ตอนที่ 389 พรสวรรค์ที่เปลี่ยนไป
มังกรสมมุติเทพกับมังกรโลหิต ใครจะแข็งแกร่งกว่ากันคงตอบได้
ยาก !
จางหยูไม่สงสัยเลยว่าหากมังกรโลหิตหากเติบโตขึ้นมาแล้วแม้แต่
มังกรสมมุติเทพก็ใช่ว่าจะจัดการนางได้ ต่อให้สุดยอดสัตว์อสูร
ศักด์ิสิทธ์ิทั้ง 16 ตัวจะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่อาจจะรับมือกับมังกรโลหิต
ที่เติบโตเต็มที่ได้!
อย่าดูถูกความไร้เดียงสาของนาง นางคือตัวตนที่น่ากลัวที่สุดในทวีป
ป่ าแห่งนี้ !
“ถึงตอนนั้นข้าคงต้องเดินทางไปที่เผ่ามังกร และแสดงให้พวกนั้น
ได้เห็นว่า มังกรโลหิตที่พวกนั้นเคยมองข้ามและถูกมองว่าเป็นขยะ
นั้น คือตัวตนที่น่ากลัวแค่ไหน และนั่นก็เป็นวิธีแก้ปัญหาด้วย”
จางหยูตัดสินใจว่าเขาจะไปที่เผ่ามังกร เขาอยากที่จะไปพบคนในเผ่า
มังกรและถามว่าทำไมพวกเขาถึงได้ทิ้งนาง
ด้วยร่างทองคำขั้นสูงสุดที่เขามี เขาก็ไม่กลัวใครอีก !
อย่างน้อยในโลกนี้ก็ไม่มีใครทำร้ายเขาได้ !
หลังจากนั้นสักพัก จางหยูก็ครุ่นคิดก่อนจะเคลื่อนย้ายขึ้นไปบน
ท้องฟ้า
“ร่างหลัก !”
ในมิติที่แยกออกไป เมื่อเห็นว่าจางหยูปรากฏตัวขึ้นมาสุดยอดสัตว์
อสูรศักด์ิสิทธ์ิทั้ง 16 ก็หยุดทำการบ่มเพาะทันที
จางหยูมองไปที่พวกนั้นก่อนจะพยักหน้าให้เล็กน้อย “พวกเจ้าบ่ม
เพาะกันต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า”
หลังจากนั้น จางหยูก็แผ่อาณาเขตออกไป เพื่อดึงหลิงซี่เข้ามาในมิติ
ส่วนนี้เพิ่ม มิติส่วนนี้มีหลิงจำนวนมหาศาลซึ่งมีไว้ให้กับเหล่าสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิพวกนี้
หลังจากที่ทำแบบนั้นเสร็จ จ้างหยูก็หลับตาลงทำการบ่มเพาะเช่นกัน
บางครั้งเขาก็จะตื่นขึ้นมาและตรวจสอบสถานการณ์ของอ้าวเสี่ยวหร่าน
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรพิเศษเกิดขึ้น เขาก็ทำการบ่มเพาะต่อ
พระอาทิตย์ค่อย ๆ แทนที่ดวงจันทร์ ดวงดาวถูกบดบังไปเพราะแสง
จากดวงอาทิตย์ ไม่นานเช้าวันใหม่ก็มาถึง
เมื่อมองไปที่อ้าวเสี่ยวหร่าน เขาก็พบว่านางยังคงหลับใหลอยู่โดยไม่
มีอะไรประหลาดเกิดขึ้น ในที่สุดจางหยูก็สบายใจขึ้นมา
“ข้าคงต้องฝากพวกเจ้าดูแลอ่าวเสี่ยวหร่านไว้ ข้ามีเรื่องอื่นต้องไป
จัดการ” จางหยูบอกกับเหล่าสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิ
“หากนางตื่นขึ้นมาก็ให้บอกข้าทันทีผ่านทางจิต นอกจากนี้พวกเจ้าก็
ไม่ควรออกจากมิตินี้ และอย่าสร้างความวุ่นวาย”
กลุ่มสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิต่างก็พากันรับปาก
ในฐานะร่างเทียมของจางหยู พวกเขาต่างก็ถือว่าอ้าวเสี่ยวหร่านเป็น
น้อง พวกเขาต้องดูแลนางอยู่แล้ว
หลังจากที่สั่งการเสร็จจางหยูก็เดินออกไปจากมิติส่วนนั้นและ
หายไปทันที
ตอนนั้นท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว คนในเมืองต่างก็ยุ่งกับธุระของตัวเอง
ห้องเรียนภายในสำนักคังเฉียงดังก้องไปด้วยเสียงของโอวเสินเฟิง
เหล่าศิษย์ชั้นเรียนสัตว์อสูรต่างก็มุ่งหน้าไปยังป่ าหวงหยวน
ที่ห้องโถงน้ำแข็ง ร่างของจางหยูได้ปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีใครได้ทัน
สังเกต
“ในฐานะสัตว์อสูรแล้ว เราไม่ต้องการอาวุธใดเพราะร่างของเราคือ
อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด”
“กรงเล็บ, หาง, ปาก, หัว, เขา…ทุกส่วนของร่างกายสามารถใช้เป็น
อาวุธได้ และพลังของมันก็ไม่ได้ด้อยกว่าเครื่องมือที่มนุษย์สร้าง
ขึ้นมา !”
“เราจะดึงพลังของมันออกมาให้ได้มากที่สุดได้ยังไง?”
เฉินกูยืนอยู่ที่บัลลังก์น้ำแข็งและพูดขึ้นมา
เสียงของเขาดังก้องไปทั่วห้องโถงและเข้าถึงใจของเหล่าศิษย์สัตว์
อสูร
สัตว์อสูรนั่งอยู่ด้านล่าง แม้ว่าพื้นจะเป็นน้ำแข็ง แต่ด้วยระดับการบ่ม
เพาะของพวกเขา ความหนาวเย็นไม่อาจส่งผลต่อพวกเขาเลยแม้
แน่นอน
ที่ด้านนอกห้องโกงจางหนูได้ฟังเนื้อหาอยู่เงียบ ๆ การสร้างสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิทั้ง 16 ตัวขึ้นมานี้ เท่ากับเป็นการรับความทรงจำ
ของสุดยอดสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิทั้ง 16 ตัวมาทางอ้อม ความเข้าใจที่มี
ต่อสัตว์อสูรนั้น ในทวีปนี้คงไม่มีใครเทียบเขาได้
แม้แต่เฉินกูก็ไม่อาจจะเข้าใจสัตว์อสูรได้ดีเท่ากับเขา!
ตอนที่ฟังนั้นจางหยูพยักหน้าและชื่นชมออกมา “ราชาสัตว์อสูรมี
ประสบการณ์การต่อสู้มากมายจริง ๆ !”
แม้ว่าจางหยูจะเป็นคนสอนเอง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะสอนได้ดีกว่าเฉินกู
ที่สำคัญกว่านั้นคือแม้ว่าจางหยูจะรับความทรงจำสืบทอดมามากมาย
แต่นั่นก็เป็นเพียงทฤษฎีประสบการณ์การต่อสู้จริง ๆ แทบจะเป็น
ศูนย์ หากเป็นเรื่องการต่อสู้โดยเฉพาะการต่อสู้ของสัตว์อสูรเขาไม่
อาจจะเทียบกับเฉินกูได้
จางหยูยืนนิ่งราวกับรูปปั้นน้ำแข็งไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เขายังคง
ตั้งใจฟังเนื้อหาที่เฉินกูสอน
สักพักจางหยูก็กลับมาได้สติและมองไปยังเหล่าศิษย์สัตว์อสูรภายใน
ห้องโถง เมื่อเห็นมังกรแดงและอินทรีปีกฟ้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยสี
หน้าแปลกใจออกมา “สองคนนี้ไม่เหมือนเดิม”
จางหยูใช้มองทะลุขั้นสูงทันที
ต่อมาข้อมูลของมังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าก็โผล่มาในหัวของจางหยู
***
มังกรแดง
เพศ : ชาย
อายุ : 469 ปี
พรสวรรค์ทางกายภาพ : สายเลือดมังกรเพลิง (ทำงาน), สายเลือด
กิ้งก่าหลากสี (ทำงาน), 5 ดาวขั้นสูง
พรสวรรค์ในการรับรู้ : ไม่มี
พรสวรรค์พิเศษ : ลมหายใจมังกรเพลิง 5 ดาว , พรางตัว 4 ดาว
ขอบเขต : หลิงซวนขั้นกลาง
ทักษะ : ลมหายใจมังกรเพลิงขั้น 4, พรางตัวขั้น 3
สถานะ : กำลังพัฒนา
***
มันเกินกว่าที่จางหยูคาดคิดเอาไว้ ร่างกายและระดับการบ่มเพาะของ
มังกรแดงได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก !
***
อินทรีย์ปีกฟ้า
เพศ : ชาย
อายุ : 572 ปี
พรสวรรค์ทางกายภาพ : สายเลือดอินทรีย์ปีกทอง (ทำงาน), 5 ดาว
ขั้นสูง
พรสวรรค์ในการรับรู้ : ไม่มี
พรสวรรค์พิเศษ : ควบคุมลม 5 ดาว
ขอบเขต : หลิงซวนขั้นกลาง
ทักษะ : ควบคุมลมขั้น 4
สถานะ : กำลังพัฒนา
***
อินทรีย์ปีกฟ้าเองก็เหมือนกับมังกรแดง นอกจากการเปลี่ยนแปลงใน
ด้านพรสวรรค์และการบ่มเพาะแล้ว สถานะที่บอกว่ากำลังพัฒนาเป็น
สีแดงดูสะดุดตาอย่างมาก
จางหยูฉุกคิดถึงบางอย่าง นี่มันก็ผ่านมาไม่นานแต่สองคนนี้กลับ
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก !
“กำลังพัฒนา?” จางหยูไม่เข้าใจ “การเรียนจากเฉินกูทำให้พวกนี้
พัฒนาขึ้นมาได้รึ ? มันไม่เกินไปหน่อยรึ ?”
หากพัฒนาร่างกายได้ง่าย ๆ แบบนี้ สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิและสุดยอด
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิคงมีจำนวนมาก
จางหยูเดาว่าการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองคนนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเฉินกู
“บางที่เฉินกูอาจจะให้สมบัติสวรรค์บางอย่างกับพวกนี้” จางหยูมอง
ไปที่เฉินกูที่กำลังสอนอยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง “แต่การให้สมบัติสวรรค์
ที่มีพลังน่าทึ่งแบบนี้ เฉินกูเต็มใจมอบให้พวกนี้จริง ๆ รึ ?”
ไม่ใช่ว่าจางหยูดูถูก แต่ระดับการบ่มเพาะและร่างกายของมังกรแดง
และอินทรีย์ปีกฟ้าใช่ว่าจะดี ผู้คนคงสงสัยว่าเฉินกูให้ค่าพวกนี้เกินไป
หรือไม่ จนถึงกับให้สมบัติกับพวกนี้ เพื่อช่วยพวกนี้พัฒนาร่างกาย
และระดับการบ่มเพาะขึ้นมา
จางหยูคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็ยอมแพ้
“ช่างมันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องแย่ต่อสำนักคังเฉียง” จางหยูพึมพำออกมา
“ร่างกายและพรสวรรค์พิเศษของพวกนี้ขึ้นมาถึงขั้น 5 ได้ และยังคง
พัฒนาต่อ บางทีหลังจากนี้อีกสักพัก ร่างกายและพรสวรรค์ของพวก
นี้อาจจะขึ้นไปถึงขั้นที่ 6 ก็ได้ จากนั้นชั้นเรียนสัตว์อสูรก็เท่ากับมี
สัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ตัว !”
ร่างกาย 6 ดาว แน่นอนมันมีสิทธิที่จะเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิได้ !
ยังไงซะสัตว์อสูรขอบเขตตันซวนก็ใช่ว่าจะมีร่างกายระดับ 6 ดาว
และพรสวรรค์พิเศษระดับ 6 ดาวได้ !
ตราบใดที่มังกรแดงและอินทรีย์ฝึกฟ้าเติบโตขึ้นมาได้ พวกนี้ก็จะ
แข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์อสูรขอบเขตตุ้นซวนทั่วไป !
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องดีต่อสำนักคังเฉียง !
จางหยูที่ยืนอยู่ท่ามกลางหิมะได้มองไปยังเฉินกูอยู่เงียบ ๆ ตั้งแต่ต้น
จนจบ เขาไม่ได้เข้าไปขัดเลยแม้แต่น้อย
จนตอนบ่าย เฉินกูก็หยุดพูดและปล่อยให้เหล่าศิษย์ทำการครุ่นคิด
ตามเนื้อหาที่เขาสอนอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้น “การเรียนวันนี้พอไว้
แค่นี้ กลับไปซะ อินทรีย์หิมะ เจ้าพาพวกเขากลับไปด้วย”
เมื่อพูดจบเฉินกูก็ค่อย ๆ เดินไปที่ประตูห้องโถง พวกสัตว์อสูรภายใน
ห้องรีบลุกขึ้นและหลีกทางให้ทันที
เมื่อออกมาจากห้องโถง เฉินกูยังไม่ทันได้เคลื่อนย้ายไปไหนก็เห็น
ร่างที่ดูคุ้นตา
“เจ้าสำนัก !” ท่าที่หยิ่งทะนงและสูงส่งของเขาเมื่อครู่หายไปในทันที
เขามองไปที่จางหยูด้วยสายตาที่เคารพราวกับว่าคนเมื่อกี้ได้หายไป
จากโลกนี้แล้ว
เมื่อได้ยินเสียงของเฉินกู เหล่าสัตว์อสูรในห้องโถงต่างก็แห่กันออกมา
และตะโกนขึ้น “เจ้าสำนัก ! “
จางหยูพยักหน้าตอบรับและบอกกกับเหล่าสัตว์อสูร “กลับไปก่อน
ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับอาจารย์เฉิน”
ไม่นานเหล่าสัตว์อสูรต่างก็ออกจากป่าหวงหยวนไปภายใต้การนำ
ของอินทรีย์หิมะ
“ท่านเฉิน” จางหยูหันกลับมายิ้มให้เฉินกู “ข้าเห็นว่ามังกรแดงกับ
อินทรีย์ปีกฟ้านั้นเหมือนจะเปลี่ยนไป ข้ารู้สึกได้ว่าพรสวรรค์ของ
พวกเขาได้พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ท่านรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ยินคำถามนั้น เฉินกูก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม “สายตาของเจ้าสำนัก
นี่เฉินกูต้องขอชื่นชม !”
เขาไม่ได้ประจบ มังกรแดงและอินทรีย์ปีกฟ้าได้เปลี่ยนไปอย่างมาก
จริง ๆ ไม่ว่าใครก็เห็นได้ว่าร่างกายของพวกนั้นเปลี่ยนไป นอกจาก
แค่ตัวพวกเขาเองแล้ว มันยากที่คนนอกจะเข้าใจได้ ยังไงซะมันก็คือ
พรสวรรค์ในร่างกายพวกเขา การมองด้วยตาเปล่าหรือการรับรู้
เป็นไปไม่ได้ที่จะบ่งบอกถึงความแตกต่างได้
เฉินกูเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะอธิบาย “ไม่นานมานี้ข้าให้ทั้งสามคนกิน
ผลโลหิต, บัวสวรรค์และผลไร้กระดูก ผลโลหิตสามารถยกระดับ
สายเลือดให้เทียบเท่ากับบรรพบุรุษได้ บัวสวรรค์สามารถยกระดับ
ร่างกายได้ ผลไร้กระดูกนั้นสามารถเพิ่มพรสวรรค์ของร่างกาย ด้วย
ของพวกนี้ความสามารถของพวกเขาจึงพัฒนาขึ้นมาและอาจจะ
กลายเป็นสัตว์อสูรศักด์ิสิทธ์ิที่แท้จริง”
ของดีจริง ๆ !
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากเฉินกูจางหยูก็เข้าใจทันทีว่าไม่ว่าจะเป็นสมบัติ
ชิ้นไหนก็มีค่าอย่างมาก แม้แต่เขาก็ยังต้องใจเต้นรัวไปกับมัน
“พวกนี้เป็นแค่สัตว์อสูรทั่วไป มันคุ้มค่ารึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
เฉินกูเงียบไปก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “พวกเขา…ต่างก็เป็นเด็กดี !
มังกรแดง, อินทรีย์ปีกฟ้าและไป่ หลิง ต่างก็เป็นเด็กดี !” รอยยิ้มนี้มา
จากก้นบึ้งของหัวใจ เขารู้สึกแบบนั้นกับพวกนี้จริง ๆ
เมื่อเห็นแบบนั้นจางหยูก็สับสนขึ้นมา
เจ้าแห่งเขตมืดที่ถือว่าชีวิตของมนุษย์ไม่ต่างอะไรจากผักปลานี่เป็น
เด็กดี ?
เด็กดี !
ไม่รู้ว่าทำไมจางหยูถึงได้มีความคิดที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นมาในหัว
“แม้ว่าข้าจะฆ่าคน โหดเหี้ยม จองล้างจองผลาญ รังแกผู้อื่นและจิตใจ
แคบ แต่ข้าก็รู้ว่าลูกข้าเป็นคนดี…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก