ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 416
ตอนที่ 416 แรงกระตุ้น
ปากของอ้าวอู่เหยียนบิดเบี้ยวไป เขาฝืนยิ้มออกมาและพูดขึ้น “นี่…
ไม่น่าจะเกิดขึ้นไม่ใช่รึ ?”
ไม่มีใครรู้ว่าโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้เกิดมานานแค่ไหนแล้ว มันอ้างอิง
ได้จากบันทึกโบราณ ประวัติศาสตร์ของโลกแห่งนี้ยาวนานอย่าง
มาก กว่าแสนปีก่อนโลกแห่งนี้ก็มีตัวตนมาแล้วหลายปีจนนับไม่
ถ้วน มันมีหลักฐานมากมายที่แสดงให้เห็นว่าโลกทวีปป่ าขั้นต่ำมี
ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
อ้าวอู่เหยียนไม่รู้ว่าโลกนี้คงอยู่มานานแค่ไหน แต่เขามั่นใจว่าอายุ
ของโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้น่าจะมากกว่าหลักแสนปี !
เพราะราชามังกรบอกเขาด้วยตัวเองว่า จากการสืบทอดของเผ่ามังกร
มันมีวิญญาณของราชามังกรนับพัน แต่ละคนต่างก็เป็นยอดฝีมือ
ระดับสูงสุดซึ่งมีอายุขัยได้ 10,000 ปี ในเมื่อมีราชามังกรมากกว่าพัน
คน มันจะเป็นเวลาที่ยาวนานแค่ไหน ?
เผ่ามังกรของโลกทวีปป่ าแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน !
เผ่ามังกรยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแบบนั้น ไม่ต้องเดาเลยว่าโลก
แห่งนี้ต้องเกิดขึ้นมาก่อน บางทีอาจจะคงอยู่มาสองแสนปีแล้ว บางที
อาจจะสามแสนปีหรือบางทีอาจจะเป็นพันล้านปี มันเป็นตัวเลขที่ไม่
อาจจะคาดเดาได้
ในช่วงเวลาที่ยาวนานแบบนี้ โลกนี้ได้เติบโตขึ้นจากขั้น 1 มาถึงขั้น
ที่ 6 ได้ โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างนั้น แต่แน่นอนว่า
โลกนี้ไม่ได้ถูกทำลาย การบุกรุกของโลกอื่น ๆ ไม่ได้ส่งผล หรือ
อย่างน้อยก็โลกที่ระดับสูงกว่าไม่ได้บุกเข้ามาที่นี่ ไม่งั้นแล้วโลก
ทวีปป่ าขั้นต่ำนี้คงถูกลบออกไปนานแล้ว
“ไม่ !” จางหยูหัวเราะออกมา “ข้าบอกเจ้าได้แค่ว่าไม่ใช่แค่นั้น…แต่
มันยังคงอีกไม่นานด้วย”
อ้าวอู่เหยียนสีหน้าเปลี่ยนไปและถามขึ้นมา “ทำไมเจ้าสำนักถึงได้
มั่นใจนัก ?”
ทุกคนต่างก็กังวลกันขึ้นมา
“เพราะร่างจริงของเจ้าสำนักตรวจจับการบุกรุกได้!” จางหยูพูดด้วย
ท่าทีเฉยเมย “ผู้บุกรุกพยายามจะผ่านช่องทางของโลกทวีปป่ าขั้นต่ำ
นี้มา เมื่อช่องทางนั้นเปิด โลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้จะตกอยู่ในความวุ่นวาย
ข้าบอกพวกท่านได้ว่าผู้บุกรุกน่าจะมาจากโลกขั้น 8 หากวันนั้นมาถึง
จริง ๆ แม้แต่ร่างจริงของเจ้าสำนักก็ไม่อาจจะปกป้องที่นี่ได้ ตอนนั้น
มนุษย์, สัตว์อสูรและมังกรก็อาจจะถูกทำลายไปโดยที่ไม่อาจจะต้าน
ทานได้เลย”
ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าว่างเปล่าออกมา
วิกฤตที่คาดไม่ถึงกำลังเข้ามาใกล้ตัวพวกเขา
พวกเขาจะทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือของโลกขั้น 8 ?
ยกเว้นแค่อ้าวอู่เหยียนและอ้าวเยว่แล้ว ทุกคนที่นี่ยังไม่ใช่ยอดฝีมือ
ระดับสูงสุด พวกเขาไม่อาจจะรับมือยอดฝีมือจากโลกขั้นที่ 7 ได้
ด้วยซ้ำ นี่ไม่ต้องนับพวกที่มาจากโลกขั้นที่ 8 เลย
ช่างต่ำต้อยซะเหลือเกิน !
พวกเขารู้ตัวเองมากขึ้นว่าตัวเองต่ำต้อยแค่ไหน ในจักรวาลที่กว้าง
ใหญ่นี้พวกเขาเป็นแค่ฝุ่นผง ที่แม้แต่โชคชะตาของตัวเองพวกเขาก็
ไม่อาจจะควบคุมได้
“ไม่…ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่รึ?” อ้าวอู่เหยียนยิ้มออกมาพร้อม
กับเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาซึ่งเป็นองค์รัชทายาทมังกร รู้สึกว่าตัวเองนั้นต่ำ
ต้อยเพียงใด หากมองไปทั่วจักรวาลที่ไม่รู้จบนี้แล้ว เขาไม่ต่างอะไร
จากฝุ่นผงในสายตาของเทพที่มาจากโลกขั้นที่ 8
ในสายตาของคนพวกนั้นคงไม่ต่างอะไรจากที่เขามองมนุษย์และ
สัตว์อสูรเลย
เขาภูมิใจในฐานะของตัวเองและพลังของเผ่ามังกรที่อยู่เบื้องหลังเขา
แต่ในสายตาเหล่าทวยเทพแล้ว เขาอาจจะไม่ได้ต่างอะไรจากมดปลวก
จางหยูพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย “พวกท่านเลือกได้ว่าจะเชื่อหรือไม่
แต่หากมันเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น พวกท่านอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ
“เราไม่เชื่อแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?” ซู่เหยียนยิ้มออกมาอย่าง
ขมขื่น “แม้เราจะรู้ว่าโลกแห่งนี้เผชิญหน้ากับวิกฤตแต่เราจะทำอะไร
ได้ ?”
ซู่เหยียนมักจะเชื่อมั่นในตัวเอง ยังไงซะเขาก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ขอบเขต
ตุ้นซวน คนที่อยู่ระดับเดียวกับเขานั้นนับนิ้วได้เลย ยอดฝีมือขอบเขต
ตุ้นซวนคือพวกระดับสูงของโลกนี้ เขามีสิทธิที่จะเชื่อมั่นในตัวเอง
แต่ซู่เหยียนในตอนนี้จะกล้าเชื่อมั่นตัวเองแบบเดิมรึ ?
หากไม่รู้เรื่องนี้ เขาอาจจะรู้สึกเย่อหยิ่งแบบเดิม แต่ในเมื่อมีโลกอื่น
นอกจากโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้อยู่ ซึ่งที่นั่นมียอดฝีมือนับไม่ถ้วนที่
สามารถบดขยี้โลกนี้ได้ เขาจะกล้าเรียกตัวเองว่ายอดฝีมืออยู่อีกรึ ?
แม้แต่อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียน ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย แล้วซู่เหยียน
จะมีสิทธิอะไรที่จะเย่อหยิ่งแบบเดิม ?
อู่ฉิงฉวน,โอวเสินเฟิง, หลินจื้อเป่ ยและคนอื่น ๆ ยิ่งรู้สึกกดดันกว่า
พวกนั้น
พวกเขาถูกเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดมองข้าม แค่นั้นพวกเขาก็รู้สึก
ต่ำต้อยแล้ว พวกเขาจะไปทำอะไรได้เมื่อโลกนี้ต้องเผชิญหน้ากับ
วิกฤต ?
“ไม่ จริง ๆ แล้วมีหลายอย่างที่พวกท่านทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการบ่ม
เพาะ” จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “วิกฤตนี้ยังมาไม่ถึง จงบ่มเพาะให้
ได้มากที่สุดและพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง”
“แต่มันจะมีประโยชน์รึ?” ซู่เหยียนดูสลดไป “มันจะทำอะไรได้หาก
เราแข็งแกร่งขึ้นมา ? สำหรับเหล่าทวยเทพแล้ว เราที่อยู่ขอบเขตหลี่
ซวน, ตุ้นซวน หรือแม้แต่พวกยอดฝีมือระดับสูงสุดนั้น มันจะต่าง
อะไรจากมดปลวกสำหรับพวกนั้น ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่เหยียนแล้ว ทุกคนต่างก็หนักใจยิ่งกว่าเดิม
ยอดฝีมือระดับสูงสุดถือว่าเป็นตัวตนที่สูงที่สุดในโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้
แม้แต่อ้าวเยว่ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทะลวง
ผ่านขึ้นไปยังระดับที่สูงกว่าเดิมได้ ในมุมมองของพวกเขาแล้วคงมี
แค่ร่างจริงของเจ้าสำนักเท่านั้นที่ก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ได้ ตลอดหลาย
หมื่นปีมานี้ มันกลับมีแค่คนเดียว พวกเขาไม่กล้าคิดว่าเขาจะทำแบบ
นั้นได้
“ทำไมร่างจริงของเจ้าสำนักถึงได้ไปยังโลกขั้น 8 ?” จางหยูเหมือน
จะคิดไว้แล้วว่าทุกคนต้องแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา”ข้าบอกว่าร่าง
จริงของเจ้าสำนักอยู่ในโลกขั้น 8 และทำเรื่องสำคัญอยู่ สิ่งที่สำคัญ
ที่สุดคือหากมันสำเร็จ มันจะส่งผลดีต่อโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้”
สายตาของเขาหรี่ลง “เมื่อถึงตอนนั้นขีดจำกัดในการบ่มเพาะของ
โลกนี้จะถูกทำลาย ขอบเขตตุ้นซวนจะไม่ใช่จุดจบของการบ่มเพาะ
อีกต่อไป …”
แม้ว่าจางหยูจะไม่คิดเปิดเผยข้อมูลเรื่องโลกนภาในตอนนี้ แต่เขาก็
สามารถปูทางไว้สำหรับอนาคตได้
“และพวกท่านในฐานะคนของสำนักคังเฉียง ก็มีสิทธิที่จะได้รับผล
ประโยชน์มากกว่าผู้อื่น” ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มสดใสออกมา
“บางทีอาจจะใช้เวลานาน แต่ท่านจะได้ความแข็งแกร่งในระดับที่
ท่านคาดไม่ถึง บางคนอาจจะกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด และ
บางคนอาจจะก้าวข้ามขีดจำกัดที่ว่าและขึ้นไปยังระดับที่คาดไม่ถึง”
นี่คือสิ่งที่ฟังแล้วน่าสนใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปป่ า !
สำหรับโอวเสินเฟิงและคนอื่น ๆ แล้ว การที่จะได้ขึ้นเป็นยอดฝีมือ
ระดับสูงสุดถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจแล้ว
สำหรับอ้าวอู่เหยียนและอ้าวเยว่ การก้าวข้ามขอบเขตตุ้นซวนได้นั้น
ทำให้พวกเขาตื่นเต้น
สายตาของทุกคนเป็นประกายขึ้นมา ไม่มีใครปฏิเสธความเย้ายวนนี้
ได้ !
“เจ้าสำนัก เรามีหวังที่จะก้าวขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้จริง ๆ
รึ?” เสียงของซู่เหยียนสั่นไหว เขาไม่คิดมาก่อนว่าวันหนึ่งเขาจะกลาย
เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้ นี่ไม่ต้องนับระดับนั้นเลย แค่ขอบเขต
ตุ้นซวนขั้นสูงเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะก้าวขึ้นไปได้ และตอนนี้จางหยู
กลับบอกพวกเขาว่าพวกเขามีหวังที่จะก้าวขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับ
สูงสุดในอนาคต เขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง ?
ซู่เหยียนพูดขึ้นมา “ข้าซู่เหยียนสามารถขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด
ได้รึ ? ตัวตนที่เทียบเท่ากับเซียนทั้งสี่ของมนุษย์น่ะรึ ?”
เขาเหมือนจะได้ยินเสียงของผู้คนนับไม่ถ้วนคุกเข่าตรงหน้าเขาและ
ตะโกนเรียกชื่อเขา
อู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ โดยเฉพาะพวกที่อยู่ขอบเขตหลี่ซวนอย่างหลิน
จื้อเป่ ยและโหวเทียนหมาง ยิ่งไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ ต้องรู้ก่อน
ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาต่ำกว่าซู่เหยียน มันห่างไกลจากระดับ
ยอดฝีมือระดับสูงสุดและเมื่อได้ยินข้อความเช่นนั้น พวกเขาจะใจเย็น
อยู่ได้ยังไง ?
“ตราบใดที่พวกเราขยัน อย่าพูดถึงยอดฝีมือระดับสูงสุดเลย เหนือว่า
ขอบเขตตุ้นซวนก็ไม่ใช่ปัญหา” จางหยูตอบกลับโดยไม่ลังเล “พวก
ท่านคือคนของสำนักคังเฉียง ข้าหวังว่าพวกท่านจะทำได้ แค่ยอดฝีมือ
ระดับสูงสุดจะไปมีดีอะไร? อีกไม่ช้าพวกท่านจะก้าวไปถึงระดับที่
แม้แต่พวกนั้นจะทำได้แต่เงยหน้ามอง !”
จางหยูไม่ได้มองข้ามพวกนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากโลกนภา พวกนี้
จะสามารถยกระดับตัวเองได้ด้วยทักษะจี๋อู่ขั้นสูงสุด ความสำเร็จของ
พวกนี้ในอนาคตต้องเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ หากมีเวลามากพอ
ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร
“ขอถามเจ้าสำนักที เมื่อไหร่ที่ร่างจริงของเจ้าสำนักจะทำสำเร็จ?”
อ้าวอู่เหยียนถามขึ้นมาด้วยความคาดหวัง
ทุกคนต่างก็มองไปที่จางหยูพร้อมใจที่เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น แม้แต่
วิกฤตที่จางหยูพูดถึงเมื่อตะกี้ก็ยังถูกลืม ตอนนั้นพวกเขามีความคิด
เดียวในหัวคือภาวนา ภาวนาให้ร่างจริงของเจ้าสำนักทำให้สำเร็จเร็ว ๆ
พวกเขาอยากขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดและการก้าวข้ามขอบเขต
ตุ้นซวน
พวกเขาตื่นเต้นเพราะจางหยู!
“อย่างเร็วก็ครึ่งเดือน อย่างช้าก็ปีหนึ่ง !” จางหยูคิดและเผื่อเวลาไว้
เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาวางแผนเรื่องอื่น ๆ
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดออกมา ทุกคนก็พากันตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม เวลานี้
มันสั้นกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ !
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าคงใช้เวลาหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปี พวกเขา
เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่คำตอบที่ได้มาจากจางหยูกลับทำให้พวกเขา
แปลกใจอย่างมาก !
ตอนนั้น แม้แต่อ้าวเยว่ที่มักจะเย็นชา ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นตามไป
ด้วย
เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน ใครกันที่จะปฏิเสธได้ ?
ไม่ว่าจะเป็น อ้าวเยว่, อ้าวอู่เหยียน, ซู่เหยียนรวมถึงคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะ
เป็นดังที่พวกเขาหวังไว้รึไม่แต่สำหรับพวกเขาแล้วการเข้าร่วมสำนัก
คังเฉียงคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต !
หากพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง พวกเขาจะได้โอกาสแบบนี้
ได้ยังไง ?
“แต่อย่าเพิ่งดีใจไป” ตอนนั้นจางหยูกลับทำให้ทุกคนแปลกใจ “พวก
ท่านหวังที่จะเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดและอาจจะก้าวข้ามขอบเขต
ตุ้นซวน แต่อย่างลืมไปว่าโลกของเราก็ยังคงเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้ง
ใหญ่ ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องแบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น นี่
เป็นเหตุผลว่าที่ทำไมเจ้าสำนักถึงได้ช่วยพวกท่าน”
เขาพูดขึ้นต่อ “พวกท่านจงหมั่นเพียรเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง
ให้โดยเร็วที่สุดเพื่อรับมือกับศัตรู ไม่งั้นแล้วหากโลกนี้ถูกทำลายลง
ไป แม้ว่าพวกท่านจะขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด แม้ว่าจะก้าวข้าม
ขอบเขตตุ้นซวนไปได้ แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ?”
ปากของอ้าวอู่เหยียนบิดเบี้ยวไป เขาฝืนยิ้มออกมาและพูดขึ้น “นี่…
ไม่น่าจะเกิดขึ้นไม่ใช่รึ ?”
ไม่มีใครรู้ว่าโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้เกิดมานานแค่ไหนแล้ว มันอ้างอิง
ได้จากบันทึกโบราณ ประวัติศาสตร์ของโลกแห่งนี้ยาวนานอย่าง
มาก กว่าแสนปีก่อนโลกแห่งนี้ก็มีตัวตนมาแล้วหลายปีจนนับไม่
ถ้วน มันมีหลักฐานมากมายที่แสดงให้เห็นว่าโลกทวีปป่ าขั้นต่ำมี
ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
อ้าวอู่เหยียนไม่รู้ว่าโลกนี้คงอยู่มานานแค่ไหน แต่เขามั่นใจว่าอายุ
ของโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้น่าจะมากกว่าหลักแสนปี !
เพราะราชามังกรบอกเขาด้วยตัวเองว่า จากการสืบทอดของเผ่ามังกร
มันมีวิญญาณของราชามังกรนับพัน แต่ละคนต่างก็เป็นยอดฝีมือ
ระดับสูงสุดซึ่งมีอายุขัยได้ 10,000 ปี ในเมื่อมีราชามังกรมากกว่าพัน
คน มันจะเป็นเวลาที่ยาวนานแค่ไหน ?
เผ่ามังกรของโลกทวีปป่ าแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน !
เผ่ามังกรยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแบบนั้น ไม่ต้องเดาเลยว่าโลก
แห่งนี้ต้องเกิดขึ้นมาก่อน บางทีอาจจะคงอยู่มาสองแสนปีแล้ว บางที
อาจจะสามแสนปีหรือบางทีอาจจะเป็นพันล้านปี มันเป็นตัวเลขที่ไม่
อาจจะคาดเดาได้
ในช่วงเวลาที่ยาวนานแบบนี้ โลกนี้ได้เติบโตขึ้นจากขั้น 1 มาถึงขั้น
ที่ 6 ได้ โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างนั้น แต่แน่นอนว่า
โลกนี้ไม่ได้ถูกทำลาย การบุกรุกของโลกอื่น ๆ ไม่ได้ส่งผล หรือ
อย่างน้อยก็โลกที่ระดับสูงกว่าไม่ได้บุกเข้ามาที่นี่ ไม่งั้นแล้วโลก
ทวีปป่ าขั้นต่ำนี้คงถูกลบออกไปนานแล้ว
“ไม่ !” จางหยูหัวเราะออกมา “ข้าบอกเจ้าได้แค่ว่าไม่ใช่แค่นั้น…แต่
มันยังคงอีกไม่นานด้วย”
อ้าวอู่เหยียนสีหน้าเปลี่ยนไปและถามขึ้นมา “ทำไมเจ้าสำนักถึงได้
มั่นใจนัก ?”
ทุกคนต่างก็กังวลกันขึ้นมา
“เพราะร่างจริงของเจ้าสำนักตรวจจับการบุกรุกได้!” จางหยูพูดด้วย
ท่าทีเฉยเมย “ผู้บุกรุกพยายามจะผ่านช่องทางของโลกทวีปป่ าขั้นต่ำ
นี้มา เมื่อช่องทางนั้นเปิด โลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้จะตกอยู่ในความวุ่นวาย
ข้าบอกพวกท่านได้ว่าผู้บุกรุกน่าจะมาจากโลกขั้น 8 หากวันนั้นมาถึง
จริง ๆ แม้แต่ร่างจริงของเจ้าสำนักก็ไม่อาจจะปกป้องที่นี่ได้ ตอนนั้น
มนุษย์, สัตว์อสูรและมังกรก็อาจจะถูกทำลายไปโดยที่ไม่อาจจะต้าน
ทานได้เลย”
ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าว่างเปล่าออกมา
วิกฤตที่คาดไม่ถึงกำลังเข้ามาใกล้ตัวพวกเขา
พวกเขาจะทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือของโลกขั้น 8 ?
ยกเว้นแค่อ้าวอู่เหยียนและอ้าวเยว่แล้ว ทุกคนที่นี่ยังไม่ใช่ยอดฝีมือ
ระดับสูงสุด พวกเขาไม่อาจจะรับมือยอดฝีมือจากโลกขั้นที่ 7 ได้
ด้วยซ้ำ นี่ไม่ต้องนับพวกที่มาจากโลกขั้นที่ 8 เลย
ช่างต่ำต้อยซะเหลือเกิน !
พวกเขารู้ตัวเองมากขึ้นว่าตัวเองต่ำต้อยแค่ไหน ในจักรวาลที่กว้าง
ใหญ่นี้พวกเขาเป็นแค่ฝุ่นผง ที่แม้แต่โชคชะตาของตัวเองพวกเขาก็
ไม่อาจจะควบคุมได้
“ไม่…ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่รึ?” อ้าวอู่เหยียนยิ้มออกมาพร้อม
กับเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาซึ่งเป็นองค์รัชทายาทมังกร รู้สึกว่าตัวเองนั้นต่ำ
ต้อยเพียงใด หากมองไปทั่วจักรวาลที่ไม่รู้จบนี้แล้ว เขาไม่ต่างอะไร
จากฝุ่นผงในสายตาของเทพที่มาจากโลกขั้นที่ 8
ในสายตาของคนพวกนั้นคงไม่ต่างอะไรจากที่เขามองมนุษย์และ
สัตว์อสูรเลย
เขาภูมิใจในฐานะของตัวเองและพลังของเผ่ามังกรที่อยู่เบื้องหลังเขา
แต่ในสายตาเหล่าทวยเทพแล้ว เขาอาจจะไม่ได้ต่างอะไรจากมดปลวก
จางหยูพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย “พวกท่านเลือกได้ว่าจะเชื่อหรือไม่
แต่หากมันเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น พวกท่านอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ
“เราไม่เชื่อแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?” ซู่เหยียนยิ้มออกมาอย่าง
ขมขื่น “แม้เราจะรู้ว่าโลกแห่งนี้เผชิญหน้ากับวิกฤตแต่เราจะทำอะไร
ได้ ?”
ซู่เหยียนมักจะเชื่อมั่นในตัวเอง ยังไงซะเขาก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ขอบเขต
ตุ้นซวน คนที่อยู่ระดับเดียวกับเขานั้นนับนิ้วได้เลย ยอดฝีมือขอบเขต
ตุ้นซวนคือพวกระดับสูงของโลกนี้ เขามีสิทธิที่จะเชื่อมั่นในตัวเอง
แต่ซู่เหยียนในตอนนี้จะกล้าเชื่อมั่นตัวเองแบบเดิมรึ ?
หากไม่รู้เรื่องนี้ เขาอาจจะรู้สึกเย่อหยิ่งแบบเดิม แต่ในเมื่อมีโลกอื่น
นอกจากโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้อยู่ ซึ่งที่นั่นมียอดฝีมือนับไม่ถ้วนที่
สามารถบดขยี้โลกนี้ได้ เขาจะกล้าเรียกตัวเองว่ายอดฝีมืออยู่อีกรึ ?
แม้แต่อ้าวเยว่และอ้าวอู่เหยียน ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย แล้วซู่เหยียน
จะมีสิทธิอะไรที่จะเย่อหยิ่งแบบเดิม ?
อู่ฉิงฉวน,โอวเสินเฟิง, หลินจื้อเป่ ยและคนอื่น ๆ ยิ่งรู้สึกกดดันกว่า
พวกนั้น
พวกเขาถูกเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดมองข้าม แค่นั้นพวกเขาก็รู้สึก
ต่ำต้อยแล้ว พวกเขาจะไปทำอะไรได้เมื่อโลกนี้ต้องเผชิญหน้ากับ
วิกฤต ?
“ไม่ จริง ๆ แล้วมีหลายอย่างที่พวกท่านทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการบ่ม
เพาะ” จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “วิกฤตนี้ยังมาไม่ถึง จงบ่มเพาะให้
ได้มากที่สุดและพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง”
“แต่มันจะมีประโยชน์รึ?” ซู่เหยียนดูสลดไป “มันจะทำอะไรได้หาก
เราแข็งแกร่งขึ้นมา ? สำหรับเหล่าทวยเทพแล้ว เราที่อยู่ขอบเขตหลี่
ซวน, ตุ้นซวน หรือแม้แต่พวกยอดฝีมือระดับสูงสุดนั้น มันจะต่าง
อะไรจากมดปลวกสำหรับพวกนั้น ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่เหยียนแล้ว ทุกคนต่างก็หนักใจยิ่งกว่าเดิม
ยอดฝีมือระดับสูงสุดถือว่าเป็นตัวตนที่สูงที่สุดในโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้
แม้แต่อ้าวเยว่ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทะลวง
ผ่านขึ้นไปยังระดับที่สูงกว่าเดิมได้ ในมุมมองของพวกเขาแล้วคงมี
แค่ร่างจริงของเจ้าสำนักเท่านั้นที่ก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ได้ ตลอดหลาย
หมื่นปีมานี้ มันกลับมีแค่คนเดียว พวกเขาไม่กล้าคิดว่าเขาจะทำแบบ
นั้นได้
“ทำไมร่างจริงของเจ้าสำนักถึงได้ไปยังโลกขั้น 8 ?” จางหยูเหมือน
จะคิดไว้แล้วว่าทุกคนต้องแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา”ข้าบอกว่าร่าง
จริงของเจ้าสำนักอยู่ในโลกขั้น 8 และทำเรื่องสำคัญอยู่ สิ่งที่สำคัญ
ที่สุดคือหากมันสำเร็จ มันจะส่งผลดีต่อโลกทวีปป่ าขั้นต่ำนี้”
สายตาของเขาหรี่ลง “เมื่อถึงตอนนั้นขีดจำกัดในการบ่มเพาะของ
โลกนี้จะถูกทำลาย ขอบเขตตุ้นซวนจะไม่ใช่จุดจบของการบ่มเพาะ
อีกต่อไป …”
แม้ว่าจางหยูจะไม่คิดเปิดเผยข้อมูลเรื่องโลกนภาในตอนนี้ แต่เขาก็
สามารถปูทางไว้สำหรับอนาคตได้
“และพวกท่านในฐานะคนของสำนักคังเฉียง ก็มีสิทธิที่จะได้รับผล
ประโยชน์มากกว่าผู้อื่น” ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มสดใสออกมา
“บางทีอาจจะใช้เวลานาน แต่ท่านจะได้ความแข็งแกร่งในระดับที่
ท่านคาดไม่ถึง บางคนอาจจะกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด และ
บางคนอาจจะก้าวข้ามขีดจำกัดที่ว่าและขึ้นไปยังระดับที่คาดไม่ถึง”
นี่คือสิ่งที่ฟังแล้วน่าสนใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปป่ า !
สำหรับโอวเสินเฟิงและคนอื่น ๆ แล้ว การที่จะได้ขึ้นเป็นยอดฝีมือ
ระดับสูงสุดถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจแล้ว
สำหรับอ้าวอู่เหยียนและอ้าวเยว่ การก้าวข้ามขอบเขตตุ้นซวนได้นั้น
ทำให้พวกเขาตื่นเต้น
สายตาของทุกคนเป็นประกายขึ้นมา ไม่มีใครปฏิเสธความเย้ายวนนี้
ได้ !
“เจ้าสำนัก เรามีหวังที่จะก้าวขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้จริง ๆ
รึ?” เสียงของซู่เหยียนสั่นไหว เขาไม่คิดมาก่อนว่าวันหนึ่งเขาจะกลาย
เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้ นี่ไม่ต้องนับระดับนั้นเลย แค่ขอบเขต
ตุ้นซวนขั้นสูงเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะก้าวขึ้นไปได้ และตอนนี้จางหยู
กลับบอกพวกเขาว่าพวกเขามีหวังที่จะก้าวขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับ
สูงสุดในอนาคต เขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง ?
ซู่เหยียนพูดขึ้นมา “ข้าซู่เหยียนสามารถขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด
ได้รึ ? ตัวตนที่เทียบเท่ากับเซียนทั้งสี่ของมนุษย์น่ะรึ ?”
เขาเหมือนจะได้ยินเสียงของผู้คนนับไม่ถ้วนคุกเข่าตรงหน้าเขาและ
ตะโกนเรียกชื่อเขา
อู่ฉิงฉวนและคนอื่น ๆ โดยเฉพาะพวกที่อยู่ขอบเขตหลี่ซวนอย่างหลิน
จื้อเป่ ยและโหวเทียนหมาง ยิ่งไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ ต้องรู้ก่อน
ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาต่ำกว่าซู่เหยียน มันห่างไกลจากระดับ
ยอดฝีมือระดับสูงสุดและเมื่อได้ยินข้อความเช่นนั้น พวกเขาจะใจเย็น
อยู่ได้ยังไง ?
“ตราบใดที่พวกเราขยัน อย่าพูดถึงยอดฝีมือระดับสูงสุดเลย เหนือว่า
ขอบเขตตุ้นซวนก็ไม่ใช่ปัญหา” จางหยูตอบกลับโดยไม่ลังเล “พวก
ท่านคือคนของสำนักคังเฉียง ข้าหวังว่าพวกท่านจะทำได้ แค่ยอดฝีมือ
ระดับสูงสุดจะไปมีดีอะไร? อีกไม่ช้าพวกท่านจะก้าวไปถึงระดับที่
แม้แต่พวกนั้นจะทำได้แต่เงยหน้ามอง !”
จางหยูไม่ได้มองข้ามพวกนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากโลกนภา พวกนี้
จะสามารถยกระดับตัวเองได้ด้วยทักษะจี๋อู่ขั้นสูงสุด ความสำเร็จของ
พวกนี้ในอนาคตต้องเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ หากมีเวลามากพอ
ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสมบูรณ์ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร
“ขอถามเจ้าสำนักที เมื่อไหร่ที่ร่างจริงของเจ้าสำนักจะทำสำเร็จ?”
อ้าวอู่เหยียนถามขึ้นมาด้วยความคาดหวัง
ทุกคนต่างก็มองไปที่จางหยูพร้อมใจที่เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น แม้แต่
วิกฤตที่จางหยูพูดถึงเมื่อตะกี้ก็ยังถูกลืม ตอนนั้นพวกเขามีความคิด
เดียวในหัวคือภาวนา ภาวนาให้ร่างจริงของเจ้าสำนักทำให้สำเร็จเร็ว ๆ
พวกเขาอยากขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดและการก้าวข้ามขอบเขต
ตุ้นซวน
พวกเขาตื่นเต้นเพราะจางหยู!
“อย่างเร็วก็ครึ่งเดือน อย่างช้าก็ปีหนึ่ง !” จางหยูคิดและเผื่อเวลาไว้
เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาวางแผนเรื่องอื่น ๆ
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดออกมา ทุกคนก็พากันตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม เวลานี้
มันสั้นกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ !
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าคงใช้เวลาหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปี พวกเขา
เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่คำตอบที่ได้มาจากจางหยูกลับทำให้พวกเขา
แปลกใจอย่างมาก !
ตอนนั้น แม้แต่อ้าวเยว่ที่มักจะเย็นชา ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นตามไป
ด้วย
เหนือกว่าขอบเขตตุ้นซวน ใครกันที่จะปฏิเสธได้ ?
ไม่ว่าจะเป็น อ้าวเยว่, อ้าวอู่เหยียน, ซู่เหยียนรวมถึงคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะ
เป็นดังที่พวกเขาหวังไว้รึไม่แต่สำหรับพวกเขาแล้วการเข้าร่วมสำนัก
คังเฉียงคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต !
หากพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมสำนักคังเฉียง พวกเขาจะได้โอกาสแบบนี้
ได้ยังไง ?
“แต่อย่าเพิ่งดีใจไป” ตอนนั้นจางหยูกลับทำให้ทุกคนแปลกใจ “พวก
ท่านหวังที่จะเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดและอาจจะก้าวข้ามขอบเขต
ตุ้นซวน แต่อย่างลืมไปว่าโลกของเราก็ยังคงเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้ง
ใหญ่ ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องแบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น นี่
เป็นเหตุผลว่าที่ทำไมเจ้าสำนักถึงได้ช่วยพวกท่าน”
เขาพูดขึ้นต่อ “พวกท่านจงหมั่นเพียรเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง
ให้โดยเร็วที่สุดเพื่อรับมือกับศัตรู ไม่งั้นแล้วหากโลกนี้ถูกทำลายลง
ไป แม้ว่าพวกท่านจะขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด แม้ว่าจะก้าวข้าม
ขอบเขตตุ้นซวนไปได้ แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก