ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 380

ตอนที่ 380 ความสงสัย
จางหยูไม่ได้คิดว่าหมาป่าละโมบจะมีความสามารถสูงกว่าสัตว์
ประหลาดนั่นได้ ตามความทรงจำของหมาป่าละโมบก็ชัดแล้วว่า
สัตว์ประหลาดนั้นน่ากลัวแค่ไหน
พวกลึกลับที่แข็งแกร่งกว่าราชามังกรหลายสิบเท่ากว่าสิบตนต่างก็
ต้องพบกับจุดจบที่น่าอนาถ ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาก็ยังไม่ได้เจอกับ
ตัวตนลึกลับเลย ไม่มีใครรู้เลยว่าสัตว์ประหลาดนั้นหน้าตาเป็นยังไง
หากไม่เพราะเสียงที่ไร้อารมณ์นั่น จางหยูคงไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาด
นั่นจะเข้าสิงวิญญาณได้ด้วย
“มีความสามารถในการเข้าสิงกายเนื้อ ภูตผีมีความสามารถในการ
เข้าสิงร่างคน มันไม่ได้หมายความว่าสัตว์ประหลาดนั้น ก็มีความ
สามารถในการเข้าสิงร่างคนเหมือนกันหรือไง?” จางหยูรู้สึกหวั่น
ขึ้นมาในใจ
ในท้องฟ้ายามค่ำคืน จางหยูและหมาป่ าละโมบต่างมองหน้ากัน พวก
เขาต่างก็เห็นความเคร่งเครียดในสายตาของอีกฝ่าย และถึงกับมีความ
หวาดกลัวแฝงอยู่ด้วย
พวกเขาไม่รู้ว่ามันจะมีตัวตนแบบนั้นอยู่ในทวีปป่ าด้วย หากมันมี
ตัวตนแบบนั้นอยู่จริง ๆ มันคงเป็นเรื่องน่าตลก !
“ทวีปป่า…ไม่ใช่ว่ามันควรธรรมดารึไง ?” หมาป่าละโมบแสดงสีหน้า
เคร่งเครียดออกมา “หากมีตัวตนแบบนั้นอยู่จริง มนุษย์กับสัตว์อสูร
อาจจะทะเลาะกันเสียเปล่า” มีแค่คนที่เคยเห็นความทรงจำของหมาป่ า
ละโมบเท่านั้น ที่จะเข้าใจถึงความน่ากลัวของสัตว์ประหลาดนั้นได้
สัตว์ประหลาดที่น่ากลัว ซึ่งไม่อาจจะมีใครในโลก ที่เป็นศัตรูกับมัน
ได้!
ต่อหน้าเขาแล้ว สัตว์อสูร, สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ, มังกรหรือมนุษย์ ไม่มี
ใครทัดเทียมกับมันได้ แม้ว่าจะกลายเป็นวิญญาณหลังจากที่ตายไป
แล้ว แต่ก็ไม่อาจจะหลีกหนีจากชะตากรรมที่ถูกกลืนกินได้
เมื่อคิดถึงโลกมนุษย์ที่รุ่งเรือง จางหยูก็ใจเย็นลงและครุ่นคิดตอนนี้
เขายังไม่ปรากฏตัวออกมาในทวีป่ า..แต่การที่เขาไม่ปรากฏตัวก็ไม่ได้
หมายความว่าเขาไม่มีอยู่จริง บางทีเขาอาจจะหลับใหล บางทีเขา
อาจจะออกจากทวีปป่ าไปยังที่ที่เราไม่รู้จัก แต่ไม่มีใครรับรองได้ว่า
เขาจะหายไปจริง ๆ และจะไม่กลับมาอีกไม่ใช่รึ?”
มันที่ว่านี้เพียงพอที่จะทำให้จางหยูแสดงสีหน้าเคร่งเครียดและ
หวาดกลัวออกมาได้
ตอนแรกเขาคิดว่า ตัวตนเทพนั้นดูลึกลับและแข็งแกร่งแล้วทว่า
ตัวตนนั้นกลับเพียงพอที่จะทำให้ความคิดนั้นของเขาสั่นคลอน
“ขนาดหมาป่ าละโมบที่แข็งแกร่ง ก็ยังกลายเป็นแค่เด็กน้อยสำหรับ
เขา ใครบ้างที่จะรับมือกับเขาได้ ใครบ้างที่จะลบตัวตนของเขาได้?”
จางหยูสูดหายใจเข้าลึก ๆ สีหน้าของเขาแสดงความเครียดและกังวล
ออกมา “ข้าสงสัยว่ามันยังมีชีวิตอยู่ หรืออาจจะอยู่ในที่ที่เราไม่รู้จัก
คอยจับตาดูทวีปป่ าแห่งนี้และจับตาดูเราอยู่”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหมาป่ าละโมบก็ขนลุก
แต่ตอนนั้น จางหยูก็ส่ายหน้าอีกครั้ง “พูดไปแล้ว ตอนที่เราพูดคุย
เรื่องนี้กันอยู่ มันก็ดูไม่มีเหตุผลเลย พลังของเขาไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะ
คาดเดาได้ แม้แต่หมาป่าละโมบและพวกลึกลับระดับสูง ก็ไม่อาจที่
จะเป็นคู่มือของเขาได้ นี่ไม่ต้องนับเราเลย แม้ว่าเขาจะปรากฏตัวขึ้น
จริง ๆ แต่เราจะทำอะไรได้ นอกจากแค่มองดู ?”
หมาป่าละโมบยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ในสายตาของเขาแล้วเราคง
ไม่ต่างอะไรไปจากมดปลวก”
หากเทียบกับเฉินกูแล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ประหลาดแบบนั้น เฉินกู
ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากมด หากประกาศเรื่องนี้ออกไป มีใครบ้างที่
จะเชื่อ ?
“มันจะดีกว่าถ้าไปคิดเรื่องอื่นแทน ทำไมหมาป่ าละโมบถึงได้แข็งแกร่ง
นัก?” จางหยูพูดขึ้นอย่างใจเย็น “ในเรื่องขอบเขตการบ่มเพาะ ทวีป
ป่ าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่โบราณ ขอบเขตตุ้นซวนคือขีดจำกัดของ
การบ่มเพาะ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกระดับสูงสุดของทวีปเห็นพ้องต้องกัน
แต่หมาป่ าละโมบกลับแข็งแกร่งกว่าพวกขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์
ทั้งสองไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน มันจริงหรือว่ามีขอบเขตที่สูงกว่า
ขอบเขตตุ้นซวนอยู่ ?”
หากมีขอบเขตที่สูงกว่านั้น ทำไมถึงไม่มีใครรู้และไม่มีใครก้าวไปถึง
ระดับนั้นได้ ?
มนุษย์, สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิและเผ่ามังกรต่างก็มีเหล่าอัจฉริยะมาก
พรสวรรค์อยู่นับไม่ถ้วน ซึ่งพรสวรรค์ที่มีก็ไม่ได้ด้อยกว่าหมาป่ า
ละโมบเลย แต่ทำไมตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ถึงไม่มีใครก้าวขึ้นไป
ระดับที่สูงกว่านี้ไม่ได้ ?
“ไม่ หมาป่ าละโมบในตำนาน ผู้คนต่างก็บอกกันว่า อยู่ขอบเขตตุ้น
ซวนขั้นสมบูรณ์ และเทียบได้กับพวกระดับสูงสุดของเผ่ามังกร เขา
จะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?” จางหยูคิ้วขมวดและเริ่มแสดงสายตาสับสน
ออกมา “ตามความทรงจำของหมาป่าละโมบ พวกที่ตายไปดูเหมือนว่า
จะอยู่ระดับเดียวกับเขา ชัดแล้วว่าผู้คนในตำนานมีกันอยู่หลายคน !”
ตำนานที่ว่าคือสุดยอดตัวตนอย่างสัตว์อสูรกลืนสวรรค์ ราชาปิศาจ
วัว จิ้งจอกเวทย์และสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิตัวอื่น ๆ ซึ่งเทียบเคียงได้กับ
ราชามังกรอ้าวคุนได้ ความทรงจำที่หมาป่ าละโมบแสดงออกมานั้น
ชัดแล้วว่าพวกนั้นแข็งแกร่งเหนือไปกว่านั้นอีก
มันมีผู้แข็งแกร่งกว่าระดับสูงสุดที่ว่ามากมาย แต่ในประวัติศาสตร์
กลับไม่มีเบาะแสเรื่องนี้เลย ทุกคนต่างก็คิดว่าพวกนั้นอยู่ระดับ
เดียวกับพวกระดับสูงสุดในตอนนี้
ความต่างของประวัติศาสตร์กับความจริงช่างต่างกันมากมายจริง ๆ !
มีเหตุผลอะไรกัน กับการที่พวกนั้นถึงได้มีความแข็งแกร่งเท่ากับ
พวกระดับสูงสุดในตอนนี้ ?
ตอนนี้ จางหยูไม่อาจจะคิดหาเหตุผลได้ !
“หรือมันเกี่ยวข้องกับเขตหวงห้าม?” หมาป่าละโมบลังเลและพูด
ขึ้นมา “ความทรงจำสุดท้ายของหมาป่ าละโมบต่างก็บอกว่ามันคือ
เขตหวงห้าม ข้าจำได้ว่าตอนที่วิญญาณของเขากำลังจะหายไป มันมี
ความคิดแปลกที่ครอบงำสติเราบอกไว้ว่าไม่ให้เข้าไปยังเขตหวงห้าม”
เขาไม่รู้ว่าการไม่ให้เข้าไปในเขตหวงห้ามนั้น หมายถึงว่าหมาป่ า
ละโมบได้เข้าไปในเขตหวงห้าม หรือแนะนำลูกหลานไม่ให้เข้าไปที่
นั่น สรุปคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมาป่ าละโมบนั้นเกี่ยวข้องกับเขตหวง
ห้าม
เขตหวงห้ามทั้งสามมีความลับแฝงอยู่มากมาย!
“ข้าจำได้ว่าเขาพูดแบบนั้น” จางหยูนึกย้อนดูและพูดขึ้นมา “หลังจาก
วิญญาณของเขาถูกลบไป มิติได้พลังทลาย ผืนดินหายไปทั้งโลกถูก
ทำลาย..เดี๋ยวนะ ทั้งโลกถูกทำลาย ?”
ทันใดนั้นจางหยูก็หรี่ตาลง “หากโลกถูกทำลาย แล้วทวีปป่ ามาจาก
ไหนกัน ?”
อยู่ ๆ เขาก็นึกได้ว่า โลกที่ถูกทำลายนั้นไม่ใช่ทวีปปา แต่เป็นอีกโลก!
“ข้าเข้าใจแล้ว โลกที่หมาป่ าละโมบอยู่นั้นไม่ใช่ทวีปป่ า มันอาจจะเป็น
ทวีปอื่นที่คล้ายกับเกาะมังกรหรืออาจจะเป็น มิติอื่น !” เขาตกตะลึง
จากแนวคิดนี้ “ประโยคสุดท้ายก่อนที่วิญญาณของหมาป่ าละโมบจะ
หายไป ความจริงแล้วเขตหวงห้ามทั้งสามน่าจะเป็นมิติอีกสามแห่งที่
แยกออกไป และมันก็คือประตูที่ทำไปยังอีกโลก เอาสั้น ๆ คือทั้ง
สามโลกมีมิติที่ใหญ่กว่านี้ บางทีอาจจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเราอยู่
หมาป่ าละโมบและพวกที่ตายไปอาจจะเป็นคนของทวีปป่ า ซึ่งพวก
นั้นได้รวมตัวกันเข้าไปยังอีกโลก และบังเอิญไปพบเขาเข้า!
“โลกนั้นถูกทำลายไป ไม่ใช่ว่าเขาควรจะหายไปด้วยรึ?”
หมาป่าละโมบไม่มั่นใจ
ชายคนนี้ลึกลับ แม้ว่าโลกนี้จะถูกทำลายแต่ก็ใช่ว่าเขาจะหายไปด้วย
จางหยูแสดงสีหน้าเครียดออกมา “ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล !”
ดูเหมือนว่าเขตหวงห้ามทั้งสามจะลึกลับเป็นอย่างมาก บางทีมันอาจจะ
มีโลกที่พวกเขาไม่รู้จักอยู่ หรือบางทีมันอาจจะเป็นประตูที่จะนำไปสู่
โลกที่ระดับสูงกว่านี้
แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ชายลึกลับคนที่ว่า หรือสัตว์ประหลาดที่ว่าน่าจะ
มีตัวตนอยู่ในสถานที่หนึ่งของเขตหวงห้าม
“โชคร้ายที่ความทรงจำของหมาป่าละโมบขาดหายไปมากความทรงจำ
เกี่ยวกับเขตหวงห้ามแทบจะไม่มีอยู่ข้าสงสัยว่าหากเขาไม่จมอยู่กับ
ความเคียดแค้น บางทีแม้แต่ความทรงจำก็คงไม่เหลืออยู่” จางหยูอด
ไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “หากมีความทรงจำมากกว่านี้ บางที
เราอาจจะรู้ถึงความลับเบื้องหลังเขตหวงห้ามทั้งสามและไม่ต้องมา
สับสนเช่นนี้”
ด้วยความทรงจำที่ไม่เพียงพอ จางหยูจึงเดาสถานการณ์ได้ไม่มากนัก
หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้ว จางหยูก็ได้ทำการรวบรวมเบาะแสต่าง ๆ
และพูดขึ้น “ สรุปตั้งแต่ต้นจนจบ”
“อย่างแรกเลย ก่อนที่จะเข้าไปยังเขตหวงห้าม หมาป่ าละโมบน่าจะมี
ความแข็งแกร่งที่ระดับสูงสุด เรื่องนี้เล่าต่อกันมา หมาป่ าละโมบและ
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิตัวอื่น ๆ ก็น่าจะเช่นเดียวกัน ส่วนนี้ไม่น่าผิดพลาด
อะไร มันมีข้อจำกัดในการบ่มเพาะ หากให้ยกระดับขึ้นไปมากกว่านี้
ก็ไม่อาจจะได้ผล”
“อย่างที่สองคือ หมาป่ าละโมบและพวกตัวตนลึกลับ บางทีพวกนั้น
อาจจะหมดหวังกับการทะลวงผ่านขึ้นไปยังขอบเขตที่สูงกว่าเพื่อ
เป้าหมายนี้หรือเพื่อเป้าหมายอื่น พวกเขาจึงเข้าไปยังหนึ่งในสามเขต
หวงห้าม พวกเขาร่วมมือกันเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้น
เพื่อแสดงให้เห็นว่าโลกที่มีอยู่ในเขตหวงห้ามทั้งสามนั้น มีพลัง
เหนือกว่าโลกของทวีปป่า”
“เขตหวงห้ามทั้งสามอาจจะเป็นมิติแยกออกไป มันอาจจะมีโลกของ
ตัวเองหรืออาจจะเป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยังโลกระดับสูงกว่านี้! และ
โลกนั่นก็มีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวอยู่! หมาป่าละโมบและตัวตน
ลึกลับต่างก็ตาย จนแม้แต่วิญญาณก็ไม่เหลือกลับมาพร้อมโลกนั้นที่
ถูกทำลายไป !”
“สุดท้ายสัตว์ประหลาดนั้น คงมีอยู่แค่ในโลกของเขตหวงห้ามและ
ไม่อาจจะมายังทวีปป่ าได้ ไม่งั้นแล้วทวีปป่ าคงหายไปและไม่สงบ
สุขเหมือนในตอนนี้ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเขาไม่อาจจะมายัง
ทวีปป่ าได้ และการจะตรวจสอบความจริงของเรื่องนี้ ก็มีแค่การเข้า
ไปสำรวจในเขตหวงห้ามเท่านั้น”
เข้าไปสำรวจในเขตหวงห้ามรึ ?
ใครกันที่จะกล้า ?
จางหยูเริ่มเข้าใจความน่ากลัวของเขตหวงห้ามทั้งสามมากขึ้นกว่าเดิม
เขาเคยทดสอบพื้นที่ของเขตหวงห้ามมาแล้ว ตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่
จะเข้าใกล้ที่นั่น
ที่ที่แม้แต่วิญญาณก็ไม่อาจจะกลับออกมาได้ !
เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองทดสอบเขตหวงห้าม จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะ
แปลกใจ และถึงกับชื่นชมในความกล้าบ้าบิ่นของตัวเอง…
“แม้แต่หมาป่ าละโมบ, มังกรสมมุติเทพ ตัวตนในตำนานต่างก็ไม่
อาจจะต้านทานเขาได้ หากข้าเข้าไป ข้าจะไม่ตายในสภาพที่น่าอนาถ
ยิ่งกว่ารึ?” จางหยูไม่คิดสงสัยเลยว่า ต่อหน้าตัวตนในตำนานพวกนั้น
ตัวเขาเองก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากมดปลวก อย่างน้อยจางหยูก็ไม่มี
วิธีรับมือกับชายคนนั้น นี่ไม่ต้องคิดถึงการรับมือเลย แค่รับรู้ตัวตนก็
ไม่อาจจะทำได้ “หากเขามายังทวีปป่ าจริง ๆ ข้ากลัวว่าคงไม่มีใคร
ต้านทานเขาได้ ทั้งโลกนี้จะถูกทำลาย !”
ตอนนั้นจางหยูก็รู้สึกหนักใจขึ้นมา
แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขากลัวอะไรอยู่
บางทีเขาอาจจะกลัวว่าชายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาที่ทวีปป่ าก็ได้ !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก