ตอนที่ 390 ภารกิจสำคัญ
“เอาตรง ๆ แล้วข้าได้รับพวกเขาเป็นศิษย์ ในอนาคตข้าจะทำให้ดี
ที่สุด ในการบ่มเพาะให้พวกเขากลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง!”
เฉินกูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา “ข้าหวังว่าเจ้าสำนักจะใจกว้างกับ
พวกนี้ หากพวกนี้บังเอิญทำเรื่องผิดพลาด ข้าหวังว่าเจ้าสำนักจะเห็น
แก่หน้าข้า และยกโทษให้กับพวกเขา หากทำเช่นนั้นไม่ได้ก็ขอจง
ลงโทษพวกเขาแค่เพียงครึ่งเดียว”
มันยากที่จะเชื่อว่าราชาสัตว์อสูรที่ผ่านการฆ่าฟันมานับไม่ถ้วน กลับ
ให้ความเอ็นดูเหล่าสัตว์อสูร และถึงกับอ้อนวอนจางหยูด้วย
คนที่ไม่รู้อาจจะสงสัยกันว่าพวกนี้เป็นลูกลับ ๆ ของเฉินกูหรือไม่
แม้ว่าจะเป็นลูกลับ ๆ แต่เฉินกูก็คงไม่ดูแลดีแบบนี้ ยิ่งกว่านั้นเฉินกูก็
ยังไม่มีลูกด้วย!
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเฉินกูจางหยูก็กระแอมออกมา “เมื่อท่าน
เฉินพูดเช่นนั้นแล้ว ในอนาคตหากพวกเขาทำผิดพลาด ข้าจะไม่ถือ
โทษพวกเขา”
“ขอบคุณมากเจ้าสำนัก!” เฉินกูตอบกลับทันที
จางหยูโบกมือ “อย่าเพิ่งพูดถึงพวกนั้น ข้ามาที่นี่ก็เพื่อขอให้ท่านช่วย”
เฉินกูถามออกมาด้วยความสงสัย “ช่วยอะไรกัน ?”
จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังและพูดขึ้นมา “ข้าอยากเชิญท่านไปกับข้า
เพื่อชวนคนเข้าร่วมสำนักคังเฉียง”
จากน้ำเสียงจริงจังนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า จางหยูให้ความสำคัญกับ
เรื่องนี้มากแค่ไหน และมันก็ไม่อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้
“ใครกัน?”
“พวกระดับสูงสุดทั้งสี่ของมนุษย์ !”
“พวกนั้นรึ?” เฉินกูสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าทำไม จางหยูถึงได้อยาก
ชวนพวกนั้นให้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง
“ใช่ พวกนั้นแหละ” จางหยูพยักหน้า สีหน้าของเขายังคงเคร่งเครียด
เช่นเคย “ตอนแรกข้าอยากจะไปหาพวกนั้นด้วยตัวเองแต่ท่านก็รู้ว่า
ข้าไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักในที่อื่น ๆ มีแค่คนในเขตเหนือที่รู้จักข้า
หากข้าเร่งรีบไปหาพวกเขา พวกเขาอาจจะไม่ยอมพบข้าหรืออาจจะ
หนีหน้าข้าด้วย”
“เจ้าสำนักพูดถูก” เฉินกูเห็นด้วย “ทั้งสี่คนขี้ขลาดราวกับหนูหากเจ้า
สำนักเร่งรีบไปหาพวกเขา พวกเขาอาจจะไม่กล้าพบหน้าท่าน”
จางหยูนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน เฉินกูยังไม่รู้แน่ชัด แต่เขาค่อนข้าง
มั่นใจว่า จางหยูแข็งแกร่งกว่าเขาและอาจจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่า
ราชามังกรเลย !
ในฐานะคนที่อยู่ระดับสูงสุดมานานแล้วอย่างเขา ก็ยังไม่กล้าจะไปมี
เรื่องด้วย นี่ไม่ต้องนับพวกระดับสูงสุดทั้งสี่ของมนุษย์เลย
“ดังนั้นข้าจึงอยากให้ท่านช่วย ยังไงซะท่านก็รู้จักพวกนั้น มันสะดวก
กว่าที่จะให้ท่านพูดคุยกับพวกนั้น” จางหยูพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าเชื่อ
ว่าไม่ว่าพวกนั้นจะคิดยังไง แต่พวกนั้นก็ต้องไว้หน้าท่านแน่นอน
หากท่านพยายามแล้ว แต่หากชวนพวกเขาเข้ามาไม่ได้…”
เฉินภูลังเลและแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
“มีปัญหาอะไร ?” จางหยูถามด้วยความแปลกใจ
“ไม่มีอะไร” เฉินกูสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเหมือนจะตัดสินใจเขาได้
พูดขึ้นมาทันที “เจ้าสำนัก ข้ารับปาก พวกนั้นต้องมาแน่ !”
จางหยูยักคิ้ว “ท่านมั่นใจขนาดนั้นเลยรึ?”
เฉินกูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “หากเป็นตอนปกติแล้ว ข้าไม่มั่นใจว่าจะ
ชวนพวกเขาเข้าร่วมได้หรือไม่ แต่ตอนนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ
กับโลก ที่บ่งบอกว่าสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิได้กำเนิดขึ้นมา จนคน
ทั้งทวีปต่างก็เห็นมัน ทั้งสี่คนนั่นคงตื่นตัว สุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ
ทั้ง 16 ตัว ฮาฮา ข้ากลัวกว่าสี่คนนั้นคงนอนไม่หลับ ! เมื่อข้าไปเชิญ
พวกเขาเอง ไม่ว่าจะมีเป้าหมายอะไร แต่พวกเขาก็ไม่มีทางปฏิเสธ”
แม้ว่าเขาจะหัวเราะออกมา แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังดูหนักใจอยู่
เหตุการณ์ผิดปกติกับโลกรึ?
จางหยูใจเต้นรัว ทุกคนเห็นมันรึ ?
เมื่อเห็นว่าเฉินกูไม่เห็นสีหน้าของเขา จางหยูก็ทำท่าใจเย็นทั้งที่ใจยัง
กังวล
“ตามข้อมูลที่ข้าได้รับมา ตอนนี้มนุษย์กำลังเคลื่อนพล ผู้คนจำนวน
นับไม่ถ้วนต่างก็ตามหาว่า สุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิอยู่ที่ไหนกัน
หากข้าเดาไม่ผิด ทั้งสี่คนคงออกตามหาสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ
กันอยู่” เฉินกูพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ตอนนี้เผ่ามนุษย์และสัตว์อสูร
แข่งกัน เพื่อตามหาสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ หากเป็นสัตว์อสูรที่
เจอก่อน งั้นสี่คนนั่นคงต้องเข้าโจมตีข้าเพื่อสังหารเหล่าสุดยอดสัตว์
อสูรศักด์ิสิทธ์ิ หากเป็นมนุษย์ที่เจอก่อน เผ่าสัตว์อสูรคงไม่อยู่นิ่ง ข้า
ในฐานะราชาสัตว์อสูรคงต้องลงมือ…”
เฉินกูสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ข้ากับทั้ง
สี่คนนั้นคงต้องสู้กัน !!”
ระหว่างที่พูดนั้นเฉินกูก็หันไปมองที่จางหยู เพื่อดูท่าทีของจางหยู
เหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้พูดแบบนั้นออกมา ก็เพราะฐานะที่พิเศษ
ของจางหยู จางหยเป็นมนุษย์แต่เขาก่อตั้งสำนักคังเฉียงขึ้นมา เขาได้
ก่อตั้งชั้นเรียนสัตว์อสูรและที่สำคัญที่สุดคือ จางหยูแข็งแกร่งอย่าง
มาก เฉินกูที่แข็งแกร่งขนาดนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองจะเอาชนะจางหยู
ได้ ดังนั้นท่าทีของจางหูจึงสำคัญอย่างมาก หากจางหยูเลือกเข้าข้าง
มนุษย์ งั้นเงินกูก็ไม่กล้าทำอะไรนอกจากยอมรับความพ่ายแพ้
เมื่อเห็นสายตาของเงินกู จางหยูก็หัวเราะออกมา “ทำไมท่านคิดว่าข้า
จะช่วยพวกนั้นรึ ?”
“ยังไงซะท่านก็เป็นมนุษย์” สีหน้าของเฉินภูดูซับซ้อน
“ท่านเข้าร่วมสำนักคังเฉียงมาได้สักพักแล้ว ท่านยังไม่รู้จักข้าดี?”
จางหยูยิ้มออกมาและยกมือขึ้น “ข้าคือคนที่ปฏิบัติต่อสัตว์อสูรกับ
มนุษย์ หรือแม้แต่มังกรอย่างเท่าเทียม สัตว์อสูรไม่ได้ด้อยไปกว่า
มนุษย์และมังกร มังกรไม่ได้สูงส่งไปกว่าสัตว์อสูร สัตว์อสูร, มนุษย์
และมังกรต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตบนทวีปว่า ไม่มีใครสูงส่งกว่าใคร”
จางหยูหันกลับไปมองที่เฉินกูและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ท่านไม่ต้อง
ทดสอบข้าหรอก ท่าทีของข้าที่มีต่อสัตว์อสูร, มนุษย์และมังกรนั้น
ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้ ในเวลาเดียวกันข้าก็หวังว่าท่านจะจำไว้ว่าศัตรู
ของท่านไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่มังกรแต่เป็นสิ่งมีชีวิตภายนอก !”
“พวกด้านนอกต่างหากคือศัตรูของเรา!”
น้ำเสียงของจางหยูดูใจเย็นและน่าเชื่อถือ
เฉินกูส่ายหน้า “ข้าเห็นด้วยกับท่าน ข้าเองก็คิดว่าสัตว์อสูรและ
มนุษย์ หรือแม้แต่มังกรนั้นต่างก็มีศัตรูร่วมกัน แต่พวกระดับสูงสุด
ทั้งสี่ของมนุษย์ และพวกมังกรคงไม่คิดแบบนั้น หากทั้งสี่คนยืนราน
ว่าจะต่อสู้กับสัตว์อสูร ข้าจะหนีได้ยังไง ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็ยิ้มออกมา “สิ่งที่ท่านพูดมาคือผลลัพธ์
หลังจากที่หาตัวสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิเจอ หากพวกเขาหามันไม่
พบล่ะ ?”
“หากหาไม่พบก็ไม่เกิดการต่อสู้ขึ้น” เฉินกูเงียบไปก่อนจะพูดด้วย
น้ำเสียงจริงจัง “หากหาสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิไม่พบ ทั้งสี่คนก็
ได้แต่คิดว่าข้าซ่อนเหล่าสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิเอาไว้..เอาสั้น ๆ
คือไม่ว่าเราจะหาสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิพบหรือไม่ แต่เราก็จะ
เกิดการต่อสู้กันในเวลาไม่กี่เดือน ไม่สิ บางทีการที่ข้าไปเชิญชวน
พวกเขาในครั้งนี้ มันอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการต่อสู้ขึ้นมาก็
ได้”
เฉินกูไม่คิดสงสัย หากเกิดการต่อสู้ขึ้นจริง ๆ เขาคงต้องตาย !
แน่นอนว่าฝั่งมนุษย์ก็ใช่ว่าจะได้ประโยชน์ !
ผลลัพธ์ที่น่าจะออกมาคือเฉินกูตาย ทั้งสี่คนของมนุษย์อาจจะตาย 2-
3 คนหรืออาจจะตายทั้ง 4 คนก็ได้ !
เฉินกูเงยหน้ามองจางหยูและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “ครั้งนี้ข้า
ต้องขอบคุณเจ้าสำนักที่ดูแลข้าอย่างดี แต่ยกโทษให้ข้าด้วย ข้าอาจจะ
ทำงานให้กับสำนักคังเฉียงไม่ได้ในอนาคต และไม่อาจจะทำตาม
อุดมการณ์ที่เจ้าสำนักวางไว้ได้ !”
“กระตุ้นให้เกิดการต่อสู้รึ?” จางหยูเลิกคิ้ว “ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น
ไม่ใช่รึ ?”
เขาแค่บอกให้เฉินกูไปชวนพวกระดับสูงสุดทั้งสี่ของมนุษย์มาเข้า
ร่วม มันจะทำให้เกิดการต่อสู้เลยรึ?
“การกำเนิดของสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ทำให้เหล่ามนุษย์หวั่นใจ
เป็นธรรมดาที่ทั้งสี่ต้องกังวล พวกเขาตอนนี้เหมือนกับเชือกที่ใกล้
ขาด หากเป็นที่ป่าหวงหยวน พวกเขาอาจจะสงบสติอารมณ์ต่อหน้า
ข้าได้ แต่หากข้าไปหาพวกเขาแทน แน่นอนว่ามันจะเป็นการกระตุ้น
ให้พวกเขาลงมือ” เฉินกูพูดขึ้นอย่างใจเย็น “ตามที่ข้าบอกไปหากข้า
ไปเชิญชวนพวกนั้น พวกนั้นก็จะมาแต่นั่นคงเป็นหลังจากที่เราสู้กัน
แล้ว !”
อันที่จริงเฉินกูยังไม่ต้องการสู้กับทั้งสี่คนนั้นตอนนี้
ตอนนี้เขายังหาตัวสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิไม่พบ หากเขาตายไป
มันก็ไม่มีใครคอยปกป้องเหล่าสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิและเผ่า
สัตว์อสูรก็ต้องตกต่ำลง
หากยื้อเวลาไปได้นานกว่านี้ เขาถึงกับหวังว่าจะหาตัวเหล่าสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิได้พบ เมื่อเขาหาพวกนั้นพบ เขาก็จะเอาพวกนั้น
ไปหลบซ่อน แม้ว่าเขาจะตายไปแต่พวกนั้นก็สามารถเติบโตขึ้นมา
และสามารถกอบกู้เผ่าพันธุ์สัตว์อสูรขึ้นมาได้
แต่จางหยูได้สั่งการมาแล้ว เฉินกูก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้
เขาไม่กล้าที่จะต่อรอง หากเขาปฏิเสธ จางหยูอาจจะร่วมมือกับพวก
ระดับสูงสุดทั้งสี่ของมนุษย์ นั่นคงเป็นจุดจบสำหรับเหล่าสัตว์อสูร !
แม้ว่าจะไม่ร่วมมือกับสี่คนนั่น แต่จางหยูคนเดียวก็สามารถกวาดล้าง
ทั้งเผ่าสัตว์อสูรได้ !
“ไม่ต้องกังวลไป การต่อสู้นี้ไม่มีทางเกิดขึ้น !” จางหยูโบกมือและ
ยิ้มออกมา “ข้าจางหยูบอกไปแล้วว่าจะไม่มีการต่อสู้ขึ้น แม้ว่าราชา
มังกรจะอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงความจริงเรื่องนี้ได้ !”
แค่ประโยคสั้น ๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความมั่นใจไม่รู้จบ !
เฉินกูตะลึงและมองไปที่จางหยูด้วยความแปลกใจ
จางหยูยังคงยิ้มออกมา “ท่านเป็นถึงอาจารย์ของสำนักคังเฉียง ระบบ
การเรียนของสัตว์อสูรและอนาคตของสัตว์อสูร ท่านต้องเป็นคน
จัดการ หากท่านตายไป ใครกันที่จะช่วยข้าดูแลชั้นเรียนสัตว์อสูร ?
ข้าได้บอกไปแล้วหรือว่าข้าปฏิบัติต่อสัตว์อสูร, มนุษย์และมังกร
อย่างเท่าเทียมกัน ท่านคิดว่าข้าล้อเล่นรึไง ?”
คนอื่นอาจจะไม่รู้แต่จางหยูจะไม่รู้ได้ยังไง ?
สุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิทั้ง 16 คือร่างเทียมของเขา!
พูดตามตรงแล้วมันคือสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ ที่มีวิญญาณของ
มนุษย์ !
หากมีสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิมากกว่าสิบตัวบนโลกนี้ จางหยูก็คง
ไม่อาจจะใจเย็นได้ และเขาคงเข้าข้างฝั่งมนุษย์ อย่างน้อยมนุษย์ก็ไม่
อาจจะทำลายโลกนี้ได้มากนัก แต่ปัญหาคือสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ
พวกนี้คือร่างเทียมของเขา เผ่ามนุษย์และสัตว์อสูรกลับต้องมาสู้กัน
เพราะร่างเทียมของเขานั้นมันเป็นเรื่องดีหรือไง ?
“อาจารย์เฉิน ข้าหวังว่าท่านจะร่วมมือกับข้าและสร้างอุดมการณ์นั้น
ขึ้นมาด้วยกัน !” จางหยูมองไปที่เฉินกู คำพูดเรียบง่ายนี้แต่ทำให้
ผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน “ครั้งนี้ท่านแค่ต้องเชิญพวกนั้นมาที่นี่
ส่วนที่เหลือข้าจะจัดการเอง วิกฤตที่เกิดขึ้นโดยสุดยอดสัตว์อสูร
ศักด์ิสิทธ์ินั้น ข้าจะจัดการเอง ท่านสนใจเรื่องการสอนเถอะ”
เฉินกูมองไปที่จางหยูและรู้สึกซึ้งใจขึ้นมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่า การเข้าร่วมสำนักคังเฉียงและการเป็น
อาจารย์ของที่นี่ คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
“สามวัน” เฉินกูมองไปที่จางหยูด้วยสายตามุ่งมั่น และยืนกรานออกมา
“ข้ารับปากว่าสามวันจากนี้ ทั้งสี่คนจะมายังสำนักคังเฉียงไม่ขาด
แม้แต่คนเดียว !”
ตอนนั้นเองราชาสัตว์อสูรเฉินกูก็รับปากออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก