ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 414

ตอนที่ 414 เจ้าสำนักตัวจริงหรือตัวปลอม (III)
อู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันหวาดกลัวขึ้นมา ยิ่งพวกเขาคิด
เท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวมากเท่านั้น
ปัญหาที่ยากจะได้รับคำตอบ ในเวลาเดียวกันสายตาที่พวกเขามอง
ไปที่จางหยูก็แปลกไป ชายตรงหน้าใช่เจ้าสำนักจริง ๆ หรือว่าเป็น
คนอื่นที่ดูคล้ายกับเจ้าสำนัก ? เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือผี ?
ไม่มีใครยืนยันเรื่องนี้ได้ !
เมื่อเห็นอู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ พากันถอยหลังกลับไปเพราะความ
กลัว จางหยูก็เริ่มสับสนยิ่งกว่าเดิม “พวกท่านเป็นอะไรกัน ?”
เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่เขาแยกตัวออกมาจากพวกนี้ แม้ว่า
การรับรู้ของเขาจะครอบคลุมไปทั่วเขตตงโจวและอาณาจักรโจวได้
แต่เขาก็ไม่ใช่โรคจิต ที่จะจับตาดูคนอื่นโดยไร้เหตุผล
แม้วาเขาจะต้องการทำแบบนั้น แต่พลังวิญญาณของเขาก็ไม่อาจจะ
ทนได้นานนัก !
“ท่านคือเจ้าสำนักจริง ๆ รึ?” อ้าวอู่เหยียนมองไปที่จางหยูด้วยความ
สงสัยและถามขึ้นมา
ตอนนั้นสายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องมาที่จางหยูด้วยความตึงเครียด
จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ทำไม พวกท่านคิดว่านอกจาก
ข้าแล้ว ยังมีเจ้าสำนักคนอื่นอยู่อีกรึ ?”
อ้าวอู่เหยียนกัดฟันแน่น และรวบรวมความกล้าถามขึ้นมา “ข้าหมายถึง
ว่าท่านคือเจ้าสำนักตัวจริงหรือไม่ ?”
เมื่อได้ยินที่อ้าวอู่เหยียนพูดมา จางหยูก็รู้ตัวว่า ที่แท้อ้าวอู่เหยียนและ
คนอื่น ๆ สงสัยในฐานะของเขาและคิดว่าเขาเป็นเจ้าสำนักตัวปลอม
เขาคิ้วขมวดและถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “มีคนอื่นปลอมตัว
เป็นข้ารึ ?”
สีหน้าของเขาหม่นลง ใครกันที่กล้าปลอมตัวเป็นเขา !
ท่าทีของจางหยูดูไม่ได้แปลกเลยแม้แต่น้อย อู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ
ไม่อาจจะบอกได้เลยว่านี่คือนั่นคือท่าทีจริง ๆ หรือว่าเสแสร้ง
“ท่านบอกว่าท่านเป็นเจ้าสำนัก งั้นโปรดพิสูจน์ตัวเองด้วย” อู่ฉิง
ฉวนรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา
อ้าวอู่เหยียน, โอวเสินเฟิงและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันพยักหน้า “ใช่
โปรดยืนยันตัวเองด้วย”
จางหยูพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ท่านอู่ ยังจำคำพูดที่ข้าพูดตอนที่รับท่าน
เข้ามาได้หรือไม่ ? อาหารเผ็ดร้อน, หน่อไม้หยกโลหิต, อาหารเก้า
ชีวิต…ของพวกนี้ท่านจำได้หรือไม่ ?”
“ท่านคือเจ้าสำนักจริง ๆ ไม่ผิดแน่ !” อู่ฉิงฉวนไม่คิดสงสัยในตัวตน
ของจางหยูอีกต่อไป
ตอนที่จางหยูรับเขาเข้ามา มันไม่มีใครอื่นอยู่ด้วย เมื่อจางหยูรู้ถึงเรื่อง
พวกนี้ งั้นเขาก็เป็นเจ้าสำนัก
“อาจจะไม่แน่” ซู่เหยียนถามขึ้นมา “หากท่านเป็นเจ้าสำนัก งั้นท่านก็
น่าจะจำได้ว่าข้าเข้าร่วมสำนักคังเฉียงยังไง ?”
จางหยูพยักหน้า “ท่านบาดเจ็บและข้าก็ช่วยรักษา ถ้าไม่งั้นท่านอาจจะ
ไม่ได้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง”
ซู่เหยียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก”ดูเหมือนว่าท่านจะเป็น
เจ้าสำนักจริง ๆ”
“ช้าก่อน” ครั้งนี้ถึงตาโอวเสินเฟิง เขามองไปที่จางหยูและพูดขึ้นมา
“การรู้เรื่องพวกนี้คงไม่อาจจะยืนยันตัวตนได้ นอกซะจากว่าท่านจะ
ลองพูดเนื้อหาของทักษะจี๋อู่ขั้นสูงมาก่อน”
ทักษะจี๋อู่ขั้นสูง !
ในเรื่องนี้ แน่นอนว่าจางหยูไม่ได้มีปัญหาอะไรกับมัน เขาเล่าเนื้อหา
ของทักษะซ้ำอีกรอบให้ทุกคนได้ฟัง ก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วถาม
ขึ้นมา “พวกท่านต้องการถามอะไรอีกหรือไม่ ?”
ทุกคนต่างก็มองหน้ากันและพากันส่ายหน้า
การที่รู้ถึงเนื้อหาของทักษะจี๋อู่ขั้นสูงได้ นี่แน่นอนว่าเขาต้องเป็นเจ้า
สำนักตัวจริง
“ขอโทษด้วยเจ้าสำนัก เราไม่น่าสงสัยในตัวตนของท่าน” โอวเสิน
เฟิงขอโทษออกมาด้วยรอยยิ้ม
คนที่เหลือก็พากันขอโทษจางหยูเช่นกัน
“งั้นท่านก็เป็นเจ้าสำนักจริง ๆ งั้นรึ ?” อ้าวอู่เหยียนมองไปที่จางหยู
และมองไปที่อู่ฉิงฉวนกับคนอื่น ๆ เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ ไม่ได้มีท่าที
สงสัย เขาก็แอบโล่งอก เมื่อชายผู้นี้คือเจ้าสำนักตัวจริง งั้นการที่เขา
เข้าร่วมกับสำนักคังเฉียง ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
หลังจากที่รู้ว่ามีปรมาจารย์กำหนดอาหาร 6 ดาวอยู่ที่สำนักคังเฉียง
เขาก็ไม่คิดจะออกจากที่นี่
จางหยูโบกมือและแสดงสีหน้าใจเย็นออกมา “เกิดอะไรขึ้นกัน ?
ทำไมพวกท่านจึงสงสัยว่ามีคนปลอมตัวเป็นข้า ?”
“เจ้าสำนักยังจำที่ข้าถามเมื่อครู่ได้หรือไม่?” เสียงอันเย็นชาของอ้าว
เยว่ดังขึ้นมา
จางหยูพยักหน้า
อ้าวเยว่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท่านบอกว่าก่อนหน้านี้สองชั่วโมง
ท่านอยู่ที่นอกเมืองอู่อัน แต่เหล่าอาจารย์ต่างก็บอกว่า สองชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ ท่านกินอาหารกับพวกเขาที่โรงอาหาร”
“ใช่ ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงมันคือเจ้าสำนักตัวปลอมที่กินอาหารกับ
เรา” ซู่เหยียนหรี่ตาลง สายตาเขาแฝงไปด้วยความกลัว “ชายคนนั้นดู
เหมือนกับเจ้าสำนักทุกส่วน เสียงก็เหมือนกัน และถึงชี้แนะอู่…อู่ฉิง
ฉวน ว่าจะปรุงอาหารยังไง ทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายแต่กลับ
ไม่มีใครรู้สึกว่ามันผิดปกติเลย”
มันคือความจริง !
หากพวกเขาไม่รู้ปัญหานี้ พวกเขาคงคิดแล้วว่าคนที่กินอาหารกับ
พวกเขานั้น คือเจ้าสำนักตัวจริง !
เมื่อคิดว่าทุกคนต่างก็นั่งกินอาหารกับเจ้าสำนักตัวปลอม แต่กลับไม่
รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวกันขึ้นมา…
น่ากลัวจริง ๆ !
“โอ้…เดี๋ยวนะ ท่านหมายถึงสองชั่วโมงก่อนหน้านี้รึ?” ตอนแรกเขา
คิดว่ามีคนปลอมตัวเป็นเขาจริง ๆ จึงคาดคั้นข้อมูลจากอู่ฉิงฉวนและ
คนอื่น ๆ
เป็นแบบนี้นี่เอง !
ซู่เหยียนไม่เห็นว่าสายตาของจางหยูแปลกไป เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้า
เคร่งเครียด “ใช่ ก่อนหน้านี้สองชั่วโมง”
“เจ้าสำนักต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน !” โอวเสินเฟิงพูดขึ้นด้วย
สีหน้าเคร่งเครียด”ไม่ว่าใครก็ตามที่ปลอมตัวเป็นท่าน ท่านต้อง
ลงโทษเขาให้หนัก !”
“งานที่ด่วนที่สุดตอนนี้ก็คือหาคนที่ปลอมตัวเป็นท่าน ไม่สิ อีกฝ่าย
อาจจะเป็นผีก็ได้ ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน…”
“ไม่วาจะเป็นผีหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่อาจจะปลอมตัวเป็นเจ้าสำนักได้
เขาผิด !”
ซู่เหยียน, อู่ฉิงฉวน,หลินจื้อเป่ ยและคนอื่น ๆ แม้แต่โอวเสินเฟิงที่
เป็นผีก็ยังรู้สึกเครียดกับเรื่องนี้ และแน่นอนว่าพวกเขาต่างก็กลัว
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “ไม่ต้องกังวลไป !”
“เจ้าสำนัก !” โอวเสินเฟิงรีบพูดขึ้นมา “มีคนปลอมตัวเป็นท่านเข้า
มาอยู่ในสำนัก ท่านไม่โกรธเลยรึ ?”
ทุกคนต่างก็มองไปที่จางหยูด้วยความสับสน ท่าทีที่จางหยูแสดง
ออกมานี้มันผิดปกติจริง ๆ
“หากมีคนอื่นปลอมตัวเป็นข้า แน่นอนว่าข้าต้องโกรธ แต่ครั้งนี้พวก
ท่านคิดผิดไป” จางหยูพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้สองชั่วโมง คนที่กิน
อาหารกับพวกท่านก็คือข้านี่แหละ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันสับสน
เจ้าสำนักเพิ่งบอกเองไม่ใช่รึ ว่าเขาไปอยู่ที่ด้านนอกเมืองอู่อัน ?
อ้าวเยว่คิ้วขมวดก่อนจะพูดขึ้นมา “เจ้าสำนัก อย่าล้อเล่นเช่นนี้ ท่าน
เพิ่งบอกว่าก่อนหน้านี้สองชั่วโมงท่านอยู่นอกเมืองอู่อันกับพวกเรา”
อ้าวอู่เหยียนพูดขึ้น “ใช่ ท่านเพิ่งพูดไปเอง”
จางหยูพยักหน้า “ใช่ ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงข้าอยู่ที่นอกเมืองอู่อัน
และก็เป็นข้าจริง ๆ ที่อยู่กับพวกท่าน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันตะลึง
แล้วนี่มันหมายความว่ายังไง ?
พวกเขาต่างก็สับสนกับคำพูดของจางหยู !
จางหยูมองไปรอบ ๆ และเห็นสีหน้าสับสนของทุกคน ก่อนจะถอน
หายใจออกมา “พวกท่านอย่าเข้าใจผิด ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงข้ากิน
อาหารอยู่ที่โรงอาหาร และข้าก็อยู่นอกเมืองอู่อันด้วย”
เขาเองก็หมดหนทาง เขาไม่คิดว่าร่างหลักและร่างเจ้าสำนัก จะปรากฏ
ตัวต่อหน้าคนอื่นพร้อมกัน เป้าหมายของเขาคือปกปิดไพ่ลับนี้เอาไว้
แต่ตอนนี้มันกลับมีปัญหาขึ้นมา เขาจะไม่รู้สึกหมดหนทางได้ยังไง ?
“ออกมา” จางหยูส่งเสียงผ่านจิตไปยังร่างเจ้าสำนัก
ไม่นานก็มีร่างหนึ่งเดินออกมาจากในบ้านอย่างช้า ๆ
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ร่างเจ้าสำนักก็มายืนอยู่ข้างจางหยู โดยที่หน้าตา,
ความสูง, บรรยากาศรอบตัว แม้แต่สีหน้าและพลังที่ดูเหมือนกัน ไม่
ว่าจะมองจากมุมไหนก็ไม่อาจจะแยกแยะความแตกต่างได้เลย
ทุกคนต่างก็ตะลึง
คนไหนเป็นเจ้าสำนักตัวจริงกันแน่
“ทำไม ทุกคนไม่รู้จักข้ารึ?” เจ้าสำนักยิ้มออกมา
โอวเสินเฟิงอ้ำอึ้ง “เจ้า…เจ้าสำนัก”
เขามองไปที่จางหยูและเจ้าสำนัก ก่อนจะขยี้ตาตัวเองเพราะคิดว่า
ตัวเองตาฝาด
“ท่าน…ทำไมถึงได้ดูเหมือนกันได้?” อ้าวอู่เหยียนอึ้ง
เจ้าสำนักสองคน ?
นี่ไม่ต้องพูดถึงอ้าวอู่เหยียนเลย แม้แต่อ้าวเยว่ก็ยังแยกแยะความแตกต่าง
ระหว่างจางหยูกับเจ้าสำนักไม่ได้
อันที่จริงจางหยูกับเจ้าสำนักไม่ได้เหมือนกันไปซะทุกอย่าง ระดับ
การบ่มเพาะของพวกเขาแตกต่างกัน ระดับการบ่มเพาะของจางหยู
ขึ้นไปถึงขอบเขตตุ้นซวนขั้นกลางแล้ว ระดับการบ่มเพาะของเจ้า
สำนักอยู่ที่ขอบเขตหลี่ซวนขั้นต่ำ แต่ด้วยทักษะบ่มเพาะของทั้งสอง
ที่เป็นทักษะจี๋อู่ขั้นสมบูรณ์ ดังนั้นคนนอกจึงไม่อาจจะมองระดับการ
บ่มเพาะของพวกเขาออก และพลังที่เหมือนกันนี้จึงไม่อาจจะทำให้
ใครแยกออกได้
“ยังไม่เข้าใจอีกรึ ?” จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “เขาคือข้า ข้าก็เป็น
เขาด้วย เราคือคนคนเดียวกัน”
เจ้าสำนักเองก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “มันแปลกใช่หรือไม่ ?”
ทั้งสองต่างก็พากันหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
สายตาของอ้าวอู่เหยียน, อ้าวเยว่, โอวเสินเฟิง, อู่ฉิงฉวน, ซู่เหยียน
และคนอื่น ๆ มองไปที่จางหยูและเจ้าสำนักสลับกันไปมา ซึ่งทำให้
จางหยูกังวลขึ้นมานิด ๆ
“จริง ๆ แล้วเขาก็คือข้า…” จางหยูพูดขึ้น “เขาคือข้า ข้ากับเขาคือร่าง
เทียมของเจ้าสำนัก ดังนั้นเขาก็คือเจ้าสำนัก ข้าก็เป็นเจ้าสำนัก ข้ากับ
เขาไม่ได้ต่างอะไรกัน”
“เราต่างก็เป็นร่างเทียมของเจ้าสำนัก” เจ้าสำนักเข้าใจทันทีว่าจางหยู
จะสื่ออะไร
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปในทันที “ร่างเทียมรึ ?”
แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าร่างอื่นที่ว่านี้คืออะไร แต่ร่างเทียมที่พวกเขา
รู้จักคือร่างพลังงาน เอาตรง ๆ แล้วมันก็เหมือนหุ่นเชิด พวกเขาจะต้อง
ใช้พลังในการควบคุมร่างพลังงาน แต่ข้อกำหนดในการใช้พลังและ
วิญญาณนี้สูงอย่างมาก คนทั่วไปไม่อาจจะสร้างร่างแยกขึ้นมาได้
หากมีสติและวิญญาณที่แข็งแกร่ง มันก็เป็นไปได้ที่จะสร้างร่างแยก
แบบนี้ออกมา อย่างอ้าวเยว่นางก็สามารถสร้างร่างเทียมขึ้นมาได้และ
ร่างนั้นก็มีความแข็งแกร่งที่ดี ซึ่งแม้ว่าจะด้อยกว่าร่างจริง แต่หาก
รับมือกับพวกขอบเขตตุ้นซวนทั่วไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เพราะความเข้าใจที่พวกเขามีต่อร่างเทียมจึงทำให้พวกเขาตกตะลึง
ตอนนั้นจางหยูและเจ้าสำนักต่างก็มีกายเนื้อและเลือดในร่างกาย
พวกเขาไม่ใช่ร่างพลังงาน มันเกินขอบเขตของร่างเทียม ซึ่งทำให้
พวกเขาไม่อาจจะรับความจริงนี้ได้
“ท่านต่างก็เป็นร่างเทียมของเจ้าสำนักรึ? เจ้าสำนักตัวจริง เขาอยู่ที่
ไหนกัน?” โอวเสินเฟิงถามขึ้นมา
“แม้ว่าเราจะไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าสำนัก แต่เราก็คือเจ้าสำนักจริง ๆ”
จางหยูพูดขึ้น “สำหรับที่ท่านบอกมา ร่างจริงของเจ้าสำนัก เขาไปยัง
อีกโลก โลกที่แข็งแกร่งกว่าโลกทวีปป่ าขั้นต่ำแห่งนี้!”
“งั้นเราจะได้พบเขาหรือไม่ ? ข้าหมายถึง…ร่างจริงของเจ้าสำนัก!”
โอวเสินเฟิงถามขึ้นมาด้วยความกังวล
ในมุมมองของพวกเขาแล้ว ร่างเทียมก็ยังเป็นแค่ร่างเทียม ไม่อาจที่
จะมาแทนที่ร่างจริงได้
จางหยูยิ้มออกมา “แน่นอน ร่างหลักอยู่ยังอีกโลก แต่เขากลับมายัง
โลกนี้ได้เมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ เขายังไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาใน
ตอนนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่คิดว่ามันจำเป็น หรือไม่ก็เขามีเรื่องสำคัญ
ต้องไปจัดการ”
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรออกมา
ตอนนั้นอ้าวอู่เหยียนก็ตกใจกับท่าทีของอ้าวเยว่ “ท่านน้า เกิดอะไร
ขึ้นกับท่าน ?”
อ้าวเยว่กัดปากพร้อมกับตัวที่สั่นไหว นางจ้องไปที่จางหยู “คนที่ข้าสู้
ด้วยที่นอกเมืองอู่อัน เป็นแค่ร่างเทียมของเจ้าสำนักงั้นรึ ?” หน้าของ
นางซีดเผือด ใบหน้าที่เคยมีความเย่อหยิ่ง ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยความ
เหลือเชื่อแทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก