เมื่อได้ยินประโยค ‘อันหลิน ศูนย์จุดหนึ่งคะแนน’ อันหลินก็ได้สติกลับคืนมา
เขากวาดสายตามองมวลชนที่ตะลึงรอบๆ ด้วยความตกใจแล้วเกาหัว
“ตัว…ตัวถ่วงกลุ่ม!”
เสียงโศกเศร้า สิ้นหวัง หมดเรี่ยวแรงและความคับแค้นดังขึ้นข้างกายเขา
อันหลิน “…”
อันหลินก็งุนงงเช่นกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้…
ระดับความน่ากลัวของแดนพิศวงเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง มันไม่สมจริงเลยสักนิด!
เขามองรองผู้อำนวยการอวี้หัวตาละห้อย เอ่ยปากว่า “ท่านผู้อำนวยการ ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีลับลมคมในแน่…”
รองผู้อำนวยการอวี้หัวเพียงแค่ส่ายหน้าทอดถอนใจเมื่อได้ยิน ทำหน้าจนปัญญา
หนทางแห่งความลุ่มหลงเป็นแดนพิศวงนอกโลก ความลี้ลับของมันแม้แต่เซียนสวรรค์ระดับหวนสู่ความว่างเปล่ายังยากแท้หยั่งถึง
คะแนนของอันหลินเกินจะรับได้ แม้แต่ตัวอวี้หัวเอง ก็ไม่เชื่อว่าอันหลินจะก้าวไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว
แต่ทว่าเรื่องนี้ถูกชี้ขาดแล้ว
ลำพังแค่พวกเขาไม่มีทางวิเคราะห์ได้ว่าเป็นเพราะอะไร จึงจำต้องตัดสินตามผลลัพธ์
การประลองมรรคของสรวงสวรรค์ได้คะแนนทั้งสิ้นแปดจุดเจ็ดคะแนน เป็นอันดับสุดท้าย
มันช่างเป็นผลลัพธ์ที่โหดร้ายเหลือเกิน นักเรียนบางคนกำลังเช็ดน้ำตาเงียบๆ จนบัดนี้แล้วหลายคนก็ยังยอมรับความจริงประการนี้ไม่ได้
“ไม่มีทาง…เทพอันของข้าจะก้าวไม่ออกเลยสักก้าวได้อย่างไร”
“เป็นเพราะไม่สบายกาย ถึงทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้”
“มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย มันไม่ใช่เรื่องจริง!”
“ข้าคิดว่าเป็นผลข้างเคียงจากการระเบิดในการประลองวรยุทธ์ก่อนหน้านี้…”
“ฮือ…เพื่อชัยชนะของสรวงสวรรค์ เขาทุ่มเทจนย่ำแย่แล้วหรือ…”
“ข้าสงสัยมากกว่าว่าคนที่บอกว่า ‘หากเทพอันถูกพันธนาการตั้งแต่ก้าวแรก จะกินขี้ให้ดู’ หายไปไหนแล้ว”
“เจ้ามีหัวใจหรือไม่ ป่านนี้แล้วยังจะสนใจเรื่องนี้อีก!”
…
ผู้ชมในจัตุรัสวิจารณ์กันเซ็งแซ่ คนของสามอิทธิพลที่เหลือก็จ้องอันหลินด้วยสีหน้าฉงน ราวกับมองตัวประหลาด เกือบได้คะแนนเต็มในการประลองวรยุทธ์ แต่กลับได้ศูนย์คะแนนจากการประลองมรรค ต้องลุ้นระทึกขนาดนั้นเลยหรือ!
ส่วนหงโต้วนั้นหัวเราะดังลั่น ชูนิ้วโป้งให้อันหลินแล้วชมว่า “จิตใจของอันหลินเป็นที่หนึ่งในหล้า!”
มุมปากของอันหลินกระตุก เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ตนถูกเยาะเย้ย แถมยังเป็นคำเย้ยหยันจากไก่อ่อนอย่างหงโต้วอีกด้วย
การประลองมีการประลองวรยุทธ์ มรรค ความคิด การเอาตัวรอดและแย่งชิงห้ารายการ ตอนนี้แม้คะแนนรวมจะรั้งท้าย แต่ยังอาศัยอีกสามรายการที่เหลือดึงคะแนนได้ พวกเขายังไม่แพ้!
อันหลินกำมือแน่น เขาตั้งใจว่าจะสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อลบล้างคำครหา!
“หวังเสวียนจ้าน หลิวเชียนฮ่วน พวก…พวกท่านเป็นอะไรไป!” เขาเบนสายตามองเพื่อนร่วมกลุ่มทั้งสองคน พูดด้วยความตกใจ
เห็นเพียงทั้งคู่นอนแผ่อยู่บนพื้น เหม่อมองเมฆขาวที่ลอยล่องบนเวหา ไม่กระดิกกระเดี้ย
“อย่ามาวุ่นวายกับข้า ข้าเป็นแค่ผู้แพ้ เป็นคนไม่เอาไหน เป็นตัวถ่วงของกลุ่มตัวแทนสรวงสวรรค์ ขยะในหมู่สาวน้อยนักเวท…” หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างสิ้นหวัง
“อย่ามายุ่งกับข้า ปล่อยให้ข้านอนอยู่แบบนี้เถอะ ได้ที่หนึ่งแล้วอย่างไร ก็แพ้อยู่ดี พยายามไปแล้วอย่างไร สุดท้ายก็รั้งท้าย บอกตามตรง นี่แหละโชคชะตา…” หวังเสวียนจ้านเหม่อมองปุยเมฆบนท้องฟ้า กระจ่างใจโดยพลัน
ใช่แล้ว บางเรื่องไม่ว่าจะพยายามปานใด ก็ไม่มีทางทำได้ นี่แหละโชคชะตา!
อันหลินนิ่งดุจรูปปั้นเมื่อเห็นฉากนี้ เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาในใจ
‘จบเห่แล้ว สองคนนี้หมดกำลังใจแล้ว…’
หากทั้งกลุ่มหมดกำลังใจแล้ว จะทำอะไรได้อีก!
ไม่ได้การแล้ว ต้องเรียกขวัญและกำลังใจให้พวกเขา!
“ศิษย์พี่หลิว!”
“มีอะไร…”
“หากเจ้าเล่นเกม”
“หากเจ้าเล่นเกมแล้วไม่ราบรื่นจะทำอย่างไร”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม