนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ มันโด่งดังไป
ทั่วอาณาจักรโจวและประเทศใกล้เคียง แต่ยังโด่งดังไม่ทั่วเขตเหนือ
ดีนัก นี่ไม่ต้องพูดถึงเขตกลางและที่อื่น ๆ นอกเขตเหนือเลย การที่
ให้เขาเผยแพร่ทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำในเวลาอันสั้นนี้ เขากลัวว่าคงเผยแพร่
ได้ไม่ทั่วเขตเหนือด้วยซ้ำ
ไม่เหมือนกับพวกระดับสูงสุดทั้งสี่ อำนาจของทั้งสี่คนครอบคลุมไป
ทั่วทวีปป่ า แม้แต่สัตว์อสูรก็ยังรู้จักพวกเขาและพวกเขาก็มีอำนาจ
อย่างมาก ในสายตาของผู้ปมเพาะนั้นพวกเขาราวกับเทพที่ไม่ว่าจะ
ทำอะไรก็ตาม ต่างก็ส่งผลต่อทวีปป่ าทั้งหมด
หากพวกนั้นให้ความร่วมมือ งั้นการเผยแพร่ทักษะจี๋อู่ไปทั่วทั้งโลก
ในเวลาอันสั้นก็เป็นไปได้
“เจ้าคิดยังไงกับแผนนี้?” จางหยูมองไปที่หมาป่ าละโมบ และถาม
ความเห็นของอีกฝ่าย “แผนนี้ ข้าจะเรียกมันว่าแผนคุณอู่ หากมันสำเร็จ
ทวีปนี้จะมียอดฝีมือเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อัจฉริยะนับไม่ถ้วนที่โดน
มองข้าม จะปลุกพรสวรรค์ของตัวเองขึ้นมา ที่สำคัญกว่านั้นหลังจาก
นี้ไม่กี่ปี ความแข็งแกร่งโดยรวมของทวีปป่ า ก็จะยกระดับขึ้นมา
อย่างมาก”
จางหยูไม่ได้พูดอะไรออกมา หากแผนนี้สำเร็จ เขาก็จะเป็นเซียน
ดังเดิม !
ทุกคนในโลกที่บ่มเพาะทักษะที่เขาสร้างขึ้นมา และเคารพเขาในฐานะ
อาจารย์ หากเขาไม่คู่ควรกับตำแหน่งเซียน แล้วใครกันที่คู่ควร?
“มีสองปัญหา” หมาป่ าละโมบพูดขึ้น “อย่างแรกเลยพวกสูงสุดสี่คน
นั้นจะยอมร่วมมือกับเจ้ารึ ? แม้ว่าพวกเขาจะรับปาก แต่พวกเขาคง
ไม่คิดพยายาม เจ้ามีทางแก้ไขอย่างไร ? ยังไงซะหากพวกเขาร่วมมือ
กัน มันก็ใช่ว่าเจ้าจะเอาชนะพวกเขาได้อย่างที่สองคือเจ้าจะรับรอง
ได้ยังไงว่าทักษะจี๋อู่ขั้นสูงและกลางจะไม่รั่วไหล? นี่อย่าเพิ่งนับพวก
ที่ไม่ได้ทำสัญญานภาเลย หากศิษย์ภายในเจอกับคนที่มีทักษะค้น
ความจำ และไม่อาจจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้ล่ะ”
โลกนี้มีแม้แต่ร่างวิญญาณและการเข้าสิงก็มี การค้นความทรงจำนี้ก็
มีความเป็นไปได้ว่าจะมี และยังสูงมากด้วย!
อันที่จริงสองปัญหานี้ จางหยูเองก็คิดถึงมัน การถามและการตอบอง
เขากับหมาป่าละโมบ ไม่ต่างอะไรกับการพูดกับตัวเอง
ตอนที่หมาป่ าละโมบเปิดปากพูด เขาก็คิดถึงวิธีแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว
“ปัญหาเรื่องสี่คนนั่น ตอนนี้ข้ายังไม่มีวิธีแก้ไข บางทีหลังจากที่ระดับ
การบ่มเพาะของข้าขึ้นไปถึงขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูง มันคงง่ายกว่าที่
จะเจรจากับพวกนั้น หลังจากที่มีความสามารถที่จะบดขยี้พวกนั้นได้
นอกจากนี้เรื่องตัวตนลึกลับ ข้าอาจจะบอกเรื่องนี้กับพวกเขา สำหรับ
ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่นั้น ข้าไม่สน ตราบใดที่พวกเขาให้ความ
ร่วมมือก็พอ” จางหยูคิด “สำหรับการปกปิดทักษะจี๋อู่ เอาจริง ๆ แล้ว
นี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย ดูจากทั้งทวีปป่ าแล้ว มีคนที่มีความสามารถ
ในการค้นความทรงจำน้อยนัก แม้ว่าพวกเขาจะกล้าทำเช่นนั้นจริง
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเผยแพร่มันออกมา นอกซะจากว่าอยากจะตาย…”
การค้นหาความทรงจำของคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างน้อยจางหยู
ในตอนนี้ก็ไม่อาจจะทำได้
ผู้คนที่มีความสามารถเช่นนี้ในทวีปป่ ามีน้อยนัก โอกาสมันแทบจะ
เป็น 0 แม้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง แต่มันคงไม่ส่งผลต่อจางหยู
มากนัก ยังไงซะทักษะจี๋อู่แบบดัดแปลงก็เป็นแค่แบบดัดแปลง แม้แต่
ขั้นสูงสุดก็ยังเป็นแค่แบบดัดแปลง
สำหรับจางหยู แม้ว่าทักษะจี๋อู่ขั้นสูงจะรั่วไหลออกไป แต่ตราบใดที่
ไม่เผยแพร่เป็นวงกว้าง มันก็ไม่ส่งผลกระทบมากนัก
“ดูเหมือนว่าร่างหลักจะคิดมาดีแล้ว งั้นก็เอาตามแผนของเจ้า” หมาป่ า
ละโมบพยักหน้า “หากไม่มีอะไรแล้วเจ้าเปิดอาณาเขตให้ข้าที”
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “เจ้าต้องรีบบ่มเพาะ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่อง
อื่น ๆ นอกจากนี้แผนนี้ใช่ว่าจะเริ่มในไม่ช้า เมื่อข้าบ่มเพาะถึงขอบเขต
ตุ้นชวนขั้นสูง นั่นคือตอนที่ข้าจะเริ่มแผน” หลังจากที่ขึ้นไปถึงขอบเขต
ตุ้นซวนขั้นสูงได้ และมีความแข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะบดขยี้พวกระดับ
สูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่คน จางหยูถึงจะลงมือทำตามแผน สำหรับ
ตอนนี้เขายังไม่คิดแตะต้องพวกนั้น
ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกไหน จางหยูก็มักจะรอบคอบเสมอ เขาไม่ยอมที่
จะต้องไปเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างเด็ดขาด !
“เอาล่ะ เจ้าบ่มเพาะในอาณาเขตของข้าเถอะ มีเรื่องอะไรค่อยพูดคุย
กันทีหลัง” จางหยูมองไปที่พระจันทร์สีเลือด และเผยรอยยิ้มออกมา
“ได้เวลายุ่งอีกแล้ว! สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ทำไมร่างเทียมข้าจะเทียบ
ไม่ได้ ?”
แน่นอนว่าจางหยูกลัวมาก แม้ว่าเขาจะตายมาแล้ว แต่เขาก็ยังหวังว่า
เขาจะมีชีวิตที่ดี สิ่งที่เขากลัวก็คือ…การตายเหมือนหมาป่าละโมบ ที่
ร่างกายถูกทำลายและวิญญาณก็ยังสูญสิ้นไปด้วย ตัวตนที่มีอยู่ใน
โลกถูกลบไปอย่างสิ้นเชิงซึ่งเป็นสิ่งที่จางหยูรับไม่ได้
หากร่างกายสูญสิ้น แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นร่างวิญญาณ
แต่ก็ยังมีหวังที่จะกลับไปเกิดใหม่ แต่หากวิญญาณหายไปด้วย มันก็
เท่ากับการหายไปอย่างสมบูรณ์ !
จุดจบของหมาป่าละโมบ คือสิ่งที่จางหยูไม่อยากจะพบในชีวิต !
ตอนนั้นเอง ในใจของเขาก็รู้สึกถึงวิกฤตขึ้นมา เขาอยากที่จะเพิ่ม
ความแข็งแกร่งของตัวเองให้ถึงขีดสุด แม้เขาจะรู้ว่าความแข็งแกร่ง
นั้นจะไม่เพียงพอ แต่มันก็คือทางเดียวที่เขาจะรู้สึกปลอดภัยได้ มัน
ทำให้ใจของเขาผ่อนคลายได้บ้าง
“ความแข็งแกร่ง ข้าต้องรีบเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้โดยเร็วที่สุด
ความแข็งแกร่งที่มีตอนนี้ยังไม่พอ” จางหยูกำหมัดแน่น
ตอนแรกเขาคิดว่าเขามีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับเฉินกูก็พอแล้ว ใน
โลกนี้เขาถือว่าเป็นตัวตนระดับสูงสุด แต่หลังจากที่ได้เห็นความทรงจำ
ของหมาป่ าละโมบ จางหยูก็รู้ตัวว่าพวกระดับสูงสุดที่เขาคิดนั้น อ่อนแอ
ไม่ต่างอะไรจากมด เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนลึกลับนั่น
ด้วยการปรากฏตัวของตัวตนลึกลับนั้น ทำให้จางหยูที่เคยผ่อนคลาย
กลับต้องเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
“แค่ข้าคนเดียวแข็งแกร่งขึ้นมาได้มันยังไม่พอ ความแข็งแกร่งของ
ทวีปป่ าก็ต้องเพิ่มขึ้นไปด้วย !” จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา พลัง
ของคน ๆ เดียวนั้นไม่อาจจะดีกว่าพลังที่มารวมกันมา แม้แต่ตัวตน
สูงสุดอย่างราชามังกร ก็ไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก หากความ
แข็งแกร่งโดยรวมของทวีปป่ าเพิ่มขึ้นมา แม้ว่าชายลึกลับนั่นจะมา
จริง ๆ แต่คนอื่น ๆ ก็สามารถแบ่งเบาความกดดันกับเขาได้
จางหยูกลัวเป็นอย่างมาก ใครจะใจเย็นอยู่ได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ
ตัวตนลึกลับนั้น ?
“เจ้าว่ามีทางไหนบ้าง ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของทวีปป่ าขึ้นมาได้
ในเวลาอันสั้น ?” จางหยูสับสน มันไม่มีทางที่เขาจะใจเย็นอยู่ได้ เขา
ต้องฝืนสงบสติอารมณ์และถามหมาป่าละโมบ
เมื่อได้ยินแบบนั้น หมาป่ าละโมบก็ลังเลก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้า
เคร่งเครียด “มีวิธี ไม่สิ มันแค่…”
จางหยูคิ้วขมวด “พูดมา !”
“หากเจ้าเต็มใจจะส่งต่อทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์ให้กับทุกคน ข้าเชื่อว่า
ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะพัฒนาขึ้นมาได้อย่างชัดเจนในเวลา
อันสั้น” หมาป่ าละโมบสูดหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่จางหยู
“อย่างน้อยมนุษย์ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมาได้มหาศาล ภายใน
เวลาไม่กี่ปี มันจะมีกลุ่มผู้แข็งแกร่งเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าเต็มใจรึ?”
ในบางด้านหมาป่าละโมบก็คือตัวจางหยูเอง เป็นธรรมดาที่เขาจะ
เข้าใจความคิดของจางหยู
จางหยูจะยอมส่งต่อทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์ให้กับคนนอกรึ ?
“เป็นไปไม่ได้” จางหยูส่ายหน้าโดยไม่ลังเล “ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์
นั้น ข้าไม่อาจจะส่งต่อให้กับใครได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย แม้แต่
ศิษย์สำนักคังเฉียงข้าก็ยังให้แค่ทักษะแบบดัดแปลงไป”
เอาตรง ๆ แล้วจางหยูไม่เชื่อใจคนนอก แม้แต่ศิษย์ที่ภักดีต่อสำนักคัง
เฉียง จางหยูก็ไม่คิดจะส่งต่อทักษะจีอู่แบบสมบูรณ์ให้ แม้แต่อาจารย์
จางหยูก็ไม่คิดจะส่งต่อทักษะที่สมบูรณ์ให้ เพราะหากมันรั่วไหล
ออกไป มันจะนำภัยพิบัติกลับมา
ที่สำคัญที่สุดหากทุกคนได้เรียนรู้ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์แล้วไม่ใช่ว่า
ทุกคนก็จะเป็นยอดฝีมือได้ ?
มันฟังเหมือนความคิดนี้เข้าท่า แต่เมื่อทุกคนได้กลายเป็นยอดฝีมือ
แล้ว จางหยูจะรับรองความแข็งแกร่งและฐานะของตัวเองได้ยังไง ?
หากมีใครไม่พอใจเขา ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นภัยต่อชีวิตเขารึไง ?
บางทีเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาอาจจะตายเพราะฝีมือคนในทวีปป่ าก็ได้
ยิ่งไปกว่านั้นทวีปป่ าก็ไม่ได้ใหญ่โต หลิงซี่มีจำกัด หากทุกคนกลาย
เป็นยอดฝีมือได้ ไม่ใช่ว่าหลิงในทวีปจะหมดลงในเวลาไม่กี่นาทีรึ?
“ไม่อาจจะปล่อยให้ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์รั่วไหลออกมาได้ไม่ได้
เด็ดขาด! แต่หากเป็นทักษะจี๋อู่แบบดัดแปลงก็สามารถคิดทบทวน
ได้” จางหยูคิดในใจ “ตอนนี้ข้าไม่ได้อ่อนแอแล้ว ดูเหมือนว่าถึงเวลา
ที่จะต้องแก้ไขทักษะจี๋อู่ ยกตัวอย่างเช่นการปรับส่วนผิดพลาด”
ทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์คือทักษะที่ไร้ข้อผิดพลาด !
ทักษะจี๋อู่ขั้นสูงมีจุดผิดพลาดแค่เพียงจุดเดียว!
ทักษะจี๋อู่ขั้นกลางมีส่วนผิดพลาด 3 จุด !
ทักษะจีอู่ขั้นต่ำมีส่วนผิดพลาด 5 จุด !
จางหยูบ่มเพาะทักษะจี๋อู่แบบสมบูรณ์ ศิษย์สำนักคังเฉียงบ่มเพาะ
ทักษะจี๋อู่ขั้นกลางจางหยูต้องทำการแก้ไขทักษะจี๋อู่และสร้างทักษะจี๋
อู่ขั้นสูงขึ้นมา เพื่อเป็นทักษะจี๋อู่แบบที่สี่
ผลลัพธ์จากเรื่องนี้จะทำให้ปัญหาต่าง ๆ ได้รับการแก้ไข
“เมื่อถึงเวลา สำนักคังเฉียงจะแบ่งเป็นส่วนนอกและส่วนใน คนใน
ส่วนในอย่างศิษย์, อาจารย์และคนอื่น ๆ จะบ่มเพาะทักษะจี๋อู่ขั้นสูง
คนส่วนนอกอย่าง ฉินเหลียน, เซินถูเส้อ และคนอื่น ๆ จะบ่มเพาะ
ทักษะจี๋อู่ขั้นกลาง” จางหยูใจเย็นลงกว่าเดิมและคิดวางแผนออกมา
ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น “และขั้นต่ำสามารถส่งต่อให้กับคนนอกได้”
จางหยูไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยาน เขาไม่เคยคิดที่จะปกครองทวีปป่า
แห่งนี้ เขาไม่คิดที่จะได้รับความเคารพจากคนทั้งโลก เขาแค่หวังว่า
ความแข็งแกร่งของทวีปป่ าจะเพิ่มขึ้นได้ฝานสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา ใน
อนาคตหากต้องเจอกับวิกฤต ทวีปป่าก็จะไม่ล่มสลายไปง่าย ๆ
แต่แผนนี้ใช่ว่าจะเริ่มได้ง่าย ๆ หากต้องการให้แผนนี้ราบรื่นพึ่งเขา
คนเดียวคงไม่พอ
“บางทีอาจะต้องร่วมมือกับพวกระดับสูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่คน”
จางหยูยังไม่รู้จักทั้งสี่คนนั่น ถ้าไม่ใช่เพราะหมาป่ าละโมบอยู่ที่นี่ด้วย
เขาคงออกไปตามหาทั้งสี่คนนั่นแล้ว เขากลัวว่าตอนนี้ทั้งสี่คนนั้นคง
กำลังตามหาเขาอยู่ “ด้วยชื่อเสียงและอำนาจของทั้งสี่คนนั้น มัน
น่าจะง่ายกว่าที่พวกเขาจะเผยแพร่ทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำ”
ชื่อเสียงและอำนาจของจางหยูในตอนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ มันโด่งดังไป
ทั่วอาณาจักรโจวและประเทศใกล้เคียง แต่ยังโด่งดังไม่ทั่วเขตเหนือ
ดีนัก นี่ไม่ต้องพูดถึงเขตกลางและที่อื่น ๆ นอกเขตเหนือเลย การที่
ให้เขาเผยแพร่ทักษะจี๋อู่ขั้นต่ำในเวลาอันสั้นนี้ เขากลัวว่าคงเผยแพร่
ได้ไม่ทั่วเขตเหนือด้วยซ้ำ
ไม่เหมือนกับพวกระดับสูงสุดทั้งสี่ อำนาจของทั้งสี่คนครอบคลุมไป
ทั่วทวีปป่ า แม้แต่สัตว์อสูรก็ยังรู้จักพวกเขาและพวกเขาก็มีอำนาจ
อย่างมาก ในสายตาของผู้ปมเพาะนั้นพวกเขาราวกับเทพที่ไม่ว่าจะ
ทำอะไรก็ตาม ต่างก็ส่งผลต่อทวีปป่ าทั้งหมด
หากพวกนั้นให้ความร่วมมือ งั้นการเผยแพร่ทักษะจี๋อู่ไปทั่วทั้งโลก
ในเวลาอันสั้นก็เป็นไปได้
“เจ้าคิดยังไงกับแผนนี้?” จางหยูมองไปที่หมาป่ าละโมบ และถาม
ความเห็นของอีกฝ่าย “แผนนี้ ข้าจะเรียกมันว่าแผนคุณอู่ หากมันสำเร็จ
ทวีปนี้จะมียอดฝีมือเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อัจฉริยะนับไม่ถ้วนที่โดน
มองข้าม จะปลุกพรสวรรค์ของตัวเองขึ้นมา ที่สำคัญกว่านั้นหลังจาก
นี้ไม่กี่ปี ความแข็งแกร่งโดยรวมของทวีปป่ า ก็จะยกระดับขึ้นมา
อย่างมาก”
จางหยูไม่ได้พูดอะไรออกมา หากแผนนี้สำเร็จ เขาก็จะเป็นเซียน
ดังเดิม !
ทุกคนในโลกที่บ่มเพาะทักษะที่เขาสร้างขึ้นมา และเคารพเขาในฐานะ
อาจารย์ หากเขาไม่คู่ควรกับตำแหน่งเซียน แล้วใครกันที่คู่ควร?
“มีสองปัญหา” หมาป่ าละโมบพูดขึ้น “อย่างแรกเลยพวกสูงสุดสี่คน
นั้นจะยอมร่วมมือกับเจ้ารึ ? แม้ว่าพวกเขาจะรับปาก แต่พวกเขาคง
ไม่คิดพยายาม เจ้ามีทางแก้ไขอย่างไร ? ยังไงซะหากพวกเขาร่วมมือ
กัน มันก็ใช่ว่าเจ้าจะเอาชนะพวกเขาได้อย่างที่สองคือเจ้าจะรับรอง
ได้ยังไงว่าทักษะจี๋อู่ขั้นสูงและกลางจะไม่รั่วไหล? นี่อย่าเพิ่งนับพวก
ที่ไม่ได้ทำสัญญานภาเลย หากศิษย์ภายในเจอกับคนที่มีทักษะค้น
ความจำ และไม่อาจจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้ล่ะ”
โลกนี้มีแม้แต่ร่างวิญญาณและการเข้าสิงก็มี การค้นความทรงจำนี้ก็
มีความเป็นไปได้ว่าจะมี และยังสูงมากด้วย!
อันที่จริงสองปัญหานี้ จางหยูเองก็คิดถึงมัน การถามและการตอบอง
เขากับหมาป่าละโมบ ไม่ต่างอะไรกับการพูดกับตัวเอง
ตอนที่หมาป่ าละโมบเปิดปากพูด เขาก็คิดถึงวิธีแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว
“ปัญหาเรื่องสี่คนนั่น ตอนนี้ข้ายังไม่มีวิธีแก้ไข บางทีหลังจากที่ระดับ
การบ่มเพาะของข้าขึ้นไปถึงขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูง มันคงง่ายกว่าที่
จะเจรจากับพวกนั้น หลังจากที่มีความสามารถที่จะบดขยี้พวกนั้นได้
นอกจากนี้เรื่องตัวตนลึกลับ ข้าอาจจะบอกเรื่องนี้กับพวกเขา สำหรับ
ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่นั้น ข้าไม่สน ตราบใดที่พวกเขาให้ความ
ร่วมมือก็พอ” จางหยูคิด “สำหรับการปกปิดทักษะจี๋อู่ เอาจริง ๆ แล้ว
นี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย ดูจากทั้งทวีปป่ าแล้ว มีคนที่มีความสามารถ
ในการค้นความทรงจำน้อยนัก แม้ว่าพวกเขาจะกล้าทำเช่นนั้นจริง
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเผยแพร่มันออกมา นอกซะจากว่าอยากจะตาย…”
การค้นหาความทรงจำของคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างน้อยจางหยู
ในตอนนี้ก็ไม่อาจจะทำได้
ผู้คนที่มีความสามารถเช่นนี้ในทวีปป่ ามีน้อยนัก โอกาสมันแทบจะ
เป็น 0 แม้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง แต่มันคงไม่ส่งผลต่อจางหยู
มากนัก ยังไงซะทักษะจี๋อู่แบบดัดแปลงก็เป็นแค่แบบดัดแปลง แม้แต่
ขั้นสูงสุดก็ยังเป็นแค่แบบดัดแปลง
สำหรับจางหยู แม้ว่าทักษะจี๋อู่ขั้นสูงจะรั่วไหลออกไป แต่ตราบใดที่
ไม่เผยแพร่เป็นวงกว้าง มันก็ไม่ส่งผลกระทบมากนัก
“ดูเหมือนว่าร่างหลักจะคิดมาดีแล้ว งั้นก็เอาตามแผนของเจ้า” หมาป่ า
ละโมบพยักหน้า “หากไม่มีอะไรแล้วเจ้าเปิดอาณาเขตให้ข้าที”
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “เจ้าต้องรีบบ่มเพาะ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่อง
อื่น ๆ นอกจากนี้แผนนี้ใช่ว่าจะเริ่มในไม่ช้า เมื่อข้าบ่มเพาะถึงขอบเขต
ตุ้นชวนขั้นสูง นั่นคือตอนที่ข้าจะเริ่มแผน” หลังจากที่ขึ้นไปถึงขอบเขต
ตุ้นซวนขั้นสูงได้ และมีความแข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะบดขยี้พวกระดับ
สูงสุดของมนุษย์ทั้งสี่คน จางหยูถึงจะลงมือทำตามแผน สำหรับ
ตอนนี้เขายังไม่คิดแตะต้องพวกนั้น
ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกไหน จางหยูก็มักจะรอบคอบเสมอ เขาไม่ยอมที่
จะต้องไปเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างเด็ดขาด !
“เอาล่ะ เจ้าบ่มเพาะในอาณาเขตของข้าเถอะ มีเรื่องอะไรค่อยพูดคุย
กันทีหลัง” จางหยูมองไปที่พระจันทร์สีเลือด และเผยรอยยิ้มออกมา
“ได้เวลายุ่งอีกแล้ว! สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ทำไมร่างเทียมข้าจะเทียบ
ไม่ได้ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก